ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมต้องใช้ CVT?!! เพื่อให้ประหยัดน้ำมัน เพื่อให้ผ่านค่าไอเสีย หรืออื่นๆ ครับ  (อ่าน 6880 ครั้ง)

ออฟไลน์ Fong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,018
  • Make a Choice and Don't Look Back
    • อีเมล์
เห็นรถรุ่นใหม่หลายรุ่นออกมา เลือกใช้เกียร์ CVT กันเยอะมาก (Jazz GK, ALTIS, CIVIC, VIOS, XV  บลา บลาๆๆๆ)
ส่วนตัวมี Jazz GK CVT ครับยอมรับว่าถ้ากดมากมันก็แรงใช้ได้ หรือจะใช้ Paddle Shift ลดเกียร์ลงก็เร่งแซงได้ดี
แต่มันก็ไร้อารมณ์ ขนาดเทียบกับ Mazda2 2010 1.5 ตัวเก่าที่แสนอืด ผมยังแอบชอบอารมณ์การเปลี่ยนเกียร์และการได้ลากรอบมากกว่า
เลยยิ่งสงสัยครับว่า ทำไมหลายค่ายเริ่มวิ่งเข้าหาเกียร์ CVT

1. เป็นเพราะว่าทำให้ประหยัดน้ำมันได้มากกว่าเดิม
2. เป็นเพราะต้องการให้ผ่านมาตรฐานค่าไอเสีย
3. เป็นเพราะต้องการให้เครื่องยนต์แสดงศักยภาพได้สูงสุด (Loss น้อยกว่า A/T)
4. เป็นเพราะ Concept ของรถไม่เน้นความสนุกในการขับขี่ (Civic RS??, XV??)

คือถ้าเป็นอย่างนั้นทำไม Mazda SkyActiv ไม่ใช้ CVT ก็ผ่านค่าไอเสียได้ ประหยัดเทพๆได้ รีดเค้นพลังออกมาได้
ทำไม BMW หรือ Mini ก็ยังไม่เลือกใช้ CVT (หรือว่ามีแล้วครับ ไม่แน่ใจ)

จำได้ว่า New Lancer รุ่น 1.6 จะได้เกียร์ CVT แต่ถ้าเป็น 1.8 หรือ 2.0 จะได้เกียร์ 4A/T Invec II Sportronic เพราะจะเน้นให้เร่งแรง ลากรอบ และขับสนุกกว่ามากตาม concept รถเครื่องใหญ่ที่เน้นแรง

ท่านสมาชิกคิดว่าผู้ผลิตมีหลักการในการเลือกใช้เกียร์ CVT หรือ A/T อย่างไรครับ
(ถ้าถามซ้ำ ขออภัยครับ)  8) 8) 8) 8)
Isuzu มังกรทอง, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer MK I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 MK I, Mazda2 MK II, D-Max Space, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer MK II, Lander MK III, Ranger MC, XL7, Forester SK

ออฟไลน์ akewizard

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,620
ผมขอลองยกตัวอย่างของ Subaru ก็แล้วกันนะครับ

หลายคนอาจจะยังไม่ทราบ....ว่า CVT ของ Subaru ไม่เหมือนกับ CVT ของรถยี่ห้ออื่นๆทั่วไป ตรงที่เกียร์ CVT ของ Subaru มีขนาดใหญ่และจะวางตามยาวรถ (ให้นึกภาพรถบางรุ่นที่มีเครื่องวางตามยาวหน้ารถแล้วส่งกำลังผ่านเกียร์ตัวโตๆไปขับล้อหลัง) อีกทั้งชุดเกียร์ยังมีระบบ Electronic ควบคุมที่ทำให้เกียร์สามารถล๊อคอัตราทดแบบ 6-8 จังหวะเหมือนเกียร์ออโต้ปกติได้  หรือจะปล่อยอัตราทดให้แปรผันไปตามวิถี CVT ก็ได้

อีกจุดที่แตกต่างคือ CVT ของ SU ใช้กับรถขับสี่ตลอดเวลาและพัฒนาจนนำไปใช้กับรถที่มีกำลังเครื่อง 300 ม้า แรงบิด 400+NM ได้ (เช่น Levorg 2.0 ออกตัว 0-100 5 วิ) อย่าไปติดภาพ CVT ของ XV มาก อันนั้นเขาทำไว้ใช้กับรถพ่อบ้านขับชิลๆ....
แม้แต่รถบ้านหลายๆรุ่นที่แรงไม่ได้เยอะของ Subaru ที่เปลี่ยนมาใช้ CVT ร่วมกับการพัฒนาเครื่องยนต์GEN ใหม่ๆ ก็มีอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีขึ้นแบบชัดเจน และยังได้อัตราเร่งที่ดีอยู่

ที่ถามว่าทำไม Ben BMW หรือ Mazda ไม่ใช้ CVT.........
ถ้าลองถามกลับว่าทำไม Subaru ไม่ใช้เกียร์แบบ SkyActive ของ Mazda บ้าง มันก็คงตอบยาก (แต่ผมตอบให้เลยก็ได้ว่าทำแบบนั้นมันก็ไม่ INDY สิ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 08, 2016, 22:09:15 โดย akewizard »

ออฟไลน์ Fong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,018
  • Make a Choice and Don't Look Back
    • อีเมล์
ผมขอลองยกตัวอย่างของ Subaru ก็แล้วกันนะครับ

หลายคนอาจจะยังไม่ทราบ....ว่า CVT ของ Subaru ไม่เหมือนกับ CVT ของรถยี่ห้ออื่นๆทั่วไป ตรงที่เกียร์ CVT ของ Subaru มีขนาดใหญ่และจะวางตามยาวรถ (ให้นึกภาพรถบางรุ่นที่มีเครื่องวางตามยาวหน้ารถแล้วส่งกำลังผ่านเกียร์ตัวโตๆไปขับล้อหลัง) อีกทั้งชุดเกียร์ยังมีระบบ Electronic ควบคุมที่ทำให้เกียร์สามารถล๊อคอัตราทดแบบ 6-8 จังหวะเหมือนเกียร์ออโต้ปกติได้  หรือจะปล่อยอัตราทดให้แปรผันไปตามวิถี CVT ก็ได้

อีกจุดที่แตกต่างคือ CVT ของ SU ใช้กับรถขับสี่ตลอดเวลาและพัฒนาจนนำไปใช้กับรถที่มีกำลังเครื่อง 300 ม้า แรงบิด 400+NM ได้ (เช่น Levorg 2.0 ออกตัว 0-100 5 วิ) อย่าไปติดภาพ CVT ของ XV มาก อันนั้นเขาทำไว้ใช้กับรถพ่อบ้านขับชิลๆ....
แม้แต่รถบ้านหลายๆรุ่นที่แรงไม่ได้เยอะของ Subaru ที่เปลี่ยนมาใช้ CVT ร่วมกับการพัฒนาเครื่องยนต์GEN ใหม่ๆ ก็มีอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีขึ้นแบบชัดเจน และยังได้อัตราเร่งที่ดีอยู่

ที่ถามว่าทำไม Ben BMW หรือ Mazda ไม่ใช้ CVT.........
ถ้าลองถามกลับว่าทำไม Subaru ไม่ใช้เกียร์แบบ SkyActive ของ Mazda บ้าง มันก็คงตอบยาก (แต่ผมตอบให้เลยก็ได้ว่าทำแบบนั้นมันก็ไม่ INDY สิ)

งั้นก็แสดงว่า SU เลือก CVT เพราะต้องการผ่านมาตรฐานค่าไอเสียใช่ไหมครับ แต่ยังแอบมีโหมด "S" ที่ทำให้ CVT ให้อารมณ์เหมือน A/T ไม่งั้นคนขับคงเซ็งแย่  8) 8)
Isuzu มังกรทอง, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer MK I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 MK I, Mazda2 MK II, D-Max Space, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer MK II, Lander MK III, Ranger MC, XL7, Forester SK

ออฟไลน์ Abzolute

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,934
  • สวัสดีคนรักรถยนต์
ผมขอลองยกตัวอย่างของ Subaru ก็แล้วกันนะครับ

หลายคนอาจจะยังไม่ทราบ....ว่า CVT ของ Subaru ไม่เหมือนกับ CVT ของรถยี่ห้ออื่นๆทั่วไป ตรงที่เกียร์ CVT ของ Subaru มีขนาดใหญ่และจะวางตามยาวรถ (ให้นึกภาพรถบางรุ่นที่มีเครื่องวางตามยาวหน้ารถแล้วส่งกำลังผ่านเกียร์ตัวโตๆไปขับล้อหลัง) อีกทั้งชุดเกียร์ยังมีระบบ Electronic ควบคุมที่ทำให้เกียร์สามารถล๊อคอัตราทดแบบ 6-8 จังหวะเหมือนเกียร์ออโต้ปกติได้  หรือจะปล่อยอัตราทดให้แปรผันไปตามวิถี CVT ก็ได้

อีกจุดที่แตกต่างคือ CVT ของ SU ใช้กับรถขับสี่ตลอดเวลาและพัฒนาจนนำไปใช้กับรถที่มีกำลังเครื่อง 300 ม้า แรงบิด 400+NM ได้ (เช่น Levorg 2.0 ออกตัว 0-100 5 วิ) อย่าไปติดภาพ CVT ของ XV มาก อันนั้นเขาทำไว้ใช้กับรถพ่อบ้านขับชิลๆ....
แม้แต่รถบ้านหลายๆรุ่นที่แรงไม่ได้เยอะของ Subaru ที่เปลี่ยนมาใช้ CVT ร่วมกับการพัฒนาเครื่องยนต์GEN ใหม่ๆ ก็มีอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีขึ้นแบบชัดเจน และยังได้อัตราเร่งที่ดีอยู่

ที่ถามว่าทำไม Ben BMW หรือ Mazda ไม่ใช้ CVT.........
ถ้าลองถามกลับว่าทำไม Subaru ไม่ใช้เกียร์แบบ SkyActive ของ Mazda บ้าง มันก็คงตอบยาก (แต่ผมตอบให้เลยก็ได้ว่าทำแบบนั้นมันก็ไม่ INDY สิ)

งั้นก็แสดงว่า SU เลือก CVT เพราะต้องการผ่านมาตรฐานค่าไอเสียใช่ไหมครับ แต่ยังแอบมีโหมด "S" ที่ทำให้ CVT ให้อารมณ์เหมือน A/T ไม่งั้นคนขับคงเซ็งแย่  8) 8)

CVT หรือไม่ CVT มับมีผลกับค่าไอเสียหรอ หรือถ้ามีมันมีมากขนาดต้องกงวลเลยหรอ ?

ไอเสียอะไร ตามความคิดผมผมว่าไม่ใช่ประเด็นเลย

ออฟไลน์ 380Z

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 482
    • อีเมล์
เกี่ยวกับไอเสียเเน่ครับ cvt ไม่ต้องส่งรอบเวลาเปลี่ยนเกีย
ใช้ทอล์คคุ้มกว่าครับ

ออฟไลน์ kaho300691

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 50
CVT ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่มีในยุโรปมาเป็นสิบปีแล้วครับ สมัยนันเรียกว่า cone-type CVT, chain-type CVT พวกนี้เป็น simple CVT ที่มีหลักการอย่างง่ายๆ และเป็นต้นแบบของ CVT ปัจจุบันที่มีลูกเล่นมากขึ้น

น่าแปลกใจที่บรรดาค่ายรถในยุโรปกลับไปใช้บริการเกียร์ 6 7 8 AT กันมากกว่าในปัจจุบัน แต่ญี่ปุ่นกลับเอา CVT ไปพัฒนาต่อและลงในรถของตัวเอง

ผมคิดว่า สาเหตุก็คือ CVT มันเป็นเกียร์ขนาดเล็ก กลไกไม่ซับซ้อน น้ำหนักเบา เมื่อมาลงในรถยุโรปที่เครื่องแรงบิดมหาศาล น้ำหนักตัวเยอะ สายพานเกียร์จะไม่ทนครับ ยิ่งผู้ผลิตเกียร์บอกว่าไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตลอดอายุการใช้งาน (เกียร์ AT ยุโรป 20 ปีที่แล้วก็เขียนแบบนี้) เกียร์จึงพังกันเป็นว่าเล่น ซึ่ง AT แบบ torque converter มันรองรับแรงบิดได้ดีกว่าครับ ลงในเครื่อง V6 3600cc ได้สบายๆ แถมยังมีโหมด sport มาให้ใช้ในรถยุโรปตั้ง 20 กว่าปีมาแล้ว ทั้งๆที่รถญี่ปุ่นเพิ่งจะมีมาให้เล่นกันเอง

แต่ญี่ปุ่นเน้นรถเล็ก ขับในเมืองไม่ได้ต้องการไปซิ่งบน autobahn หรือขับตะลุย alpine เหมือนยุโรป เกียร์ CVT จึงตอบโจทย์สำหรับพวกเค้าได้ดีกว่า

แต่สิ่งที่ผมยังแคลงใจก็คือ เครื่องเบนซิน powerband จะมาในรอบสูง แต่พี่ CVT เล่นทดมาซะต่ำมากๆ มันจะประหยัดน้ำมันจริงหรือครับ เข้าใจว่า losses มันน้อย แต่ถ้าเครื่องต้องออกกำลังขับเกียร์มากก็กินเหมือนกัน (กินกว่า step AT ด้วยซ้ำ) แต่คนใช้ไม่รู้ เพราะคู่มือเขียนว่าให้พึงขับขี่ด้วยรอบเครื่องยนต์ต่ำจะทำให้ลดการสึกหรอและช่วยประหยัดน้ำมัน 555

ปล.ความเห็นส่วนตัวครับ

ออฟไลน์ akewizard

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,620
งั้นก็แสดงว่า SU เลือก CVT เพราะต้องการผ่านมาตรฐานค่าไอเสียใช่ไหมครับ แต่ยังแอบมีโหมด "S" ที่ทำให้ CVT ให้อารมณ์เหมือน A/T ไม่งั้นคนขับคงเซ็งแย่  8) 8)

ที่จริง Subaru เป็นรถสัญชาติญี่ปุ่นเจ้าแรกๆที่เริ่มพัฒนา CVT ก่อนรถเจ้าอื่นๆ แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักในบ้านเราเพราะสมัยนั้นส่วนใหญ่จะนำเข้ามาขายแต่ตัว Performance เกียร์ธรรมดาไม่ก็ออโต้แบบปกติ
จุดด้อยของรถ Subaru สมัยเก่าๆที่เรามักจะได้ยินกันบ่อยๆคือเรื่องกินน้ำมัน เนื่องด้วยเครื่อง Boxer รุ่นก่อนๆเป็นเครื่องแบบสูบนอนชักสั้นขยันซอย การเผาไหม้ในกระบอกสูบแบบนอนต้องเน้นอัตราส่วนน้ำมันหนาถึงได้แรงบิดดี ทำให้กินน้ำมันมากกว่าเครื่องสูบตั้ง และยังมาพ่วงระบบขับสี่เข้าไปอีก......ยิ่งเปลืองเข้าไปใหญ่

การที่รถ Subaru หลายๆรุ่นหันไปใช้ CVT ที่พัฒนาขึ้นมาเอง ข้อด้อยแน่ๆเลยคือเรื่องความทนทาน ทำให้ต้องตั้งคันเร่งกับเกียร์ให้หน่วงๆจะได้ Saveๆ เกียร์ไว้หน่อย ตอนออกตัวเลยไม่ได้อารมณ์เท่าไหร่
แต่ข้อดีที่เห็นได้ชัดคือประหยัดน้ำมันขึ้น ทุกวันนี้ SU หลายๆรุ่นวิ่งทางไกลความเร็วปกติได้ 13-15 โล/ลิตรเทียบเคียงรถขับ 2 ทั่วไปในตลาดที่พิกัดเดียวกันได้

เรื่องของการลดมลพิษส่วนหนึ่งก็มาจากการพัฒนาเครื่องยนต์ควบคู่กับเกียร์ไปด้วย ปัจจุบันนี้ Subaru จะมีเครื่องยนต์หลักๆอยู่ 3 รุ่นคือเครื่อง EJ ที่ใช้กันมายาวนานเป็นเครื่องสูบใหญ่ชักสั้นเน้นการใช้งานรอบจัด,เครื่อง FA รุ่นใหม่ที่เน้นพัฒนาไปใช้กับหัวฉีดตรงและเทอร์โบ,เครื่อง FB เป็นเครื่องรถบ้าน NA สูบเล็กแต่ชักยาวให้แรงบิดรอบต้นดี ประหยัดและมลพิษต่ำ

เครื่องรุ่นใหม่+CVT = ประหยัดขึ้น ลดมลพิษลง และยังได้อัตราเร่งที่ดีพอใช้งานทั่วไป

เหมือนกับเวลาที่เราพูดถึง Sky-active ของ Mazda มันไม่ได้หมายถึงแค่เครื่องกับเกียร์  แต่มันพูดถึงระบบทุกอย่างโดยรวมของตัวรถทั้งการลดน้ำหนักชิ้นส่วนตัวถัง ลดแรงเสียดทานในระบบขับเคลื่อน เครื่องยนต์ใหม่ที่มีระบบเผาผลาญที่ดีขึ้น ระบบเกียร์ใหม่  ฯลฯ

ออฟไลน์ เซลล์ขายรถ

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 704
  • เซลล์ขายรถจริงๆนะครับ
ถ้าเกียร์มันถ่ายทอดพลังมาลงได้ ไม่ค่อยต่างนะ

จากปสก.ละกัน Lancer Cedia CS3A ที่เป็นเครื่อง 1.6  เป็นเกียร์ CVT  เร่งแซงทีนี้ลุ้นกันได้อีก กว่ามันจะไล่รอบไปได้ความเร็ว (แล้วมันก็เป็นกับ Lancer EX อีกด้วย -*- )

พอมารถผมเอง Cedia CS9A เครื่อง 2.0 ใช้ Torque Convertor เร่งเซ็งไวมากไม่ต้องพลักเข้า โหมดSportronic  ก็ยังถือว่าไว แต่มันเสียตอนขับในเมืองนี้หละเปลี่ยนเกียร์บ่อยมากถ้าเจอรถติดๆ

มาที่ทำไม Mazda รุ่นปัจจุบันไม่ใช้ CVT คืออย่างหนึ่งมาสด้าต้องการแบบนั้นอยู่แล้ว พวกของใช้ในSkyactiv มันสัมพันธ์กันเกือบหมด เคยนั่งอ่านคอนเซป เค้าบอกว่าที่ไม่ใช้ CVT เพราะ Torque Convertor ตอบสนองได้ไวกว่า(ณ เวลานั้น)
ต้องดันยอดเดี๋ยวเจอโกฮังจัดการ :(

ออฟไลน์ Weetting

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,985
  • ช่วงล่าง+เครื่องยนต์
น่าจะเป็นปัจจัยต้นทุนเป็นหลักครับ

เพราะ CVT มีชิ้นส่วนในเกียร์ไม่มากเท่า TqC  ทำให้การบำรุงรักษาก็ง่ายต้นทุนก็ถูกกว่า 

และอัตราของ CVT มันสามารถยืดหยุ่นได้มากทำให้เมื่อวิ่งความเร็วสูงๆสามารถรักษารอบต่ำๆเอาไว้ได้

แต่ลองมองกลับมาที่ TqC มันต้องทดถึง 7-8 Speed เพื่อให้รอบพอๆและการส่งกำลังไม่ตกให้เหมือนกับ CVT 

แต่ TqC ก็มีความทนทานรับแรงบิดได้มากกว่า 
THE Manual Gearbox Preservation Society
Drive diesel until last day

ออฟไลน์ Fong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,018
  • Make a Choice and Don't Look Back
    • อีเมล์
ผมขอลองยกตัวอย่างของ Subaru ก็แล้วกันนะครับ

หลายคนอาจจะยังไม่ทราบ....ว่า CVT ของ Subaru ไม่เหมือนกับ CVT ของรถยี่ห้ออื่นๆทั่วไป ตรงที่เกียร์ CVT ของ Subaru มีขนาดใหญ่และจะวางตามยาวรถ (ให้นึกภาพรถบางรุ่นที่มีเครื่องวางตามยาวหน้ารถแล้วส่งกำลังผ่านเกียร์ตัวโตๆไปขับล้อหลัง) อีกทั้งชุดเกียร์ยังมีระบบ Electronic ควบคุมที่ทำให้เกียร์สามารถล๊อคอัตราทดแบบ 6-8 จังหวะเหมือนเกียร์ออโต้ปกติได้  หรือจะปล่อยอัตราทดให้แปรผันไปตามวิถี CVT ก็ได้

อีกจุดที่แตกต่างคือ CVT ของ SU ใช้กับรถขับสี่ตลอดเวลาและพัฒนาจนนำไปใช้กับรถที่มีกำลังเครื่อง 300 ม้า แรงบิด 400+NM ได้ (เช่น Levorg 2.0 ออกตัว 0-100 5 วิ) อย่าไปติดภาพ CVT ของ XV มาก อันนั้นเขาทำไว้ใช้กับรถพ่อบ้านขับชิลๆ....
แม้แต่รถบ้านหลายๆรุ่นที่แรงไม่ได้เยอะของ Subaru ที่เปลี่ยนมาใช้ CVT ร่วมกับการพัฒนาเครื่องยนต์GEN ใหม่ๆ ก็มีอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีขึ้นแบบชัดเจน และยังได้อัตราเร่งที่ดีอยู่

ที่ถามว่าทำไม Ben BMW หรือ Mazda ไม่ใช้ CVT.........
ถ้าลองถามกลับว่าทำไม Subaru ไม่ใช้เกียร์แบบ SkyActive ของ Mazda บ้าง มันก็คงตอบยาก (แต่ผมตอบให้เลยก็ได้ว่าทำแบบนั้นมันก็ไม่ INDY สิ)

งั้นก็แสดงว่า SU เลือก CVT เพราะต้องการผ่านมาตรฐานค่าไอเสียใช่ไหมครับ แต่ยังแอบมีโหมด "S" ที่ทำให้ CVT ให้อารมณ์เหมือน A/T ไม่งั้นคนขับคงเซ็งแย่  8) 8)

CVT หรือไม่ CVT มับมีผลกับค่าไอเสียหรอ หรือถ้ามีมันมีมากขนาดต้องกงวลเลยหรอ ?

ไอเสียอะไร ตามความคิดผมผมว่าไม่ใช่ประเด็นเลย

มิได้กังวลขอรับ แค่อยากรู้เหตุผมที่เลือกใช้ CVT ครับ (เพราะส่วนตัวคิดว่าถ้าต้องการให้รถขับสนุก ก็น่าจะใช้เกียร์ A/T ธรรมดา)
 8) 8) 8) 8)
Isuzu มังกรทอง, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer MK I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 MK I, Mazda2 MK II, D-Max Space, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer MK II, Lander MK III, Ranger MC, XL7, Forester SK

ออฟไลน์ Fong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,018
  • Make a Choice and Don't Look Back
    • อีเมล์
น่าจะเป็นปัจจัยต้นทุนเป็นหลักครับ

เพราะ CVT มีชิ้นส่วนในเกียร์ไม่มากเท่า TqC  ทำให้การบำรุงรักษาก็ง่ายต้นทุนก็ถูกกว่า 

และอัตราของ CVT มันสามารถยืดหยุ่นได้มากทำให้เมื่อวิ่งความเร็วสูงๆสามารถรักษารอบต่ำๆเอาไว้ได้

แต่ลองมองกลับมาที่ TqC มันต้องทดถึง 7-8 Speed เพื่อให้รอบพอๆและการส่งกำลังไม่ตกให้เหมือนกับ CVT 

แต่ TqC ก็มีความทนทานรับแรงบิดได้มากกว่า

ข้อนี้ก็เคยคิดถึงเหมือนกันครับ แต่สมัยตอน Jazz รุ่นแรกกับ Lancer CEDIA ได้ยินว่าเกียร์พังทีโดนกันเหยียบแสน แต่ถ้าเป็นเกียร์ A/T เวลา Overhaul ถูกกว่า CVT เกินครึ่ง ยิ่งหาเกียร์มือสองเชียงกงยิ่งถูกเข้าไปใหญ่ เลยทำให้สับสนเรื่องต้นทุนอยู่เหมือนกันครับ

หรือว่าตอนนี้ต้นทุนการผลิตเกียร์ CVT ถูกกว่าเกียร์ AT ธรรมดาไปแล้วครับ ถ้าใช่ค่าซ่อม(เปลี่ยน)ก็ควรจะถูกกว่า(หรือเปล่าครับ)
Isuzu มังกรทอง, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer MK I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 MK I, Mazda2 MK II, D-Max Space, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer MK II, Lander MK III, Ranger MC, XL7, Forester SK

ออฟไลน์ Alcatraz

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,604
    • อีเมล์
ผมเคยตั้งกระทู้ไว้นานแล้ว สงสัย จขกท ยังไม่เคยอ่าน ความรู้แยอะมาก

http://community.headlightmag.com/index.php?topic=46175.0

ออฟไลน์ Duke2001

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 105
    • อีเมล์
เกียร์ CVT จริงๆ แล้วถ้าซ่อมได้ราคาก็ไม่แพงไปกว่าเกียร์แบบมีทอร์คคอนเวอร์เตอร์หลอกครับ
แต่ที่มันแพงคือมันหาอะไหล่ซ่อมภายในเกียร์ไม่ได้ครับ ส่วนใหญ่ศูนย์จะให้ซื้อยกทั้งลูก ราคาเลย
เป็นแสนครับ...

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,893
ผมขับธรรมดามา 10 ปี(ทุกวันนี้ก็ยังมีขับอยู่บ้างในรถกระบะส่งของ)

ขับออโต้มาอีก 15 ปี...

ผมเคยคิดแบบคุณเกือบเป๊ะครับ
แต่วันนี้ผมเปลี่ยนความคิดใหม่ทั้งหมดแล้วล่ะ ยกเว้นเรื่องงานซ่อม ผมก็ยังคิดว่าแพงไปหน่อย

ความคิดใหม่คือ มัเจ๋งมากเลย แรง ประหยัด รถเบาไปเยอะเลยครับ ถ้าไม่กลัวเกียร์เสียนะ มันขับสนุกกว่สฟันเฟืองอีก


ออฟไลน์ -Brian

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,079
CVT เป็นเกียร์ที่เพอร์เฟ็ค ในทางทฤษฎีครับ  เพราะมันสามารถทำให้เครื่องยนต์ทำงานอยู่ในรอบที่เรียกแรงม้าแรงบิดมาดีสุดได้ตลอด

แต่ในทางปฎิบัติ อัตราเร่งมันก็ไม่ต่างกับเกียร์ทอร์ค คอนเวอเตอร์ หรอกครับ มันขึ้นอยู่กับการเซ็ตมากกว่า

ซึ่งผมเดาว่าเหตุที่ค่ายญี่ปุ่นส่วนใหญ่ หันมาใช้ CVT เพราะมันเหมาะกับรถบ้าน และสภาพการจราจรของญี่ปุ่น ที่ส่วนใหญ่ขับกันในเมืองเล็กๆ จึงต้องการความนุ่มนวลในการทำงานของเกียร์

แต่สำหรับค่ายที่เน้นอารมณ์ในการขับขี่ ก็พัฒนาเกียร์ทอร์ค คอนเวอเตอร์ธรรมดา ให้ดียิ่งขึ้นไปกว่าเกียร์แบบสมัยก่อนครับ

ออฟไลน์ earrt

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 740
ผมว่า CVT มันต้นทุนถูก แค่พัฒนาให้ทนก็พอ

แต่คิดว่าต่อไปน่าจะตามยุโรปนะครับ คือ auto 8-9 speed

CVT แต่ในโหมด S สามารถล็อครอบเครื่องได้ ก็วิ่งดีนะครับ ขึ้น-ลงเขาได้สนุกเหมือนกัน

ออฟไลน์ rapee001

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 365
    • อีเมล์
เห็นรถรุ่นใหม่หลายรุ่นออกมา เลือกใช้เกียร์ CVT กันเยอะมาก (Jazz GK, ALTIS, CIVIC, VIOS, XV  บลา บลาๆๆๆ)
ส่วนตัวมี Jazz GK CVT ครับยอมรับว่าถ้ากดมากมันก็แรงใช้ได้ หรือจะใช้ Paddle Shift ลดเกียร์ลงก็เร่งแซงได้ดี
แต่มันก็ไร้อารมณ์ ขนาดเทียบกับ Mazda2 2010 1.5 ตัวเก่าที่แสนอืด ผมยังแอบชอบอารมณ์การเปลี่ยนเกียร์และการได้ลากรอบมากกว่า
เลยยิ่งสงสัยครับว่า ทำไมหลายค่ายเริ่มวิ่งเข้าหาเกียร์ CVT

1. เป็นเพราะว่าทำให้ประหยัดน้ำมันได้มากกว่าเดิม
2. เป็นเพราะต้องการให้ผ่านมาตรฐานค่าไอเสีย
3. เป็นเพราะต้องการให้เครื่องยนต์แสดงศักยภาพได้สูงสุด (Loss น้อยกว่า A/T)
4. เป็นเพราะ Concept ของรถไม่เน้นความสนุกในการขับขี่ (Civic RS??, XV??)

คือถ้าเป็นอย่างนั้นทำไม Mazda SkyActiv ไม่ใช้ CVT ก็ผ่านค่าไอเสียได้ ประหยัดเทพๆได้ รีดเค้นพลังออกมาได้
ทำไม BMW หรือ Mini ก็ยังไม่เลือกใช้ CVT (หรือว่ามีแล้วครับ ไม่แน่ใจ)

จำได้ว่า New Lancer รุ่น 1.6 จะได้เกียร์ CVT แต่ถ้าเป็น 1.8 หรือ 2.0 จะได้เกียร์ 4A/T Invec II Sportronic เพราะจะเน้นให้เร่งแรง ลากรอบ และขับสนุกกว่ามากตาม concept รถเครื่องใหญ่ที่เน้นแรง

ท่านสมาชิกคิดว่าผู้ผลิตมีหลักการในการเลือกใช้เกียร์ CVT หรือ A/T อย่างไรครับ
(ถ้าถามซ้ำ ขออภัยครับ)  8) 8) 8) 8)

1.CVT ลูกเล็ก นน.เบา และประสิทธิภาพในการส่งผ่านกำลังสูง ซึ่งส่งผลต่ออัตราบริโภคและค่าไอเสียที่ต่ำ
2.CVT มีประสิทธิภาพสูง และราคาถูกกว่าเนื่องจากมีชิ้นส่วนน้อยกว่าเกียร์แบบอื่นๆ
3.CVT เป็นเกียร์ที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ไร้รสชาดเนื่องจากขาดแรงกระตุกในช่วงเปลี่ยนเกียร์
4.Skyactiv AT ที่สามารถต่อกรกับ CVT ได้เนื่องจากทาง mazda ได้ทำการยกเครื่องทั้งส่วน full lock torque convertor
   ลดน้ำหนักชิ้นส่วนภายในทุกชิ้น และปรับปรุงระบบสมองเกียร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังคงในรสชาดของการขับขี่
5.ที่ cedia เลือกใช้ CVT ในรุ่นเล็กเท่านั้นน่าจะมาจากสาเหตุที่เกียร์ในตอนนั้นยังไม่สามารถรับแรงบิดของเครื่องบล๊อคใหญ่ได้

ออฟไลน์ inoros

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 125
เครื่องรถขนาดเล็กสำหรับการใช้งานทั่วไป ไม่ได้มีแรงบิดสูงมากในขนาดที่เกียร์CVTระบบสายพานจะรับไม่ไหวครับ
ข้อดี
-ประหยัดน้ำมันเพราะใช้รอบเครื่องต่ำ เมื่อใช้ความเร็วคงที่ ปล่อยCO2น้อยลง
-น้ำหนักเบา เพราะชิ้นส่วนน้อยกว่าATแบบPlanetary gear ลดต้นทุนไปได้เยอะ
ข้อเสีย
-ความทนทาน เมื่อออกตัว เร่งหรือกระชากบ่อยๆ
-การบำรุงรักษา

ความชอบไม่ชอบลักษณะเกียร์แล้วแต่คนครับ ข้อดีมันก็เยอะ ข้อเสียก็มี
หลักๆเรื่องการลดcostครับ บริษัทรถไม่ได้มองว่าลดทีเป็นพันเป็นหมื่น ลดแค่1สตางค์ก็เอา ยิ่งลดได้เยอะยิ่งกำไรเพราะพาร์ทนึงผลิตทีอาจจะถึงล้านชิ้น

ออฟไลน์ Fong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,018
  • Make a Choice and Don't Look Back
    • อีเมล์
ผมเคยตั้งกระทู้ไว้นานแล้ว สงสัย จขกท ยังไม่เคยอ่าน ความรู้แยอะมาก

http://community.headlightmag.com/index.php?topic=46175.0

ขอบคุณหลายครับ ใช้ key word ไม่ดีเองครับเลยหาไม่เจอ  ;D ;D ;D
Isuzu มังกรทอง, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer MK I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 MK I, Mazda2 MK II, D-Max Space, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer MK II, Lander MK III, Ranger MC, XL7, Forester SK

ออนไลน์ AkE

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,399
คนทางยุโรปซื้อรถไม่ได้เอาแค่แรงและประหยัดอย่างเดียวครับ ต้องมีสมรรถนะและอารมณ์ร่วมกับรถได้ดีด้วยครับ ลองสังเกตุดูทำไม

Ferrari & Porsche ถึงได้รางวัลประจำทั้งๆที่รถหลายๆรุ่นแรงแพ้ Lamboghini & Mcralen คะแนนส่วนนั้นมาจากความลงตัว และฟีลลิ่ง

การขับล้วนๆครับ เพราะฉะนั้นเกียร์ cvt เปนเกียร์ที่ไม่สามารถให้ฟิวสนุกๆได้ดีนักในยุโรปถึงไม่เป็นที่นิยมนัก แต่ตัวเกียร์มันไม่ได้มีอะไรเสียหาย

นะครับผมว่ามันก้โอเค ทำให้รถสเปคเดิมๆแรงขึ้นประหยัดขึ้นปล่อย co2 น้อยลง ถ้าเป็นรถเน้นใช้ในชีวิตปกติหรืออาจจะมีแอบแรงๆหน่อยผมว่าโอ

เคนะแต่ถ้าให้เปนรถเน้น performance เลยคงไม่ค่อยเหมาะครับ ข้อดีของมันเยอะกว่าข้อเสียครับผู้ผลิตจึงนิยมทำครับ

ออฟไลน์ Fong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,018
  • Make a Choice and Don't Look Back
    • อีเมล์
ผมเคยตั้งกระทู้ไว้นานแล้ว สงสัย จขกท ยังไม่เคยอ่าน ความรู้แยอะมาก

http://community.headlightmag.com/index.php?topic=46175.0

ได้อ่านแล้วครับ ดีมากๆเลยครับ แต่เหมือนยังกังขาอยู่ว่าจะขับรถเกียร์ CVT อย่างไรให้ออกตัวได้เร็วในแบบ CVT ปกติ เพราะรถ Jazz GK ผมก็เป็นครับ เหยียบเยอะๆรถก็เหมือนไม่ไป แต่พอลอยแล้วเหยียบเพิ่มก็เหมือนจะพุ่งดี แสดงว่าผู้ผลิตต้องมีการบอกวิธีการขับที่ถูกต้องของรถเขาสินะครับ
ทุกวันนี้ก็ปล่อยให้เราไปงมเอาเอง อ่านเอาเอง



คนทางยุโรปซื้อรถไม่ได้เอาแค่แรงและประหยัดอย่างเดียวครับ ต้องมีสมรรถนะและอารมณ์ร่วมกับรถได้ดีด้วยครับ ลองสังเกตุดูทำไม

Ferrari & Porsche ถึงได้รางวัลประจำทั้งๆที่รถหลายๆรุ่นแรงแพ้ Lamboghini & Mcralen คะแนนส่วนนั้นมาจากความลงตัว และฟีลลิ่ง

การขับล้วนๆครับ เพราะฉะนั้นเกียร์ cvt เปนเกียร์ที่ไม่สามารถให้ฟิวสนุกๆได้ดีนักในยุโรปถึงไม่เป็นที่นิยมนัก แต่ตัวเกียร์มันไม่ได้มีอะไรเสียหาย

นะครับผมว่ามันก้โอเค ทำให้รถสเปคเดิมๆแรงขึ้นประหยัดขึ้นปล่อย co2 น้อยลง ถ้าเป็นรถเน้นใช้ในชีวิตปกติหรืออาจจะมีแอบแรงๆหน่อยผมว่าโอ

เคนะแต่ถ้าให้เปนรถเน้น performance เลยคงไม่ค่อยเหมาะครับ ข้อดีของมันเยอะกว่าข้อเสียครับผู้ผลิตจึงนิยมทำครับ

ขอบคุณครับ เหมือนกับว่าเกียร์ CVT จะทำให้การออกแบบรถสักคันให้ผ่านมาตรฐานไอเสียที่เข้มงวดและทำให้ได้ตัวเลขประหยัดน้ำมันที่ดีกว่าเดิม
แต่บางค่ายก็แอบใส่ Paddle Shift หรือมีโหมดล็อคอัตราทดให้เหมือน A/T เพื่อยังคงให้อารมณ์เหมือนขับเกียร์ A/T ธรรมดา ซึ่งถ้าขับอย่างนั้นก็จะไม่ประหยัดน้ำมันและอาจจะทำร้ายเกียร์มากกว่าปกติ แต่ก็ได้มาซึ่งความสนุกในการขับขี่แบบ A/T ธรรมดา ขึ้นกับว่าใครจะทำได้ดีกว่ากันสินะครับ
Isuzu มังกรทอง, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer MK I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 MK I, Mazda2 MK II, D-Max Space, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer MK II, Lander MK III, Ranger MC, XL7, Forester SK

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,846
  • *** HLM.COM ***
เหตุผลหลักมันคือต้นทุนครับ
เหตุผลอื่นๆมันเป็นเหตุผลรองลงมาจากต้นทุน ผมว่าง่ายๆเลย

JONNY

  • บุคคลทั่วไป
ญี่ปุ่น 4-5 ปี ก็เปลี่ยนรถคันใหม่กันแล้ว
CVT จึงไม่ใช่ปัญหา แต่บ้านเราใช้ยันลูก เก่ามาถ้าได้ละก็ คงจุกจิกน่าดู

ออฟไลน์ nez

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 128
ทำไมต้อง CVT?  CVT ประหยัดน้ำมันจริงหรือ? ข้อมูล CVT ที่อ่านจากเวปญี่ปุ่น

1. CVT ไม่ต้องจ่ายค่าสิทธิบัตร ต่างจาก DCT หรือ AT7,8,9,10,11... เจ้าของสิทธิบัตรมักเป็นค่ายรถยุโรปและอเมริกา CVT ทำให้ต้นทุนต่ำ เหมาะกับรถญี่ปุ่นที่ถูกวางตำแหน่งเป็น cheap car สามารถแข่งขันกับรถยุโรปและอเมริกาได้ ส่วนรถญี่ปุ่นระดับพรีเมียมที่ไม่เน้นราคาถูก ไม่ใช้ CVT

2. CVT ให้ค่า JC08モード (JC08 Mode) ซึ่งเป็นตัวเลขการประหยัดน้ำมันตามมาตรฐานญี่ปุ่น ดีกว่า MT/AT/DCT (แต่สู้ไฮบริดไม่ได้) กูรูญี่ปุ่นแย้งว่า JC08モード ไม่ได้วัดการประหยัดน้ำมันที่แท้จริง เพราะ JC08モード ทดสอบรถในสภาพจราจรติดขัดในเมือง ซึ่งรถเคลื่อนที่ช้า และเป็นลักษณะ start/stop ซึ่งหาก CVT ไปวิ่งบน high way ที่รอบสูงๆอย่างต่อเนื่อง รถต้องสูญเสียกำลังจำนวนมากไปกดโซ่เพื่อไม่ให้ slip ซึ่งกำลังที่สูญเสียไปนี้ เท่ากับกำลังที่ใช้ในระบบ climate control (แอร์ + ฮีตเตอร์)

3. มีการพิสูจน์แล้วว่า ตัวเลขการประหยัดน้ำมันของ CVT ตาม JC08モード นั้น ต่ำกว่าความเป็นจริงโดยเฉลี่ย 25% และอาจมากกว่านี้ในเงื่อนไขอื่นๆ
一般的には、『JC08モード燃費の約75%が実燃費』と言われます。(信号が多いところを走行すると、もっと悪化することもあります)
http://car-by-area.com/jc08mode/

ปล. CVT ที่มีการโปรแกรมให้เป็น step เหมือนเกียร์ AT นั้น ถูกฝรั่งหัวเราะเยาะว่าเป็นเกียร์ปัญญอ่อน ตลกขบขัน น่าหัวเราะ เพราะจุดขายของ CVT คือเกียร์ที่ไหลลื่น ไร้ step แต่กลับทำให้มี step อย่างงี้กลับไปใช้เกียร์ AT ไม่ดีกว่าหรือ?
:D :D :D :D

ออฟไลน์ khin7710

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 82


มิได้กังวลขอรับ แค่อยากรู้เหตุผมที่เลือกใช้ CVT ครับ (เพราะส่วนตัวคิดว่าถ้าต้องการให้รถขับสนุก ก็น่าจะใช้เกียร์ A/T ธรรมดา)
 8) 8) 8) 8)

เกียร์ออโต้รถทั่วไปไม่ได้ออกแบบมาให้ขับสนุกไงครับ เกียร์ธรรมดา 5MT-6MT ต่างหากที่ออกแบบมาให้ขับสนุก
คุณอาจจะไปหลงโฆษณามากกว่า
รถ1000cc.-2500cc. คิดแค่ทำไงให้ขายได้เยอะ ต้นทุนถูก ราคาขายดีๆ กำไรงามๆ แค่นั้นหละ นอกนั้นก็เหตุผลที่มาทำให้คนซื้อต้องเข้าใจและยอมจ่ายเงิน

เกียร์ออโต้รถทั่วไปไม่ได้ออกแบบมาให้ขับสนุกจริงๆหรอกครับ แค่เขาบอกว่ามันสนุกเท่านั้น

ออฟไลน์ seamonkey

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 521
ถ้มผมจะซื้อรถไว้ขับทุกวัน ผมเลือก CVT ครับ
แต่ถ้าผมจะซื้อรถไว้ลง Track ผมเลือก MT ครับ