ผมคิดว่าถ้าจะทำเขาทำได้ไม่ยากครับ ทำชิ้นส่วนหนาหนักใหญ่ถึกไว้รองรับเทอร์โบ กับชิ้นส่วนที่นอกจากเบาแล้วยังต้องแกร่งเพื่อรับรอบ 8-9 พัน อย่างหลังนี่จริงๆต้นทุนสูงใช่ย่อยนะ แต่เครื่องเทอร์โบ ต้องต่อวนน้ำมาระบายความร้อนเทอร์โบด้วย ความร้อนที่น้ำส่วนนี้ไปเพิ่มให้กับหม้อน้ำนั้นเยอะมาก (Veyron มีหม้อน้ำ..กี่ใบหว่า แต่เยอะล่ะ)
การตอบสนองของเครื่องเทอร์โบนั้นก็อีกอย่าง ถ้าคุณเลือกที่จะใช้เครื่องที่หมุนได้ 8 พันรอบ แล้วใช้เทอร์โบ คุณก็ต้องเลือกระหว่างเทอร์โบที่แรงมาดีตั้งแต่ 1800 รอบ แล้วหลัง 5500 แรงบิดร่วง หรือเอาประเภทที่ให้แรงส่งได้ถึง 8 พันรอบ แต่กว่าจะมาให้ใช้งานก็ 5 พันรอบ Lambo ไม่มีทางทำเครื่อง V12 หรือ V10 ที่หมุนรอบ 6,000 แน่ๆ เพราะไม่ใช่วิถีทางกระทิง เขาต้องทำเครื่องรอบสูง ถ้าเอาเครื่องรอบสูงมาเจอเทอร์โบที่เน้นรอบกลาง..ไม่ได้..เอาเทอร์โบเน้นรอบสูงมาใส่ แรงแน่ แต่ขับยากกว่าบนแทร็ค..สังเกตไหมว่า Ferrari และ Lamborghini ไม่ได้เร็วเป็นอันดับต้นๆในเรื่อง Top Speed ของโลกซูเปอร์คาร์เลย..Jaguar XJ220 จาก 17 ปีก่อนยังทำปลายได้มากกว่าด้วยซ้ำ แต่ถ้าลงแทร็ค..จะเอาคันไหนระหว่าง XJ220 กับ 599GTB?
ดังนั้นการให้ความสำคัญกับการทำความเร็วในสนาม คุณไม่ได้ต้องการแรงระเบิดระเบ้ออย่างเดียว ต้องแรง และมีการเพิ่มแรงที่ต่อเนื่องและทำนายได้ง่าย เครื่อง NA ความจุเยอะๆ แตะคันเร่งนิดเดียวรอบพุ่ง กดแล้วตอบสนองทันที กดเบามาน้อย กดหนักไปเยอะ กะง่ายกว่ามาก
แต่ดูอย่าง Veyron..รถคันนี้รู้กันอยู่ว่าไม่ได้ทำมาเพื่อแทร็ค แต่ทำมาเพื่อ..สิ่งที่ Ferdinand Piech สั่ง "ทำรถออกมา! พันม้า และ 400 ก.ม./ช.ม. ไม่ต้องถาม ไม่ต้องทำเป็นเรื่องมาก..ทำ! ทำให้ได้!" รถประเภทสร้างความเร็วบนทางตรงแบบเค้นพลังตลอดแบบนี้แหละ มันต้องมีเทอร์โบ 4 ตัว กับ W16
แล้วทำไมทีไฮบริดล่ะยอมทำ.? ลองนึกถึงการตอบสนองของมอเตอร์ไฟฟ้า อันนี้ยิ่งแร่ดกว่าใครในเรื่องการตอบสนองตามสั่ง กดเป็นมา ดีดออกทันทีที่สั่ง ทำใจแค่เรื่องน้ำหนักมอเตอร์และบาลาน์ของรถก็พอ เรื่องแรง ไม่มีปัญหา พร้อมดีดทุกเมื่อ
Ferrari นั้นแม้ทุกคนจะมองว่า Fer ของแท้ต้อง V12 แต่เอาเข้าจริง Ferrari รุ่นที่สร้างชื่อเสียงยุคแรกๆเป็น 6 สูบเรียง Ferrari ที่ขายได้มากที่สุดในปัจจุบันเป็นเครื่อง V8 ส่วน Ferrari ที่กลายเป็นจ้าวไม่มีวันตายอย่าง F40 ใช้เครื่อง V8 เทอร์โบ 288GTO รุ่นก่อนหน้านั้นก็ใช้เทอร์โบ และ F40 นั้นก็คือบทสั่งลาเทอร์โบ เพราะหลังจากนั้น Ferrari ก็ไม่ทำรถ Production Car ที่ใช้เทอร์โบอีกเลย..จะเศร้าหรือจะดีใจล่ะ.. F40 แม้จะเป็นที่เคารพบูชา แต่ลองนึกภาพว่าคุณกำลังเป็นผู้คุมม้า 478 ตัว (ที่บูสท์ประมาณ 1.1 บาร์ ซึ่งถ้าเพิ่มเป็น 1.5-1.6 บาร์จะได้ 650 แรงม้า) ส่งกำลังผ่านล้อคู่หลัง เกียร์ธรรมดา คลัทช์หนักอึ้ง ไม่มี ABS ไม่มี Traction Control ไม่มีพวงมาลัยเพาเวอร์..และรถทั้งคันหนักแค่ราว 1.1 ตัน นี่คือรถปี 1987