สอบถามเรื่องการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ที่ระยะทุก 10,000 กม.

Sith8059

สวัสดีครับ สอบถามนิดนึงเรื่องระยะการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์

ทุกทีจะเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 10,000 กม. น้ำมันเกียร์ทุกระยะ 20,000 กม. (รถวิ่งปีละ 10,000-15,000 กม. เท่ากับเปลี่ยนน้ำมันเครื่องประมาณปีละครั้ง น้ำมันเกียร์ปีกว่าๆถึง2ปีครั้ง)

อยากทราบว่า ถ้าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ที่ระยะทุก 10,000 กม. พร้อมน้ำมันเครื่อง จะมีผลเสียอะไรมั้ยครับ นอกจากเปลืองเงิน?



gorilla

ไม่มีครับ



Dubee

ไม่มีครับ เป็นผลดีด้วยซ้ำไปครับ อย่าลืมว่าเกียร์ลูกนึงถัวๆเป็นแสนไปละครับ น้ำมันเกียร์ป๊องนึงสี่ลิตร ตกแค่พันต้นๆ เปลี่ยนปีละครั้งยังไม่เสียดายเงินตรงนี้เลยครับ



tom46

ถ้าแบบไขน็อตเปิดอ่างถ่าย ก็อาจจะมีเรื่องเกลียวน็อตบ้างละครับ แต่ผมว่าไม่น่าห่วงเท่าไรสวมเกลียวเอาได้อยู่
M52TUB30 NA TUNING
STROKER M54B30
SCHRICK CAM 248/248
aa tuning software custom
K&N performance air intake kit
Exhaust systems thailand hand made
Rear exhaust EISENMANN



Game

ผมใช้ lancer ex gt เปลี่ยนน้ำมันเกียร์พร้อมน้ำมันเครื่องทุก 10000 โล เหมือนกันครับ ตอนนี้ 100000 โลแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรนะครับ ปกติทุกอย่าง



kez

  เปลืองเงิน. เปลืองทรัพยากรโลก. ไม่จำเป็นขนาดนั้น

 



gamaga

รถคันเก่าผม ผมเปลี่ยน นมก. ทุกๆ 2 หมื่นกิโล

เห็นในคลับรถคันเก่าผม ที่เปลี่ยน นมก. ตามกำหนด เกียร์จะเริ่มเสียประมาณที่แสนกิโลซะส่วนใหญ่

ส่วนรถผมวิ่งไป 1.6 แสนกิโลยังปกติ

ถ้าคิดจะใช้รถยาวๆ ก็เปลี่ยนบ่อยได้ครับ 

นมก. ผมใช้วิธีเปลี่ยน นมค 2 ครั้ง เปลี่ยน นมก. 1 ครั้งครับ

ถ้าเราป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ มันเริ่มเสียได้ตั้งแต่แรก จะดีกว่าที่มันเริ่มเสียไปแล้ว จะมาแก้ไขได้ยากครับ :)



testmaster

ทำลายส่งแวดล้อมครับ

จริงๆน้ำมันเครื่องเชียร์ให้เปลี่ยนทุก 6 เดือนดีกว่านะครับถึงจะวิ่งปีละ 10k โลก็ตามยกเว้นใช้ของแพงพวกเกรด 20k โล 1 ปีอะไรงี้



Krongbun

รถคันเก่าผม ผมเปลี่ยน นมก. ทุกๆ 2 หมื่นกิโล

เห็นในคลับรถคันเก่าผม ที่เปลี่ยน นมก. ตามกำหนด เกียร์จะเริ่มเสียประมาณที่แสนกิโลซะส่วนใหญ่

ส่วนรถผมวิ่งไป 1.6 แสนกิโลยังปกติ

ถ้าคิดจะใช้รถยาวๆ ก็เปลี่ยนบ่อยได้ครับ 

นมก. ผมใช้วิธีเปลี่ยน นมค 2 ครั้ง เปลี่ยน นมก. 1 ครั้งครับ

ถ้าเราป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ มันเริ่มเสียได้ตั้งแต่แรก จะดีกว่าที่มันเริ่มเสียไปแล้ว จะมาแก้ไขได้ยากครับ :)

จริง ถ้าเสียแล้วก็คือเสียเลยครับ ผมเริ่มเปลี่ยนตอน 40000 50000 60000
เคลมเกียร์มาใหม่ก็กะจะเปลี่ยนไปเลยตอน 70000 แล้วดูอาการเอา ถ้าสียังสวยก็เจอกันคราวหน้าที่ 90000



final

ขอพูดตรงๆนะครับ “ถ้าจะถ่ายถี่ขนาดนั้น ใช้รถครั้งนึงถ่ายครั้งนึงไปเลยครับ” เพื่อการปกป้องสูงสุด อย่างนี้ดีไหม

ผมว่ามันไม่มีประโยชน์ เกียร์ไม่ได้เจอมลภาวะเท่าเครื่อง ระยะที่คุณถ่ายตอนนี้ผมว่ามันก็ถี่เกินไปแล้ว จะเอาถี่กว่านี้อีกหรือ

รถใช้ๆไป วันนึงก็ต้องเปลี่ยนคันครับ ต่อให้มันไม่พังแต่วันนึงรูปทรงมันเอ้าท์แล้ว เทคโนโลยีเทียบชาวบ้านไม่ได้แล้ว คุณก็ต้องอยากได้คันใหม่อยู่ดี

ผมไม่ได้อะไรนะครับ มันเป็นสิทธิ์ของคุณ แค่หวังดีไม่อยากให้เสียเงินฟรีๆ แค่ขับรถไม่กระชากไม่คิกดาวน์บ่อยๆ ก็ถนอมเกียร์มากกว่าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ถี่ๆแต่ออกตัวล้อฟรีแล้วครับ



Dubee

ขอพูดตรงๆนะครับ “ถ้าจะถ่ายถี่ขนาดนั้น ใช้รถครั้งนึงถ่ายครั้งนึงไปเลยครับ” เพื่อการปกป้องสูงสุด อย่างนี้ดีไหม

ผมว่ามันไม่มีประโยชน์ เกียร์ไม่ได้เจอมลภาวะเท่าเครื่อง ระยะที่คุณถ่ายตอนนี้ผมว่ามันก็ถี่เกินไปแล้ว จะเอาถี่กว่านี้อีกหรือ

รถใช้ๆไป วันนึงก็ต้องเปลี่ยนคันครับ ต่อให้มันไม่พังแต่วันนึงรูปทรงมันเอ้าท์แล้ว เทคโนโลยีเทียบชาวบ้านไม่ได้แล้ว คุณก็ต้องอยากได้คันใหม่อยู่ดี

ผมไม่ได้อะไรนะครับ มันเป็นสิทธิ์ของคุณ แค่หวังดีไม่อยากให้เสียเงินฟรีๆ แค่ขับรถไม่กระชากไม่คิกดาวน์บ่อยๆ ก็ถนอมเกียร์มากกว่าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ถี่ๆแต่ออกตัวล้อฟรีแล้วครับ

ไม่ค่อยเห็นด้วยกับความเห็นนี้ครับ ต่อให้น้ำมันเกียร์ไม่เจอมลพิษเท่าน้ำมันเครื่อง แต่คุณอย่าลืมมันจะเจอทั้งความร้อน การเสียดสีในระบบเกียร์ ฝุ่นผงที่ติดมาจากการชะล้างอีกละ คุณว่ามันไปกองอยู่ที่แม่เหล้กก้นอ่างสักกี่เปอร์เซ็นต์เชียว? นอกเหนือจากนี้มันก็วนอยู่ในระบบเกียร์นั้นแหละครับ วนไปเจอพวกโลหะด้วยกันก็กัดกร่อยกันเอง วันดีคืนร้ายวนไปติดในซิลีนอยเกียร์งานจะงอกเป็นเท่าทวีครับ นอกเหนือจากจะเจอพวกนี้แล้ว มันมีอายุการใช้งานของมันครับ คุณไม่คิดเหรอว่ามันจะเสื่อมสภาพจากการใช้งาน ใช้ไปนานๆฟิลม์เอย สารปกป้องเอย มีวันเสื่อมนะครับ

และเรื่องระยะเวลาใช้รถ อย่าเพิ่งเอาตัวท่านไปตัดสินจากลักษณะระยะเวลาการใช้รถจะนานจะสั้น รุ่นใหม่มารุ่นใหม่มารุ่นเก่าเอ้าทืแล้วไรงี้ครับ บางท่านใช้ทีบางครั้งเป็นสิบๆปีชนิดที่ว่าซ้อมไม่คุ้มแล้วค่อยเปลี่ยนก็มีแยะครับ

แนะนำเปลี่ยนเถอะครับน้ำมันเกียร์ อย่างน้อยสองปี หรือสักสาม-สี่หมื่นโลเปลี่ยนทีก็ยังดีครับ



final

ขอพูดตรงๆนะครับ “ถ้าจะถ่ายถี่ขนาดนั้น ใช้รถครั้งนึงถ่ายครั้งนึงไปเลยครับ” เพื่อการปกป้องสูงสุด อย่างนี้ดีไหม

ผมว่ามันไม่มีประโยชน์ เกียร์ไม่ได้เจอมลภาวะเท่าเครื่อง ระยะที่คุณถ่ายตอนนี้ผมว่ามันก็ถี่เกินไปแล้ว จะเอาถี่กว่านี้อีกหรือ

รถใช้ๆไป วันนึงก็ต้องเปลี่ยนคันครับ ต่อให้มันไม่พังแต่วันนึงรูปทรงมันเอ้าท์แล้ว เทคโนโลยีเทียบชาวบ้านไม่ได้แล้ว คุณก็ต้องอยากได้คันใหม่อยู่ดี

ผมไม่ได้อะไรนะครับ มันเป็นสิทธิ์ของคุณ แค่หวังดีไม่อยากให้เสียเงินฟรีๆ แค่ขับรถไม่กระชากไม่คิกดาวน์บ่อยๆ ก็ถนอมเกียร์มากกว่าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ถี่ๆแต่ออกตัวล้อฟรีแล้วครับ

ไม่ค่อยเห็นด้วยกับความเห็นนี้ครับ ต่อให้น้ำมันเกียร์ไม่เจอมลพิษเท่าน้ำมันเครื่อง แต่คุณอย่าลืมมันจะเจอทั้งความร้อน การเสียดสีในระบบเกียร์ ฝุ่นผงที่ติดมาจากการชะล้างอีกละ คุณว่ามันไปกองอยู่ที่แม่เหล้กก้นอ่างสักกี่เปอร์เซ็นต์เชียว? นอกเหนือจากนี้มันก็วนอยู่ในระบบเกียร์นั้นแหละครับ วนไปเจอพวกโลหะด้วยกันก็กัดกร่อยกันเอง วันดีคืนร้ายวนไปติดในซิลีนอยเกียร์งานจะงอกเป็นเท่าทวีครับ นอกเหนือจากจะเจอพวกนี้แล้ว มันมีอายุการใช้งานของมันครับ คุณไม่คิดเหรอว่ามันจะเสื่อมสภาพจากการใช้งาน ใช้ไปนานๆฟิลม์เอย สารปกป้องเอย มีวันเสื่อมนะครับ

และเรื่องระยะเวลาใช้รถ อย่าเพิ่งเอาตัวท่านไปตัดสินจากลักษณะระยะเวลาการใช้รถจะนานจะสั้น รุ่นใหม่มารุ่นใหม่มารุ่นเก่าเอ้าทืแล้วไรงี้ครับ บางท่านใช้ทีบางครั้งเป็นสิบๆปีชนิดที่ว่าซ้อมไม่คุ้มแล้วค่อยเปลี่ยนก็มีแยะครับ

แนะนำเปลี่ยนเถอะครับน้ำมันเกียร์ อย่างน้อยสองปี หรือสักสาม-สี่หมื่นโลเปลี่ยนทีก็ยังดีครับ

ผมไม่ได้บอกว่าน้ำมันเกียร์ไม่ต้องเปลี่ยนนะครับ ผมบอกว่าน้ำมันเกียร์เปลี่ยนบ่อยๆไม่มีประโยชน์อะไร เปลี่ยน 2 หมื่นโลครั้งนี่ก็ค่อนข้างถี่แล้ว

น้ำมันเกียร์เจอมลภาวะ แต่ไม่เยอะเท่าน้ำมันเครื่องก็ถูกแล้วหนิครับ แล้วจำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อยเท่าน้ำมันเครื่องมั้ย ย้ำให้เข้าใจ ไม่ได้ให้ใช้ตลอดอายุรถ แค่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อยเท่าน้ำมันเครื่อง

เรื่องเปลี่ยนรถผมไม่ได้เอาตัวผมไปตัดสินคนอื่นครับ แค่บอกว่ารถใช้ๆไปซักวันคุณก็ต้องเปลี่ยน หรือคุณจะใช้รถคันเดียวตลอดชีวิต? รูปทรงรถมันจะเอ้าท์ก็ไม่ได้เอ้าท์ในห้าปีสิบปีหรอกครับ Civic FD ก็ยังโอเคไม่ได้ดูเอ้าท์ ใครใคร่จะใช้รถกี่ปีก็แล้วแต่ความพอใจและเงินในกระเป๋าครับ



Dubee

ขอพูดตรงๆนะครับ “ถ้าจะถ่ายถี่ขนาดนั้น ใช้รถครั้งนึงถ่ายครั้งนึงไปเลยครับ” เพื่อการปกป้องสูงสุด อย่างนี้ดีไหม

ผมว่ามันไม่มีประโยชน์ เกียร์ไม่ได้เจอมลภาวะเท่าเครื่อง ระยะที่คุณถ่ายตอนนี้ผมว่ามันก็ถี่เกินไปแล้ว จะเอาถี่กว่านี้อีกหรือ

รถใช้ๆไป วันนึงก็ต้องเปลี่ยนคันครับ ต่อให้มันไม่พังแต่วันนึงรูปทรงมันเอ้าท์แล้ว เทคโนโลยีเทียบชาวบ้านไม่ได้แล้ว คุณก็ต้องอยากได้คันใหม่อยู่ดี

ผมไม่ได้อะไรนะครับ มันเป็นสิทธิ์ของคุณ แค่หวังดีไม่อยากให้เสียเงินฟรีๆ แค่ขับรถไม่กระชากไม่คิกดาวน์บ่อยๆ ก็ถนอมเกียร์มากกว่าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ถี่ๆแต่ออกตัวล้อฟรีแล้วครับ

ไม่ค่อยเห็นด้วยกับความเห็นนี้ครับ ต่อให้น้ำมันเกียร์ไม่เจอมลพิษเท่าน้ำมันเครื่อง แต่คุณอย่าลืมมันจะเจอทั้งความร้อน การเสียดสีในระบบเกียร์ ฝุ่นผงที่ติดมาจากการชะล้างอีกละ คุณว่ามันไปกองอยู่ที่แม่เหล้กก้นอ่างสักกี่เปอร์เซ็นต์เชียว? นอกเหนือจากนี้มันก็วนอยู่ในระบบเกียร์นั้นแหละครับ วนไปเจอพวกโลหะด้วยกันก็กัดกร่อยกันเอง วันดีคืนร้ายวนไปติดในซิลีนอยเกียร์งานจะงอกเป็นเท่าทวีครับ นอกเหนือจากจะเจอพวกนี้แล้ว มันมีอายุการใช้งานของมันครับ คุณไม่คิดเหรอว่ามันจะเสื่อมสภาพจากการใช้งาน ใช้ไปนานๆฟิลม์เอย สารปกป้องเอย มีวันเสื่อมนะครับ

และเรื่องระยะเวลาใช้รถ อย่าเพิ่งเอาตัวท่านไปตัดสินจากลักษณะระยะเวลาการใช้รถจะนานจะสั้น รุ่นใหม่มารุ่นใหม่มารุ่นเก่าเอ้าทืแล้วไรงี้ครับ บางท่านใช้ทีบางครั้งเป็นสิบๆปีชนิดที่ว่าซ้อมไม่คุ้มแล้วค่อยเปลี่ยนก็มีแยะครับ

แนะนำเปลี่ยนเถอะครับน้ำมันเกียร์ อย่างน้อยสองปี หรือสักสาม-สี่หมื่นโลเปลี่ยนทีก็ยังดีครับ

ผมไม่ได้บอกว่าน้ำมันเกียร์ไม่ต้องเปลี่ยนนะครับ ผมบอกว่าน้ำมันเกียร์เปลี่ยนบ่อยๆไม่มีประโยชน์อะไร เปลี่ยน 2 หมื่นโลครั้งนี่ก็ค่อนข้างถี่แล้ว

น้ำมันเกียร์เจอมลภาวะ แต่ไม่เยอะเท่าน้ำมันเครื่องก็ถูกแล้วหนิครับ แล้วจำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อยเท่าน้ำมันเครื่องมั้ย ย้ำให้เข้าใจ ไม่ได้ให้ใช้ตลอดอายุรถ แค่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อยเท่าน้ำมันเครื่อง

เรื่องเปลี่ยนรถผมไม่ได้เอาตัวผมไปตัดสินคนอื่นครับ แค่บอกว่ารถใช้ๆไปซักวันคุณก็ต้องเปลี่ยน หรือคุณจะใช้รถคันเดียวตลอดชีวิต? รูปทรงรถมันจะเอ้าท์ก็ไม่ได้เอ้าท์ในห้าปีสิบปีหรอกครับ Civic FD ก็ยังโอเคไม่ได้ดูเอ้าท์ ใครใคร่จะใช้รถกี่ปีก็แล้วแต่ความพอใจและเงินในกระเป๋าครับ

งั้นถ้าสัก 4 หมื่นโลหรือ 2 ปีครั้ง แล้วแต่อะไรถึงก่อน แบบที่ผมทำอยู่ ถือว่าถี่ไปไหมครับ



Slipknot`

ไม่มีปัญหาครับเปลี่ยนๆไปเถอะถ้าไม่ได้เดือดร้อน แต่ผมคงปีละ1ครั้งก็บ่อยละ



Koong

ผมใช้รถมาหลายรุ่นหลายยี่ห้อ
ที่ผ่านมาผมใช้หลัก   2 ปี  หรือ 60000 แล้วแต่อย่างใดถึงก่อน
 บางคันใช้ไม่ถึง 100000 กมก็ขาย  บางคันใช้ไป 300000 กม ถึงขาย ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับเกียร์นะ

10000 กม ผมว่าถี่และสิ้นเปลืองเกินไป



korkongzz

ที่บ้านมี ซีวิค ซิตี้ สวิฟ เปลี่ยนที่ห้าหมื่นโล แต่แถวบ้านผมรถไม่ติดเพราะ ตจว และปกติจะออกตัวรอบไม่เกินสองหมื่นโล

เป็นคนขับรถไม่เร็ว ประมาณ100 110 ครับ



final

ขอพูดตรงๆนะครับ “ถ้าจะถ่ายถี่ขนาดนั้น ใช้รถครั้งนึงถ่ายครั้งนึงไปเลยครับ” เพื่อการปกป้องสูงสุด อย่างนี้ดีไหม

ผมว่ามันไม่มีประโยชน์ เกียร์ไม่ได้เจอมลภาวะเท่าเครื่อง ระยะที่คุณถ่ายตอนนี้ผมว่ามันก็ถี่เกินไปแล้ว จะเอาถี่กว่านี้อีกหรือ

รถใช้ๆไป วันนึงก็ต้องเปลี่ยนคันครับ ต่อให้มันไม่พังแต่วันนึงรูปทรงมันเอ้าท์แล้ว เทคโนโลยีเทียบชาวบ้านไม่ได้แล้ว คุณก็ต้องอยากได้คันใหม่อยู่ดี

ผมไม่ได้อะไรนะครับ มันเป็นสิทธิ์ของคุณ แค่หวังดีไม่อยากให้เสียเงินฟรีๆ แค่ขับรถไม่กระชากไม่คิกดาวน์บ่อยๆ ก็ถนอมเกียร์มากกว่าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ถี่ๆแต่ออกตัวล้อฟรีแล้วครับ

ไม่ค่อยเห็นด้วยกับความเห็นนี้ครับ ต่อให้น้ำมันเกียร์ไม่เจอมลพิษเท่าน้ำมันเครื่อง แต่คุณอย่าลืมมันจะเจอทั้งความร้อน การเสียดสีในระบบเกียร์ ฝุ่นผงที่ติดมาจากการชะล้างอีกละ คุณว่ามันไปกองอยู่ที่แม่เหล้กก้นอ่างสักกี่เปอร์เซ็นต์เชียว? นอกเหนือจากนี้มันก็วนอยู่ในระบบเกียร์นั้นแหละครับ วนไปเจอพวกโลหะด้วยกันก็กัดกร่อยกันเอง วันดีคืนร้ายวนไปติดในซิลีนอยเกียร์งานจะงอกเป็นเท่าทวีครับ นอกเหนือจากจะเจอพวกนี้แล้ว มันมีอายุการใช้งานของมันครับ คุณไม่คิดเหรอว่ามันจะเสื่อมสภาพจากการใช้งาน ใช้ไปนานๆฟิลม์เอย สารปกป้องเอย มีวันเสื่อมนะครับ

และเรื่องระยะเวลาใช้รถ อย่าเพิ่งเอาตัวท่านไปตัดสินจากลักษณะระยะเวลาการใช้รถจะนานจะสั้น รุ่นใหม่มารุ่นใหม่มารุ่นเก่าเอ้าทืแล้วไรงี้ครับ บางท่านใช้ทีบางครั้งเป็นสิบๆปีชนิดที่ว่าซ้อมไม่คุ้มแล้วค่อยเปลี่ยนก็มีแยะครับ

แนะนำเปลี่ยนเถอะครับน้ำมันเกียร์ อย่างน้อยสองปี หรือสักสาม-สี่หมื่นโลเปลี่ยนทีก็ยังดีครับ

ผมไม่ได้บอกว่าน้ำมันเกียร์ไม่ต้องเปลี่ยนนะครับ ผมบอกว่าน้ำมันเกียร์เปลี่ยนบ่อยๆไม่มีประโยชน์อะไร เปลี่ยน 2 หมื่นโลครั้งนี่ก็ค่อนข้างถี่แล้ว

น้ำมันเกียร์เจอมลภาวะ แต่ไม่เยอะเท่าน้ำมันเครื่องก็ถูกแล้วหนิครับ แล้วจำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อยเท่าน้ำมันเครื่องมั้ย ย้ำให้เข้าใจ ไม่ได้ให้ใช้ตลอดอายุรถ แค่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อยเท่าน้ำมันเครื่อง

เรื่องเปลี่ยนรถผมไม่ได้เอาตัวผมไปตัดสินคนอื่นครับ แค่บอกว่ารถใช้ๆไปซักวันคุณก็ต้องเปลี่ยน หรือคุณจะใช้รถคันเดียวตลอดชีวิต? รูปทรงรถมันจะเอ้าท์ก็ไม่ได้เอ้าท์ในห้าปีสิบปีหรอกครับ Civic FD ก็ยังโอเคไม่ได้ดูเอ้าท์ ใครใคร่จะใช้รถกี่ปีก็แล้วแต่ความพอใจและเงินในกระเป๋าครับ

งั้นถ้าสัก 4 หมื่นโลหรือ 2 ปีครั้ง แล้วแต่อะไรถึงก่อน แบบที่ผมทำอยู่ ถือว่าถี่ไปไหมครับ

ไม่ถี่ครับ กำลังดี เราปรับปรุงวิธีการขับรถของเรา ออกตัวไม่กระชาก ไม่ซิ่งบ่อยๆ ยังจะถนอมเกียร์มากกว่าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุกหมื่นโล แต่เหยียบคันเร่งแทบทะลุพื้นรถทุกครั้งเมื่อมีโอกาสอีกครับ



panjap

ถี่เกินไปที่ 2 หมื่นโล ถ้าคุณขับ เบนซ์ bmw มีหวังตายแน่ เพราะเปลี่ยนครั้งนึง ล่อไป หมื่นแก่ๆ ถึงสองหมื่นกลาง  ผมว่าเปลี่ยนที่ 6 หมื่นโล กะลังดี



+@ Krishna @+

สัก 30000-40000  หรือ 2 ปี น่าจะ เปลี่ยนทีนะครับ