เครื่อง79แรงม้าของ Note e-Power เพียงพอต่อมอเตอร์ 109 แรงม้าหรือไม่?

ลุง

แบตเตอรี่ ลูกเล็กเพียง1.5kWh พอหมดแล้ว แรงม้าจริงๆของ Note e Power อยู่ที่ 79 หรือ 109 ครับ



lek12

มอเตอร์ต่อกับแบตเตอรี่ครับ เครื่องยนต์ทำหน้าที่หมุนเครื่องปั่นไฟอย่างเดียว เพราะฉะนั้น กำลังเครื่องยนต์ ไม่เกี่ยวข้องกับ กำลังมอเตอร์ ครับ



kez

   มันคือรถ ev  ขับด้วยไฟฟ้า   เครื่องไว้ปั่นไฟ



Jacob

เท่าที่จำได้ ใช้มอเตอร์เดียวกับนิสสันลีฟรุ่นก่อน แต่ขนาดแบตน้อยกว่ามากเพราะมีเครื่องยนต์ช่วยปั่นไฟ และอย่างรีบนบอกคือขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์อย่างเดียว เรื่องแรงม้าก็เพียงพอกับขนาดรถ ส่วนอัตราเร่งจะหวือหวาแบบในยูทูบที่โชว์ 0-100 ได้ 7 วิจริงมั้ยต้องรอพิสูจน์ เพราะเห็นกระทู้ first impression ก็กะๆได้ประมาณ 9 วิ



Deaw

มอเตอร์ก็คงมีแรงม้าเท่าเดิมตลอดอ่ะครับ
แต่เครื่องยนต์คงมีการเร่งรอบเพื่อปั่นไฟเข้าแบตในกรณีที่แบตเหลือน้อย เพื่อรักษาสภาพให้มีแบตเพียงพอต่อการขับขี่ได้ตลอดครับ



Magl

นึกถึง หัวรถจักรดีเซลไฟฟ้าไว้ครับ หลักการเดียวกัน เครื่องยนต์เล็กไปขับตรงมันก็อืด เลยไปปั่นไฟจ่ายให้มอเตอร์ทำให้รถเร่งได้เร็วขึ้น ประหยัดขึ้น เอาจริงๆถ้าใช้เครื่องเดิมทำตัวเลขได้ 10 วิ ก็ดีกว่าเดิมๆเยอะแยะแล้วครับ ความประหยัดเครื่องตัวนี้มันมีอยู่แล้ว



5thAvenue

นึกถึง หัวรถจักรดีเซลไฟฟ้าไว้ครับ หลักการเดียวกัน เครื่องยนต์เล็กไปขับตรงมันก็อืด เลยไปปั่นไฟจ่ายให้มอเตอร์ทำให้รถเร่งได้เร็วขึ้น ประหยัดขึ้น เอาจริงๆถ้าใช้เครื่องเดิมทำตัวเลขได้ 10 วิ ก็ดีกว่าเดิมๆเยอะแยะแล้วครับ ความประหยัดเครื่องตัวนี้มันมีอยู่แล้ว

นึกแล้วอยากให้ NISSAN ไปขอเพ้นท์หัวรถจักรเป็นโฆษณา e-Power เลย 5555



HHHsung

เคยให้ความเห็นเกี่ยวกับเครื่องยนต์โน็ต E power นานละ แต่ถามมาก็ตอบอีกครั้งว่ามันออกแบบมาสำหรับเป็นซิตี้คาร์เป็นหลัก ไม่เหมาะกับพวกเท้าหนัก

เพราะเครื่องปั่นไฟกำลังน้อยกว่ามอเตอร์ วิ่งทางไกลถ้าไม่เบรคเลย และไม่มี regen กำลังที่จ่ายได้ยังงัยก็ไม่เกินกำลังจากเครื่องปั่นไฟ

ไม่เคยได้ลองขับแต่ก็เดาว่า นิสสันน่าจะออกแบบให้วิ่งสามารถความเร็วเดินทาง 100 กม./ชม. ต่อเนื่องด้วยกำลังจากเครื่องปั่นไฟ

และเหลือพอชาร์จแบตเวลาต้องการเร่งแซง แต่ถ้าทำไม่ได้ส่งกลับญี่ปุ่นไปเลยครับ ขายได้ยากแน่ๆ

ปล. ข้อมูลผลการเทสที่ญี่ปุ่นเอามาเปรียบเทียบกับเมืองไทยตรงๆ ไม่ได้นะครับ ประสิทธิภาพรถไฟฟ้าแปรผกผันกับอุณหภูมืใช้งาน ยิ่งสูงยิ่งลด (ดักไว้ก่อน)

รอรีวิวจาก HLM เวลาทดสอบที่เมืองไทยดีกว่า แต่ค่าคงต่างจากญี่ปุ่นไม่มากเพราะทดสอบตอนกลางคืนช่วงดึกๆ ที่อากาศไม่ร้อนเท่าไหร่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 31, 2018, 10:11:33 โดย HHHsung »



HHHsung

นึกถึง หัวรถจักรดีเซลไฟฟ้าไว้ครับ หลักการเดียวกัน เครื่องยนต์เล็กไปขับตรงมันก็อืด เลยไปปั่นไฟจ่ายให้มอเตอร์ทำให้รถเร่งได้เร็วขึ้น ประหยัดขึ้น เอาจริงๆถ้าใช้เครื่องเดิมทำตัวเลขได้ 10 วิ ก็ดีกว่าเดิมๆเยอะแยะแล้วครับ ความประหยัดเครื่องตัวนี้มันมีอยู่แล้ว

นิสสันโน็ตปกติ เครื่อง 1200 แรงบิด 106 N-m ส่วนนิสสันโน็ต E power  เครื่อง 1200 แรงบิด 109 N-m ส่งพลังงานให้มอเตอร์ไฟฟ้าที่มีแรงบิด 254 N-m

ไม่แปลกหรอกครับว่าทำไมมันถึงไม่อืด แรงบิดขนาดนี้ สูงกว่า civic หรือ 3 อีก แถมมาตั้งแต่เริ่มออกตัว น่าจะเป็นรถที่ขับในเมืองสนุกสนานน่าดู

ใครที่วิ่งเส้นทางที่รถติดมากๆ น่าใช้จริงๆ ตัวเลขตอนออกตัว 0-60 น่าจะต่ำมาก แต่พอลอยตัว รถเครื่องยนต์สันดาปแรงบิดน่าจะตามมาจนห่างกันไม่มากแล้ว

ใครที่บอกว่าราคาควรไม่เกิน 6 แสน ลองไปคิดดูใหม่นะครับ แรงบิดขนาดนี้ รถตัวถังใหญ่แบบนี้ ราคาน่าจะอยู่ราวๆ 7 แสนปลายๆ ถึง 9 แสนต้นๆ ตามออฟชั่นด้วยซ้ำ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 31, 2018, 10:46:59 โดย HHHsung »



Night_Angel

นึกถึง หัวรถจักรดีเซลไฟฟ้าไว้ครับ หลักการเดียวกัน เครื่องยนต์เล็กไปขับตรงมันก็อืด เลยไปปั่นไฟจ่ายให้มอเตอร์ทำให้รถเร่งได้เร็วขึ้น ประหยัดขึ้น เอาจริงๆถ้าใช้เครื่องเดิมทำตัวเลขได้ 10 วิ ก็ดีกว่าเดิมๆเยอะแยะแล้วครับ ความประหยัดเครื่องตัวนี้มันมีอยู่แล้ว

นึกแล้วอยากให้ NISSAN ไปขอเพ้นท์หัวรถจักรเป็นโฆษณา e-Power เลย 5555

เข้าที  คนจะเข้าใจไหมหว่า ทุกวันนี้หลายๆคนยังเข้าใจว่า หัวจักรดีเซล คือขับเพลาจริงๆ ทั้งๆที่ปั่นไฟอย่างเดียว    หัวดีเซล แท้ๆมีไม่ถึงสิบหัวแล้วเมืองไทย
ぼく は くま くま.... くま......

くるま じゃないよ

2000 Lancer F-Stye --> Evolution V
1994 Lancer E-CAR 1.6 JDM



lexus

นึกถึง หัวรถจักรดีเซลไฟฟ้าไว้ครับ หลักการเดียวกัน เครื่องยนต์เล็กไปขับตรงมันก็อืด เลยไปปั่นไฟจ่ายให้มอเตอร์ทำให้รถเร่งได้เร็วขึ้น ประหยัดขึ้น เอาจริงๆถ้าใช้เครื่องเดิมทำตัวเลขได้ 10 วิ ก็ดีกว่าเดิมๆเยอะแยะแล้วครับ ความประหยัดเครื่องตัวนี้มันมีอยู่แล้ว

นึกแล้วอยากให้ NISSAN ไปขอเพ้นท์หัวรถจักรเป็นโฆษณา e-Power เลย 5555

เข้าที  คนจะเข้าใจไหมหว่า ทุกวันนี้หลายๆคนยังเข้าใจว่า หัวจักรดีเซล คือขับเพลาจริงๆ ทั้งๆที่ปั่นไฟอย่างเดียว    หัวดีเซล แท้ๆมีไม่ถึงสิบหัวแล้วเมืองไทย

บอกตรงๆว่าผมไม่รู้จักหัวจักรดีเซลไฟฟ้าครับ มันเป็นยังไง คือใช้ในรถไฟไทยรึเปล่า?



kiyokuka

เคยให้ความเห็นเกี่ยวกับเครื่องยนต์โน็ต E power นานละ แต่ถามมาก็ตอบอีกครั้งว่ามันออกแบบมาสำหรับเป็นซิตี้คาร์เป็นหลัก ไม่เหมาะกับพวกเท้าหนัก

เพราะเครื่องปั่นไฟกำลังน้อยกว่ามอเตอร์ วิ่งทางไกลถ้าไม่เบรคเลย และไม่มี regen กำลังที่จ่ายได้ยังงัยก็ไม่เกินกำลังจากเครื่องปั่นไฟ

ไม่เคยได้ลองขับแต่ก็เดาว่า นิสสันน่าจะออกแบบให้วิ่งสามารถความเร็วเดินทาง 100 กม./ชม. ต่อเนื่องด้วยกำลังจากเครื่องปั่นไฟ

และเหลือพอชาร์จแบตเวลาต้องการเร่งแซง แต่ถ้าทำไม่ได้ส่งกลับญี่ปุ่นไปเลยครับ ขายได้ยากแน่ๆ

ปล. ข้อมูลผลการเทสที่ญี่ปุ่นเอามาเปรียบเทียบกับเมืองไทยตรงๆ ไม่ได้นะครับ ประสิทธิภาพรถไฟฟ้าแปรผกผันกับอุณหภูมืใช้งาน ยิ่งสูงยิ่งลด (ดักไว้ก่อน)

รอรีวิวจาก HLM เวลาทดสอบที่เมืองไทยดีกว่า แต่ค่าคงต่างจากญี่ปุ่นไม่มากเพราะทดสอบตอนกลางคืนช่วงดึกๆ ที่อากาศไม่ร้อนเท่าไหร่

แบตเตอรี่ ยิ่งอุณหภูมิต่ำประสิทธิภาพยิ่งลดนะครับ ที่อุณหภูมิสูงจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพไว หรือ ความจุลดลงครับ
อุณหภูมิที่ดีสำหรับแบตเตอรี่ Li-ion อยู่ระหว่าง 30-38 องศา ครับ ต่ำหรือมากกว่านี้จะทำให้แบตเตอรี่ไม่เต็มประสิทธิภาพ



index8915

นึกถึง หัวรถจักรดีเซลไฟฟ้าไว้ครับ หลักการเดียวกัน เครื่องยนต์เล็กไปขับตรงมันก็อืด เลยไปปั่นไฟจ่ายให้มอเตอร์ทำให้รถเร่งได้เร็วขึ้น ประหยัดขึ้น เอาจริงๆถ้าใช้เครื่องเดิมทำตัวเลขได้ 10 วิ ก็ดีกว่าเดิมๆเยอะแยะแล้วครับ ความประหยัดเครื่องตัวนี้มันมีอยู่แล้ว

นึกแล้วอยากให้ NISSAN ไปขอเพ้นท์หัวรถจักรเป็นโฆษณา e-Power เลย 5555

เข้าที  คนจะเข้าใจไหมหว่า ทุกวันนี้หลายๆคนยังเข้าใจว่า หัวจักรดีเซล คือขับเพลาจริงๆ ทั้งๆที่ปั่นไฟอย่างเดียว    หัวดีเซล แท้ๆมีไม่ถึงสิบหัวแล้วเมืองไทย

บอกตรงๆว่าผมไม่รู้จักหัวจักรดีเซลไฟฟ้าครับ มันเป็นยังไง คือใช้ในรถไฟไทยรึเปล่า?

เค้าใจว่าน่าจะหมายความแบบนี้

คนทั่วไปชอบเข้าใจว่ารถไฟไทย(รฟท.) ใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อนหัวจักร(หัวรถไฟ)

ทั้งที่จริงๆแล้ว เครื่องยนต์ดีเซลที่อยู่บนรถไฟมันเอามาปั่นไฟ แล้วเอาไฟฟ้ามันมาใช้ในการขับเคลื่อนครับ



testmaster

สงสัยจริงๆเครื่องยนต์มันไม่น่าจะต้องใช้แรงม้าเยอะอะไรนะครับ 79 เนี่ยก็น่าจะเหลือๆด้วยซ้ำเพราะมันก็แค่ปั่นไปเก็บใส่แบตเตอรี่เฉยๆ



lay

เคยให้ความเห็นเกี่ยวกับเครื่องยนต์โน็ต E power นานละ แต่ถามมาก็ตอบอีกครั้งว่ามันออกแบบมาสำหรับเป็นซิตี้คาร์เป็นหลัก ไม่เหมาะกับพวกเท้าหนัก

เพราะเครื่องปั่นไฟกำลังน้อยกว่ามอเตอร์ วิ่งทางไกลถ้าไม่เบรคเลย และไม่มี regen กำลังที่จ่ายได้ยังงัยก็ไม่เกินกำลังจากเครื่องปั่นไฟ

ไม่เคยได้ลองขับแต่ก็เดาว่า นิสสันน่าจะออกแบบให้วิ่งสามารถความเร็วเดินทาง 100 กม./ชม. ต่อเนื่องด้วยกำลังจากเครื่องปั่นไฟ

และเหลือพอชาร์จแบตเวลาต้องการเร่งแซง แต่ถ้าทำไม่ได้ส่งกลับญี่ปุ่นไปเลยครับ ขายได้ยากแน่ๆ

ปล. ข้อมูลผลการเทสที่ญี่ปุ่นเอามาเปรียบเทียบกับเมืองไทยตรงๆ ไม่ได้นะครับ ประสิทธิภาพรถไฟฟ้าแปรผกผันกับอุณหภูมืใช้งาน ยิ่งสูงยิ่งลด (ดักไว้ก่อน)

รอรีวิวจาก HLM เวลาทดสอบที่เมืองไทยดีกว่า แต่ค่าคงต่างจากญี่ปุ่นไม่มากเพราะทดสอบตอนกลางคืนช่วงดึกๆ ที่อากาศไม่ร้อนเท่าไหร่

+++ :)



lay

ขับขึ้นเขาขึ้นดอย สูงๆ  อาจจะไม่เหมาะเท่าไหร่นะผมว่า  แรงบิตสูงก้จริง แต่เร่งมากๆอาจะป้อนไฟไม่ทัน



Alcatraz

เพียงพอมั้ย เค้าวิจัยและทำมาให้ใช้งานได้จริงไม่ใช่ปัญหาอะไรหรอก แต่ลืมอะไรไปรึป่าว

ทุกวันนี้ผมยังหาข้อมูลความเร็วสูงสุดของ e power นี่ไม่ได้เลย เท่าที่คุยกับวิศกรของนิสสัน ได้แต่ตอบมาว่าวิ่งได้ 140 สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือถ้าคุณขับข้ามจังหวัด แช่ที่ 120 เครื่องมันปั่นไฟไหวใช่มั้ย หรือแรงจะตกแบบพวกรถไฮบริดทั้งหลาย แล้วถ้าต้องเร่งแซงล่ะ ความเร็วสูงสุดแค่ 140 จะไหวหรอ ต่อให้ 0-100 เร็วแค่ไหน ถ้าปลายได้แค่นี้ควรเก็บไว้ใช้ในเมืองรถติดๆ คนญี่ปุ่นเค้าก็ทำอย่างนี้กัน ข้ามจังหวัดเค้าก็นั่งรถไฟเอา

แต่พอมาขายในไทย นิสสัน ไม่ดูเลยว่านิสัยคนไทย รถคันนึงต้องทำได้ทุกอย่าง



voyager

น่าสงสัยเครื่องยนต์ตอนปั่นไฟ ใช้รอบเต็มที่เท่าไร เสียงดังมากไหม



No Trespassing

เคยให้ความเห็นเกี่ยวกับเครื่องยนต์โน็ต E power นานละ แต่ถามมาก็ตอบอีกครั้งว่ามันออกแบบมาสำหรับเป็นซิตี้คาร์เป็นหลัก ไม่เหมาะกับพวกเท้าหนัก

เพราะเครื่องปั่นไฟกำลังน้อยกว่ามอเตอร์ วิ่งทางไกลถ้าไม่เบรคเลย และไม่มี regen กำลังที่จ่ายได้ยังงัยก็ไม่เกินกำลังจากเครื่องปั่นไฟ

ไม่เคยได้ลองขับแต่ก็เดาว่า นิสสันน่าจะออกแบบให้วิ่งสามารถความเร็วเดินทาง 100 กม./ชม. ต่อเนื่องด้วยกำลังจากเครื่องปั่นไฟ

และเหลือพอชาร์จแบตเวลาต้องการเร่งแซง แต่ถ้าทำไม่ได้ส่งกลับญี่ปุ่นไปเลยครับ ขายได้ยากแน่ๆ

ปล. ข้อมูลผลการเทสที่ญี่ปุ่นเอามาเปรียบเทียบกับเมืองไทยตรงๆ ไม่ได้นะครับ ประสิทธิภาพรถไฟฟ้าแปรผกผันกับอุณหภูมืใช้งาน ยิ่งสูงยิ่งลด (ดักไว้ก่อน)

รอรีวิวจาก HLM เวลาทดสอบที่เมืองไทยดีกว่า แต่ค่าคงต่างจากญี่ปุ่นไม่มากเพราะทดสอบตอนกลางคืนช่วงดึกๆ ที่อากาศไม่ร้อนเท่าไหร่

แบตเตอรี่ ยิ่งอุณหภูมิต่ำประสิทธิภาพยิ่งลดนะครับ ที่อุณหภูมิสูงจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพไว หรือ ความจุลดลงครับ
อุณหภูมิที่ดีสำหรับแบตเตอรี่ Li-ion อยู่ระหว่าง 30-38 องศา ครับ ต่ำหรือมากกว่านี้จะทำให้แบตเตอรี่ไม่เต็มประสิทธิภาพ

เรื่องแบตเตอรี่เห็นด้วยครับ
ตัวอย่างคือแบตไอโฟนบ้านเรา กับ ไอโฟนเมืองหนาว คนละสเปคกัน

ต้นปีสายการบินส่งผมไปประจำที่สนามบินฮอกไกโด อุณหภูมิกลางวันติดลบ - 3 กลางคืน - 15
ช่วงหัวค่ำปั่นจักรยานจากโรงแรม Grand Terrace Chitose ไปห้าง Aeon ราวๆกิโลครึ่ง

ระหว่างทางก็ถ่ายรูปเล่นไปเรื่อย ซักพักมือถือดับไปเอง เลยเก็บไว้ในเสี้อโค้ทก่อน
พอถึงห้าง ลองเปิดอีกรอบ อ่ะ ใช้ได้ แต่แบตเหลือแค่ 55% จากที่ชาร์จเต็ม 100%

เลยถามพี่ๆลูกเรือ เค้าบอกว่าแบตบ้านเรา กับ แบตญี่ปุ่น คนละสเปคกัน
บ้านเค้าเมืองหนาว แบตค่อนข้างทน แต่บ้านเราเมืองร้อน แบตจะใช้อีกแบบนึงครับ



SRY

ผมว่าคุณไปอ่าน first impression หรืออะไรนี่แหละของรุ่นนี้ก่อนนะครับ
พละกำลังเหลือเฟือท่าน



thanakrit.b12

ถ้าเป็นผมจะเลือก ขับรถน้ำมัน หรือรถ EV ไปเลย จะได้ไม่ต้องดูแลรักษาทั้งแบตและเครื่องยนต์
vios2009
vigo 2.5 2010
REVO 2.8 2016
Fortuner TRD 2018
Camry 2019
REVO 4*4 ตอนเดียว
Mini cooper countryman 2024
Revo z 2.4 Mid Auto 2024