โพลล์

bmw e60 520d
21 (84%)
toyota prius
4 (16%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 24

งบ 5-6 แสน จะเลือกอะไรดีครับ ระหว่าง e60 520d กับ prius สองคันนี้

ange1us

ยังตัดสินใจไม่ได้ครับ ชอบ e60 520d มาตั้งแต่มันออกมาใหม่ๆ ตอนนี้เห็นมือสองราคาถูกลงมาก เลยสนใจครับ

ส่วน prius ก็อยากลองใช้ hybrid เพราะราคาแบตก็ลงมาแล้ว น่าสนใจเช่นกัน

เรื่องซ่อมหลังซื้อนี่ ราคาคันไหนซ่อมโหดกว่า จุกจิกกว่ากันครับ แล้วคันไหนประหยัดน้ำมันกว่ากันครับ

ผมใช้ในกรุงเทพเป็นส่วนมาก แต่ก็ขับออก ตจว บ่อยๆ ไประยอง ชลบุรี เดือนละ 2-3 ครั้ง

นานๆจะขับขึ้นเหนือทีนึง ปีละครั้ง

คิดว่าจะซื้อสดนะครับ จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย รบกวนโหวตพร้อมบอกเหตุผลด้วยก็ดีนะครับ

ปล.ชอบ ct200h ด้วย แต่กลัวหาอู่ซ่อมยากครับ
- มีรถของแฟนสำรองอยู่คันนึงเป็น jazz ครับ
- อายุ 3x แต่งงานแล้ว ยังไม่มีลูกครับ
- กะใช้ไม่เกิน 10 ปี ครับ คงขายซื้อใหม่

ขอบคุณครับ



+@ Krishna @+

ถ้ามีงบซ่อมบำรุงเหลือ ๆ + มีอู่ที่ไว้ใจได้ ผมเลือก e60 เลยครับ
2 คันนี้คนละฟิลกันเลยนะครับ
คันนึงหนักแน่น อีกคน ออกเบา ๆ ลอย ๆ  8)



peterpeterpeter


  - จากที่บ้านมี รุ่น e 60 อยู่นะครับ

  - ค่าดูแล รักษา กรณีเข้าศูนย์ เปลี่ยนของแท้ เช็คตามระยะ รถที่บ้าน ตอนนี้ 200000 กม รถปี 2008
 
  - ตก ปีละ 150000 บาท ครับ

  ถ้ารับค่า ใช้จ่ายไหว แนะนำ BMW ขับดี กว่าเยอะครับ





PKS8


  - จากที่บ้านมี รุ่น e 60 อยู่นะครับ

  - ค่าดูแล รักษา กรณีเข้าศูนย์ เปลี่ยนของแท้ เช็คตามระยะ รถที่บ้าน ตอนนี้ 200000 กม รถปี 2008
 
  - ตก ปีละ 150000 บาท ครับ

  ถ้ารับค่า ใช้จ่ายไหว แนะนำ BMW ขับดี กว่าเยอะครับ

ตามนี้ครับ ของผมทั้ง 525ise กับ 520d LCI ตกปีล่ะแสนกว่าๆครับ



ange1us


  - จากที่บ้านมี รุ่น e 60 อยู่นะครับ

  - ค่าดูแล รักษา กรณีเข้าศูนย์ เปลี่ยนของแท้ เช็คตามระยะ รถที่บ้าน ตอนนี้ 200000 กม รถปี 2008
 
  - ตก ปีละ 150000 บาท ครับ

  ถ้ารับค่า ใช้จ่ายไหว แนะนำ BMW ขับดี กว่าเยอะครับ

ตามนี้ครับ ของผมทั้ง 525ise กับ 520d LCI ตกปีล่ะแสนกว่าๆครับ

แล้วถ้าเป็นอู่นอกราคาจะประมาณเท่าไหร่ครับ แถวบ้านผมอยู่พระรามสามเห็นว่ามีอู่ดีๆอยู่ที่นึง



checkmate

เป็นผมไป CT200h ครับ ยังไงก็ดูแลง่ายพอๆกับ prius ในทางเทคนิค

ถ้ามี jazz เป็นสำรองแสดงว่าคันที่กำลังจะเลือกเป็นคันหลัก E60 LCI ผมว่าก็แก่เกินจะไว้ใจครับ ถ้ามีออก ตจว.เดือนละ 2-3 ครั้ง

เคยใช้ prius mc อยู่ 4 ปี ระบบเครื่องยนต์ไม่ได้ดูแลยากมากมายอู่นอก services เริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ ทำ prius ได้ ct200h ก็ต้องทำได้ครับเพราะระบบเดียวกันหมด



Arnan_td

จากคนใช้ prius มาตั้งแต่ปี 2012 ปลายปีนะครับ ของผมตัว mc
วันนี้ขับมาประมาณ 116,000  กม
ยังไม่เคยเจอซ่อมหนักเลยสิ่งที่มีเปลี่ยนไปแล้ว
1. แบต ลูกใหญ่ hybrid เสียเงินไป 893 บาท ค่าทำลายแบต (ตอนนี้เหลือประกันแบตอีก 4 ปี )
2. แบตลูกเล็ก ราคา 6,800 แต่เพิ่งเสีย หลังจากใช้งานมาประมาณ 6 ปี
3. ลูกหมากกันโครง แท้ศุนย์ 2 ข้างราคา 4,500 ครับ

นอกนั้นยังไม่เปลี่ยนเลย ทั้ง ผ้าเบรก จาน อื่นๆ ยังเหลืออีกเพียบ ใช้งานได้อีกนานๆครับ
พวก inverter นี่ประกัน 15 ปีนะครับ

ขับดี ช่วงล่างดีกว่าที่คนไม่เคยขับคิดเยอะมาก นี่คือสาเหตุว่าทำไมชอบเจอ prius มุดๆบนทางด่วนบ่อยๆ
และประหยัดครับ ขับจาก กทม ไป เชียงใหม่ เหลือประมาณ 3 ขีด จาก 10 ขีด ครับ
ในกทม ผมวิ่งได้เต็มถังประมาณ 830 โล ครับ

สรุป เท่ากับรถยังเหลือประกัน ระบบ hybrid อีกนานมาก และแบตเหลืออีกเกือบ 5  ปี น่าใช้นะครับ
เติมเต็มถังเท่ากับพวก วีออส เพราะถังมันใหญ่แค่ 45  ลิตร เต็มถังวิ่งได้ประมาณ 700 - 900 โล แล้วแต่ตีนคนขับ



siamskunk

ออก ตจว เดือนละ 2-3 ครั้ง น่าห่วงทั้งสองคันแต่ prius จะได้รถที่อายุยังไม่มากน่าจะมีภาษีดีกว่าพอสมควร
งบนี้ลองมอง Teana ดูครับได้รถปีใหม่ๆ เลย ราคาลงเยอะ ค่าดูแลไม่มากอย่างที่คิด ขับทางไกลดีเลยครับ



Vipvipvip

ถ้ามีงบ5-6แสน
+งบซ่อมปีละ1แสน++ สำหรับอู่นอก
หาE60 ปีใหม่ๆ ไมล์น้อยๆครับ จะได้ไม่ค้างคาใจ



ttcl

ใช้พรีอุสปี12 อยู่ครับ ในเมืองส่วนใหญ่ขับอยู่แถวนราธิวาส สาทร วิทยุ พระราม1
อัตรากินน้ำมัน ค่าอะไหล่บางอย่าง ลองดูที่ผมตอบใน link นี้ครับ
(ถ้าพรีอุสเดิมๆต้องประหยัดน้ำมันกว่ารถผมอีก เพราะรถผมเปลี่ยนล้อและยางหน้ากว้างขึ้น เป็น 215/50/17 จากเดิมๆ 195/65/15)
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=70786.0

เรื่องซ่อมในอนาคตนี่ตอบยากเหมือนกัน ตอนนี้รถผมยังไม่เสียอะไรในอะไหล่ที่ list ไว้ ยกเว้นแบตไฮบริดที่อยู่ในประกัน แต่ถ้าเกิดมันเสียขึ้นมา ค่าซ่อมปีนั้นก็อาจสูงกว่าปกติ

e60 ไม่เคยใช้เลยครับ , เคยใช้ e39 และยังใช้ e38 อยู่แต่วิ่งน้อยลงเพราะหันมาใช้พรีอุสเป็นส่วนใหญ่ ไม่รู้ค่าซ่อมพอๆกันรึเปล่า
ช่วงที่ใช้ e39 กับ e38 บ่อยๆ เข้าอู่นอกตลอด (อยู่ถนนนราธิวาสแต่ไปเข้าอู่นอกที่คุ้นเคยแถวศรีนครินทร์) รถเก่าค่าซ่อมต่อปีมันไม่ค่อยแน่นอนเหมือนรถใหม่ , บางปีเสียอะไรเล็กน้อย ไม่แพง รวมค่าบำรุงรักษาเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ปีนั้นอาจจะหมื่นกว่าบาท , บางปีไปเสียตัวแพงๆหลายตัว ค่าซ่อมปีนั้นอาจร่วมแสนได้(อู่นอก)
แต่ถ้าให้เอาค่าซ่อมรวมกันแล้วเอาปีหารเฉลี่ย ค่าซ่อมรถผมตอนนั้นปีละประมาณ 4 หมื่นบาทต่อคันต่อปี แต่นั่นคือเกินห้าปีที่แล้ว ตอนนี้รถเก่าลงถ้าใช้บ่อยๆน่าจะมีค่าซ่อมต่อปีที่แพงกว่าเดิมครับ



PKS8


  - จากที่บ้านมี รุ่น e 60 อยู่นะครับ

  - ค่าดูแล รักษา กรณีเข้าศูนย์ เปลี่ยนของแท้ เช็คตามระยะ รถที่บ้าน ตอนนี้ 200000 กม รถปี 2008
 
  - ตก ปีละ 150000 บาท ครับ

  ถ้ารับค่า ใช้จ่ายไหว แนะนำ BMW ขับดี กว่าเยอะครับ

ตามนี้ครับ ของผมทั้ง 525ise กับ 520d LCI ตกปีล่ะแสนกว่าๆครับ

แล้วถ้าเป็นอู่นอกราคาจะประมาณเท่าไหร่ครับ แถวบ้านผมอยู่พระรามสามเห็นว่ามีอู่ดีๆอยู่ที่นึง

นี่อู่นอกแล้วครับ ถ้าศูนย์คูณสองครับ



ange1us

ขอบคุณทุกความเห็นครับ ตอนนี้คะแนน e60 นำลิ่วเลย แต่ถ้าค่าซ่อมบำรุงปีละแสนห้า ถือว่าหนักเอาการอยู่ครับ คิดหนักๆ



flat6

เทียบแบบนี้ 555 e60 สิครับ
เบื่อเด็กน้อยพึ่งมีรถ



peterpeterpeter


  - จากที่บ้านมี รุ่น e 60 อยู่นะครับ

  - ค่าดูแล รักษา กรณีเข้าศูนย์ เปลี่ยนของแท้ เช็คตามระยะ รถที่บ้าน ตอนนี้ 200000 กม รถปี 2008
 
  - ตก ปีละ 150000 บาท ครับ

  ถ้ารับค่า ใช้จ่ายไหว แนะนำ BMW ขับดี กว่าเยอะครับ

ตามนี้ครับ ของผมทั้ง 525ise กับ 520d LCI ตกปีล่ะแสนกว่าๆครับ

แล้วถ้าเป็นอู่นอกราคาจะประมาณเท่าไหร่ครับ แถวบ้านผมอยู่พระรามสามเห็นว่ามีอู่ดีๆอยู่ที่นึง




   - อู่นอก เคยเข้าครั้งเดียวครับ 
 
   - เทียบราคาอะไหล่แล้ว  กรณีใช้อะไหล่แท้ ราคาไม่ต่างกับ ศูนย์เลย เพราะอะไหล่ของแท้ตรา BMW ต้องเบิกศูนย์ เลยราคาเท่าศูนย์ครับ

 แต่ ที่จะถูกกว่าคือ   ราคาอู่ จะคิดค่าแรง แบบเหมา ประมาณ ไม่เกิน 3000 บาทในกรณี เปลี่ยน 2-3 ชิ้น

 ( ถูก แต่ การรับประกัน ไม่ค่อยประทับใจ )

    - ราคาค่าแรง ศูนย์จะคิด เป็น ชิ้นๆ เลย  แต่สามารถ สอบถามศูนย์ ก่อน เพื่อชั่งใจ ราคาอาจไม่ต่างกันมาก

  ( แต่สิ่งที่จะต่างคือ การรับประกันอะไหล่แท้ รับประกันอะไหล่ 2 ปี ไม่จำกัดระยะทางครับ  แล้วเวลาจะเคลมกรณีอะไหล่เสีย เคลมง่ายจริงๆ )

   



peterpeterpeter


  - จากที่บ้านมี รุ่น e 60 อยู่นะครับ

  - ค่าดูแล รักษา กรณีเข้าศูนย์ เปลี่ยนของแท้ เช็คตามระยะ รถที่บ้าน ตอนนี้ 200000 กม รถปี 2008
 
  - ตก ปีละ 150000 บาท ครับ

  ถ้ารับค่า ใช้จ่ายไหว แนะนำ BMW ขับดี กว่าเยอะครับ

ตามนี้ครับ ของผมทั้ง 525ise กับ 520d LCI ตกปีล่ะแสนกว่าๆครับ

แล้วถ้าเป็นอู่นอกราคาจะประมาณเท่าไหร่ครับ แถวบ้านผมอยู่พระรามสามเห็นว่ามีอู่ดีๆอยู่ที่นึง




   - อู่นอก เคยเข้าครั้งเดียวครับ 
 
   - เทียบราคาอะไหล่แล้ว  กรณีใช้อะไหล่แท้ ราคาไม่ต่างกับ ศูนย์เลย เพราะอะไหล่ของแท้ตรา BMW ต้องเบิกศูนย์ เลยราคาเท่าศูนย์ครับ

 แต่ ที่จะถูกกว่าคือ   ราคาอู่ จะคิดค่าแรง แบบเหมา ประมาณ ไม่เกิน 3000 บาทในกรณี เปลี่ยน 2-3 ชิ้น

 ( ถูก แต่ การรับประกัน ไม่ค่อยประทับใจ )

    - ราคาค่าแรง ศูนย์จะคิด เป็น ชิ้นๆ เลย  แต่สามารถ สอบถามศูนย์ ก่อน เพื่อชั่งใจ ราคาอาจไม่ต่างกันมาก

  ( แต่สิ่งที่จะต่างคือ การรับประกันอะไหล่แท้ รับประกันอะไหล่ 2 ปี ไม่จำกัดระยะทางครับ  แล้วเวลาจะเคลมกรณีอะไหล่เสีย เคลมง่ายจริงๆ )

   


   - จริงๆ รถถ้าซ่อมเปลี่ยนตามระยะ ตลอด ผมมั่นใจ ว่า ขับรถออก ตจว บ่อย ไม่ต้องกังวล ว่าจะเสียกลางทางนะครับ โอกาสเกิดน้อยมาก

ถ้าดูแลซ่่อมตามระยะจริงๆ

   - แต่ ถ้าอยากอุ่นใจ ผมแนะนำให้สมัคร บริการ ช่วยเหลือฉุกเฉินครับ เสียค่าสมัคร แค่ ปีละ 2000 บาทเอง

     ลองดู อันนี้ รถใหม่BMW  จะแถมตัวนี้ มาให้ ตอน 5 ปี แรก ครับ  แต่ เราสามารถสมัครเองได้ครับ ในกรณีที่รถเกิน 5 ปีแล้ว .
   http://auto.mondial-assistance.co.th/






rotaryman

ิBMW แบบไม่ต้องคิดมากเลยครับ



mongolias

2 ตัวนี้ ถ้างบซ่อม + เวลา ไม่ใช่ประเด็น ไป E60 ครับ

อันที่จริง ผมว่าคุณต้องลองชั่งน้ำหนักดูว่า มีแพลนจะมีลูกเร็วๆนี้หรือเปล่าครับ ถ้าคิดจะมีลูกในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ทั้งสองตัวอาจจะเป็นตัวเลือกที่ไม่เหมาะนักครับ



Ruksadindan

แล้วคันไหนประหยัดน้ำมันกว่ากันครับ

[...] แต่ก็ขับออก ตจว บ่อยๆ ไประยอง ชลบุรี เดือนละ 2-3 ครั้ง

ถ้าจะเอา Prius จริงๆ ตั้งงบหกแสน แล้วอาจได้ถึงสองคันครับ ดังนั้นถ้างบหกแสนจริงๆก็หา 520d ได้เลย

คันไหนประหยัดกว่า เอาเป็นว่าเมื่อหลายปีก่อน Yahoo.com เคยเทียบกัน 520d ประหยัดกว่านะ (hwy)