ผู้เขียน หัวข้อ: เครื่องใหญ่แบบV8 รอบเดินเบาจาก 8 สูบ ตัดการทำงานมาเหลือเพียง 4สูบ  (อ่าน 14790 ครั้ง)

ออฟไลน์ pairoj

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 38
    • อีเมล์
       เครื่องใหญ่แบบV8 รอบเดินเบาจาก 8 สูบ ตัดการทำงานมาเหลือเพียง 4สูบ เทคโนโลยี่นี้ใช้กันเป็นส่วนใหญ่ในเครื่องใหญ่ๆ แบบ v8 หรือเป็นส่วนน้อยครับ และสามารถลดอัตราการกินน้ำมันได้มากน้อยเพียงใด? มีข้อเสียหรือเปล่า? ทำไม..ไม่นำมาใช้ในเครื่องเล็กๆแบบ 1600-2000 CC บ้าง เพื่อลดการสิ้นเปลืองน้ำมันให้ลดลงไปอีก

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,280
    • อีเมล์
ใน Honda V6 มีมานานแล้วครับ ลองหาข้อมูลดูได้ครับ

และเห็นในกลุ่มรถบรรทุก ที่เป็นเครื่อง V จะมีแรงบิดเยอะกว่า Inline ซึ่งตัดกำหลังจากบางสูบ ในชั่วระยะเวลาหนึ่งที่ต้องการประหยัดและไม่ต้องต้องกำลังมาก

ส่วน Inline 4-6 สูบ ไม่ทำ เดาว่าเรื่องของ แรงม้า/แรงบิด เรื่องการ balance และจบที่ cost ครับ

ออฟไลน์ TeslaX

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,689
accord g8 เคยเอาตัว 3.5 v6 มาขายก็กินดุเหมือนเดิม 555 เหมือนขายเทคโนโลยีทางตลาดเพื่อสกัดคู่แข่ง

ออฟไลน์ PREM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,106
accord g8 เคยเอาตัว 3.5 v6 มาขายก็กินดุเหมือนเดิม 555 เหมือนขายเทคโนโลยีทางตลาดเพื่อสกัดคู่แข่ง

ใช้ Accord 3.5 อยู่ ถ้าขับเข้ากับเงื่อนไขการทำงานก็ถือว่าประหยัดอยู่ครับ เช่นขับทางไกลความเร็วนิ่งๆ วิ่ง 120-130 ได้ 11.5 km/l ถ้าขับ 90-100 ได้เกือบ 13 นะครับ

เคยมีช่วงหนึ่งโซลินอยด์เสีย ระบบ VCM ไม่ทำงาน ขับเงื่อนไขเดียวกันได้แค่ 10.4 ครับ
2014 Mazda CX-5 2.5 S
2016 Volvo XC60 D4 
2019 Honda Jazz RS+
2020 Volvo V60 T8 Inscription
2022 Mazda CX-30 SP

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,606
HLM เคยอธิบายไว้นานแล้ว ตอน​ LS อะไรนี่แหละ
น่าจะมีเฉพาะค่ายโตโยต้านะครับ​ แต่การตัดมันค่อนข้างน้อย​ และเงื่อนไขเยอะอยู่

ออฟไลน์ TeslaX

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,689
accord g8 เคยเอาตัว 3.5 v6 มาขายก็กินดุเหมือนเดิม 555 เหมือนขายเทคโนโลยีทางตลาดเพื่อสกัดคู่แข่ง

ใช้ Accord 3.5 อยู่ ถ้าขับเข้ากับเงื่อนไขการทำงานก็ถือว่าประหยัดอยู่ครับ เช่นขับทางไกลความเร็วนิ่งๆ วิ่ง 120-130 ได้ 11.5 km/l ถ้าขับ 90-100 ได้เกือบ 13 นะครับ

เคยมีช่วงหนึ่งโซลินอยด์เสีย ระบบ VCM ไม่ทำงาน ขับเงื่อนไขเดียวกันได้แค่ 10.4 ครับ

พี่จิมมีทดสอบเทียบกับ camry 3.5 ก็กินราวๆนี้

ออฟไลน์ joextreme

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 318
    • อีเมล์
รถผมมัสแตง V8 ไม่เห็นจะมี 5555
เคยลองเช่าขับ chev suburban เวลาขึ้นฟรีเวย์ความเร็วนิ่งๆมันก็ลดการทำงานสูบลงไม่แน่ใจว่าเหลือสี่สูบหรือเปล่า เท่าที่เคยอ่านมันลดสูบการทำงานเมื่ออัตราเร่งต่ำหรือไม่มีอัตราเร่ง แค่สี่สูบมันก็เกือบๆ 2700 cc แล้ว วิ่งได้นิ่งอยู่ หลักการคือแค่มีกำลังพอที่จะรักษาโมเมนตัมให้รถเคลื่อนที่ไปด้วยความเร็วคงที่ พอคิ๊กดาวน์มันก็ทำงานเต็มสูบ จำ consumption rate เป๊ะๆไม่ได้ แต่ก็ประหยัดอยู่ครับสำหรับรถ size บิ๊กเบิ้ม วิ่งบนฟรีเวย์ 5-600 ไมล์ ไม่ได้ซดน้ำมันดุเดือดอะไร
ประเด็นคือ มันไม่น่าเอามาใช้กับรถเล็กขนาดซีซีน้อยๆหรือกลางๆได้เพราะกำลังขับเวลาลดการทำงานของจำนวนสูบมันไม่พอที่จะรักษาโมเมนตัม (ทั้งกำลัง+แรงบิด) ยิ่งถ้าวิ่งในเมืองแล้วยิ่งไปกันใหญ่ เครื่องพอเดินสูบน้อยต้องการกำลังในการรักษาแรงเฉื่อยจำนวนนึงพอซีซีน้อยก็ต้องเร่งเครื่องกลายเป็นกินน้ำมันแถมอัตราสึกหรอมากกว่าปกติอีก ก็เหมือนรถเครื่องเล็กแต่แบกน้ำหนักเยอะๆทำนองนั้น อายุการใช้งานของเครื่องก็จะลดลง อย่าลืมอีกเรื่องคือชุดเกียร์ loss ในระบบเกียร์มันเท่าเดิมนะไม่ว่าจะเดินสูบน้อยหรือเยอะ

ออฟไลน์ IS2000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,107
    • อีเมล์
ในต่างประเทศมีกฎบังคับผู้ผลิตรถต้องทำเป้าเรื่องอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยของรถที่ขายรวมๆกันครับ พวกเครื่องใหญ่บางตัวจึงต้องเพิ่งเทคโนโลยี cylinder deactivation ส่วนพวกเครื่องเล็กไม่ได้จำเป็นครับเพราะอัตราสิ้นเปลืองต่ำแต่จะสังเกตได้ว่ารถมีระบบ start-stop มากันทั้งนั้น
เดี๋ยวนี้พอมีเทรน downsizing, hybrid, ev เลยทำให้ค่ายต่างๆต้องทำรถพวกนี้เยอะขึ้นด้วย
1 3 5
├┼┼╕
2 4 6 R

ออฟไลน์ cherubian

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 142
ในไทย เทคโนโลยีมีในรถ Audi R8 V10 กับ Audi Q2 เครื่อง 1.4 เทอร์โบครับ
เรียกว่า Cylinder On Demand ตัดการทำงานกระบอกสูบเหลือครึ่งหนึ่ง
ใน Q2 เวลาทำงานจะเห็นในเมืองเป็นหลัก จังหวะรถติด คลานๆ จะโชว์ที่หน้าจอเลยครับ