ผู้เขียน หัวข้อ: ขอทราบเหตุผล คนที่ยังคิดซื้อรถน้ำมันที่ออกใหม่ในปีหน้า หน่อยครับ  (อ่าน 8473 ครั้ง)

ออฟไลน์ Deaw

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,061
    • อีเมล์
ev 400 km/charge วิ่งจริง 300 km
น้ำมัน วิ่ง 500-800 km/ถัง
ev ชาร์จจนเหนื่อย น้ำมันเติมแปปเดียว
ev ถึงจะประหยัดแต่ราคารถแพง
ถ้ามันยังไม่ดีจริง การเปลี่ยนไปใช้ก็คิดหนักครับ

ออฟไลน์ Dubee

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,503
1. สถานีชาร์จ มี่กี่ที่เชียวครับ รถ EV ออกมาเรื่อยๆ ประเดี๋ยวคนก็จะรอคิวชาร์จกัน
2. ขับทางไกล เสียเวลาชาร์จแต่ละจุดเป็นชั่วโมง ผมไม่เอาด้วยหรอกครับเสียเวลาทำมาหากินอื่น
3. เครื่องชาร์จสำหรับติดที่บ้าน ราคาแพงอยู่ 5-6 หมื่น รอราคาสักหมื่น/เครื่องค่อยมาพินากัน (นี่ยังไม่รวมค่าเปลี่ยนมิตเตอร์ ขออนุญาตนั้นนี่จากการไฟฟ้านะ)
4. ณ วินาทีนี้ ถ้าผมจะซื้อรถที่มีไฟฟ้าพ่วงมาด้วย ต้องเป็นรถไฮบริทเท่านั้นครับ จนกว่าเทคโนโลยีเครื่องชาร์จจะถูกลงหรือสถานีชาร์จมากขึ้นกว่าตอนนี้ครับ

ออฟไลน์ frame@kk

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,068
    • อีเมล์
ถ้า ev เข้าเติมไฟโดยใช้เวลาไม่เกิน 5 นาทีได้ 80% ซะก่อนค่อยมาแทนรถน้ำมันสำหรับการใช้งานของผมครับ

รถ ev เอามาวิ่งทำงาน วิ่งงานไม่ได้จริงๆครับ
ส่วนควบอื่นๆบ้านเรายังไม่รองรับขนาดนั้น

ถ้าจะบอกมฝว่าให้เอามาแทนรถขับในเมืองสิ
ผมสาทารถจ่ายเงิน 6 แสนได้รถ eco car และมีส่วนต่าง 2-3 แสนบาท ไว้เติมน้ำมันและซ่อมรถในอีก 10 ปีได้สบาย โดยที่ไม่ต้องห่วงจุดชาร์ทได้เลยครับสำหรับรถมาเมือง

horizen

  • บุคคลทั่วไป
ซื้อรถน้ำมันมาแล้วเริ่มใช้ได้เลย ใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ต้องกังวลเรื่องชาร์จไฟ

ออฟไลน์ harvard

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 104
spec บอก 400 km ใช้งานจริงได้ 280 km

ออฟไลน์ jinnchuuriki

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 60
    • อีเมล์
EV ที่ผมจะซื้อ ต้องเข้าเงื่อนไขแบบนี้ครับ
1. ขับรถด้วยความเร็ว 120 km/hr ได้ 400 km+ ขึ้นไปต่อ/1ชาร์จ
2. ต้องเป็นรถ 7 ที่นั่ง
3. ขอราคาไม่เกิน 2 ล้าน
4. รองรับชาร์จเร็วสัก 150 kw/hr ก็พอ

ถ้าผ่าน 4 ข้อนี้ ซื้อแน่นอน

ออฟไลน์ eaklego

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 173
ไม่ได้ต่อต้านอะไรใหม่ๆนะ ส่วนตัวให้5-10ปีเป็นอย่างน้อย เทคโนโลยีรถไฟฟ้าเหมือนมันพึ่งมาได้ไม่ไกลมันน่าจะไปได้อีกเยอะ
-ซื้อมาต้องมาเปลี่ยนมิเตอร์ ระบบไฟ ติดตั้งที่ชาร์จในบ้านอีก
-จำนวนรุ่นรถมีให้เลือกน้อย ราคารถก็ไม่ตอบโจทย์มนุษย์กินเงินเดือนธรรมดาๆอย่างเรา ประหยัดค่าน้ำมันแต่เปลืองค่าตัวรถตั้งแต่ตอนซื้ออยู่ดี เลยยังมองว่าเป็นของเล่นคนรวยอยู่
-ขับไปกลับที่ทำงานมันก็ได้อยู่ แต่อยู่ดีๆเคยมีเหตุการณ์ญาติเสียต้องลงใต้ด่วนเอาละ ถ้าต้องมานั่งคิดคำนวณระยะทางเวลาชาร์จต่างๆไม่สะดวกอ่ะ
-ถ้าใช้แล้วรู้สึกมันทำให้ชีวิตยากกว่าเดิมก็ยังไม่เปลี่ยน
-อันนี้ส่วนตัว รำคาญioรถไฟฟ้าตามคอมเม้นช่องรถต่างๆในYoutubeอ่ะ มาพิมพ์ซ้ำๆกันคล้ายๆกันหลายๆช่องเรารู้นะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 18, 2021, 17:50:41 โดย eaklego »

ออฟไลน์ FyGI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,256
เหตุผลของผมคือ

ณ เวลานี้ผมโลกไม่สวยพอที่จะหันมาใช้ EV
เนื่องจากไม่สะดวกในการต้องวางแผนเดินทางอย่างรัดกุม

เพราะผมเป็นคนชอบขับออกนอกเส้นทาง
เจอป้ายสถานที่ท่องเที่ยว ถ้าน่าสนใจเลี้ยวเลย

ออฟไลน์ waterside

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 28
เหตุผลของผม ที่ต้องใช้รถน้ำมัน หรือ HEV หรือ PHEV โดยที่ยังข้ามไปรถ BEV ไม่ได้ เพราะ

1. เพราะสังคม คอนโด อย่างผม ไม่มีที่ชา่ร์จ หรือ แท่นชาร์จ หรือ ช่องจอดชาร์จ ส่วนตัว เพราะเป็นพื้นที่ส่วนรวม จะไปหาชาร์จที่ไหนละครับ

2. คอนโด(ผม) จอดรถได้คันเดียว(ต่อ 1 ห้อง) ถ้ามีทั้งรถ ICE น้ำมัน และ BEV ซื้อได้นะ แต่ก็ไม่มีที่จอดอีก จะสลับคันใช้ก็ไม่ได้

3. การขับขี่ระยะทาง 500-600 km ออกต่างจังหวัด รถ EV ไม่ตอบโจทย์ เพราะ วิ่งไม่ถึงต่อ 1 การชาร์จ จะไปจอดชาร์จ 5-8 ชั่วโมง ต่อการเดินทาง 1 เที่ยว (ไป-กลับ เสียเวลาชาร์จ เกือบ 1 วัน มันไม่ใช่)

สุดท้าย ระยะวิ่งที่เขาเครมกัน คือ ระยะวิ่งสูงสุดครับ แต่การขับขี่ของแต่ละคน มันอาจจะทำให้ระยะสั่นลงกว่านั้นได้ ถ้าวิ่งด้วยความเร็วสูงยาวๆ นะ
ถ้าจะซื้อรถคันใหม่อยากได้ BEV นะครับ  แต่คงไม่ได้ใช้เพราะเหตุผลประมาณนี้ครับ

ออฟไลน์ REX

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 804
บอกว่ารถไฟฟ้าประหยัดกว่า
แต่อย่างนึงที่จะเกิดขึ้นคือ ความวุ่นวายในชีวิตครับ
ต้องเสียเวลามาชาร์ต เสียเวลาระหว่างเดินทางไกลๆ
ในฐานะที่ ชีวิตแทบไม่มีเวลาว่างเลย มีแต่งานตลอด เวลาคือสิ่งมีค่ามากๆ
ผมจะซื้อ รถไฟฟ้ามาทำไมตอนนี้ ทั้งที่ยังมี ไฮบริท และรถน้ำมัน ที่ตอบโจทย์ได้มาากว่าอยู่

ออฟไลน์ Firzen

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 685
รถน้ำมันมี 4X4 และเกียร์ 4L ครับ  8)

ออฟไลน์ Iam

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 23
แค่จอดรอคันหน้าเติมน้ำมันเสร็จในปั๊มแค่ 5 นาทียังหัวอุ่นๆเลย รอชาร์จซักครึ่ง ชม. ไม่อยากจะคิด

ออฟไลน์ Myprecious

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 185
ดูเหมือนหลายท่านในนี้ จะยังมีความรู้สึก ไม่มั่นใจกับคุณภาพของ ev กันอยู่เลยนะครับ   แต่ผมว่า ยังไงปีหน้า คนออก ev เยอะแน่นอน  เพราะพวกป้้ม ดังๆ เตรียมลง หัวชาร์จกันหมดแล้ว  คนที่ผมคุยด้วยส่วนใหญ่ เขาบอกว่า จะซื้อเพราะ ค่าน้ำมันต่อเดือน แทบจะผ่อน ev ได้เลย  ประกอบกับการบำรุงรักษา ตลอดประกัน ที่แทบไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มเติมนอกจากเปลี่ยนยางรถ
มีพี่คนนึงที่ผมคุยด้วย ใช้ฟอร์ด เอเวอร์เรส  ใช้งานมาแล้ว 2 แสนโล ค่าน้ำมันตก 2.5 บาทต่อกิโล คำนวนมาแล้ว ใช้รถไป 4 ปี เฉพาะค่าน้ำมัน 5 แสนบาท  ตอนนี้กำลังมองหารถใหม่ ที่เป็น ev

เท่าที่ผมติดตามข่าว ev ปีหน้า ราคาย่อมเยาว์ ไม่เกินล้าน น่าจะมีเข้ามาให้เลือกเพียบ  7 ที่นั่งราคาล้านต้นๆ ก็เริ่มเข้ามาแล้ว

รถevก็เสียค่าไฟเหมือนกันนะครับ ยังไงก็มีค่าใช้จ่ายบ้าง แล้วเวลาวิ่งไปชาร์จต่างจังหวัดถ้าจุดชาร์จมันเต็มก็รอกันยาวเลยนะครับ  แล้วถ้าไปต่างจังหวัดไม่ใช่ว่าไปเสียบชาร์จบ้านญาติหรือเพื่อนได้ ถ้าไม่มีwallchargeรองรับดีๆนี่อันตราย กับถ้าไฟบ้านทั่วไป15ampนี่เสียบชาร์จแล้วกระชากมาก คนที่เหลือในบ้านแทบไม่ต้องเปิดแอร์เลยทีเดียว

ออฟไลน์ Slow But Sure

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 648
สำหรับผมถ้าจะซื้อ EV ตอนนี้ต้องเป็นรถที่มีความแรงในตัว ใช้ในกรุงเทพขับไปกลับที่ทำงานเช้าเย็น ชาจที่บ้านตอนกลางคืน เท่านั้้นเลยครับ
ถ้าจะเป็นรถซิ่ง ความแรงได้แต่งอารมณ์ในการขับขี่อาจไม่ได้
ใช้ออกต่างจังหวัดรถน้ำมันยังงไงก็กินขาด
แล้วถ้าเป็นรถคันเดียว EVนี่ต้องขอผ่านเลย

ออฟไลน์ delete

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,760
    • อีเมล์
1. สถานีชาร์จ มี่กี่ที่เชียวครับ รถ EV ออกมาเรื่อยๆ ประเดี๋ยวคนก็จะรอคิวชาร์จกัน
2. ขับทางไกล เสียเวลาชาร์จแต่ละจุดเป็นชั่วโมง ผมไม่เอาด้วยหรอกครับเสียเวลาทำมาหากินอื่น
3. เครื่องชาร์จสำหรับติดที่บ้าน ราคาแพงอยู่ 5-6 หมื่น รอราคาสักหมื่น/เครื่องค่อยมาพินากัน (นี่ยังไม่รวมค่าเปลี่ยนมิตเตอร์ ขออนุญาตนั้นนี่จากการไฟฟ้านะ)
4. ณ วินาทีนี้ ถ้าผมจะซื้อรถที่มีไฟฟ้าพ่วงมาด้วย ต้องเป็นรถไฮบริทเท่านั้นครับ จนกว่าเทคโนโลยีเครื่องชาร์จจะถูกลงหรือสถานีชาร์จมากขึ้นกว่าตอนนี้ครับ
1. เอาปัจจุบัน คนที่ทำงานในเรื่องสถานีชาร์จที่เค้ามอนิเตอร์ดูทุกวัน ว่าการชาร์จรถในแต่ละวันเป็นยังไงบ้าง เค้าบอกว่ายังรองรับได้อีกหลายหมื่นคัน เมื่อเทียบกับปริมาณสถานีชาร์จในปัจจุบัน
2.ขับทางไกล กทม.เชียงใหม่ ใช้เวลาไม่ต่างจากรถน้ำมันแล้ว9-10ชม. ลองหาดูได้ในกลุ่มเฟสรถไฟฟ้าทั้งหลาย
3.ปัจจุบันซท้อรถไฟ้าเค้าแถมเครื่องชาร์จให้อยู่แล้ว
ค่าเปลี่ยนมิเตอร์การไฟฟ้า จ่ายแค่ 700 (เปลี่ยนเป็น30/100 หรือได้ 15/45อีกหม้อเพิ่ม)
ค่าสายไฟ เสียแค่เดินสายเพิ่มจากมิเตอร์(ที่เปลี่ยน) มายังจุดตั้งที่ชาร์จ ในกลุ่มคนใช้รถไฟฟ้าจ่ายกันหมื่นนิดๆ ไม่ได้แพงแล้ว

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,214
    • อีเมล์
1. สถานีชาร์จ มี่กี่ที่เชียวครับ รถ EV ออกมาเรื่อยๆ ประเดี๋ยวคนก็จะรอคิวชาร์จกัน
2. ขับทางไกล เสียเวลาชาร์จแต่ละจุดเป็นชั่วโมง ผมไม่เอาด้วยหรอกครับเสียเวลาทำมาหากินอื่น
3. เครื่องชาร์จสำหรับติดที่บ้าน ราคาแพงอยู่ 5-6 หมื่น รอราคาสักหมื่น/เครื่องค่อยมาพินากัน (นี่ยังไม่รวมค่าเปลี่ยนมิตเตอร์ ขออนุญาตนั้นนี่จากการไฟฟ้านะ)
4. ณ วินาทีนี้ ถ้าผมจะซื้อรถที่มีไฟฟ้าพ่วงมาด้วย ต้องเป็นรถไฮบริทเท่านั้นครับ จนกว่าเทคโนโลยีเครื่องชาร์จจะถูกลงหรือสถานีชาร์จมากขึ้นกว่าตอนนี้ครับ
1. เอาปัจจุบัน คนที่ทำงานในเรื่องสถานีชาร์จที่เค้ามอนิเตอร์ดูทุกวัน ว่าการชาร์จรถในแต่ละวันเป็นยังไงบ้าง เค้าบอกว่ายังรองรับได้อีกหลายหมื่นคัน เมื่อเทียบกับปริมาณสถานีชาร์จในปัจจุบัน
2.ขับทางไกล กทม.เชียงใหม่ ใช้เวลาไม่ต่างจากรถน้ำมันแล้ว9-10ชม. ลองหาดูได้ในกลุ่มเฟสรถไฟฟ้าทั้งหลาย
3.ปัจจุบันซท้อรถไฟ้าเค้าแถมเครื่องชาร์จให้อยู่แล้ว
ค่าเปลี่ยนมิเตอร์การไฟฟ้า จ่ายแค่ 700 (เปลี่ยนเป็น30/100 หรือได้ 15/45อีกหม้อเพิ่ม)
ค่าสายไฟ เสียแค่เดินสายเพิ่มจากมิเตอร์(ที่เปลี่ยน) มายังจุดตั้งที่ชาร์จ ในกลุ่มคนใช้รถไฟฟ้าจ่ายกันหมื่นนิดๆ ไม่ได้แพงแล้ว

ไอ้รถที่วิ่งได้ 9-10 ชม ไม่ชาร์ท ที่ระยะทาง 600 โล นี่มีคันไหนบ้างครับ แนะนำทีครับ

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 23,021
ยังมั่นใจรถน้ำมันมากกว่าครับ ระบบเดียว ไม่ซับซ้อนเหมือน ไฮบริด และอยู่คอนโดด้วย ไม่มีที่เสียบปลั๊กครับ

ออฟไลน์ delete

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,760
    • อีเมล์
1. สถานีชาร์จ มี่กี่ที่เชียวครับ รถ EV ออกมาเรื่อยๆ ประเดี๋ยวคนก็จะรอคิวชาร์จกัน
2. ขับทางไกล เสียเวลาชาร์จแต่ละจุดเป็นชั่วโมง ผมไม่เอาด้วยหรอกครับเสียเวลาทำมาหากินอื่น
3. เครื่องชาร์จสำหรับติดที่บ้าน ราคาแพงอยู่ 5-6 หมื่น รอราคาสักหมื่น/เครื่องค่อยมาพินากัน (นี่ยังไม่รวมค่าเปลี่ยนมิตเตอร์ ขออนุญาตนั้นนี่จากการไฟฟ้านะ)
4. ณ วินาทีนี้ ถ้าผมจะซื้อรถที่มีไฟฟ้าพ่วงมาด้วย ต้องเป็นรถไฮบริทเท่านั้นครับ จนกว่าเทคโนโลยีเครื่องชาร์จจะถูกลงหรือสถานีชาร์จมากขึ้นกว่าตอนนี้ครับ
1. เอาปัจจุบัน คนที่ทำงานในเรื่องสถานีชาร์จที่เค้ามอนิเตอร์ดูทุกวัน ว่าการชาร์จรถในแต่ละวันเป็นยังไงบ้าง เค้าบอกว่ายังรองรับได้อีกหลายหมื่นคัน เมื่อเทียบกับปริมาณสถานีชาร์จในปัจจุบัน
2.ขับทางไกล กทม.เชียงใหม่ ใช้เวลาไม่ต่างจากรถน้ำมันแล้ว9-10ชม. ลองหาดูได้ในกลุ่มเฟสรถไฟฟ้าทั้งหลาย
3.ปัจจุบันซท้อรถไฟ้าเค้าแถมเครื่องชาร์จให้อยู่แล้ว
ค่าเปลี่ยนมิเตอร์การไฟฟ้า จ่ายแค่ 700 (เปลี่ยนเป็น30/100 หรือได้ 15/45อีกหม้อเพิ่ม)
ค่าสายไฟ เสียแค่เดินสายเพิ่มจากมิเตอร์(ที่เปลี่ยน) มายังจุดตั้งที่ชาร์จ ในกลุ่มคนใช้รถไฟฟ้าจ่ายกันหมื่นนิดๆ ไม่ได้แพงแล้ว

ไอ้รถที่วิ่งได้ 9-10 ชม ไม่ชาร์ท ที่ระยะทาง 600 โล นี่มีคันไหนบ้างครับ แนะนำทีครับ

ในไทย น่าจะยังไม่มีมั้งคนับ ใกล้เคียงสุดน่าจะ เทสล่า หรือ ix3 หรือไทคาน วิ่ง120 ยาวๆได้ราว 300กิโล ถ้าวิ่งต่ำกว่า120 น่าจะได้มากกว่านั้นอีก

แต่ ตปท. มี gac aion lx plus แบต 144kw เคลมnecd 1008กม. วิ่งจริง(สื่อเทสขับรถกลับบ้านช่วงเทศกาล) ความเร็วเดินทางวิ่งได้ 700 กม.(ความเร็วเฉลี่ย 90กว่า)

ออฟไลน์ Teera

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,350
    • อีเมล์
ถ้าจะซื้อ รถไฟฟ้า มันก็จะเป็นรถคันที่ 2-3 เท่านั้นครับ
ในสถานะทางการเงินเท่านี้นะ

ถ้ารวยมากๆ ความคิด ก็อาจจะเปลี่ยน
จะซื้อ Taycan ซัก 3 คัน และ เทสล่า อีก 3 คัน
จะไปซื้อบ้านที่ นคสวรรค์ เชียงใหม่ ขอนแก่น
ประจวก นคร ภูเก็ด
และ สร้าง ที่ชาท์ ไว้ที่บ้าน !!!!!!!!!

คงพอรู้คำตอบนะครับ ว่า ซื้อป่าว !!!!!!!!!!!!