ข่าวเสริม
https://youtube.com/shorts/B50BRTaMrHY?feature=share เซทซุเซกิ หรือศิลาสังหาร ที่ผนึกฮากุเม็งหรือจิ้งจอกเก้าหางแตก ที่เทือกเขานาสุ
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2565
มีภาพถ่ายจากนักท่องเที่ยว แจ้งว่าหินสังหารแตกแล้ว สร้างความตกตะลึงและเล่าลือไปต่างๆนานาของชาวญี่ปุ่น
หินก้อนนี้มีที่มาจาก โอโทจิโซชิ หรือบันทึกรวมเรื่องเล่านับร้อย สมัยมุโรมาจิ หรือยุคโชกุนอาชิคางะกับอิกคิวซัง เล่าว่า
ในสมัยเฮอัน เมื่อห้าร้อยปีก่อน ฮากุเม็ง คินโมะ คิวบิโนะ คิทสึเนะ หรือจิ้งจอกเก้าหางได้มาเยือนญี่ปุ่นหลังจากไปถล่มจีน อินเดียแล้ว
โดยจำแลงเป็นสาวงามนาม โทมาโมะ โนะมาเอะ เรื่องสาวงามนี้ความทราบถึงพระกรรณ เจ้าฟ้าโทบะ จึงให้มาถวายงานรับใช้ ทรงลุ่มหลงมากจนไม่ทำการงานเสพสุขอย่างเดียว จนเจ้าฟ้าซูบเซียว
บรรดาเชื้อพระวงศ์แลขุนนาง เชื่อว่าน่าจะมีปีศาจในราชสำนัก จึงเชิญองเมียวจิหรือจอมเวทย์มาปราบ บางที่ลือว่าเป็นอาเบโนะ เซย์เมย์มาสยบเอง
เมื่อองเมียวจิสัมผัสไอปีศาจจึงร่ายเวท จนจิ้งจอกเก้าหางเผยตัวบินหนีไป
กองทัพไล่ตามไปจนถึงเทือกเขานาสุ มิอุระโนะสุเกะได้แผลงศรอาคม ต้องฮากุเม็งจนตกลงมา แล้วกลายร่างเป็นก้อนหินขนาดใหญ่ พ่นไอพิษตลอดเวลาผู้ใดเข้าใกล้แม้นกกายังสิ้นชีวา
ฮากุเม็งจึงถูกผนึกไว้ที่เขานาสุตั้งแต่นั้น ชาวบ้านให้ชื่อว่า เซทซุเซกิหรือศิลาสังหาร
ต่อมานานแค่ไหนไม่รู้ มีพระเก็นโนธุดงค์มาแช่น้ำร้อนแถวนั้น แล้วสัมผัสได้ถึงไอมรณะของหินสังหาร จึงเดินไปดู ทันใดนั้นโทมาโมะ โนะมาเอะปรากฏกายขึ้นเล่าเรื่องต่างๆให้พระฟัง
พระจึงไปทุบหินให้แตกออกเป็นสามเสี่ยง แล้วคล้องสายสิญจน์ เพื่อลดอาถรรพ์ของหินลง แล้วโทมาโมะ โนะมาเอะก็ไม่ปรากฏตัวอีกเลย
หลังจากข่าวหินก้อนนี้แตก แพร่ออกไปทางการแจ้งว่า หินมีรอยร้าวอยู่ก่อนแล้ว ปี2020ได้นำลวดเหล็กมาผูกยึดทั้งก้อนกันแตก
แต่พอฝนตกหนักน้ำเข้าไปกัดเซาะ ทำให้เนื้อหินอ่อนลงจนแตกใจที่สุด
ทางการตั้งใจจะซ่อมหินให้เหมือนเดิม เพื่อการท่องเที่ยว เพราะหลังข่าวหินแตกคนมาเที่ยวลดฮวบ กลัวจะเกิดเรื่องร้ายกับตน และกับญี่ปุ่น เชื่อว่าเป็นลางร้าย
นักประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นชี้แจงว่า
หินก้อนนี้มาจากบันทึกเมื่อไม่กี่ร้อยปีก่อน คาบเวลาห่างกับยุคเฮอันหลายร้อยปี จึงไม่น่าเชื่อถือแต่อย่างใด เป็นเพียงเรื่องเล่าข่าวลือในยุคนั้น
บริเวณหินก้อนนี้ มีไอกำมะถันอยู่โดยรอบ ซึ่งเกิดก่อนยุคเฮอัน และคนพื้นเมืองมาทำพิธีให้ภูเขานาสุสงบเป็นประจำอยู่แล้ว
ในจีนเรื่องฮากุเม็งเป็นนิยายแต่งสมัยหมิง เล่าถึงปลายยุคซาง ไม่มีอยู่จริงแต่อย่างใด
คนจ้วงหรือไทโบราณ นับถือหมาเก้าหาง เพราะนำเมล็ดข้าวจากสวรรค์มาให้ โดยเอาหางแหย่ไปในกองข้าว แล้วเหาะลงมาโลกมนุษย์ เผอิญเทพเห็นก่อนจึงไล่ตัดหางไปแปดหาง
คนจึงรู้จักการเพาะปลูก กินข้าวเป็นอาหารหลัก ด้วยพระคุณของหมาเก้าหาง
สรุปว่า โชค ลาง อาถรรพ์ เชื่อทุกชนชาติ ไม่ว่ายุคสมัยใด
ทำแล้วสบายใจ ไม่เดือดร้อนใคร ทำเผื่อไว้ก่อน เพื่อความสบายใจทุกฝ่าย
ฝรั่งที่ไปดูหิน ยังไม่เจอที่กล้าปีนข้ามรั้วไปเหยียบหิน เพราะป้ายบอกว่าใครแตะหินต้องตาย จากคำสาปฮากุเม็ง
แต่ช่างซ่อมจับได้สบาย คงมีเครื่องลางติดตัวมั้ง
https://www.posttoday.com/world/677701