ผู้เขียน หัวข้อ: ขายรถน้ำมันไปรถไฟฟ้า หรือ ใช้รถน้ำมันต่อดีครับ  (อ่าน 3800 ครั้ง)

ออฟไลน์ moorestreet

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 5
CIVIC FC 1.8 ปี 2018 ไมล์ 91,xxx กิโลเมตร
รถใช้มา 5 ปี ไมล์เกือบ 100,000 แล้ว

ขอคำปรึกษาในกลุ่มว่า
1. ถ้ามองด้วยอารมณ์ ส่วนตัวชอบดีไซน์ และภายใน Mazda 3 HB มาก และมือสอง ราคาหล่นลงมาเยอะ
หาสภาพดี รถไม่เกิน 3 ปี ไมล์ไม่เกิน 30,000 ในราคา 8xx,xxx ได้ไม่ยาก
ขายรถเดิม และเติมส่วนต่าง 3 แสน

2. ขายรถน้ำมันออกตอนนี้ แล้วเอาเงินดาวน์ไปรถไฟฟ้า BYD Dolphin Extended Range
ปัจจุบัน ค่าน้ำมันเดือนละ 6,000 บาท บวกลบนิดหน่อย
ถ้าขายตอนนี้ ได้ประมาณ 5xx,xxx บาท
แล้วเอาทุนไปดาวน์ Dolphin Extended Range
จาก ค่าน้ำมันเดือนละ 6,000 บาท ถ้าใช้ไฟฟ้า ค่าไฟน่าจะเหลือเดือนละ 2,000 บาท
ได้ส่วนต่าง 4,000 บาท จากที่เคยจ่ายค่าน้ำมัน และเติมค่างวดอีกนิดหน่อย

แต่ถ้ามองตัวเลขที่ต้องจ่ายค่ารถไฟฟ้าเพิ่ม คือ ประมาณ 3xx,xxx บาท
ค่าน้ำมันเดือนละ 6,000 บาท ปีละ 72,000 บาท
เท่ากับเก็บค่าน้ำมันวิ่งได้อีก 4 ปี
หลังจาก 4 ปี รถไฟฟ้าถึงเลยจุดคุ้มทุน กับค่าน้ำมัน

หรือ ควรใช้รถน้ำมัน ต่ออีก 3-4 ปี จนกว่าเทคโนโลยีไฟฟ้าจะนิ่ง และรอจนกว่าศูนย์บริการผ่านการพิสูจน์มาแล้ว
แล้วค่อยเปลี่ยนไปไฟฟ้าดีครับ

ขอบคุณทุกความเห็นครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 28, 2023, 12:51:01 โดย moorestreet »

ออฟไลน์ iKrit

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,730
  • Blue. Just BLUE.
อย่าลืมคิดค่าประกันรถยนต์ด้วยนะ ประกันชั้น 1 รถไฟฟ้าแพงกว่ารถน้ำมันเท่าตัวเลย แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุแล้วจะเจ็บตัวค่าซ่อมน้อยหน่อย
"การไม่มีดราม่าเป็นลาภอันประเสริฐ"
แต่มนุษย์มาม่าบางคนก็ชอบเปิดประเด็นทุกที เอ้อ...แปลก

ออฟไลน์ nuntapon.s

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,912
    • อีเมล์
ผมคิดมาหลายรอบละเรื่องรถไฟฟ้า  สรุปง่ายๆคือคนจะซื้อรถใหม่อยู่แล้วถึงจะมีสิทธิ์คุ้มครับ  ที่บอกมีสิทธิ์เพราะยังมีอีกหลายปัจจัยที่ยังไม่มีใครตอบได้เช่นราคาขายต่อหรือค่าเปลี่ยนแบตกรณีซวยจริงแล้วมันเสีย

ถ้ารถเก่ายังใช้ได้อยู่ ถ้าจะต้องเพิ่มส่วนต่างเพื่อไปเอาความประหยัดจากการเติมไฟฟ้ามาคืนผมว่าไม่คุ้ม FCวิ่งได้อีก 5 ปีแสนโลถึงจะเริ่มมีซ่อมซึ่งแสนนึงก็เก็บหมดพร้อมใช้ต่อได้อีกยาวๆ  ผมว่าใช้ไปก่อนรอเทคโนโลยีครับ แต่ถ้าอยากประหยัดจริงเอาไปติดlpgจะคุ้มสุดในแง่ROI

ออฟไลน์ Weetting

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,986
  • ช่วงล่าง+เครื่องยนต์
CIVIC FC 1.8 ปี 2018 ไมล์ 91,xxx กิโลเมตร
รถใช้มา 5 ปี ไมล์เกือบ 100,000 แล้ว

ขอคำปรึกษาในกลุ่มว่า
1. ถ้ามองด้วยอารมณ์ ส่วนตัวชอบดีไซน์ และภายใน Mazda 3 HB มาก และมือสอง ราคาหล่นลงมาเยอะ
หาสภาพดี รถไม่เกิน 3 ปี ไมล์ไม่เกิน 30,000 ในราคา 8xx,xxx ได้ไม่ยาก
ขายรถเดิม และเติมส่วนต่าง 3 แสน

2. ขายรถน้ำมันออกตอนนี้ แล้วเอาเงินดาวน์ไปรถไฟฟ้า BYD Dolphin Extended Range
ปัจจุบัน ค่าน้ำมันเดือนละ 6,000 บาท บวกลบนิดหน่อย
ถ้าขายตอนนี้ ได้ประมาณ 5xx,xxx บาท
แล้วเอาทุนไปดาวน์ Dolphin Extended Range
จาก ค่าน้ำมันเดือนละ 6,000 บาท ถ้าใช้ไฟฟ้า ค่าไฟน่าจะเหลือเดือนละ 2,000 บาท
ได้ส่วนต่าง 4,000 บาท จากที่เคยจ่ายค่าน้ำมัน และเติมค่างวดอีกนิดหน่อย

แต่ถ้ามองตัวเลขที่ต้องจ่ายค่ารถไฟฟ้าเพิ่ม คือ ประมาณ 3xx,xxx บาท
ค่าน้ำมันเดือนละ 6,000 บาท ปีละ 72,000 บาท
เท่ากับเก็บค่าน้ำมันวิ่งได้อีก 4 ปี
หลังจาก 4 ปี รถไฟฟ้าถึงเลยจุดคุ้มทุน กับค่าน้ำมัน

หรือ ควรใช้รถน้ำมัน ต่ออีก 3-4 ปี จนกว่าเทคโนโลยีไฟฟ้าจะนิ่ง และรอจนกว่าศูนย์บริการผ่านการพิสูจน์มาแล้ว
แล้วค่อยเปลี่ยนไปไฟฟ้าดีครับ

ขอบคุณทุกความเห็นครับ

ซื้อมาเก็บ Mazda3
ซื้อมาใช้ Dolphin 

THE Manual Gearbox Preservation Society
Drive diesel until last day

ออฟไลน์ Edwardsella

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 98
    • อีเมล์
ใช้ต่อไปก่อนก็ดีนะครับ  รอคุ้มทุนตามที่คำนวณอย่างน้อยๆ ก็สี่ปี เก็บตังหยอดกระปุกไปด้วย ตอนนั้นคงมีรถดีๆมาให้เลือกอีกเยอะนะครับ

ออฟไลน์ kbank

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 221
91000 ใน 5 ปี ตกปีละ 18000km
เดือนละ 1500km ค่าน้ำมัน 6000

รถระยะ 450-500km ชาร์จอาทิตย์ละครั้งกำลังดี
ถ้าใช้ไฟฟ้า ต่ำสุด 0.7 บาท/km จ่ายค่าไฟ 1050 บาท
ส่วนต่างเดือนละ 5000 ปีละ 60000 หักส่วนต่างประกัน 10000
เหลือส่วนต่าง ปีละ 50000

ซีวิคน่าจะขับดีกว่า แต่ก็ต้องเริ่มซ่อมเริ่มเปลี่ยนเริ่มเสีย อะไรถี่ๆบ้างแล้ว

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,333
1. ซื้อถูกขายถูกกว่าครับ ไม่มีประโยชน์ครับ
2. ประหยัดค่าน้ำมันแต่ไปรวบยอดตอนแบตเสื่อมหรือขายต่อครับ

ถ้าคันเก่าไม่ได้เป็นอะไรก็ใช้คันเก่าต่อไปก่อนครับ เผื่อมีอะไรดีๆน่าสนใจในอนาคตครับ

ออฟไลน์ axister

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,203
ผมว่าตอบจากความสะดวกก่อนดีกว่า ถ้าสะดวกชาร์จตลอดผมเชียร์ dolphin ครับ

แต่ถ้ากังวลเรื่อง tech ยังไม่นิ่ง ผมก็เห็นด้วย เป็นช่วง shift ไวจริงๆ ในอีก 2-3 ปีนี้ผมว่าแบตมันจะพัฒนาแบบต่างชัดเจน

เรื่อง option ไม่ต้องพูดถึง เพราะรถน้ำมันก็มี อยู่ที่ว่าจะใช้นานแค่ไหนครับ ถ้าคาดหวังว่าคุ้มยังไงตอนนี้ dolphin ไม่คุ้มแน่นอนครับ เพราะในอีก 4ปีที่บอกเลยจุดคุ้มทุนค่าน้ำมันไปแล้ว ราคาขายมันจะตกกว่ารถน้ำมันมากด้วยกลไลตลาด เรื่องแบตเทคใหม่ + panic ของคนที่มองว่ารถไฟฟ้าเป็นของปะหลาด

แต่ถ้าต้องเปลี่ยนเลยผมเลือก dolphin ถ้ารอได้ อยากให้รอกลางปี 24 ให้มาทำตลาดครบๆก่อน ตอนนั้นเค้าจะสู้ก้นเองครับ

ส่วนตัวผมเองก็ครองรถ bev มาได้แค่ 2ปี ยังตอบอะไรไม่ได้ แต่ผ่าน hev/phev มา 7-8คัน แบตเสื่อมไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นครับ ยิ่งประกันเยอะๆ เราถึงจุดคุ้มทุนก่อนแน่ แต่อยู่ที่ว่ากังวลราคาขายต่อมั้ย ถ้ายังมี ICE ขายอยู่ รถแบตยังไงก็ราคาดิ่งครับ คนมันกลัวอะ

อย่าลืมคิดค่าประกันรถยนต์ด้วยนะ ประกันชั้น 1 รถไฟฟ้าแพงกว่ารถน้ำมันเท่าตัวเลย แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุแล้วจะเจ็บตัวค่าซ่อมน้อยหน่อย

ฟังมาหรือใช้อยู่ครับ ราคาไม่ได้ต่างขนาดนั้นนะครับถ้าเทียบทุนประกัน ผมใช้ atto3 แพงกว่า hrv 3พัน // ix3 ถูกกว่า rx 9พัน

ออฟไลน์ Maestro

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 187
ถ้าคันเก่ายังการใช้งานยังตอบโจทย์อยู่ก็ยังไม่ควรเปลี่ยนครับ

ผมมีโจทย์แบบเดียวกันเลย แต่ผมใช้ 4 ปี 120,000 โล พอคำนวนดีๆแล้วยังไม่คุ้มที่จะเปลี่ยนจาก Chr เป็น โลมาเลย
ผมเลยใช้ไปเรื่อยๆจนกว่าคันเดิมไม่ตอบโจทย์ ก็ค่อยมาเปลี่ยน

ยกเว้น ขับรถปีละ 50000 โลขึ้นไปก็ยังดูสมเหตุสมผล ที่จะเปลี่ยนเพราะความประหยัด

2019 - Toyota Chr 1.8 Hybrid High
2008 - Honda Jazz 1.5 S
2003 - Honda Steam 2.0 S

ออฟไลน์ Aleister TJ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,007
  • มีเงินเป็นล้านก็ซื้อเมื่อวานไม่ได้ แต่ถ้าร้อยล้านก็ช่างเมื่อวานมันเถอะ
    • อีเมล์
คำนวณเป็นตัวเงินยังไงก็ไม่คุ้มส่วนต่าง ยกเว้นใช้รถเก่ามานานจะเปลี่ยนรถอยู่แล้ว อันนี้ผมเชียร์เต็มที่ครับ

คุ้มของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน อย่างผมขายคันเก่าได้ 300k ไปถอยรถ EV คันละ 1.1M ถามว่าชาติไหนจะคุ้มทุน 555 แต่ความคุ้มของผมคือใช้ไปเลยยาวๆ 5 ปี ไม่ต้องมากังวลเรื่องซ่อมอะไร เข้าศูนย์ก็ไม่เสียซักบาท ไป Camping ตามดอยนอนในรถได้สบายๆ ทำธุระจอดเปิดแอร์รอในรถ ชาวบ้านก็ไม่เหม็นควันท่อไอเสีย ที่สำคัญไม่มีเสียงเครื่องหนีเมียเที่ยวได้สบายๆ 555 คันเก่าดีเซลสตาร์ทตอนเช้าทีตื่นกันครึ่งหมู่บ้าน
My Car History ~

Honda City ZX
Toyota Yaris 1.2E
Mazda3 Skyactive 2.0S
Mazda 2 SkyActiv 1.5 High Plus L
Mitsubishi Pajero Sport 2.4 Elite

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,019
    • อีเมล์
Re: ขายรถน้ำมันไปรถไฟฟ้า หรือ ใช้รถน้ำมันต่อดีครับ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2023, 14:42:32 »
เรื่องคุ้มทุนค่าน้ำมัน กับรถไฟฟ้า เป็นอะไรที่ถกเถียงกันไม่จบ เพราะยังไม่มีใครใช้รถไฟฟ้าถึงปีคุ้มทุนและมาบอกได้เลย

รถน้ำมัน 7 ปี เทียบความคุ้ม รถไฟฟ้า 7 ปี ต้อรอดูตอนขายนั่นแหละครับว่าสุดท้าย ราคามันจะเหลือเท่าไร และคุ้มกว่าจริงไหม

ออฟไลน์ Sukrit680

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 3
Re: ขายรถน้ำมันไปรถไฟฟ้า หรือ ใช้รถน้ำมันต่อดีครับ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2023, 15:05:46 »
อยู่ที่ว่าจะใช้รถคันใหม่กี่ปีครับ
ถ้าใช้แค่3-5ปี มองยังไงก็ไม่คุ้ม อย่างมากก็เท่าทุน(ขับ20,000km/year)
แต่ถ้าใช้รถนาน 7-8ปี เท่ากับขับไป 160,000 km จะประหยัดค่าน้ำมันไปได้ 450,000-550,000
เท่ากับว่าประหยัดได้ 2แสน
ถ้าไม่มองราคาในการขายต่อ

ออฟไลน์ I-PULSE

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 977
Re: ขายรถน้ำมันไปรถไฟฟ้า หรือ ใช้รถน้ำมันต่อดีครับ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2023, 15:39:09 »
civic อีก3ปี อาจเริ่มมีซ่อมครับ แต่ดอลฟิน ใช้ไปอีก8ปี สบายๆ
ชั่งน้ำหนักเอาครับ

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,642
Re: ขายรถน้ำมันไปรถไฟฟ้า หรือ ใช้รถน้ำมันต่อดีครับ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2023, 16:56:59 »
ขายรถเก่าซื้อรถใหม่ส่วนใหญ่ไม่คุ้ม     ถ้าอยากได้รถใหม่อยู่แล้วก็จัดไป

ออฟไลน์ Odrecranon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 402
    • อีเมล์
Re: ขายรถน้ำมันไปรถไฟฟ้า หรือ ใช้รถน้ำมันต่อดีครับ
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2023, 17:38:34 »
ผมเคยมีความคิดแบบนี้เหมือนกันเลยครับ
ลองคำนวณแล้ว

คำตอบ คือ  ต้องใช้ BEV เป็นคันหลัก

โจทย์ผมช่วงนี้คือ
เปลี่ยน Ford Focus เป็น C40 twin motor

คำนวณคร่าว ๆ

# อัตราสิ้นเปลือง
    ICE  12-16 km/l ตกประมาณ 3.5-4 บาท/km
    BEV  0.8-1 บาท/km; คำนวณจาก XC60 ที่ใช้อยู่ TOU; off-on peak

    ส่วนต่างคือ 4-1 = 3 บาท/km

# ค่าบำรุงรัษา
    C40 - ค่าประกันถ้าต้องจ่ายจริง 50K + ค่าบำรุงรักษาปีละ 5K
    Focus - ป3 ประมาณ 5K + ค่าบำรุงรักษา 5K

    ส่วนต่างคือ 45K

แสดงว่า
ผมต้องขับ 15000 Km/ปี เพื่อให้คุ้มทุน; 45000/3
ซึ่งของผมปัจจุบันขับ 2000-2500 km/เดือน
ุถือว่าคุ้มค่าการเปลี่ยน หากไม่คำนึงเรื่องการเสียเงินซื้อรถใหม่

แต่เงื่อนไขคือต้องใช้รถ BEV คันเดียวถึงจะตอบโจทย์ครับ

ส่วนโจทย์ของจขกท
แง่ความคุ้มค่า ผมว่าไม่คุ้ม
เพราะรถยนต์เป็นหนี้เสีย
ใช้รถเดิมยังไงก็ดีกว่าแน่นอน




ออฟไลน์ Myprecious

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 164
Re: ขายรถน้ำมันไปรถไฟฟ้า หรือ ใช้รถน้ำมันต่อดีครับ
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2023, 21:28:10 »
เก็บเงินไปเรื่อยๆก่อนครับ เผื่อมีรุ่นไหนที่น่าสนใจกว่านี้

รถ5ปี ยังไม่ถึงแสนโลดี เรียกว่าวิ่งไม่เยอะครับ ใช้ไปอีกสักพักก็ได้ ช่วงนี้ก็ไปลองนั่ง ลองขับรถที่สนใจๆดูก่อน ได้มีเวลาตัดสินใจ

ส่วนจะเปลี่ยนเป็นมือสองผมไม่แนะนำครับ ถ้าของเก่าใช้มาตั้งแต่ป้ายแดง แล้วจะเปลี่ยนเป็นมือสองในรถsegment เดียวกันที่สมรรถนะแทบไม่ต่างกัน เกิดได้รถมีปัญหาหรือเจ้าของดูแลมาไม่ดีเซ็งอีก

ออฟไลน์ I_AM_M

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 331
    • อีเมล์
Re: ขายรถน้ำมันไปรถไฟฟ้า หรือ ใช้รถน้ำมันต่อดีครับ
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2023, 22:19:57 »
การไม่มีหนี้เป็บลาภอันประเสริฐ เอาตังไปทำอย่างอื่นดีกว่าครับรถยังใช้ได้ไม่เก่าขนาดนั้น

ออฟไลน์ bobsan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,610
    • อีเมล์
Re: ขายรถน้ำมันไปรถไฟฟ้า หรือ ใช้รถน้ำมันต่อดีครับ
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2023, 23:00:18 »

เคสนี้เอาที่สบายใจเลยครับ ทั้ง civic และ ดอลฟิน ไม่ใช่รถที่น่าเป็นห่วงอะไร
ส่วนต่างคิดกลับไปกลับมาก็มีทั้งได้ทั้งเสียพอๆกันนั่นแหละ

มั่นไม่มีอะไรที่คุ้มที่สุด คุ้มทุกอย่าง คุ้มทุกเม็ดหรอกครับ

พบกันครึ่งทางก็ไปออก civic ehev แทนก็ได้
ได้รถใหม่และประหยัดด้วย
ขายต่อก็พอเหลือราคากลับมาบ้าง



ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,048
Re: ขายรถน้ำมันไปรถไฟฟ้า หรือ ใช้รถน้ำมันต่อดีครับ
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2023, 00:18:18 »
วางแผนเรื่อง Range ให้ดี เท่านี้พอครับ
ถ้าหาที่เสียบจากเต้าไฟปกติที่ทำงานได้ยิ่งคุ้ม

ออฟไลน์ Devil13

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,010
Re: ขายรถน้ำมันไปรถไฟฟ้า หรือ ใช้รถน้ำมันต่อดีครับ
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2023, 07:00:47 »
เท่าที่ดูคุณใช้รถค่อนค่างเยอะครับ
ไปไฟฟ้าจะตอบโจทย์เรื่องค่าเชื้อเพลิงที่ถูกลง
ถ้าเดินทางเดินเดิมๆประจำ และติดตั้งที่ชาทที่บ้านได้ก็น่าสนใจครับ(เท่าที่ทราบต้องจ่ายเงินเพิ่ม)

หากอยู่คอนโด เส้นทางการเดินทางหลากหลาย รถน้ำมันน่าจะเหมาะกว่า

สุดท้ายก็แล้วแต่คุณครับ ว่าอยากได้แบบไหน?
มันได้หมดทั้ง2แบบเลย

ออฟไลน์ sudlor_gang

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 566
Re: ขายรถน้ำมันไปรถไฟฟ้า หรือ ใช้รถน้ำมันต่อดีครับ
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2023, 08:56:36 »
ไม่เปลี่ยนรถถ้ารถยังไม่พังครับ

ออนไลน์ เนื้อน่องไม่หนัง

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,780
Re: ขายรถน้ำมันไปรถไฟฟ้า หรือ ใช้รถน้ำมันต่อดีครับ
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2023, 09:36:53 »
ใช้คันเก่าต่อ อาจไม่ได้ต่างจากเปลี่ยนรถครับ แต่ไม่ต้องจ่ายเงินก้อนออก
5 ปี แสนโล กับรถตลาดอย่าง civic ผมว่าใช้ต่อถึง 200,000 ได้แบบไม่ต้องกังวลอะไร
อีก 5 ปีขายออก ราคาก็น่าจะยังอยู่ช่วง 3-4 แสน

รถไฟฟ้า ค่าเชื้อเพลิงต่อ km ถูกกว่าจริง แต่ประกันน่าจะแพงกกว่า แล้วราคาตกฮวบๆ
อย่าง MG ZS ev 3 ปีเหลือ 50% (ในขณะที่ civic 5 ปี เหลือ 50%)

ถ้าวิ่งวันละ 150+ หรือปีละ 50,000 ผมว่า bev ค่อยดูคุ้มค่าขึ้นครับ

เรื่องเทคโนโลยี ผมคิดว่าซื้อได้ตลอดครับ ซื้อเมื่ออยากซื้อแล้วกัน
เหมือนพวก คอมพิวเตอร์กับมือถือมันพัฒนาตลอด ปีนึงมีอัฟเดท มีเทคโนโลยีใหม่ออกมาไม่รู้กี่รอบ
ถ้ารอ คงไม่ได้ใช้ครับ..

สรุป เปลี่ยนรถเพราะหวังคุ้ม อาจไม่ตอบโจทย์ครับ
แต่ถ้าตั้งใจจะเปลี่ยนอยู่แล้ว dolphine ก็ดูเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าครับ
อนาคตไม่มีใครรู้ ว่าน้ำมัน กับไฟฟ้าจะเป้ยังไงครับ

ออฟไลน์ nobody123

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 143
Re: ขายรถน้ำมันไปรถไฟฟ้า หรือ ใช้รถน้ำมันต่อดีครับ
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2023, 09:46:08 »
BEV เคยมีคนคำนวณแล้ว ตรงกับผม
้ถ้าขับเกิน 30,000 กม.ต่อปี ถึงคุ้มค่าเปลี่ยนแบต
ขับน้อยกว่านั้น ตอนประมาณสิบปีเปลี่ยนแบต จะเสียเงินค่าพลังงานและค่าตัวเก็บพลังงาน ประมาณเท่ากับรถน้ำมัน

ยิ่งคุณเปลี่ยนรถที่ยังไม่เสื่อม อย่างความเห็นก่อนหน้าเลย จะคุ้มค่าเสียโอกาสใช้รถคันเดิม ควรขับปีละ 50,000 ครับ

รถคุณ ตัวล่าสุด เคยมีคนบอกว่า โดยรวมขับดีเท่ารถไฟฟ้าเมกานะ

จากการวิเคราะห์ข้างต้น และหลายความเห็น คุณต้องถามตัวเองดี ๆ ว่าเปลี่ยนทำไม?

ถ้าจะเปลี่ยนแล้วขับน้อยกว่านั้น ซื้อ (P)HEV คุ้มกว่า
PHEV แรงเท่ากันหรือแรงกว่าด้วย
คันขับสี่ยิ่งขับสบายตัว และ เกาะมาก หน้าฝนไม่ต้องระวังมากเท่ารถขับหลัง
ซ่อมต่อระบบน้อยเพราะช่วยกันขับ คนในบอร์ดนี้บอกผมไว้
ค่าครอบครองรถ PHEV เท่ากับ BEV อันนี้ Consumer Reports สหรัฐสำรวจรถเป็นแสนคันแล้ว
คนในบอร์ดนี้หลายคนเห็นว่า PHEV เติมพลังงานสะดวกกว่า
ซื้อ BEV ทำไม ถามตัวเองดี ๆ?

PHEV ผมคำนวณแล้วว่าคุ้มค่าแบตลูกใหม่เร็วกว่า และ เทียบกับ BM ผมซึ่งคุณจิมมี่ชื่นชอบ PHEV มีทอนเมื่อเทียบกับการจ่ายค่าน้ำมัน เอาไปบำรุงรักษาได้อีก (นอกเหนือจากค่าเปลี่ยนแบต) จะเหมือนได้เงิน 500,000 บาทต่อสิบปี ถ้าขับปีละ สองหมื่นกว่าโล (เน้นในเมือง) ยิ่งขับมากกว่านั้น สัดส่วนการประหยัดเมื่อเทียบกับ ICE ยิ่งมาก
= เหมือนบำรุงรักษาฟรี

กรณีนึงที่คิดได้ว่าน่าเปลี่ยนเป็น EV คือ ขับรถบนถนนที่รถติดมาก ๆ เช่น สุขุมวิท เป็นประจำ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 29, 2023, 12:01:52 โดย nobody123 »

ออฟไลน์ turbofever

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 578
    • อีเมล์
Re: ขายรถน้ำมันไปรถไฟฟ้า หรือ ใช้รถน้ำมันต่อดีครับ
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2023, 13:07:16 »
อยากเปลี่ยนแต่อยากคุ้มต้องไปรถสะสมรถคลาสสิค

แต่ถ้าอยากแรงขึ้นหรือมันเบื่อความคุ้มมันไม่มี แต่มีเหตุผลและระงับได้ด้วยการซื้อใหม่เท่านั่น 8)

ออฟไลน์ tOntrAnETY

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 300
    • tontranety
    • อีเมล์
Re: ขายรถน้ำมันไปรถไฟฟ้า หรือ ใช้รถน้ำมันต่อดีครับ
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2023, 13:50:56 »
ถ้าใช้น้อยแบบนี้ แนะนำใช้รถน้ำมันต่อไปก็ได้ครับผม

รถไฟฟ้า อาจจะเหมาะกับคนใช้รถเยอะๆ ถึงจะคุ้ม



ยกตัวอย่างของผมละกัน ผมใช้ EV อยู่

ของผม วันละ 200 โล  กลางวันชาร์จไฟโซลาเซลล์ที่บ้าน ได้มาใช้ ราว 100-130km ฟรีๆ

Save เงิน จาก เติมน้ำมันเดือนละ 18000 เดือนล่าสุด เหลือจ่ายค่าไฟ 2800 บาท  Save เงิน 15000 บาทต่อเดือน ( ส่วนนึงไฟฟรีจาก โซลาเซลล์)



ออฟไลน์ Spada_Valess

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 750
    • อีเมล์
Re: ขายรถน้ำมันไปรถไฟฟ้า หรือ ใช้รถน้ำมันต่อดีครับ
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2023, 16:38:33 »
ถ้าเป็นผมนะครับ Dolphin Extended  แน่นอนครับ ไปลองแล้วขับดีกว่าที่คิดเยอะ เบื่อรถน้ำมันอืดๆไปเลย
ประกันตัวรถ 8 ปี แบต 8 ปีราคา 850000 บำรุงรักษาก็น้อยจ่ายแค่ค่าไฟ กับยาง

ออฟไลน์ solo

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 533
    • อีเมล์

ออฟไลน์ V221

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,823
Re: ขายรถน้ำมันไปรถไฟฟ้า หรือ ใช้รถน้ำมันต่อดีครับ
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2023, 10:46:53 »
ใช้ปีละ2หมื่นโล ไม่คุ้มครับ
BMW 750E M SPORT

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,708
Re: ขายรถน้ำมันไปรถไฟฟ้า หรือ ใช้รถน้ำมันต่อดีครับ
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2023, 13:02:06 »
ต้องมีวินัยมากพอที่จะเก็บเงินส่วนต่างค่าพลังงานที่ประหยัดได้
สะสมไว้เมื่อถึงวันที่ต้องจ่ายหนักค่าเปลี่ยนแบต
หรือไม่ก็วันที่ต้องซื้อรถคันใหม่ เพราะอย่าเพิ่งคาดหวังว่า
รถ BEV คันเก่าจะขายต่อได้เท่านั้นเท่านี้บาทครับ

แต่เอาจริงๆ วิเคราะห์กันลึกๆ ถึงพฤติกรรมการเป็นเจ้าของรถ
ของพี่เจ้าของกระทู้ เมื่อรถเดิมยังไม่เสีย แต่กังวลว่ารถใช้งาน
มากแล้ว ใกล้จะมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมใหญ่ ประกอบกับรถยัง
ขายได้ราคาจึงคิดเปลี่ยนรถ

ถ้ามีแนวคิดที่จะเลี่ยงค่าซ่อมด้วยการขายทิ้งเอาเงินไปซื้อคันใหม่
แล้วจะทำแบบนั้นกับ BEV ได้เหรอครับ เพราะลักษณะของรถ
BEV มันมีค่าใช้จ่ายต่ำ แต่จะจ่ายตูมเดียวหนักๆ ตอนเสีย
และถ้าไม่ยอมจ่าย รถก็จะไม่มีมูลค่าอะไร  บางคนอาจค้าน
แต่ให้ถามใจตัวเองว่าวันนี้จะยอมซื้อรถ EV มือสอง เช่น ZS EV
ที่ราคาเท่าไหร่ครับ

ผมมองว่าคนที่จะใช้ BEV คุ้ม คือคนที่ซื้อมาแล้ว ใช้จนมันเสื่อม
สภาพแล้วทิ้งครับ

ออฟไลน์ Firzen

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 888
Re: ขายรถน้ำมันไปรถไฟฟ้า หรือ ใช้รถน้ำมันต่อดีครับ
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2023, 17:52:57 »
หากเป็นผม จะเอาค่าส่วนต่างที่ต้องซื้อรถคันใหม่ มาใช้เติมน้ำมันขับคันเดิมต่อไป จนกว่ารถจะเริ่มมีปัญหาจุกจิกและซ่อมไม่คุ้มครับ อีกอย่างเราไม่รู้ว่าวิถีชีวิตเราจะเปลี่ยนวันไหน

ก่อนหน้านี้ ผมก็เคยคิดที่จะเปลี่ยนรถคันใหม่ที่ประหยัดค่าเดินทาง (บาท/กม. ถูกลง) แต่บังเอิญชีวิตพลิกผัน ต้องย้ายที่อยู่ใหม่ จากวันทำงานไปกลับวันละ 40 กม. ค่าน้ำมันเดือนนึงเกือบ ๆ 5,000 บาท เหลือไปกลับวันละ 10 กม. ทำให้ค่าใช้จ่ายเดินทางลดลงเยอะเลยครับ