ผู้เขียน หัวข้อ: ช่วงล่างรถจีนกับรถญี่ปุ่น  (อ่าน 3454 ครั้ง)

ออฟไลน์ Mos37257

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 681
    • อีเมล์
ช่วงล่างรถจีนกับรถญี่ปุ่น
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2024, 19:35:08 »
สงสัยตอนนี้ รถจีนกับรถญี่ปุ่นถ้าเปรียบเทียบราคากับช่วงล่างที่ได้ ใครดีกว่าครับ
เช่น atto3 vs chr,cx30,xv,hrv
Seal vs carry,accord
หรือกระทั่งเทสล่ากับพวกยุโรปตัวเริ่มๆ

ผมเคยขับ model y ตัวนำเข้าgrey ช่วงล่างเลวร้ายมากครับแบบรับไม่ได้ genนั้นผมว่า altis,civic ช่วงล่างมั่นใจกว่าเยอะ
เเต่ปัจจุบันเห็นว่าดีขึ้นเลยอยากทราบว่าเเต่ละตัวเทียบช่วงล่างใกล้เคียงกันไหมครับ

ออฟไลน์ Tom sawyer

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 191
Re: ช่วงล่างรถจีนกับรถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2024, 19:55:50 »
ถ้าในราคาใกล้เคียงกัน รถจีนน่าจะดีกว่า ยกเว้นจะขายรถจีนแพงๆ เพื่อจะเอากำไรเยอะๆ

ออฟไลน์ helloweentz

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 383
    • รถขนของ
Re: ช่วงล่างรถจีนกับรถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2024, 20:00:32 »
ยังไม่เคยลอง แต่อยากรู้เหมือนกันครับ เพราะรถจีน ช่วงนี้ ราคาน่าจัดมาก
BRV 2016
Mileage :  173,583
รายการซ่อม :
เกียร์
แอร์
โช๊คหลัง
ลูกยางยึดท่อ
เพลาขับ

ออฟไลน์ Fragile

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 487
Re: ช่วงล่างรถจีนกับรถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2024, 21:32:27 »
ผมว่ารถ ev มันหนักแบตอะ เลยทำให้ handling มันแปลกๆ อย่าง seal หนัก 2 ตัน แต่ accord/camry หนัก แค่ 1.5 ตัน ต่างกัน 500 kg นี่เหมือนมีคนนั่งมาในรถอีก 5-6 คนเชียวนะครับ

ออฟไลน์ Isomars

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 127
Re: ช่วงล่างรถจีนกับรถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2024, 22:21:42 »
Model 3 เคยนั่งของคนอื่นตัวนำเข้าเกรย์ แต่ไม่เคยขับ รู้สึกแข็งมาก ถ้าเทียบกับฟอร์ด โฟกัส ให้ฟอร์ด โฟกัส ดีกว่า ในมุมมองคนนั่งครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 28, 2024, 02:07:02 โดย Isomars »

ออฟไลน์ เนื้อน่องไม่หนัง

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,779
Re: ช่วงล่างรถจีนกับรถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2024, 22:32:53 »
ผมเองก็ลองมาไม่เยอะ และไม่ได้เป็นระยะทางยาวมากครับ
Dolphin std ช่วงล่างโอเคสำหรับผม คล้ายๆ mazda แต่ให้ความรู้สึกที่เบากว่า // ตัว extend ไม่ได้ลองครับแต่ช่วงล่างไม่เหมือนกัน
atto3 ส่วนตัวผิดหวังกับช่วงล่าง รถมันโยนๆ ย้วยๆ เหมือนพยายามจะไปทางนุ่มแต่ช่วงล่างเอาไม่อยู่ ถนนที่เป็นคลื่นคนขับยังมึน...

model3 highland ช่วงล่างสำหรับผมโอเค เฟริมแต่ไม่แข็งเกินไป เจอทางแย่ๆยังพอรูดได้
modely อันนี้แปลกใจมาก คือมันแข็ง เกือบจะกระด้าง ซึ่งจาก body มันแล้วผมว่า ช่วงล่าง 3/y มันควรจะสลับกัน...

ออฟไลน์ pladaek

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,025
  • FF1.5SMG
Re: ช่วงล่างรถจีนกับรถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2024, 08:45:05 »
เทียบ Secment เดียวกัน เอาแค่ที่ได้ลองขับ
ผมว่า MG ฟิลลิ่งช่วงล่างดีกว่า Honda
ชอบฟิลลิ่ง MG5 มากกว่า City
ชอบ ZS มากกว่า HRV
ว่ากันแค่เรื่องช่วงล่างอย่างเดียวนะ
ไม่ได้ขับรถเพื่อทำเวลาที่ดีที่สุด.. แต่ขับรถเพื่อเจอช่วงเวลาที่ดีที่สุด..

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,252
    • อีเมล์
Re: ช่วงล่างรถจีนกับรถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2024, 09:50:59 »
สงสัยตอนนี้ รถจีนกับรถญี่ปุ่นถ้าเปรียบเทียบราคากับช่วงล่างที่ได้ ใครดีกว่าครับ
เช่น atto3 vs chr,cx30,xv,hrv
Seal vs carry,accord
หรือกระทั่งเทสล่ากับพวกยุโรปตัวเริ่มๆ

ผมเคยขับ model y ตัวนำเข้าgrey ช่วงล่างเลวร้ายมากครับแบบรับไม่ได้ genนั้นผมว่า altis,civic ช่วงล่างมั่นใจกว่าเยอะ
เเต่ปัจจุบันเห็นว่าดีขึ้นเลยอยากทราบว่าเเต่ละตัวเทียบช่วงล่างใกล้เคียงกันไหมครับ

เทียบชัดๆ seal กับ y ผมให้ y ดีกว่าในหลายๆ มุม ครับ

seal นุ่มกว่า มั่นใจกว่า ไม่สะดีดสะดิ้ง ไม่เด้ง แต่ y จะเด้งๆ กระด้าง จะเฟิร์มก็ไม่เฟิร๋ม แถมร่อนด้วย จนหลายคนมองหาที่จะเปลี่ยนโช้คเต็มกลุ่มไปหมด (อาจจะเกิดจากการปั่นขายด้วยส่วนหนึ่ง)

จริงๆ ช่วงล่าง จีน vs ญี่ปุ่น ชิ้นส่วนช่วงล่าง แทบจะเหมือนกันแหละครับ ต่างกันที่การปรับเซ็ต (หรือ การจูน) หรือ การตั้งใจให้รถคันนั้น ออกมาในรูปแบบไหน

ขนาดรถ จีน vs จีน หรือ ญี่ปุ่น vs ญี่ปุ่น ค่ายเดียวกัน คนละคัน หรือ คนละค่าย seg เดียวกัน ยังไม่เหมือนกันครับ มันเป็นเรื่องของรายละเอียด ความตั้งใจ และ การที่อยากให้รถคันนั้น character เป็นยังไง มากกว่า

ออฟไลน์ NoName__???

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,152
Re: ช่วงล่างรถจีนกับรถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2024, 10:54:33 »
เคยแต่ลองเช่า MG EP ช่วงล่างดีกว่า รถญี่ปุ่นหลายๆยี่ห้ออีก นุ่มเนียนกว่าด้วย ไม่ตึงตัง  ;D ;D

ออฟไลน์ Left lane driver

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 712
Re: ช่วงล่างรถจีนกับรถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2024, 10:54:36 »
ผมขอเทียบเป็นรุ่นๆละกัน

Seal performance ช่วงล่างอย่างห่วยเลยสำหรับรถความแรงระดับนั้น
ถ้าวิ่งช้าๆไม่เกิน 90 ก็พอใช้ได้ นิ่มสบายดี แต่ถ้าเร็วแล้วเจอถนนไม่เรียบหรือเปลี่ยนเลนเร็วหน่อย รู้สึกเลยว่าโช้คเอาสปริงไม่อยู่ ความหนักแน่นไม่มี ด้านหลังออกแนวย้วย
ผมให้ C-seg ปัจจุบันช่วงล่างดีกว่าหมด ขนาดรถ B-seg / Eco-car บางรุ่นช่วงล่างยังดีกว่าเลย D-seg นี่คงไม่ได้ต้องเทียบ
ถ้าเปลี่ยนโช้คกับยางใหม่ น่าจะจบ

Dolphin Extended ช่วงล่างเซ็ตมาตลกมาก จังหวะ bump/rebound แต่ละล้อไม่พร้อมกัน เด้งซ้ายทีขวาที หน้าทีหลังที
บาลานซ์รถอย่างแย่ ผมก็ไม่รู้จะเทียบกับรถญี่ปุ่นรุ่นไหน เพราะไม่เคยเจอรถที่ออกอาการแบบนี้ เหมือนเป็นรถที่ยังทำไม่เสร็จแล้วเอามาขาย
ถ้าเปลี่ยน สปริง+โช้ค+กันโคลง+ยาง น่าจะดีขึ้น
แต่เห็นว่าตัว std range ช่วงล่างดีกว่านี้ (ยังไม่เคยขับ)

MG4 อันนี้ผมว่าดี ช่วงล่างยังมีความเฟิร์มอยู่ แต่ไม่ได้แข็งกระด้าง คาแรคเตอร์ขับคล่องสนุกกำลังดีเลยแถมมีความสบายด้วย
ผมให้ช่วงล่างกับบาลานซ์รถดีกว่า Altis TNGA หน่อย และคล้ายๆ CHR แต่กระชับกว่า
อยากให้รถจีนรุ่นอื่นเซ็ตช่วงล่างประมาณนี้บ้างจัง

MG ZS EV ได้ขับไปแค่นิดหน่อย ช่วงล่างออกแนวนิ่มแต่เด้ง สปริงดีดๆ พอเจอรอยต่อถนนกับคอสะพานแล้วออกดิ้นๆ bouncy ไปหน่อย
เทียบในกลุ่ม cross over ผมชอบหนักแน่นแบบ XV รองลงมาเป็น CHR ที่ออกเฟิร์มนิดนึง ส่วน CX30 พอสาดโค้งแรงๆยังมีดิ้นๆเด้งๆอยู่บ้าง แต่ยังดีกว่า ZS อยู่เยอะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 28, 2024, 13:43:22 โดย Left lane driver »

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,889
Re: ช่วงล่างรถจีนกับรถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2024, 13:10:00 »
ถ้ามองเผินๆนะครับ
ของจีนจะให้เป็นอิสระเสียส่วนใหญ่ และของญี่ปุ่นจะให้เป็นคานบิดส่วนใหญ่

ประสบการณ์การขับรถของผมตลอด 35 ปีมานี้ ผ่านรถช่วงล่างหลากหลายมาเยอะครับ

สำหรับผมที่ชอบขับมุดขับแซงมาตลอดชีวิต ผมเองกลับชอบคานบิดนะครับ

สำหรับผม ระบบช่วงล่างไม่สำคัญเท่าไหร่ครับ อยู่ที่วิศวกร​เซ็ทช่วงล่างเช่นความแข็ง หนืดของทั้งโช้คและสปริง และวัตถุประสงค์ของการใช้งานรวมทั้งสภาพถนนของแต่ละประเภทสำคัญกว่า

ผมเปรียบเทียบ mg hs กับ crv แล้วกัน
ถ้าคนชอบนุ่มๆนั่งสบาย hs ตัวแรกคือคำตอบเลยครับ
แต่ถ้าขับเร็วขึ้นมาหน่อย crv คือคำตอบครับ จะ firm กว่า
ส่วน hs ออกย้วยเลยครับ

กลับมาดูรถไฟฟ้า ผมอาจจะยังไม่ได้ลองขับเยอะ อาศัยดูคลิปการทดสอบต่างๆ ความรู้สึกเหมือนว่า จีนเองคำนวนสูตรในคอมแล้วก็เอาออกมาขายเลยครับ

ยังไม่เก็บรายละเอียดบนถนนจริงซักเท่าไหร่

อย่างคลิป seal ที่เข้าโค้งแล้วเสียหลักจนเกือบคุมไม่อยู่
คอมพิวเตอร์สั่งระบบความปลอดภัยดีมาก สั่งรถไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ​ได้ แต่... มันไม่ควรเกิดแบบนั้นจั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะขนาดล้อหรือการเซ็ทช่วงล่าง เหมือนไม่เคยออกมาทดสอบวิ่งจริงเลย

ออฟไลน์ Sommerดอยแม่สลอง

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 201
    • อีเมล์
Re: ช่วงล่างรถจีนกับรถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2024, 14:12:17 »
ผมเคยลองขับรถยนต์ไฟฟ้าจีนมาแล้ว พบว่า ช่วงล่างที่ดีที่สุดที่ผมเคยลองขับมานั้น

อันดับ 6 GAC Aion Y+
อันดับ 5 MG4
อันดับ 4 MG ES
อันดับ 3 ORA 07
อันดับ 2 BYD Dolphin
และ อันดับ 1 BYD Seal

ส่วน Changan Deepal/MG ZS EV/BYD ATTO3/ORA Good Cat/Tesla ที่ผมยังไม่ได้ลองขับมานั้น ค่อยลองขับช่วงวันที่ผมว่างนะครับ
2019 Mercedes-Benz CLS300d AMG Premium
2024 ORA Good Cat GT

ออฟไลน์ Sgt_Meen

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 287
Re: ช่วงล่างรถจีนกับรถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 29, 2024, 16:01:49 »
สงสัยตอนนี้ รถจีนกับรถญี่ปุ่นถ้าเปรียบเทียบราคากับช่วงล่างที่ได้ ใครดีกว่าครับ
เช่น atto3 vs chr,cx30,xv,hrv
Seal vs carry,accord
หรือกระทั่งเทสล่ากับพวกยุโรปตัวเริ่มๆ

ผมเคยขับ model y ตัวนำเข้าgrey ช่วงล่างเลวร้ายมากครับแบบรับไม่ได้ genนั้นผมว่า altis,civic ช่วงล่างมั่นใจกว่าเยอะ
เเต่ปัจจุบันเห็นว่าดีขึ้นเลยอยากทราบว่าเเต่ละตัวเทียบช่วงล่างใกล้เคียงกันไหมครับ

เทียบชัดๆ seal กับ y ผมให้ y ดีกว่าในหลายๆ มุม ครับ

seal นุ่มกว่า มั่นใจกว่า ไม่สะดีดสะดิ้ง ไม่เด้ง แต่ y จะเด้งๆ กระด้าง จะเฟิร์มก็ไม่เฟิร๋ม แถมร่อนด้วย จนหลายคนมองหาที่จะเปลี่ยนโช้คเต็มกลุ่มไปหมด (อาจจะเกิดจากการปั่นขายด้วยส่วนหนึ่ง)

จริงๆ ช่วงล่าง จีน vs ญี่ปุ่น ชิ้นส่วนช่วงล่าง แทบจะเหมือนกันแหละครับ ต่างกันที่การปรับเซ็ต (หรือ การจูน) หรือ การตั้งใจให้รถคันนั้น ออกมาในรูปแบบไหน

ขนาดรถ จีน vs จีน หรือ ญี่ปุ่น vs ญี่ปุ่น ค่ายเดียวกัน คนละคัน หรือ คนละค่าย seg เดียวกัน ยังไม่เหมือนกันครับ มันเป็นเรื่องของรายละเอียด ความตั้งใจ และ การที่อยากให้รถคันนั้น character เป็นยังไง มากกว่า

ผมอ่านแล้วงง
สรุปคุณให้ Seal หรือ Y ดีกว่า
-Toyota Vios 1.5 1stGen
-Honda Accord 2.3 G6
-Honda Accord 2.4 G8
+Honda Accord 2.0 G8
-Mercedes-Benz E250CGI W212
+BMW 520d Sport G30
+Mercedes-Benz E300 Coupe C238

ออฟไลน์ lay

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,268
Re: ช่วงล่างรถจีนกับรถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 29, 2024, 20:00:28 »
อ่านคำตอบทุกท่านแล้วรู้สึกว่าแต่ละคนให้คะแนนแตกต่างกันแบบตรงกันข้ามกันเลยก็มี   

ออฟไลน์ XyteBlaster

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,296
    • อีเมล์
Re: ช่วงล่างรถจีนกับรถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 29, 2024, 20:59:32 »
เคยขับจริง แบบให้ความเห็นได้แค่ไม่กี่คันครับ

ทำให้รู้ว่าความรู้สึกช่วงล่าง เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล  คนนึงว่าดี คนนึงว่าแย่

ผมใช้งานทุกวัน  model y. ที่เค้าว่าแย่ ผมกลับชอบ วิ่งเกือบ 200 มันก็มีย้วยบ้าง ขับช้า แน่นๆ ตึงๆ หน่อย
เพราะย้ายมาจาก CRV ที่รู้สึกว่ามันย้วยไป จนคิดจะเปลี่ยนโช๊ค แต่ได้เปลี่ยนรถซะก่อน

ตอนไปลอง ความรู้สึกช่วงล่างรถจีน บางคันดีผิดหูผิดตา(mg4)  บางคันห่วย (atto3)

ของแบบนี้ต้องไปลองเองครับ ระยะยาวก็วัดดวงกันไป

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,252
    • อีเมล์
Re: ช่วงล่างรถจีนกับรถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: มีนาคม 01, 2024, 15:59:13 »
สงสัยตอนนี้ รถจีนกับรถญี่ปุ่นถ้าเปรียบเทียบราคากับช่วงล่างที่ได้ ใครดีกว่าครับ
เช่น atto3 vs chr,cx30,xv,hrv
Seal vs carry,accord
หรือกระทั่งเทสล่ากับพวกยุโรปตัวเริ่มๆ

ผมเคยขับ model y ตัวนำเข้าgrey ช่วงล่างเลวร้ายมากครับแบบรับไม่ได้ genนั้นผมว่า altis,civic ช่วงล่างมั่นใจกว่าเยอะ
เเต่ปัจจุบันเห็นว่าดีขึ้นเลยอยากทราบว่าเเต่ละตัวเทียบช่วงล่างใกล้เคียงกันไหมครับ

เทียบชัดๆ seal กับ y ผมให้ y ดีกว่าในหลายๆ มุม ครับ

seal นุ่มกว่า มั่นใจกว่า ไม่สะดีดสะดิ้ง ไม่เด้ง แต่ y จะเด้งๆ กระด้าง จะเฟิร์มก็ไม่เฟิร๋ม แถมร่อนด้วย จนหลายคนมองหาที่จะเปลี่ยนโช้คเต็มกลุ่มไปหมด (อาจจะเกิดจากการปั่นขายด้วยส่วนหนึ่ง)

จริงๆ ช่วงล่าง จีน vs ญี่ปุ่น ชิ้นส่วนช่วงล่าง แทบจะเหมือนกันแหละครับ ต่างกันที่การปรับเซ็ต (หรือ การจูน) หรือ การตั้งใจให้รถคันนั้น ออกมาในรูปแบบไหน

ขนาดรถ จีน vs จีน หรือ ญี่ปุ่น vs ญี่ปุ่น ค่ายเดียวกัน คนละคัน หรือ คนละค่าย seg เดียวกัน ยังไม่เหมือนกันครับ มันเป็นเรื่องของรายละเอียด ความตั้งใจ และ การที่อยากให้รถคันนั้น character เป็นยังไง มากกว่า

ผมอ่านแล้วงง
สรุปคุณให้ Seal หรือ Y ดีกว่า

Y ครับ แต่ Y อย่างที่บอก มันออกแนวกระด้างๆ เด้งๆ

ส่วน Seal ก็พอได้ขับ เทียบกัน ความเร็วใช้งาน Seal โดยรวมนุ่มกว่าครับ

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,706
Re: ช่วงล่างรถจีนกับรถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: มีนาคม 02, 2024, 05:27:06 »
ดูจาก คคห ต่าง ๆ แล้ว ช่วงล่างดี ไม่ดี  ขึ้นอยู่กับ
จริต ความชอบ สไตล์ การขับขี่ของแต่ละคนเลยครับ

ออฟไลน์ punn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,605
  • may the force lead your way ...
Re: ช่วงล่างรถจีนกับรถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: มีนาคม 02, 2024, 13:31:58 »
สงสัยตอนนี้ รถจีนกับรถญี่ปุ่นถ้าเปรียบเทียบราคากับช่วงล่างที่ได้ ใครดีกว่าครับ
เช่น atto3 vs chr,cx30,xv,hrv
Seal vs carry,accord
หรือกระทั่งเทสล่ากับพวกยุโรปตัวเริ่มๆ

ผมเคยขับ model y ตัวนำเข้าgrey ช่วงล่างเลวร้ายมากครับแบบรับไม่ได้ genนั้นผมว่า altis,civic ช่วงล่างมั่นใจกว่าเยอะ
เเต่ปัจจุบันเห็นว่าดีขึ้นเลยอยากทราบว่าเเต่ละตัวเทียบช่วงล่างใกล้เคียงกันไหมครับ

เทียบชัดๆ seal กับ y ผมให้ y ดีกว่าในหลายๆ มุม ครับ

seal นุ่มกว่า มั่นใจกว่า ไม่สะดีดสะดิ้ง ไม่เด้ง แต่ y จะเด้งๆ กระด้าง จะเฟิร์มก็ไม่เฟิร๋ม แถมร่อนด้วย จนหลายคนมองหาที่จะเปลี่ยนโช้คเต็มกลุ่มไปหมด (อาจจะเกิดจากการปั่นขายด้วยส่วนหนึ่ง)

จริงๆ ช่วงล่าง จีน vs ญี่ปุ่น ชิ้นส่วนช่วงล่าง แทบจะเหมือนกันแหละครับ ต่างกันที่การปรับเซ็ต (หรือ การจูน) หรือ การตั้งใจให้รถคันนั้น ออกมาในรูปแบบไหน

ขนาดรถ จีน vs จีน หรือ ญี่ปุ่น vs ญี่ปุ่น ค่ายเดียวกัน คนละคัน หรือ คนละค่าย seg เดียวกัน ยังไม่เหมือนกันครับ มันเป็นเรื่องของรายละเอียด ความตั้งใจ และ การที่อยากให้รถคันนั้น character เป็นยังไง มากกว่า

ผมอ่านแล้วงง
สรุปคุณให้ Seal หรือ Y ดีกว่า

Y ครับ แต่ Y อย่างที่บอก มันออกแนวกระด้างๆ เด้งๆ

ส่วน Seal ก็พอได้ขับ เทียบกัน ความเร็วใช้งาน Seal โดยรวมนุ่มกว่าครับ

ตอนนี้ทั้งน้องที่มาลองขับและส่วนตัวผมเองชอบของโมเดล Y ที่สุดแล้วในรถตลาดทั่วไปนะครับ
จริงๆอาการกระด้างนิดๆนี้ของ Y ส่วนตัววิธีแก้คือเอาไปเติมไนโตรเจน  :-[
ก็งงเหมือนกันที่หลายกูรูพยายามบอกว่าไม่มีผลอะไรในเรื่องลมไนโตรเจน

แต่ส่วนตัวกลับรู้สึกว่ายางรู้สึกหนักแน่นขึ้น นุ่มขึ้น(ที่psiเท่ากัน) ลมซึมออกยากขึ้น
แต่เท่าที่เคยอ่านเจอหลายคนก็รู้สึกไปทางนี้เหมือนกัน
ส่วนตัวเลยชอบมากกว่าลมธรรมดาเพราะลดความกระด้างไปได้หน่อย
ใส่ทุกคันก็คิดไปเองได้ทุกคันก็แปลกดีครับ  ::)

--------

ส่วนช่วงล่างมันก็อยู่ที่ชนิดและความใส่ใจ
อย่างบางรุ่นให้ แมคเฟอร์สันสตรัท บางรุ่นให้ double wishbone
ซึ่งรถระดับพรีเมียมมักให้อย่างหลัง ก็หนุมานได้ว่าประสิทธิภาพน่าจะสูงกว่า

ส่วนคันที่ใช้แมคแล้วยังทำออกมาได้ดีก็แปลว่าใส่ใจ
แต่ถ้าตั้งต้นมาดีการทำต่อก็น่าจะจบง่ายกว่า หรือจบพอใจตั้งแต่ซื้อมาก็ได้ครับ
เป็นคนโลกปกติธรรมดา :)
ไม่โลกสวย และไม่โลกมืด อยู่กับความเป็นจริงและพลังงานบวก ..

ปราชญ์สอนสิ่งไหน คนก็จะจำสิ่งนั้น
ประสบการณ์เจอแบบไหน คนก็จะคิดทางนั้น
ต่างคนต่างประสบการณ์เรียนรู้สิ่งเดียวกัน ก็จะออกมาแตกต่างกันไปครับ