ข่าวดี (แนะให้ใคร่ครวญราคา E300e ลงเยอะ) เชิงเปรียบเทียบ

nobody123

E300e ช่วงล่างเดิม ๆ 0-100 เหลือเฟือ 5.7 วิ
ปรับราคาลง 830,000 เหลือ 3,190,000 ดังภาพ
*ถ้าเทียบกับ*
C350e ตัวใหม่ 0-100 ช้ากว่ากัน 0.4 วิ ชาร์จ DC ไว้ขึ้น แต่ชาร์จด้วยน้ำมันไม่ได้แล้ว และ ช่วงล่างหลังเปลี่ยนเป็นถุงลม
ปรับราคาลง 300,000 เหลือ 3,050,000
->เป็นท่าน ท่านจะเลือกคันไหน?
; ไม่จำเป็นต้องเทียบ อีกสองค่ายใหญ่นะครับ มันมีข้อดีแต่ละค่ายอยู่
แต่ในค่ายเดียวกัน สองคันราคาพอกันนี้ คันไหน . . . (และอาจเสริมหน่อย ว่า เพราะอะไร ครับ)

ปล. ส่วนตัว ผมเคยลอง E coupe ICE มือสอง และ C300e และ ... รวมทั้งอยู่ในกลุ่ม C300e ทราบข้อดีข้อเสีย
(ข้อเสียสำหรับผม มีมากกว่าคนอื่น คือ ลองแล้วมึนเพราะแบตวางกระจาย แม่บ้านหมุนรับไม่ได้แน่ ๆ)
สรุปไปจบ SUV ICE





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 27, 2024, 16:39:02 โดย nobody123 »



apinui

ถ้าให้เลือกสองตัวนี้ ผมเลือก C350e นะ เหตุผล มีอย่างเดียว มันสวยกว่าน่ะ ....

เซ็กเม้นท์อาจจะด้วยกว่า แต่ถ้าให้จอดคู่กันแล้ว ผมว่า C เค้าออกแบบมาดูสปอร์ตกว่าเยอะเลย



HLRx

ผมเลือก E ครับ เพราะเบาะหลังมีคนนั่งบ่อย



nobody123

ผมเลือก E ครับ เพราะเบาะหลังมีคนนั่งบ่อย
น่าจะขึ้นกับคนนั่งหลังด้วยเนาะครับ
E นี้ ช่วงล่างหลังไม่ถุงลม ยางหลังขอบ 35 เจ้าของบอกว่า ช่วงล่างออกเป็นแนวแข็ง นะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 27, 2024, 19:02:04 โดย nobody123 »



sulvin

ใช้ E350E w213 อยู่ขับดี นุ่มดี นั่งสบาย
ข้อเสียอย่างเดียวคือ ช่วงล่างถุงลม พังเกือบทุกปี ราคาต้นละประมาณ 9 หมื่น
ควรซื้อประกันเพิ่ม หรือ ประกันหมดไปใช้ของเทียบ ต้นละ 15,000



nnss

แต่ชาร์จด้วยน้ำมันไม่ได้แล้ว

ประโยคนี้หมายถึงยังไงครับ เครื่องติดไม่ปั่นไฟเข้าแบตหรอครับ



nobody123

ใช่ครับ ตัดระบบชาร์จแบตด้วย ICE



domenakrub

ชาร์ตแบตด้วยน้ำมัน ส่งผลเสียนะครับ เห็นวันนั้นมีคนจาก benz มาพูดอยู่ https://www.youtube.com/live/R8SVyFwy9j8?si=d7wGz_C7xdZXFFJ9



nobody123

ชาร์ตแบตด้วยน้ำมัน ส่งผลเสียนะครับ เห็นวันนั้นมีคนจาก benz มาพูดอยู่ https://www.youtube.com/live/R8SVyFwy9j8?si=d7wGz_C7xdZXFFJ9
ดูโดยรวมแล้ว
ผมเห็นด้วยกับผู้ดำเนินรายการ และ แขก หลายประเด็น ดังผมเคยนำเสนอในบอร์ดนี้ เลยครับ

ทั้งนี้ ไม่ชาร์จแบตด้วยน้ำมัน มีทั้งข้อดีและเสียครับ
คือ ผมว่า MB (ซึ่งผมก็มี) มองว่า
1. ใส่มาอีกมันหนัก
2. รถมี DC ชาร์จแล้ว แบตหมดก็เข้าชาร์จ DC ไม่นาน
แต่ ถ้าช่องชาร์จมันไม่ว่าง หรือ ไม่อยากรอ 20 นาที
มันก็ต้องขับเป็น ICE ไป ด้วยแรงไม่เต็มที่ (เพราะมอเตอร์ดับไปแล้ว)
ผมเคยลองรถผมเอง Hold bat ใช้แต่ ICE
ตอนเร่ง มันลากรอบหนะครับ

ส่วนตัว หลังใช้รถมาสองปีกว่า ผมเปลี่ยนพฤติกรรมจากเติมน้ำมัน E20 ให้ PHEV (เพราะมันแรงอยู่แล้ว)
มาเติม น้ำมันตัวท็อปเลย
เพื่อให้ถนอมเครื่องที่สุด (รอบต่ำก็แรง)
จะได้ไม่ต้องยกเครื่อง แม้ขับไป สมมติล้านโล ใช้พาร์ต ICE ไป สามแสนโล ก็พอดี (ไม่) ต้องยกเครื่อง ครับ



demo2

E ขับดีกว่า C พอควรเลยนะครับ ผมว่าดีกว่าแบบรู้สึกได้ถึงความต่างชัดเลย ยิ่งถ้ามีคนนั่งหลังบ่อยๆยิ่งต่างมาก ข้อเสีย 2 ข้อ คือ E ตัวนี้ w213 ตกรุ่นแล้ว และแบตไฮบริดวิ่งได้น้อยมากถ้าเทียบกับ  C350e ตัวปัจจุบัน
ถ้าเป็นผมซื้อตอนนี้ระหว่าง2ตัวนี้ ผมเอา C350e เพราะแบตวิ่งได้ไกลกว่าเยอะ ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน และยังไม่ตกรุ่นครับ
ปล 1 battery hybrid ของ MB พังบ่อย(หลายคันเลย) ซึ่งผมเป็น 1 ในผู้ประสบภัยแบตพัง ดีที่อยู่ในประกันแบต 10 ปี  และรออะไหล่นานมากๆๆ ตอนนี้รถผมจอดที่ศูนย์มาจะครบ 3 เดือนละ แบตจากเยอรมันเพิ่งมาถึงศูนย์ ไม่รู้จะใช้เวลาอีกกี่วันถึงจะเปลี่ยนเสร็จ
ปล 2 รถผม E300e W213 ครับ



DiKiBoyZ

ผมเลือก E ไม่ยากเลยครับ

ถ้าอยากได้ช่วงล่างนุ่มกว่าเดิม(ที่ไม่ใช่ถุงลม) ผมเอาไปทำต่อเองแบบที่ชอบครับ แต่บอดี้รถ ทำเองไม่ได้



nobody123

เจอคำตอบก่อนหน้าเข้าไป
เห็นด้วยเลยครับ



axister

ผมดวงไม่ดีกับ benz เลยครับ ตัวแรกรถประจำตำแหน่งมา e350e เสียบ่อย ละเสียแบบขับๆอยู่ไฟโชว์จอดปุ้บสตาทไม่ติดรถยกอย่างเดียว จนต้องขอทำเรื่องเปลี่ยน bmw530e มาใช้แทน พอหมด cycle มาอีกแล้วครับ e300e ยกหน้า อันนี้ดีกว่าหน่อยตรงไฟโชว์แต่ขับได้ แต่บ่อยมากกกกครับ ใช้รถแข่งกับ mg zs ของน้องในทีมแข่งกันเข้าศูนย์ใครเข้ารัวกว่า

ปัญหาผมว่าส่วนนึงคือเรื่องเครื่องยนต์ชาร์จแบตด้วยรึเปล่า แต่ระบบบูสไฟฟ้าตั้งแต่ mild hybrid ของเบนซ์มีปัญหาบ่อยมากเลยครับ ถ้าเป็นผมขอเลือก tech ใหม่แบบ c350e ดีกว่า ให้พิสูจน์ก่อนว่าพังมาก พังน้อย ดีกว่ารหัสที่พิสูจน์มาแล้วว่าพังบ่อยเร้าใจ



SM.

ยอดขายลงเยอะเลย ตั้งแต่เปลี่ยนมาใช้วิธีการใหม่ในการขาย เห็นเซลส์บางคนก็ออกมาทำงานอื่น หรือไม่ก็ย้ายค่ายไป