ความในใจของคนใช้วอลโว่ และเรื่องอยากฝากถึง Volvo Thailand

Komutmas

Volvo เป็นรถในฝันของผมตั้งแต่เด็กๆครับ
ผมค่อนข้าง "บ้า" แบรนด์นี้พอสมควร ตอนวัยรุ่นช่วงยี่สิบกลางๆ นี่ถึงขนาดว่ายอมบินไปสแกนดิเนเวียซ้ำๆ ถึง 3 รอบ
เพื่อที่จะไปเช่า Volvo XC60 , XC90 และ V90CC ขับ และเยี่ยมชม Volvo Museum ที่ Gothenburg
สุดท้ายเมื่ออะไรหลายๆอย่างพร้อม แน่นอนครับว่าผมเลือก Volvo XC60 เข้ามาเป็นสมาชิกในบ้าน


ผมอยู่กรุงเทพฯครับ
ปัจจุบันถ้าลองไล่ๆดู Volvo มีศูนย์บริการอยู่ที่
1. Wearnes หัวหมาก
2. Scandinavian รามอินทรา + บางนา
3. 14 พระราม2
4. พระนครสวีดิช วิภาวดี
5. GT วิทยุ
6. Newton ตลิ่งชัน
7. Merck พระราม3
8. MWONE บางบัวทอง (นับรวมให้ว่าเป็นกรุงเทพ)

ฟังดูแล้วเหมือนจะเยอะครอบคลุมพื้นที่กทม.ใช่ไหมครับ เมื่อเทียบกับปริมาณยอดขายรถวอลโว่ ที่อยู่ในกลุ่มกลางๆตารางเทียบกับแบรนด์ตะวันตกอื่นๆ

ทีนี้ลองมาฟังข้อเท็จจริงหลังจากที่ผมได้เข้ามาเป็น "ครอบครัววอลโว่"  เกือบๆ 3 ปีดูนะครับ

ผมออกรถจากศูนย์ ก. เมื่อปี 2022 ครับ หลังจากออกรถได้ 5 เดือน ผมจับอาการได้ว่ารถมีเสียงกุกๆๆที่เบรคคู่หลังเมื่อชะลอเบรค ทนใช้ไปอยู่ประมาณอาทิตย์นึง
รู้สึกละว่าไม่ปกติ และไม่ปลอดภัยแน่ๆ ตัดสินใจเรียกรถสไลด์ยกไปส่งที่ ศูนย์ ก.  ช่างได้ทำการถอดล้อมาดูแล้วขัดๆจานเบรคก่อนบอกว่า "ปกติ"
ผมเอารถกลับไปใช้อีกพักใหญ่ๆ ก็ยังคงมีเสียงกุกๆๆ เบาๆ ครางๆ เมื่อชะลอเบรค โผล่มาเป็นระยะๆ จนนานวันเข้า แทนที่จะชินมันกลับยิ่งเพิ่มความรำคาญ
ผมโทรไปที่ ศูนย์ ก. อีกครั้งนึง เพื่อต้องการ "ทำนัด" เข้าเช็คอาการ
ช่างจาก ศูนย์ ก. แจ้งว่า คิวในการเข้ารับบริการนั้นประมาณ 6 สัปดาห์
.
.
ครับ ให้รอ 6 สัปดาห์ กับเรื่อง "เบรค" ที่เป็นหนึ่งในความปลอดภัยสำคัญที่สุดของรถ
.
.
ผมไม่รอครับ หาข้อมูลศูนย์อื่นๆในพื้นที่ กทม. ก็เลือกที่จะติดต่อ ศูนย์ ข. ไป เล่าอาการให้เสร็จสรรพ
ช่างจาก ศูนย์ ข. บอกว่า  อาการนี้ค่อนข้างสำคัญ ให้ผมเอารถเข้าไปเลยจะช่วยลัดคิวดูให้อย่างด่วน
ผลปรากฎว่า รถผมผ้าเบรคแตกครับ ร่อนเป็นแผ่นๆเลย คือเพียงคุณถอดล้อ ถอดผ้าเบรคออกมาก็เจอสาเหตุละ
.
.
Volvo ศูนย์ ข. เคลมเปลี่ยนผ้าเบรคคู่หลังให้ผมครับ โดยผ้าเบรคเดิมที่เป็นปัญหานั้นเป็น part ที่ Made in China (นี่พูดจริงไม่ได้บุลลี่)
ใครที่ใช้ XC60 ลองไปก้มดูผ้าเบรคหลังรถตัวเองดูนะ ว่าจริงมั้ย
แต่ผ้าเบรคใหม่ที่ผมได้เปลี่ยนมานั้นเป็น part Made in Italy
ช่างจาก ศูนย์ ข. แจ้งว่า อาการผ้าเบรคติดรถบวมเมื่อเจอความชื้น แล้วแตกร่อน เป็นอาการประจำของรุ่นนี้
.
.
ผมฟังก็เคืองนะ เคืองแรกคือ น่าแปลกที่ศูนย์แรกหาไม่เจอ และ จบการรักษาด้วยคำพูดว่า "ปกติ"
เคืองที่สองคือ ในเมื่อวอลโว่รู้ทั้งรู้ว่าไอ้ของติดรถมามันเป็นปัญหา ทำไมไม่recallรถกลับไปแก้ไข
ผมได้ทำจดหมายร้องเรียนไปยังวอลโว่ประเทศไทย รวมถึงร้องเรียนศูนย์ ก. ก็ไม่ได้คำตอบอะไรนอกจากต่อสายให้ช่างของศูนย์โทรมาขอโทษ
และชี้แจงว่า เราจะเปลี่ยนให้ก็ต่อเมื่อรถคันนั้นๆมีปัญหาแต่ไม่สามารถ recall ได้ทั้งหมด
ผมได้ลองปรึกษาทนายดูว่าสามารถทำอะไรเพิ่มเติมได้บ้างมั้ย แต่ก็ถูกผู้ใหญ่ในบ้าน "ยั้ง" มา เพราะเกรงว่าเรายังใช้รถแบรนด์เขาอยู่
อ่ะ เรื่องนี้ก็ถือว่าจบไป  แต่ผมก็ไม่กลับไปเหยียบศูนย์ ก. อีก
.
.
รถผมมี VPSP 5-5-5 ครับ มันก็อุ่นใจนะ เรียกได้ว่าเป็นปัจจัยหลักๆเลยแหละที่ผมเลือกวอลโว่
ผมรู้สึกว่า "บุคคลิก" ของกลุ่มผู้ใช้รถยี่ห้อนี้ค่อนข้าง Unique ดี คือมันไม่เหมือนผู้ใช้ Mercedes-Benz หรือ BMW
บรรยากาศในโชว์รูม รวมไปถึงปฏิสัมพันธ์ของพนักงานขายมันก็ต่างกับสองค่ายเยอรมัน
อันนี้ที่รู้เพราะว่า ผมมีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยมชม เยี่ยมเยียน ค่ายเยอรมันอยู่บ้างตอนที่จะตัดสินใจซื้อรถ
.
.
วันนี้รถผมก็จะเข้าปีที่3ละ กับเลขไมล์ 20,000 กิโลเมตร ถือว่าวิ่งน้อยมาก
แต่มันก็มีปัญหาครับ
.
.
เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รถผมมีอาการไฟท้ายค้างครับ
คือปกติเมื่อเราปลดล้อครถเนี่ย ไฟ Daytime ทั้งหน้าและหลังจะติดอยู่ประมาณ 1 นาทีแล้วดับไป
แต่รถผมนั้นเจ้าไฟท้ายติดอยู่เป็นวันเลยครับ ค้างอยู่แบบนั้นแหละจนพ่อบ้านผมทนไม่ไหว เลยมาแจ้งผม เออ..ผมก็เพิ่งสังเกต
ลองล้อครถ กระจกมองข้างก็พับเรียบร้อย แต่ไฟท้ายก็ไม่ดับ
ปลดล้อคด้วยแอพ ปลดล้อคด้วยรีโมท ปลดล้อคด้วย Keyless ยังไงก็ไม่ดับ
ต้องติดเครื่องแล้วดับเครื่องลงรถล้อคประตูมันถึงจะยอมดับให้
อาการนี้ไม่ได้เป็นทุกครั้ง แต่เป็นหลายครั้ง เป็นจนระแวง เป็นจนถ่ายรูปเป็นไทม์ไลน์ได้เลย
.
.
ผมได้ติดต่อ ศูนย์ ข. เพื่อขอเอารถเข้าไปเช็ค ปรากฎว่าต้องรอคิวประมาณ 2 สัปดาห์ครับ
ผมไม่รอ ผมรู้สึกว่าเฮ้ย...รถมันเกิดปัญหานะ จะให้รอ 2 สัปดาห์ แล้วถ้าไฟมันหมด มันช้อต มันจะไม่ยิ่งไปกันใหญ่หรอ!?
เลยตัดสินใจ walk in เอารถเข้าไปเลยครับ คือทำใจไว้แล้วตั้งแต่ก่อนไปว่า ยังไงก็คงต้องทิ้งรถไว้แน่ๆ เพราะเราเป็นเคส walk in
.
.
ปรากฎว่า ช่างจากศูนย์ ข. บอกว่าได้เช็ค error code แล้วไม่พบข้อผิดปกติใดๆ และได้วินิจฉัยเบื้องต้นว่า เป็นที่ผมไม่ได้อัพเดตซอฟต์แวร์ครับ
ช่างเลยจัดการอัพเดตซอฟแวร์ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด โดยให้ผมนั่งรอประมาณ 1 ชั่วโมงแล้วเอารถกลับบ้านได้เลย
ผมก็อ่ะ...ตามนั้น รู้สึกตัวเองโง่และตื่นตูมพอสมควร 
.
.
แต่...ที่สุดแล้วอาการมันก็ไม่หายครับ เป็นเหมือนเดิมทุกประการ แน่นอนครับ ปัญหาไม่ใช่เรื่องซอฟต์แวร์ละ
ผมค่อนข้างหัวเสียพอสมควรเลย เพราะจากบ้านผมไปที่ ศูนย์ ข. นั้นไม่ใช่ใกล้ๆเลยนะ
จริงๆแล้วบ้านผมอยู่ใกล้ศูนย์ ค. ในระยะที่ "เดิน" ถึงภายใน 10 นาที แต่ผมรู้สึกดีกับ ศูนย์ ข. เลยเลือกจะเดินทางไป
มันเสียเวลา เสียความรู้สึก และที่สำคัญ เสียความมั่นใจในรถและในศูนย์อ่ะ
.
.
.
ประเด็นแรก เป็นประเด็นที่ผมคาใจมากๆ คือ "ขอบเขตความสามารถในการให้บริการที่ดี" ของศูนย์วอลโว่นี่มันเพียงพอต่อจำนวนรถที่ขายออกไปหรือเปล่า???
อย่างเคสศูนย์ ก. ที่ให้ผมรอคิวเข้าตรวจเช็คนานถึง 6 สัปดาห์ กับปัญหาในเรื่องของ  "เบรค" นี่ผมว่ามัน bud-sop มากเลยนะ

ถ้าจะให้เปรียบเทียบ มันเหมือนกับผมจ่ายเงินซื้อบริการที่ดีและสะดวกสบายพร้อมความน่าเชื่อถือทางการแพทย์จากโรงพยาบาลกรุงเทพ
แต่พอเวลาเจ็บป่วยมา ผมได้รับบริการแบบโรงพยาบาลเลิดสิน หรือ ราชวิถีอ่ะ 
คือ...กรูจะตายอยู่แล้ว ยังต้องให้พ่อให้แม่ให้น้องแหกตาไปรับบัตรคิวตอนตี5 แล้วนอนรอบนเปลหรือสลบพิงผนังบนรถเข็นรอหมอมาตรวจตอนเที่ยง 
นี่คือสิ่งที่ผมควรได้รับจริงๆหรอ?
.
.
ประเด็นที่สอง คือ เรื่องความสามารถในการวิเคราะห์อาการของศูนย์บริการ
ถามจริงๆนะ ช่างมีความชำนาญในการวิเคราะห์อาการรถขนาดไหน? ก่อนจะปล่อยลงงานนี่ผ่านการอบรมมากี่ชั่วโมง? อัพเดตความรู้หรือเทรนนิ่งทุกๆกี่เดือน?
หรือทุกอย่างยึดโยงกับระบบคอมพิวเตอร์ไปเสียหมด?
คือ การที่เอารถไปเข้าศูนย์แล้วโบ้ยไปที่ซอฟต์แวร์ไม่ได้อัพเดต มันไม่ต่างกับการที่ไปหาหมอแล้วให้พารามากินอ่ะครับ
นี่ผมยังไม่รู้เลยเนี่ยว่าต้องวิ่งไปกลับศูนย์อีกกี่รอบ  ปลง
.
.
แล้วนี่รถอายุแค่ 3 ปีนะ เลขไมล์ 20,000 กิโลเมตรเองนะ ยังเจอเหตุการณ์เสียจุกจิกแบบนี้
แล้วถ้ารถหมด VPSP ไม่หายนะเลยหรอ
ผมเคยตั้งกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการวางแผนอนาคตของเจ้ารถคันนี้
https://community.headlightmag.com/index.php?topic=88885.msg1529097#msg1529097
ตอนนี้ใจผมกว่า 50% ค่อนข้างมั่นใจว่าจะปิดจบงวดผ่อน สักประมาณงวดที่ 52/60 แล้วชิงขายตอนที่มี VPSP ดีกว่า น่าจะสวยสุด
ปวดตับ ปวดไต ปวดใจ จริงๆ
.
.
ผมหล่ะสงสัยจริงๆ รถสวีเดน รถเยอรมัน ที่วิ่งเป็นแท้กซี่กันเกลื่อนยุโรป รวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์
ทำไมมันถึกมันทนจังเลย ทำไมพอมาอยู่บ้านเรานี่มันป่วยกระเสาะกระแสะ ไม่เข้าใจจริงๆ



mhujee

  เอ...เหมือนสัปดาห์ก่อนๆ ไช่คุณพี่ไหมที่ตั้งกระทู้โพสชม 0วอลโว่ เรื่องการเข้าไปเช็คระยะ หรืออะไรนี่ล่ะ
แล้วตอนนี้เกิดอะไรขึ้น หากไม่ไช่คุณพี่ก็ขออภัยด้วยครับ
  เป็นการเล่าเรื่องที่น่าฟัง และเข้าใจง่ายดีครับ ชื่นชม



DiKiBoyZ

แจ้งในนี้ ไม่มีประโยชน์ครับ

ถ้าเป็นลูกค้า แจ้งตรงที่ศูนย์บริการ หรือ คอลเซ็นเตอร์ หรือ เพจ vv ประเทศไทย เลยครับ มีประโยชน์และตรงจุดกว่า

  เอ...เหมือนสัปดาห์ก่อนๆ ไช่คุณพี่ไหมที่ตั้งกระทู้โพสชม 0วอลโว่ เรื่องการเข้าไปเช็คระยะ หรืออะไรนี่ล่ะ
แล้วตอนนี้เกิดอะไรขึ้น หากไม่ไช่คุณพี่ก็ขออภัยด้วยครับ
  เป็นการเล่าเรื่องที่น่าฟัง และเข้าใจง่ายดีครับ ชื่นชม

คนละคน



nobody123

คนชม ผมเองครับ
ขอแสดงความเสียใจกับปัญหาครับ
ดีครับ ช่วยกันเป็นกระบอกเสียง บริษัทรถจะได้ดีขึ้น

ผมมีรถสามค่ายหลัก ทั้งสามค่าย ทั้ง ศูนย์ และ ตัวรถ มีปัญหาเกือบหมด ครับ
การปล่อยรถมีปัญหาออกมาหลังซ่อม ไม่ใช่แค่เจ้าของรถประสบแน่นอนครับ ผมประสบกับอีกค่ายหลัก
ส่วนประเด็นความเสถียรตัวรถ BM MB ผมมีเรียกคืน ไม่นับถุงลม Takata นะครับ
(MB นี่ระบบบังคับเลี้ยว ต่างประเทศเกิดอุบัติเหตุแล้วครับ) ส่วน VV ผมมีแต่เข้าศูนย์แล้วอัพซอฟต์แวร์
ศูนย์ BM VV จองคิวนาน
(ซึ่งพอ BM ไปใช้อู่นอก สามอู่ สามปัญหา
1. Treat คนวัยกลางคนเสมือนเป็นเด็กมหาลัย เพราะ อู่อยู่แถวมหาลัย
2. เติมน้ำมันเครื่องห่วยให้แล้วบอกว่าดีกว่าของศูนย์ ผมรู้เพราะรถกินน้ำมันเครื่องมากกว่าปกติ
3. (อาจ)ขโมยของ อันนี้ จับไม่ได้เลย
คือ ซ่อมเครื่องจาอู่นอกเสร็จแล้ว ก็ให้อีกที่มารับไปซ่อมตัวถังต่อ เลยไม่รู้อู่เครื่องหรืออู่ตัวถังมีขโมย)
ศูนย์ MB จองคิวเกือบนาน แต่ก็ซ่อมนานนะครับ และมีปัญหานึงผมก็ซ่อมไม่จบ ต้องเปลี่ยนศูนย์

ตอนนี้ การบริการ สามค่ายหลัก พอกันแล้วครับ จากคนเอารถเข้าซ่อมบำรุงมาสิบกว่าครั้ง
เช่น ศูนย์ตัวถัง Volvo หทัยราษฎร์ เดิมดิบ ๆ ตอนนี้ มีห้องกาแฟ/เครื่องดื่ม ดีแล้ว (ซ่อมดีอยู่แล้ว)
ส่วนตัวมองว่า ถ้ามีศูนย์อยู่ใกล้บ้าน สามค่ายนี้ ใช้(ไม่)ได้พอกันแล้วครับ
(และมียิบย่อยแตกต่างกันของแต่ละเจ้า ไว้วันหลังคุยกัน)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 28, 2024, 10:39:48 โดย nobody123 »



apinui

ใช้มา 3 ปี ..

ปัญหาที่เจออันแรก ผ้าเบรคแตก เปลี่ยนให้เครมฟรี
ปัญหาที่สอง ไฟท้ายค้าง

3 ปี เจอปัญหาแค่นี้ มันน้อยมาก ... ลองไปยุโรปค่ายอื่นดูครับ เดียวจะรีบปิดงวดตั้งแต่ 12 เดือนแรก ย้านมาวอลโว่เหมือนเดิม



XMSL

แยกเป็นสองส่วนนะครับ
เรื่องศูนย์กับความสามารถเฉพาะบุคคลของช่างเอาแน่นอนไม่ได้
- คิดว่าระบบการรวบรวมปัญหาน่าจะมี (bullatin/faq) แต่ช่างชุ่ยไม่ศึกษาและไม่มีการทบทวน นิสัยช่างไทย ย้ายไปค่ายไหนก็คงเจอ
- ช่างขาดและไม่พอ น่าจะเงินเดือนน้อย เปลี่ยนบ่อย ก็ขนาดใบปัดน้ำฝน/แบตฯ เจ้าของรถคันละหลายล้านยังอยากเซฟเงินพันสองพันไปเทียบอะไหล่
- ประเด็นเทคนิคหลายอย่างที่ผู้ใช้หาความรู้จนรู้มากกว่าศูนย์บริการ

เรื่องตัวรถ/แบรนด์
- ปัญหาประจำรุ่นหรือเทคนิคเบื้องต้น หลายครั้งผมเชื่อว่าเจ้าของรถต้องหาข้อมูล
- เรื่องปัญหาถ้าไม่โชคร้ายจริงๆเจอเรื่องไฟเครื่องไฟเกียร์ เจ้านี้ก็จัดว่าปัญหาไม่เยอะ
- VCT น่าจะไม่ได้ลงมาดูรายละเอียดทางเทคนิค น่าจะแค่ทำ dealership agreement แล้วปล่อยศูนย์ใช้การตลาดนำ



klakla

ตัวรถก็เรื่องนึง เรื่องศูนย์ก็เรื่องนึง

เรื่องศูนย์เนี่ยผมว่าผมก็บ่นได้พอสมควรเหมือนกัน สิ่งที่ควรปรับปรุงเลยคืออย่าให้ช่างมาดีลกับลูกค้าโดยตรงเลย บางครั้งความสุภาพ การพูดจาโต้ตอบกันมันไม่ได้เลย แบบไม่ได้จริงๆแบบอิหยังวะ รบกวนหาคนกลางที่ประสานเป็นคนกลางระหว่างช่างกับลูกค้าหน่อยเถอะ

ศูนย์พระราม 2 ผมเพิ่งไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องมา เพราะเห็นมีโปรลด 20% ผมก็โทรไปจองคิวตั้งแต่ต้นเดือน กย เพื่อจะไปตอนปลายเดือน แล้วเกิดอะไรขึ้นกับผมพอผมเข้าไปทำรถ คำแรกเค้าบอกโปรโมชั่นส่วนลดหมดไปแล้ว ทั้งๆที่ตอนบอกมีโปรคือถึง 30 กันยา ผมเข้าไปทำ 28 กันยา ผมก็โวยสิ สุดท้ายอ้างว่า เดี๊ยวไปขอส่วนลดจากผู้จัดการศูนย์มาให้ 15% ผมแม่งโคตรเซง แล้วศูนย์นี้แม่งก็มีคิดรายการแปลกๆอะไรก็ไม่รู้ ตรวจระบบส่งกำลังงี้ ค่าจิ้ม vida งี้ ทั้งๆที่ผมเปลี่ยนปีที่แล้วที่ ศูนย์ตรงบางบัวทอง ไม่มีค่าบริการพวกนี้ ผมล่ะงงกับการบริการมาก ว่าไม่เหมือนกันให้เป็นมาตรฐานเดียวหรือ ผมถามไปเค้าก็ตอบไม่ได้ว่าทำไม

แถมก็ไม่มีผลลัพท์อะไรบอกด้วยว่าตรวจแล้วเป็นยังไง แค่อยากคิดเงินเฉยๆ

รถผมส่วนใหญ่ก็ทำที่อู่หมด แต่ต้องเข้าศูนย์ปีละครั้งเพื่อเอาประกันอะไหล่กับเค้าจะมีแถมสไลด์รถฟรี 1 ปีถ้าเสีย ยังปวดหัวเลยเจอแบบนี้



wesborland

เรื่องการแก้ไข ก็ขอเป็นกำลังใจให้ผ่านพ้นไปด้วยดีครับ

ส่วนเรื่องการคอมเพลน ทริคผม
อีเมล์ไปคอมเพลน(เป็นภาษาอังกฤษจะดีมาก) เขียนให้ยาวที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งชม ทั้งด่า ทั้งแนะนำ To Head Office(Thailand) , Dealer , Sale ที่ดูแลเรา
แปปเดียว ของที่ระลึกเต็มบ้าน



boost

รถฝรั่งเค้าทำรถมาดีครับ ตั้งใจให้ทนทานสมราคา(ราคาที่เมืองนอก) แต่ต้นตอคือช่างประจำศูนย์ในไทยซ่อมไม่เป็น  ;D
2020 CIVIC fc RS 1.5
2018 CX3 XDL 1.5
2017 Mirage GLS-LTD
2015 NAVARA VL auto 4wd
2012 almera V auto
2008 camry acv40 2.4
1991 A31 Rb25det set bo TD06-24v
1990 A31 2JZ GTE 5speed M/T
1984 SUPRA A60 1JZ GTE M/T



IS2000

ศูนย์รถทางการหลายเจ้าซ่อมรถไม่เก่งครับจากที่ผมเจอมา วิธีที่ดีที่สุดคือต้องไปศึกษาจากพวกเว็บบอร์ดต่างประเทศแล้วเอามาแย้งกับศูนย์ครับ บางเจ้าถ้าเค้ายอมฟังก็อาจจะเช็คตามที่เราบอกได้แต่หลายที่ก็ไม่น่าจะยอมลูกค้าครับ อีกอย่างรถใช้งานในเมืองอย่างกรุงเทพนี่ผมถือว่าใช้งานหนักครับถ้าเทียบกับต่างประเทศ ทั้งสภาพอากาศ การจราจร และสภาพถนน รถในไทยถ้าเทียบเลขไมล์แล้วเสื่อมเร็วกว่ารถที่ใช้ในประเทศอื่นๆอีกหลายประเทศครับ เคยจะซื้อรถมือสองที่อเมริกาเลขไมล์ 200,000 แต่ช่วงล่างภายในและระบบขับเคลื่อนแน่นมากครับ มาเทียบกับรถในไทยเลขไมล์ 50,000 หลายคันรู้สึกหลวมกว่ารถเก่าในอเมริกาครับ
1 3 5
├┼┼╕
2 4 6 R



klakla

อีกเรื่องคือปีนี้ตัว vct เองงกมาก ไม่มีจัดแคมเปญอะไรเลย ขนาดคนที่ศูนย์เองยังบ่น

ปกติจะมีลดน้ำมันเครื่อง โช้ค แบต ผ้าเบรคจานเบรค ฝาสูบยังเคยมี สลับๆวนๆไปทุก 3 เดือน แต่ปีนี้ วอลโว่ไม่มีเลยซักรายการ



helloweentz

BRV 2016
Mileage :  173,583
รายการซ่อม :
เกียร์
แอร์
โช๊คหลัง
ลูกยางยึดท่อ
เพลาขับ



dht_tubes

ขอบเขตในการบริการที่ดี บางครั้งไม่ได้อยู่ที่เงินที่จ่ายไปเท่านั้นครับ

ความพรีเมี่ยมของสินค้าที่ทำตลาดในไทย มันคือเปลือกเพื่อตอบสนองความพอใจ คำว่า luxury

Proud of ownership ต่างๆนาๆ จ่ายแพงต้องได้ของดี ถามว่าผิดไหมไม่ผิดครับ

แต่กับวงการรถยนต์ การบริการหลังการขายของศูนย์บริการ หรือคุณภาพตัวรถหลายยี่ห้อ

หลายครั้งคนซื้อแพงก็ถูกหลอกฟันดีดีนี่เองครับ

มันไม่ถูกต้องหรอกแต่มันคือเรื่องจริงที่เกิดในประเทศเรา

ถ้าถามผม จากคนใช้รถราคาถูก มาจนราคาถึงจุดนึง ผมว่ามันง่ายๆเลยคือ แล้วแต่ดวง กับ ความคาดหวังของเจ้าของรถคันนั้น ที่เหลือมันก้อคือ ดวงล้วนๆ

ต่างประเทศเค้าเป็นแบบนี้มั้ย ต้องรอท่านที่มีประสบการณ์ในต่างแดนมาตอบละ

ขอให้แก้ปัญหาให้ได้เร็วๆครับ เอาใจช่วย



Devil13

น่าแปลกที่แบรนเน้นชูจุดเด่นด้านความปลอดภัย มาพร้อมกับสโลแกน Volvo for life กับไม่ค่อยกระตือลือล้นด้านความปลอดภัยเลย



XyteBlaster

เจอแบบนี้คนมีตังหลายคนเลยไม่ใช้พวกยุโรปครับ ใช้โตโยต้า สบายใจกว่า

เพราะเราจ่ายเงินมากกว่าก็คาดหวัง บริการและคุณภาพที่มากกว่า  แต่ความเป็นจริงมันไม่ใช่ในทุกเรื่องครับ  คนเลยเข็ดกัน



Crishere1983

Volvo เป็นรถในฝันของผมตั้งแต่เด็กๆครับ
ผมค่อนข้าง "บ้า" แบรนด์นี้พอสมควร ตอนวัยรุ่นช่วงยี่สิบกลางๆ นี่ถึงขนาดว่ายอมบินไปสแกนดิเนเวียซ้ำๆ ถึง 3 รอบ
เพื่อที่จะไปเช่า Volvo XC60 , XC90 และ V90CC ขับ และเยี่ยมชม Volvo Museum ที่ Gothenburg
สุดท้ายเมื่ออะไรหลายๆอย่างพร้อม แน่นอนครับว่าผมเลือก Volvo XC60 เข้ามาเป็นสมาชิกในบ้าน


ผมอยู่กรุงเทพฯครับ
ปัจจุบันถ้าลองไล่ๆดู Volvo มีศูนย์บริการอยู่ที่
1. Wearnes หัวหมาก
2. Scandinavian รามอินทรา + บางนา
3. 14 พระราม2
4. พระนครสวีดิช วิภาวดี
5. GT วิทยุ
6. Newton ตลิ่งชัน
7. Merck พระราม3
8. MWONE บางบัวทอง (นับรวมให้ว่าเป็นกรุงเทพ)

ฟังดูแล้วเหมือนจะเยอะครอบคลุมพื้นที่กทม.ใช่ไหมครับ เมื่อเทียบกับปริมาณยอดขายรถวอลโว่ ที่อยู่ในกลุ่มกลางๆตารางเทียบกับแบรนด์ตะวันตกอื่นๆ

ทีนี้ลองมาฟังข้อเท็จจริงหลังจากที่ผมได้เข้ามาเป็น "ครอบครัววอลโว่"  เกือบๆ 3 ปีดูนะครับ

ผมออกรถจากศูนย์ ก. เมื่อปี 2022 ครับ หลังจากออกรถได้ 5 เดือน ผมจับอาการได้ว่ารถมีเสียงกุกๆๆที่เบรคคู่หลังเมื่อชะลอเบรค ทนใช้ไปอยู่ประมาณอาทิตย์นึง
รู้สึกละว่าไม่ปกติ และไม่ปลอดภัยแน่ๆ ตัดสินใจเรียกรถสไลด์ยกไปส่งที่ ศูนย์ ก.  ช่างได้ทำการถอดล้อมาดูแล้วขัดๆจานเบรคก่อนบอกว่า "ปกติ"
ผมเอารถกลับไปใช้อีกพักใหญ่ๆ ก็ยังคงมีเสียงกุกๆๆ เบาๆ ครางๆ เมื่อชะลอเบรค โผล่มาเป็นระยะๆ จนนานวันเข้า แทนที่จะชินมันกลับยิ่งเพิ่มความรำคาญ
ผมโทรไปที่ ศูนย์ ก. อีกครั้งนึง เพื่อต้องการ "ทำนัด" เข้าเช็คอาการ
ช่างจาก ศูนย์ ก. แจ้งว่า คิวในการเข้ารับบริการนั้นประมาณ 6 สัปดาห์
.
.
ครับ ให้รอ 6 สัปดาห์ กับเรื่อง "เบรค" ที่เป็นหนึ่งในความปลอดภัยสำคัญที่สุดของรถ
.
.
ผมไม่รอครับ หาข้อมูลศูนย์อื่นๆในพื้นที่ กทม. ก็เลือกที่จะติดต่อ ศูนย์ ข. ไป เล่าอาการให้เสร็จสรรพ
ช่างจาก ศูนย์ ข. บอกว่า  อาการนี้ค่อนข้างสำคัญ ให้ผมเอารถเข้าไปเลยจะช่วยลัดคิวดูให้อย่างด่วน
ผลปรากฎว่า รถผมผ้าเบรคแตกครับ ร่อนเป็นแผ่นๆเลย คือเพียงคุณถอดล้อ ถอดผ้าเบรคออกมาก็เจอสาเหตุละ
.
.
Volvo ศูนย์ ข. เคลมเปลี่ยนผ้าเบรคคู่หลังให้ผมครับ โดยผ้าเบรคเดิมที่เป็นปัญหานั้นเป็น part ที่ Made in China (นี่พูดจริงไม่ได้บุลลี่)
ใครที่ใช้ XC60 ลองไปก้มดูผ้าเบรคหลังรถตัวเองดูนะ ว่าจริงมั้ย
แต่ผ้าเบรคใหม่ที่ผมได้เปลี่ยนมานั้นเป็น part Made in Italy
ช่างจาก ศูนย์ ข. แจ้งว่า อาการผ้าเบรคติดรถบวมเมื่อเจอความชื้น แล้วแตกร่อน เป็นอาการประจำของรุ่นนี้
.
.
ผมฟังก็เคืองนะ เคืองแรกคือ น่าแปลกที่ศูนย์แรกหาไม่เจอ และ จบการรักษาด้วยคำพูดว่า "ปกติ"
เคืองที่สองคือ ในเมื่อวอลโว่รู้ทั้งรู้ว่าไอ้ของติดรถมามันเป็นปัญหา ทำไมไม่recallรถกลับไปแก้ไข
ผมได้ทำจดหมายร้องเรียนไปยังวอลโว่ประเทศไทย รวมถึงร้องเรียนศูนย์ ก. ก็ไม่ได้คำตอบอะไรนอกจากต่อสายให้ช่างของศูนย์โทรมาขอโทษ
และชี้แจงว่า เราจะเปลี่ยนให้ก็ต่อเมื่อรถคันนั้นๆมีปัญหาแต่ไม่สามารถ recall ได้ทั้งหมด
ผมได้ลองปรึกษาทนายดูว่าสามารถทำอะไรเพิ่มเติมได้บ้างมั้ย แต่ก็ถูกผู้ใหญ่ในบ้าน "ยั้ง" มา เพราะเกรงว่าเรายังใช้รถแบรนด์เขาอยู่
อ่ะ เรื่องนี้ก็ถือว่าจบไป  แต่ผมก็ไม่กลับไปเหยียบศูนย์ ก. อีก
.
.
รถผมมี VPSP 5-5-5 ครับ มันก็อุ่นใจนะ เรียกได้ว่าเป็นปัจจัยหลักๆเลยแหละที่ผมเลือกวอลโว่
ผมรู้สึกว่า "บุคคลิก" ของกลุ่มผู้ใช้รถยี่ห้อนี้ค่อนข้าง Unique ดี คือมันไม่เหมือนผู้ใช้ Mercedes-Benz หรือ BMW
บรรยากาศในโชว์รูม รวมไปถึงปฏิสัมพันธ์ของพนักงานขายมันก็ต่างกับสองค่ายเยอรมัน
อันนี้ที่รู้เพราะว่า ผมมีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยมชม เยี่ยมเยียน ค่ายเยอรมันอยู่บ้างตอนที่จะตัดสินใจซื้อรถ
.
.
วันนี้รถผมก็จะเข้าปีที่3ละ กับเลขไมล์ 20,000 กิโลเมตร ถือว่าวิ่งน้อยมาก
แต่มันก็มีปัญหาครับ
.
.
เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รถผมมีอาการไฟท้ายค้างครับ
คือปกติเมื่อเราปลดล้อครถเนี่ย ไฟ Daytime ทั้งหน้าและหลังจะติดอยู่ประมาณ 1 นาทีแล้วดับไป
แต่รถผมนั้นเจ้าไฟท้ายติดอยู่เป็นวันเลยครับ ค้างอยู่แบบนั้นแหละจนพ่อบ้านผมทนไม่ไหว เลยมาแจ้งผม เออ..ผมก็เพิ่งสังเกต
ลองล้อครถ กระจกมองข้างก็พับเรียบร้อย แต่ไฟท้ายก็ไม่ดับ
ปลดล้อคด้วยแอพ ปลดล้อคด้วยรีโมท ปลดล้อคด้วย Keyless ยังไงก็ไม่ดับ
ต้องติดเครื่องแล้วดับเครื่องลงรถล้อคประตูมันถึงจะยอมดับให้
อาการนี้ไม่ได้เป็นทุกครั้ง แต่เป็นหลายครั้ง เป็นจนระแวง เป็นจนถ่ายรูปเป็นไทม์ไลน์ได้เลย.
นอกจากนี้ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ฉันเริ่มเล่น Counter-Strike และเปิดเคสบนแพลตฟอร์ม เปิดกล่อง cs2 เพื่อรับสกินที่ดีที่สุดสำหรับอาวุธ ช่วยให้คุณผ่อนคลายและสนุกสนาน
.
.
ผมได้ติดต่อ ศูนย์ ข. เพื่อขอเอารถเข้าไปเช็ค ปรากฎว่าต้องรอคิวประมาณ 2 สัปดาห์ครับ
ผมไม่รอ ผมรู้สึกว่าเฮ้ย...รถมันเกิดปัญหานะ จะให้รอ 2 สัปดาห์ แล้วถ้าไฟมันหมด มันช้อต มันจะไม่ยิ่งไปกันใหญ่หรอ!?
เลยตัดสินใจ walk in เอารถเข้าไปเลยครับ คือทำใจไว้แล้วตั้งแต่ก่อนไปว่า ยังไงก็คงต้องทิ้งรถไว้แน่ๆ เพราะเราเป็นเคส walk in
.
.
ปรากฎว่า ช่างจากศูนย์ ข. บอกว่าได้เช็ค error code แล้วไม่พบข้อผิดปกติใดๆ และได้วินิจฉัยเบื้องต้นว่า เป็นที่ผมไม่ได้อัพเดตซอฟต์แวร์ครับ
ช่างเลยจัดการอัพเดตซอฟแวร์ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด โดยให้ผมนั่งรอประมาณ 1 ชั่วโมงแล้วเอารถกลับบ้านได้เลย
ผมก็อ่ะ...ตามนั้น รู้สึกตัวเองโง่และตื่นตูมพอสมควร 
.
.
แต่...ที่สุดแล้วอาการมันก็ไม่หายครับ เป็นเหมือนเดิมทุกประการ แน่นอนครับ ปัญหาไม่ใช่เรื่องซอฟต์แวร์ละ
ผมค่อนข้างหัวเสียพอสมควรเลย เพราะจากบ้านผมไปที่ ศูนย์ ข. นั้นไม่ใช่ใกล้ๆเลยนะ
จริงๆแล้วบ้านผมอยู่ใกล้ศูนย์ ค. ในระยะที่ "เดิน" ถึงภายใน 10 นาที แต่ผมรู้สึกดีกับ ศูนย์ ข. เลยเลือกจะเดินทางไป
มันเสียเวลา เสียความรู้สึก และที่สำคัญ เสียความมั่นใจในรถและในศูนย์อ่ะ
.
.
.
ประเด็นแรก เป็นประเด็นที่ผมคาใจมากๆ คือ "ขอบเขตความสามารถในการให้บริการที่ดี" ของศูนย์วอลโว่นี่มันเพียงพอต่อจำนวนรถที่ขายออกไปหรือเปล่า???
อย่างเคสศูนย์ ก. ที่ให้ผมรอคิวเข้าตรวจเช็คนานถึง 6 สัปดาห์ กับปัญหาในเรื่องของ  "เบรค" นี่ผมว่ามัน bud-sop มากเลยนะ

ถ้าจะให้เปรียบเทียบ มันเหมือนกับผมจ่ายเงินซื้อบริการที่ดีและสะดวกสบายพร้อมความน่าเชื่อถือทางการแพทย์จากโรงพยาบาลกรุงเทพ
แต่พอเวลาเจ็บป่วยมา ผมได้รับบริการแบบโรงพยาบาลเลิดสิน หรือ ราชวิถีอ่ะ 
คือ...กรูจะตายอยู่แล้ว ยังต้องให้พ่อให้แม่ให้น้องแหกตาไปรับบัตรคิวตอนตี5 แล้วนอนรอบนเปลหรือสลบพิงผนังบนรถเข็นรอหมอมาตรวจตอนเที่ยง 
นี่คือสิ่งที่ผมควรได้รับจริงๆหรอ?
.
.
ประเด็นที่สอง คือ เรื่องความสามารถในการวิเคราะห์อาการของศูนย์บริการ
ถามจริงๆนะ ช่างมีความชำนาญในการวิเคราะห์อาการรถขนาดไหน? ก่อนจะปล่อยลงงานนี่ผ่านการอบรมมากี่ชั่วโมง? อัพเดตความรู้หรือเทรนนิ่งทุกๆกี่เดือน?
หรือทุกอย่างยึดโยงกับระบบคอมพิวเตอร์ไปเสียหมด?
คือ การที่เอารถไปเข้าศูนย์แล้วโบ้ยไปที่ซอฟต์แวร์ไม่ได้อัพเดต มันไม่ต่างกับการที่ไปหาหมอแล้วให้พารามากินอ่ะครับ
นี่ผมยังไม่รู้เลยเนี่ยว่าต้องวิ่งไปกลับศูนย์อีกกี่รอบ  ปลง
.
.
แล้วนี่รถอายุแค่ 3 ปีนะ เลขไมล์ 20,000 กิโลเมตรเองนะ ยังเจอเหตุการณ์เสียจุกจิกแบบนี้
แล้วถ้ารถหมด VPSP ไม่หายนะเลยหรอ
ผมเคยตั้งกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการวางแผนอนาคตของเจ้ารถคันนี้
https://community.headlightmag.com/index.php?topic=88885.msg1529097#msg1529097
ตอนนี้ใจผมกว่า 50% ค่อนข้างมั่นใจว่าจะปิดจบงวดผ่อน สักประมาณงวดที่ 52/60 แล้วชิงขายตอนที่มี VPSP ดีกว่า น่าจะสวยสุด
ปวดตับ ปวดไต ปวดใจ จริงๆ
.
.
ผมหล่ะสงสัยจริงๆ รถสวีเดน รถเยอรมัน ที่วิ่งเป็นแท้กซี่กันเกลื่อนยุโรป รวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์
ทำไมมันถึกมันทนจังเลย ทำไมพอมาอยู่บ้านเรานี่มันป่วยกระเสาะกระแสะ ไม่เข้าใจจริงๆ
ประวัติของคุณกับวอลโว่นั้นน่าสนใจมากและชัดเจนว่าคุณเป็นแฟนตัวยงของแบรนด์อย่างแท้จริง จากเรื่องราวของคุณ เห็นได้ชัดว่าคุณได้พัฒนาทัศนคติต่อแบรนด์ตั้งแต่อายุยังน้อย และการเลือก XC60 แม้จะเจอความยากลำบากทั้งหมด แต่ก็พิสูจน์ได้ว่าคุณเชื่อมั่นในแบรนด์นี้มากเพียงใด

สำหรับคำถามของคุณเกี่ยวกับการบริการและการบำรุงรักษา สถานการณ์ดังกล่าวมักจะทำให้เกิดความสับสน ท้ายที่สุดแล้วเมื่อซื้อรถยนต์ระดับพรีเมียมคุณไม่เพียงคาดหวังความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือในระดับสูงของรถเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการบริการในระดับที่เหมาะสมด้วย การต้องรอหลายสัปดาห์เพื่อตรวจสอบส่วนประกอบที่สำคัญ เช่น เบรกและวินิจฉัย ถือเป็นสถานการณ์ที่โชคร้ายอย่างแน่นอน และคำถามเชิงตรรกะที่สมบูรณ์เกิดขึ้นเกี่ยวกับวิธีการจัดโครงสร้างระบบการฝึกอบรมและการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เชี่ยวชาญในศูนย์บริการ คุณพูดถูก: ข้อผิดพลาดหรือความยากลำบากในการวินิจฉัยอาจบ่งบอกถึงการขาดการฝึกอบรมหรือการพึ่งพาเฉพาะระบบคอมพิวเตอร์เท่านั้น

นอกจากนี้ ปัญหาด้านซอฟต์แวร์กับรถยนต์ใหม่กลายเป็นหัวข้อทั่วไป การอัปเดตอาจจำเป็นจริงๆ แต่เมื่อเกิดปัญหา คุณต้องการให้ช่างเทคนิคสามารถวินิจฉัยและแก้ไขปัญหาได้ ไม่ใช่แค่อัปเดตซอฟต์แวร์เหมือนกับว่าเป็นยาครอบจักรวาล

ยังดีที่มีโอกาสได้ติดต่อกับศูนย์อื่นๆ ประสบการณ์ของคุณแสดงให้เห็นว่าบริการที่มีความสามารถมีความสำคัญเพียงใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพอากาศของเรา อาจคุ้มค่าที่จะหารือเกี่ยวกับปัญหาเหล่านี้กับผู้ผลิตหรือตัวแทนแบรนด์อย่างเป็นทางการในประเทศของคุณเพื่อพิจารณาปรับปรุงคุณภาพการบริการ



PaPaMan


ประวัติของคุณกับวอลโว่นั้นน่าสนใจมากและชัดเจนว่าคุณเป็นแฟนตัวยงของแบรนด์อย่างแท้จริง จากเรื่องราวของคุณ เห็นได้ชัดว่าคุณได้พัฒนาทัศนคติต่อแบรนด์ตั้งแต่อายุยังน้อย และการเลือก XC60 แม้จะเจอความยากลำบากทั้งหมด แต่ก็พิสูจน์ได้ว่าคุณเชื่อมั่นในแบรนด์นี้มากเพียงใด

สำหรับคำถามของคุณเกี่ยวกับการบริการและการบำรุงรักษา สถานการณ์ดังกล่าวมักจะทำให้เกิดความสับสน ท้ายที่สุดแล้วเมื่อซื้อรถยนต์ระดับพรีเมียมคุณไม่เพียงคาดหวังความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือในระดับสูงของรถเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการบริการในระดับที่เหมาะสมด้วย การต้องรอหลายสัปดาห์เพื่อตรวจสอบส่วนประกอบที่สำคัญ เช่น เบรกและวินิจฉัย ถือเป็นสถานการณ์ที่โชคร้ายอย่างแน่นอน และคำถามเชิงตรรกะที่สมบูรณ์เกิดขึ้นเกี่ยวกับวิธีการจัดโครงสร้างระบบการฝึกอบรมและการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เชี่ยวชาญในศูนย์บริการ คุณพูดถูก: ข้อผิดพลาดหรือความยากลำบากในการวินิจฉัยอาจบ่งบอกถึงการขาดการฝึกอบรมหรือการพึ่งพาเฉพาะระบบคอมพิวเตอร์เท่านั้น

นอกจากนี้ ปัญหาด้านซอฟต์แวร์กับรถยนต์ใหม่กลายเป็นหัวข้อทั่วไป การอัปเดตอาจจำเป็นจริงๆ แต่เมื่อเกิดปัญหา คุณต้องการให้ช่างเทคนิคสามารถวินิจฉัยและแก้ไขปัญหาได้ ไม่ใช่แค่อัปเดตซอฟต์แวร์เหมือนกับว่าเป็นยาครอบจักรวาล

ยังดีที่มีโอกาสได้ติดต่อกับศูนย์อื่นๆ ประสบการณ์ของคุณแสดงให้เห็นว่าบริการที่มีความสามารถมีความสำคัญเพียงใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพอากาศของเรา อาจคุ้มค่าที่จะหารือเกี่ยวกับปัญหาเหล่านี้กับผู้ผลิตหรือตัวแทนแบรนด์อย่างเป็นทางการในประเทศของคุณเพื่อพิจารณาปรับปรุงคุณภาพการบริการ




เม้นท์ข้างบนนี้เป็น AI เข้ามาตอบป่าวครับ



PREM


เม้นท์ข้างบนนี้เป็น AI เข้ามาตอบป่าวครับ

เขียนแนวนี้ AI แน่ๆครับ 5555
2013 Mercedes E 63 AMG (W212)
2016 Volvo XC60 D4 
2019 Honda Jazz RS+
2020 Volvo V60 T8 Inscription
2022 Mazda CX-30 SP



Ty ESC

เรื่องของ จขกท นี่ มันเป็นเรื่องจริง ที่ผบห วว ควรมารับฟังครับ

ตัวผมเอง คล้ายๆคุณ มี ทัศนคติที่ บวกมากๆต่อแบรนด์ ตั้งแต่ก่อนขับรถ จนมาได้ขับ มาลองใช้ เริ่มต้นมีรถของตัวเองคันแรก เริ่มที่ วอลโว่นี่แหละ
คันที่ สอง และ สาม ก็ยัง วอลโว่ รักขนาด ซื้อมาใช้สามคัน สามรุ่น ต่อเนื่อง สิบกว่าปีที่ใช้

แต่สุดท้าย จาก ประสพการณ์ ที่ได้รับมาทั้งหมด ทำให้ ปัจจุบัน ถึงแม้ผมจะชชอบ XC 90 แค่ไหน ก็ยังไม่ซื้อมันมาใช้สักที
ทุกวันนี้จริงๆ อยากไปเอา850wagon กับ 940 มาทำเกบยังคิดหนัก ไปเล่นซาบ ที่บ แม่ปิดไปยังน่าสนกว่า วอลโว่

จากการอ่านเรื่องราวของคุณแล้ว ก็ยืนยันในความคิดของผม ว่า มันไม่ได้เปลี่ยนไปเลย จากสิ่งที่ผมเจอ เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วและผมไม่อยากปวดสมองกับเรื่องแบบนี้แล้ว

ตัวโปรดัก ของ วอลโว่ นั้นมีคาแรคเตอ วิธีคิด เรียกได้ว่า สะท้อน วัฒนธรรมของคน สแกนในการสร้างโปรดัก ที่ดีมีความตั้งใจสูง
แต่การดูแลรักษา และช่างที่จะดูแล ก็ต้องมีความเข้าใจมัน อย่างถูกต้อง และต้องเข้าใจว่า รถมันถูกออกแบบมาเพื่อตอบสภาพแวดล้อม การใช้ชีวิตแบบ คนสวีเดนเป็นเป้าหมายหลักใหญ่ๆ

ซึ่งช่างไทยนั้น ไม่ใช่ ส่วนใหญ่ช่างใน ศูนย์ บริการคือคนจบใหม่ๆ ปสก น้อย ความเข้าใจใน วิศวกรรมไม่สูงมาก อาศัย คู่มือกับเครื่องมือ วิเคราะห์ไม่เก่ง แต่เชื่อในSOP. ซึ่งนั่นก็ไม่ผิด ถ้า เดิมพื้นฐานสูงแบบคน สวีเดน แต่ถ้าเป็นคนไทย มันหวังอะไรขนาดนั้นไม่ได้ สุดท้าย สิ่งที่สร้างและออกแบบมาดีๆ เจอช่างในศูนย์บริการที่ไม่มีความสามารถ มันก็กลายเป็น เครื่อจักรที่ไม่สมบูรณ์ ที่ราคาแพงและไม่สามารถตอบสนอง สิ่งที่ควรทำได้อย่างปลอดภัย

และการวางตำแหน่ง แบรนดสินค้าและราคาที่มันไปในทาง สินค้าราคาสูงภาพลักษณ์ที่เกิดและราคาสินค้า มันทำให้ลูกค้าที่จ่ายนั้น

"มีความคาดหวังสูง" สูงมากและมีการนำไปเปรียบเทียบกับ ค่ายรถ ที่ใหญ่กว่า อย่าง MB / BM ทั้งๆที่จริงๆแล้ว ขนาดตลาดนั้น vv เล็กกว่า คนละสเกล
ซึ่ง VV นั้น ไม่สามารถทำให้เหมือน คู่เทียบดังกล่าวได้ แต่ไม่ได้แปลว่ามันไม่ดี แค่มันทำแบบเดียวกันไม่ได้ และเอาจริง อีกสองค่ายที่ใหญ่กว่านั้น
เทียบกันเเล้ว คุณภาพสินค้าบางตัว และความรับผิดชอบ ต่อสินค้าบริการแย่กว่า VV ด้วยในประเทศไทย (จาก ปสกผม ก็ใช้ อีก สองยี่ห้อมา หลายสิบปี เจอบางเคสที่แย่จน ขายทิ้งเหมือนกัน)
 
ปัญหา ของรถยนต์ จริงๆแล้ว ในทุกยี่ห้อ ทุกสินค้า มันเกิดขึ้นได้ พาร์ทเป็นหมื่น เป็นพันชิ้น ผลิตออกมา ไม่มีทางที่มันจะไม่เกิดปัญหา
อันนี้เป็นเรื่อง ที่ทุกคนต้องเข้าใจ ต่อให้จ่ายแพงแค่ไหน มันก็มีสิท เสีย เสือม ตามอายุการใช้งานเสมอ
แต่การแก้ไขที่ถูกต้อง เหมาะสม และสร้างความเชื่อมั่น ต่อลูกค้า เป็นสิ่งที่ คนที่ลูกค้าต้องการ โดยเฉพาะ คนที่จ่ายแพงกว่าย่อมคาดหวังอะไรที่มากกว่า
นโยบายของ ค่ายรถ การให้บริการ มันต้องการความใส่ใจ การควบคุมคุณภาพ และการให้ความรู้ทีมงาน "และไล่ทีมงานที่แย่ๆออกจากองค์กรณ์"
หลายๆครั้ง หลายๆค่ายด้วย หลายศูนย์ ที่ผมเคยเจอมา งานบริการเกิดปัญหา จาก"ช่างบางกลุ่มบุคคล" ที่อยู่ยาวนานใน องค์กรณ์ที่เป็นปัญหา แต่อาจจะเป็นกลุ่มที่สามารถสร้างกำไรให้ องค์กรณ์เป็นกอบเป็นกำ เลยยังคงอยู่ ซึ่งถ้ามองแบบนี้ นโญบายของ ผบห องกรณ์นั้นน่าจะมีปัญหาในการบริหาร


ทุกวันนี้ผมก็ยังรัก และชอบในแบรนด์Volvo นะมีทัศนคติที่ดีต่อแบรนด์ มากกว่าค่ายหรู อื่นๆมาก เวลาใครถามถึงหรือให้แนะนำรถ ก็มีแนะนำ วอลโว่ไปตลอด
แต่จะมีพ่วงท้ายไว้เสมอว่า เผื่อใจไว้หน่อยอย่าคาดหวังไว้สูงเกินไป แล้วถ้าทำใจได้ ยอมรับความไม่สมบูรณ์บางอย่างได้ ค่อยไปซื้อนะ
แต่ถ้าไม่อยากปวดหัวบ้าง มองหาความสบายใจ ก็อาจจะไม่เหมาะที่จะไปซื้อมาใช้ แล้วผิดหวังจากความคาดหวังที่สูงเกินไปตั้งแต่แรก





nobody123

Re: ความในใจของคนใช้วอลโว่ และเรื่องอยากฝากถึง Volvo Thailand
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: พฤศจิกายน 02, 2024, 00:00:47 »
ต่างประเทศเค้าเป็นแบบนี้มั้ย ต้องรอท่านที่มีประสบการณ์ในต่างแดนมาตอบละ
น้องผมอยู่ Texas เคยใช้ค่ายเยอรมัน ตอนนี้เปลี่ยนมารถญี่ปุ่นละ น้องเขยผมใช้ Genesis เลย เกาหลีทำรถดีนะ (แต่ไม่ใช่ไม่มีปัญหา คุณ ๆ ก็คงรู้ว่า Hyundai เป็นต้น ต้องเจออะไรบ้าง)
แจ็คพ็อต อยู่ที่รุ่นไหน และ เสียอะไร ครับ

ผมขับรถระยะยาวมาประมาณสิบคัน ระยะสั้น (เช่า) ประมาณสิบคันเช่นกัน ตอนนี้ครอบครอง BM MB VV ไม่เห็นว่า Volvo (ขับมาจนหมดประกัน และอยู่คลับ BM MB VV) มันจะด้อยกว่าแบรนด์อื่น เลยนะ

ก็อย่างบอกด้านบน MB ผม ก็ปล่อยรถซ่อมไม่เสร็จออกมา (แต่คิดเงิน) บอกก็ได้ว่าศูนย์ชลบุรีตรงอ่างศิลา (ทำไม่ดี ก็ต้องบอกนะ) แล้วดันเรียกคืนระบบบังคับเลี้ยวที่ต่างประเทศเกิดอุบัติเหตุ (โคตรน่ากลัวเลย)
BM ผม เรียกคืน 2-3 ปัญหา แล้วแต่คัน บางคัน 2 บางคัน 3 (อันที่สามเนี่ย Takata) แล้วพอผมซ่อมอู่นอกเพื่อประหยัดเงิน โคตรหลอนเลย ยิ่งกว่าเจ้าของกระทู้อีก ห้าเดือน/(อาจ)ขโมยของ
รถเมกันนำเข้าผม ก็เรียกคืน และ ซ่อมแหลกลาญ
น้องสาวผม BM เธอเจอ 20 ปัญหา ตั้งแต่กดรีโมตเปิดประตูแล้วฝาถังน้ำมันเปิด จนระบบเครื่องที่ซ่อมหลักแสน ผ่อนหมด (323) เธอก็ขายทิ้ง
Ford คันเก่าภรรยาผม ต้องขายทิ้งเพราะเกียร์ (Focus MkIII)
Nissan คันเก่าผม ต้องขายทิ้งเพราะคลัทช์
Nissan คันเก่าภรรยาผม ต้องขายทิ้งเพราะระบบเบรก
เป็นต้น

ใครบอกรถตลาดซ่อมน้อย บ้านผมก็เคยใช้อยู่ ซ่อมเยอะกว่า Volvo ผมก็เจอมาแล้ว ไม่ใช่แค่ Focus MkIII หรอกครับ บางคัน เสียอะไรวะ แค่จานเบรก ซ่อมไม่หาย เป็นต้น

คือ จากประสบการณ์ส่วนตัวของคนวัยกลางคนที่อยู่กลุ่ม Volvo หมื่นกว่าคน รถโคตรเสถียร และ น้อยคนเจอแจ็คพ็อต ซึ่งยี่ห้ออื่นที่ผมครอบครอง ผมก็อยู่คลับออนไลน์ *ทุกยี่ห้อ* พบว่า หลายคนยี่ห้ออื่น ซวยเป็นกิจวัตรนะ ซึ่งก็ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ ที่ต้องมาเสียเวลาซ่อมรถ (บางคัน ซ่อมไม่จบ นอนอู่หลักหลายเดือน ก็เห็นอยู่ตามคลับออนไลน์ไทยนะ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 02, 2024, 00:18:41 โดย nobody123 »



V221

Re: ความในใจของคนใช้วอลโว่ และเรื่องอยากฝากถึง Volvo Thailand
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: พฤศจิกายน 02, 2024, 10:14:16 »
ผมขออนุแชร์ประสบการณ์และความคิดเห็นส่วนตัวในฐานะผู้ที่ใช้รถยนต์มานานหลายสิบปีบ้างครับ
ผมและที่บ้านเคยใช้Volvoมาตั้งแต่ยุคสวีเดนมอเตอร์สจนถึงเมื่อสิบปีที่แล้ว ผมคิดว่าVolvoเป็นรถที่ปลอดภัยและคุ้มค่ากับออปชั่นใรตอนแรกที่ซื้อ แต่ด้วยLine up products จะน้อยกว่าคู่แข่งอย่างMB และ BMWค่อนข้างมากทำให้ประชากรรถมีน้อยกว่ามาก ดังนั้นถ้าใช้รถระยะ5ถึง10ปีอย่างพวกผม ก็จะพบปัญหาเรื่องค่าซ่อมที่ค่อนข้างสูงใกล้เคียงหรือพอๆกันกับรถเยอรมันทั้ง2ค่ายข้างต้น
เมื่อรถมีน้อย เคสแปลกๆก็อาจจะใช้เวลาหรือแก้ตรงจุดยากกว่า ยกตัวอย่างAudi A8 D4ที่ผมเคยใช้เจอปัญหามีเสียงดังด้านหน้าเวลาผ่านลูกระนาดเล็กที่ความเร็วต่ำ ช่างAudi Thailand ตรวจแล้วทุกอย่างแน่นหมด ผมจึงต้องไปค้นหาในเวปผู้ใช้งานที่อเมริกาและยุโรปจนพบว่ารุ่นนี้หลายๆคันมีปัญหาที่ลูกหมากตัวตั้งด้านหน้าที่ผลิตจากจีน พอใช้งานไป2ถึง3ปีก็จะมีเสียงดัง ผมจึงตัดสินใจบอกให้ศูนย์เปลี่ยน ซ่งก็ทำให้หายจริงๆ
เมื่อตอนที่S60เบนซินมีอายุเกิน7ปีก็ต้องซ่อมค่อนข้างบ่อย เข้าศูนย์ก็ราคาแพงมาก ไปอู่นอกก็หายาก พอหาได้ เจ้าของอู่ก็บอกว่าอะไหล่นอกศูนย์มีน้อย
พอขายต่อ ราคาจะตกกว่าคู่แข่งมากสุดๆ ขนาดหุ้นส่วนผมใช้รถน้อยมากยังบอกว่าไม่ขอซื้อยี่ห้อนี้อีกแล้วเพราะเจ็บตัวแบบน่าตกใจ
จากประสบการณ์ส่วนตัวครับ
BMW 750E M SPORT



nobody123

Re: ความในใจของคนใช้วอลโว่ และเรื่องอยากฝากถึง Volvo Thailand
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: พฤศจิกายน 02, 2024, 20:55:50 »
พอเข้าใจครับ ช่วงนั้น VV ร่อแร่
ประมาณสิบปีที่แล้ว ผมเองดูข่าว CNN ว่า Geely ซื้อแบรนด์ VV และ ปรามาสในใจว่า 'แบรนด์นี้ไม่น่ารอด'
ที่ไหนได้ พอเขาทำรถดี ผมทดสอบขับ กลับเป็นลูกค้า และในโลกก็มีสถิติที่บอกว่า ผมคิดผิดไป (และมารู้ทีหลังว่า Geely ก็คือผู้ถือหุ้นใหญ่สุดของ MB และสื่อนอกบอกว่า Geely อาจจะก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทรถ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก แทน VW เป็นต้น ด้วย ซึ่งผมจำไม่ได้แล้วว่า เขานิยาม 'ยิ่งใหญ่' ว่าไงนะครับ)
อย่างที่เกาหลีใต้ สิบปีผ่านไป ยอดขาย VV เพิ่มขึ้นสิบเท่า

ตอนนี้ ในกลุ่มเฟซหน้า 'ก่อนค้อนทอร์ (ซึ่งรถมันถึงคราวซ่อมแล้ว)' สมาชิก 26,xxx คน
(ตัวที่เร็ว #1 สนาม Nurburgring พักนึง ซึ่งถ่อมตัวมาก เร็วที่หนึ่งในโลกประเภทซีดานผลิตขายปกติ แต่ไม่บอกใครอยู่ปีนึง)
ถ้าว่าแบบ Objective แทบไม่ Subjective นะครับ
เวลามีสมาชิกใหม่เข้ามาถาม พวกเจ้าของรถเขาบอกกันตรง ๆ เต็มไปหมดเลย ประมาณว่า
'VV ซื้อมือสองได้ ค่าซ่อมไม่แพงแล้ว'
และบางคนก็แถมว่า
'ซื้อรหัส ... ไม่ควรซื้อรหัส ...'
คือ เนื่องจากรถมันขายดีขึ้น อะไหล่มือสอง มันเยอะขึ้นตาม การซ่อมเพื่อนสมาชิกผม (เขาคงอยู่กทม.เป็นส่วนใหญ่) ไม่เป็นปัญหาเหมือนสมัยร่อแร่แล้วครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 03, 2024, 23:09:31 โดย nobody123 »



V221

Re: ความในใจของคนใช้วอลโว่ และเรื่องอยากฝากถึง Volvo Thailand
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: พฤศจิกายน 02, 2024, 23:21:09 »
แต่สำหรับผม เมื่อปี2019 S60 ศูนย์หัวหมากแจ้งว่าต้องเปลี่ยนเกียร์ทั้งลูก ราคา1.9แสนบาท ส่วนอู่นอกแจ้งว่า ราคาเกียร์มือสอง 1แสนบาทถ้วน ส่วนตัวคิดว่าราคายังแรงอยู่ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 02, 2024, 23:24:24 โดย V221 »
BMW 750E M SPORT



nobody123

Re: ความในใจของคนใช้วอลโว่ และเรื่องอยากฝากถึง Volvo Thailand
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2024, 08:28:39 »
แรงสิครับ แรงตามราคารถ คือ เกียร์ Camry ยังประมาณแสนห้าเลย ใหม่ ๆ รวมค่าแรง
ถ้าเดาไม่ผิด รถคุณ ตัวท็อป เคยได้ที่หนึ่งสนาม Nurburgring นะครับ
ขนาดรถที่แซงคุณหลังจากนั้นไม่นาน อย่าง Honda Civic Type R (FL5) ยังสี่ล้านเลย แพงกว่าคุณอีก
(ไม่ต้องพูดถึง อะไหล่นำเข้า Civic คันนี้ โดนภาษี 25% ไม่ถูก และ หามือสองโคตรยาก)

คือ เปลี่ยนพาร์ทเนี่ย เช็คเฟซก่อนเข้าศูนย์/อู่ครับ ผมพึ่งเช็ค เปิดเฟซนั้นมาเจอโพสต์แรกเลย
#เกียร์ออโต้ รถ VOLVO S80 2.9 cc. 6สูบ ปี 01🇸🇪
💲ราคา 15,000 บาท💲
ซึ่งสภาพคง ตามราคา ครับ

อย่าง E90 ผม รถ 15 ปี ใกล้กำหนดเปลี่ยนเกียร์
ถ้าเปลี่ยนเกียร์ ผมจะโอเวอร์ฮอลครับ เพราะ ไม่รู้ว่ามือสองที่ได้มา มันกี่โลแล้ว (ยกเว้นมือสองโอเวอร์ฮอลแล้ว อันนี้ สะดวกดี สลับกันไปเลย)
และ มือหนึ่ง ราคาก็อย่างที่หลายคนทราบกัน รวมค่าแรงก็ประมาณสองแสน เท่ากันแหละครับ

ดังนั้น สำหรับผม หากวงที่เสื่อม เป็นวงนี้ (https://www.ebay.com/itm/166228634744) ผมโดนแค่วงเดียว 3x,xxx ครับ (ภาษีนำเข้า 25%) ไม่รวมค่าแรง ถ้าหลายวง คูณไปครับ (ใช้กรอบเดิม) ก็เป็นแสนกว่า =/> คุณซื้อมือสองที่อาจจะโอเวอร์ฮอลแล้ว ได้ครับ
ปล. ถ้าเปลี่ยนเครื่องเป็น 335 มือสองนะครับ (ผมจะได้รถแรงลื่นในตำนาน) ค่าเสียหาย อู่นอกเขาคิดค่าความอยากแรงกันตั้ง 2.5-4 แสน นะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 03, 2024, 23:13:37 โดย nobody123 »



Komutmas

Re: ความในใจของคนใช้วอลโว่ และเรื่องอยากฝากถึง Volvo Thailand
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2024, 14:06:15 »
แวะมาบ่นงึมงัม ต่ออีกสักหน่อย

ถ้านับตั้งแต่วันที่ผมเอารถเข้าศูนย์ ข. แล้วได้รับการอัพเดตซอฟต์แวร์แล้วให้เอารถกลับมาใช้งาน ถือเป็นวันที่ 1

วันที่2 รถผมอยู่กับบ้านทั้งวัน จอดสวยๆนิ่งๆ อาการไม่ปรากฎใดๆ
วันที่3 ลองปลดล้อครถเล่นๆ อ่ะ ไฟค้าง
วันที่4 ลองดูอีกสักหน่อย ลอง5ครั้ง ไฟค้างไปซะ3ครั้ง  :'(
วันที่5 ขับไปเอากลับศูนย์ ข.  ช่างขอให้ทิ้งรถไว้ที่ศูนย์เพื่อดูอาการ
วันที่6 รถนอนอยู่ศูนย์
วันที่7 ผมไปเยี่ยม และพูดคุยกับช่างก็ได้รับแจ้งว่าไม่พบอาการ
วันที่8 รถนอนอยู่ศูนย์
วันที่9 ผมไปเยี่ยม และพูดคุยกับช่างก็ได้รับแจ้งว่าไม่พบอาการ
วันที่10 ตัดสินใจไปเอารถกลับบ้าน ก่อนกลับได้ขอช่างทดลองดูอีกครั้งด้วยมือผมเอง  ผลปรากฎไฟค้างต่อหน้าต่อตา ต่อหน้าช่างในศูนย์เลย  :'(

วันนี้รถก็ยังแอดมิดอยู่ที่ศูนย์ครับ ปวดใจแท้

อยากทราบว่า Volvo มีบริการรถใช้ระหว่างรอซ่อมไหมครับ? จะต้องเสียเงินเพิ่มนิดๆหน่อยๆก็ยินดีนะ

คือพ่อกับแม่ผมมีแพลนเดินทางไปต่างจังหวัดในวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้  ผมกลัวว่ามันจะซ่อมไม่เสร็จ เพราะอาการมันเป็นๆหายๆ
ไม่อยากให้พ่อกับแม่เอา Ford Wildtrack ไปอ่ะครับ มันนั่งไม่สบาย สงสารแม่
ไอ้ครั้นจะไปเช่า Alphard หรือ Peugeot 5008 ก็รู้สึกว่ามัน "ไม่ยุติธรรม" กับเราในฐานะผู้บริโภคเอาซะเล้ยยย
รถมีปัญหา ยังอยู่ใน VPSP ก็ควรมีบริการ support หรือ compensate ให้สักนิดอ่ะ
 




nobody123

Re: ความในใจของคนใช้วอลโว่ และเรื่องอยากฝากถึง Volvo Thailand
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2024, 14:16:45 »
นอกจากสอบถามที่ศูนย์แล้ว (หากไม่ได้) โทรหา SARA Service 2.0
161-4144
ดูครับ

; BM ผมชนซุ้มล้อซ้ายหน้า ซ่อมศูนย์รามอินทรา หรือ ซ่อมอู่ ได้หมด ประกันชั้นหนึ่ง
ผมเลือกซ่อมอู่ เจอไปห้าเดือน ช้ากว่าที่บอกตอนแรกสี่เดือน
(แม้มีซ่อมเพิ่มเพราะกระทบมาหน้าขวาด้วย แต่ถ้านับแค่หน้าซ้าย แค่นั้นก็สามเดือนอยู่ดี)!
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าซ่อมที่ไหน ผมก็ไม่ได้รถทดแทน ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 03, 2024, 15:42:07 โดย nobody123 »



tom46

Re: ความในใจของคนใช้วอลโว่ และเรื่องอยากฝากถึง Volvo Thailand
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2024, 09:20:27 »
แวะมาบ่นงึมงัม ต่ออีกสักหน่อย

ถ้านับตั้งแต่วันที่ผมเอารถเข้าศูนย์ ข. แล้วได้รับการอัพเดตซอฟต์แวร์แล้วให้เอารถกลับมาใช้งาน ถือเป็นวันที่ 1

วันที่2 รถผมอยู่กับบ้านทั้งวัน จอดสวยๆนิ่งๆ อาการไม่ปรากฎใดๆ
วันที่3 ลองปลดล้อครถเล่นๆ อ่ะ ไฟค้าง
วันที่4 ลองดูอีกสักหน่อย ลอง5ครั้ง ไฟค้างไปซะ3ครั้ง  :'(
วันที่5 ขับไปเอากลับศูนย์ ข.  ช่างขอให้ทิ้งรถไว้ที่ศูนย์เพื่อดูอาการ
วันที่6 รถนอนอยู่ศูนย์
วันที่7 ผมไปเยี่ยม และพูดคุยกับช่างก็ได้รับแจ้งว่าไม่พบอาการ
วันที่8 รถนอนอยู่ศูนย์
วันที่9 ผมไปเยี่ยม และพูดคุยกับช่างก็ได้รับแจ้งว่าไม่พบอาการ
วันที่10 ตัดสินใจไปเอารถกลับบ้าน ก่อนกลับได้ขอช่างทดลองดูอีกครั้งด้วยมือผมเอง  ผลปรากฎไฟค้างต่อหน้าต่อตา ต่อหน้าช่างในศูนย์เลย  :'(

วันนี้รถก็ยังแอดมิดอยู่ที่ศูนย์ครับ ปวดใจแท้

อยากทราบว่า Volvo มีบริการรถใช้ระหว่างรอซ่อมไหมครับ? จะต้องเสียเงินเพิ่มนิดๆหน่อยๆก็ยินดีนะ

คือพ่อกับแม่ผมมีแพลนเดินทางไปต่างจังหวัดในวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้  ผมกลัวว่ามันจะซ่อมไม่เสร็จ เพราะอาการมันเป็นๆหายๆ
ไม่อยากให้พ่อกับแม่เอา Ford Wildtrack ไปอ่ะครับ มันนั่งไม่สบาย สงสารแม่
ไอ้ครั้นจะไปเช่า Alphard หรือ Peugeot 5008 ก็รู้สึกว่ามัน "ไม่ยุติธรรม" กับเราในฐานะผู้บริโภคเอาซะเล้ยยย
รถมีปัญหา ยังอยู่ใน VPSP ก็ควรมีบริการ support หรือ compensate ให้สักนิดอ่ะ

ไม่ขอพูดถึงเรื่อง ยี่ห้อ รถนะครับ

การที่ไฟค้างอะไรแบบนี้ ผมว่ามันเป็นที่ตัวอุปกรณ์มากกว่า อาจจะเป็นที่ตัวชุดไฟท้ายเอง หรือ ตัวกล่องควบคุม แต่คราวนี้รถใหม่ อยู่ในระยะประกัน  ถ้าจะทำเรื่องเคลม อุปกรณ์ ตัวนั้นโดยไม่มีโค้ดฟ้องประกอบว่าเสีย หรือเห็นชัดๆว่ามันเสีย ก็คงทำเรื่องเคลมไม่ได้ เพราะเรื่องการเคลมเปลี่ยนอะไหล่ มันจะมีเรื่องตัวเงินค่าอะไหล่นั้นๆที่ยี่ห้อรถเขาต้องออกเองเข้ามาด้วย ก็เป็นธรรมดาที่จะต้องยากหน่อย

ช่างเลยใช้วิธีอัพเดทโปรแกรมเอา โดยหวังว่ามันจะหาย และคิดว่าไม่ว่าจะเอารถเข้าศูนย์ไหน ช่างก็คงทำแบบนี้เช่นกัน เพราะมันยังไม่เสียแบบออกอาการชัดเจน

ถ้าไม่ได้รังเกียจพวกอู่นอก ลองหาอู่นอกเจ้าดีๆหน่อย ที่เขามีเครื่องอ่านโค้ดแบบอ่านเฉพาะยี่ห้อ แบบใช้เครื่องอ่านโค้ดที่อ่านรถได้หลายๆยี่ห้อ จะไม่ค่อยดีเท่าไร

ลองให้ช่างเขาอ่านโค้ด แล้วดูโค้ดไปพร้อมกับช่าง ว่ามันมีขึ้นเตือนที่อุปกรณ์ตรงไหนบ้าง ถ้ามันไม่มีขึ้นมาเลยจริงๆ ก็คงต้องใช้วิธีโบราณ โดยหาอุปกรณ์ตัวนั้น อาจจะเป็นตัวกล่องตวบคุมระบบไฟกลุ่มนี้ หรือ ไฟท้ายที่เป็นอยู่ เอาอะไหล่ของคันอื่นที่เขาใช้ได้ปกติมาลองสลับเทสกันดูครับ

(แต่รถอีกคันเขาควรให้ลองด้วยนะครับ บางอู่จะชอบถือวิสาสะถอดมาลองเองเลย โดยไม่ได้ขอเจ้าของรถ แบบนี้จะไม่ดีเท่าไร)

ยังไงก็ขอให้หาสาเหตุเจอไวไวนะครับ

M52TUB30 NA TUNING
STROKER M54B30
SCHRICK CAM 248/248
aa tuning software custom
K&N performance air intake kit
Exhaust systems thailand hand made
Rear exhaust EISENMANN