[The Mechanics of Emotions]

พอดีได้มีโอกาสขับ Tesla Model3 LR ตัวเก่าครับ อยากมาแชร์ประสบการณ์ว่าการขับครั้งนี้ยาวๆ เป็นอย่างไรบ้าง โดยรถที่ผมใช้อยู่ก็จะมี BMW e90 325i m sport, r56 cooper s JCW, CX5 2.0 พอเทียบได้อยู่ครับ

อัตราเร่ง (10/10)
แรงแบบน่ากลัวเลยครับ กดทีเหมือนดึงคันหน้าเหวี่ยงไปข้างหลัง มันแรงเกินคาดไว้มากๆ ดึงกระชากแบบหลังฝังเบาะได้เลย จังหวะแซงคือได้ดังใจนึกว่าจะเอารถไปไว้ตรงไหน กดทีฉีกยิ้มที มันสะใจมากๆ ขนาดผมว่าขับมินิก็แรงแบบสนุกแล้วนะ แต่เทสล่าคือคนละเรื่องเลย เหมือนย่นรถคันหน้าไปไว้ข้างหลังแบบไม่กี่วิก็หายไปจากกระจกหลังแล้ว ฟินจนลืมรถน้ำมันไปเลย

ช่วงล่าง (6/10)
ยังไม่ดีตามรถครับ ผมว่าอัตราเร่งมันดีเกินช่วงล่างไปพอควร คือรถติดนิ่ม เหมือนจะเฟิร์ม แต่ติดนิ่มมากกว่า พอแบบขับจริงจังมันเสียว มันหวิว เทียบรถตัวเอง E90 กับมินิไม่ได้เลย ผมว่า E90 ช่วงล่างและพวงมาลัยดีกว่าพอควรเวลาซัดจริงๆ (แต่ขับทั่วไป ผมให้ Tesla ดีกว่า นุ่มสบาย ไม่กระแทกตึงตัง) ปรับน้ำหนักพวงมาลัยได้ พวงมาลัยไว แต่ก็ยังให้ feedback ไม่ดีเท่า

การเก็บเสียง (7/10)
กลางๆ ถือว่าแย่กว่าที่คาดการณ์ไว้ คิดว่าจะเงียบกว่านี้ วิ่งประมาณ 107++ เสียงลมเข้าแล้ว ถือว่าแบบรถทั่วๆ ไป ไม่ได้ดีกว่ารถทั่วไป และไม่ได้แย่จนรำคาญครับ

เทคโนโลยี (9/10)
ผมให้คือที่สุดเลย นอกจากให้จอแสดงผลแบบคมกริบ สีชัด ซอฟต์แวร์ก็ลื่นไหลมากๆ และคิดเผื่อสถานการณ์ไว้หลายๆ แบบเช่น เราขับๆ รถอยู่ พอหักเลี้ยวเข้าช่องจอด มันจะแสดงภาพแบบเหมือน 3 มิติมาเองเลย สแกนวัตถุรอบคันเป็นอย่างไร โดยไม่ต้องเปิดโหมดอะไรทั้งนั้น ระบบช่วยเหลือต่างๆ ดีมาก เช่น Autopilot ทำงานได้เยี่ยม แต่ไม่เหมาะกับการใช้ในเมืองรถติดๆ เพราะมันมีมอไซค์ขี่ผ่าน ซอกแซก ทำให้มันเบรคงึกๆ งักๆ จนรำคาญ และบางทีมันหยุดกระทันหันจนรถตามหลังมาชนได้เลย แต่ใช้ต่างจังหวัดโล่งๆ เหมาะครับ ปรับแอร์ผ่านจอ ปรับพวงมาลัยผ่านจอ แล้วคุมผ่านปุ่มที่พวงมาลัย ตัดคะแนนเพราะเทคโนโลยีดี แต่บางอย่างควรทำให้ใช้ง่าย ไม่ใช่เอาทุกอย่างไปยัดในจอหมด มินิมอลจนเสียฟังก์ชันการใช้งาน

เครื่องเสียง (9/10)
ลำโพงเสียงดีมาก เสียงนุ่ม แน่น มีมิติ รอบทิศทาง เสียงออกผู้ดีๆ ไม่เหมือนแนวของ Harman Kardon ใน BMW/MINI ที่จะเสียงแน่นๆ ขนาดว่าผมฟังรถตัวเองว่าเสียงดีแล้ว ฟังเทสล่าไปขับรถตัวเองกลายเป็นไม่เพราะซะงั้น 555

สรุป
เป็นรถบ้านที่มีอัตราเร่งแบบ Super Car ซะมากกว่า + เทคโนโลยีล้ำๆ ที่เข้ามาช่วยเหลือผู้ขับ ไม่ใช่ฟีลสปอร์ตซีดาน รถที่เน้นการขับขี่จริงๆ ยังมีช่วงล่างและพวงมาลัยที่ให้ feedback ที่ดีกว่า (ในแง่ของการขับแบบเพื่อทดสอบช่วงล่าง) แต่ขับใช้งานทั่วไปทำได้ดีมาก เพราะช่วงล่างนุ่มสบาย

ใครเคยขับแล้วรู้สึกอย่างไร มาแชร์กันได้ครับ

[constanstine]

ผมขับ Model Y ตัวเก่าอยู่ เรื่องช่วงล่างกับการเก็บเสียงด้วยภาพลักษณ์แบรนด์กับราคาทำให้คนคิดว่าเป็นรถหรู

แต่จริงๆมันคือคลาสรถญี่ปุ่นบ้านๆนั้นแหละ คะแนนเลยออกมาตามนั้น นึกสภาพถ้าไม่ใช่ EV แต่เอาเครื่อง 2.0 Turbo ใส่เผลอๆ Civic ขับดีกว่าอีก

แต่ในด้านอื่นๆต้องยอมรับว่ายังหาคู่เทียบไม่ได้เลย ค่ายอื่นได้แต่ลอกแล้วลอกอีกแต่ก็ได้แค่ผิวเผิน รวมถึงพวกแบรนด์ยุโรปด้วย

[Kanarath]

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

สอบถามเพิ่มเติมในแง่ของอารมณ์ร่วมในการขับขี่เป็นอย่างไรบ้างครับ โดยรวมมันให้อรรถรสแบบ ice แรงๆดีๆมั๊ยครับ

แฟนเคยถามผมหลายทีว่าไม่สนใจ taycan เลยหรอ ผมส่ายหัวทุกครั้ง ผมคงเป็นประเภทยึดติดกับ ice อยู่ครับ เลยอยากทราบว่าฟีล model3 กับคนที่ชอบและผ่าน ice ที่ขับสนุกมาจะให้คะแนนเรื่องอารมณ์อย่างไรครับ

(ผมมี mini cooper se อัตราเร่งดี แต่ไม่มีอารมณ์ร่วมแบบ cooper s R56 ที่เคยมีเลยครับ)

[Spada_Valess]

ไปลอง im6 performance เหนือกว่าอีกครับ

[The Mechanics of Emotions]

ผมขับ Model Y ตัวเก่าอยู่ เรื่องช่วงล่างกับการเก็บเสียงด้วยภาพลักษณ์แบรนด์กับราคาทำให้คนคิดว่าเป็นรถหรู

แต่จริงๆมันคือคลาสรถญี่ปุ่นบ้านๆนั้นแหละ คะแนนเลยออกมาตามนั้น นึกสภาพถ้าไม่ใช่ EV แต่เอาเครื่อง 2.0 Turbo ใส่เผลอๆ Civic ขับดีกว่าอีก

แต่ในด้านอื่นๆต้องยอมรับว่ายังหาคู่เทียบไม่ได้เลย ค่ายอื่นได้แต่ลอกแล้วลอกอีกแต่ก็ได้แค่ผิวเผิน รวมถึงพวกแบรนด์ยุโรปด้วย

ระบบซอฟต์แวร์ทำมาดีจริงๆ ครับ เครื่องเสียง ความบันเทิง เรียกว่าหวือหวาเลยครับ ติดเรื่องการควบคุมที่ยังตามอัตราเร่งไม่ทัน นอกนั้นคุ้มค่าเม็ดเงินครับ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

สอบถามเพิ่มเติมในแง่ของอารมณ์ร่วมในการขับขี่เป็นอย่างไรบ้างครับ โดยรวมมันให้อรรถรสแบบ ice แรงๆดีๆมั๊ยครับ

แฟนเคยถามผมหลายทีว่าไม่สนใจ taycan เลยหรอ ผมส่ายหัวทุกครั้ง ผมคงเป็นประเภทยึดติดกับ ice อยู่ครับ เลยอยากทราบว่าฟีล model3 กับคนที่ชอบและผ่าน ice ที่ขับสนุกมาจะให้คะแนนเรื่องอารมณ์อย่างไรครับ

(ผมมี mini cooper se อัตราเร่งดี แต่ไม่มีอารมณ์ร่วมแบบ cooper s R56 ที่เคยมีเลยครับ)

ผมว่ามินิทำได้แบบกลมกล่อมกว่าครับ แรงไม่ถึงกับเหวอ มีดึงให้สะใจ แต่มันอยู่ในขอบเขตที่ควบคุมได้ คือเล่นกับรถได้อย่างเต็มที่กล้าที่จะกด ฟังเสียงเครื่องคำราม เสียงโบออฟวาล์ว จังหวะเกียร์เปลี่ยน จังหวะการดึงของเทอร์โบมันก็สะใจ + ช่วงล่างและพวงมาลัยคมๆ ทำให้มันไปด้วยกันได้ คือกดได้ มั่นใจในตัวรถด้วยว่าเอาอยู่ คือสนุกแบบพอดีๆ

แต่เทสล่ามันตื่นเต้นเพราะมันแบบ instant torque กระทืบคันเร่งไปคือเราฝังเบาะทันที พร้อมกับรถที่ทะยานไปข้างหน้าแบบเร็วจนแอบน่ากลัว บางทีมาไวๆ แล้วเจอถนนเป็นลอนบ้าง รถมันลอยหรือมันหวิวจนน่ากลัวไปนิดนึงครับ มันสนุกบนถนนเพราะส่วนใหญ่ตอนที่ขับ รถเราน่าจะพละกำลังมากที่สุดแล้วบนท้องถนน ใครมาจี้ตูดใกล้ๆ ก็กดต้าบเดียว หายไปจากกระจกมองหลัง เพียงเสี้ยววิ มันสะใจตรงนี้ครับ อยากแซงใครก็ได้แซง แบบไม่ต้องพยายาม แค่นึกรถก็คันหลังก็หายไปจากกระจกแล้ว 555

ไปลอง im6 performance เหนือกว่าอีกครับ

ต้องหาลองบ้างครับ เริ่มจะติดใจแรงบิดซะแล้ว

[NoName__???]

นี่แหล่ะ เคยบอกคนใช้รถสันดาป ทั้ง N/A ทั้งเทอร์โบ ไม่มีใครเชื่อถ้าไม่ได้ลอง เจอรถช้าแช่ขวา ถ้ารถ EV Flat Torqe เรามุดซ้ายแซงแบบชิวๆ เส้นชะอำกทม นี่เจอรถตู้ฟายๆ แช่ขวาเยอะมาก

[marvel]

ขอบคุณครับ อ่านดูแล้วไม่แปลกใจเลยที่จะตอบโจทย์หลายคน
คนรู้จักคนนึง มี R32 GT-R , R33 GT-R , R35 GT-R , WRX STi VA
วันธรรมดา วันทำงาน ใช้ Tesla ทุกวัน ส่วนรถด้านบนที่กล่าวมา จอดไปยาวๆ
วันไหนเป็นวันหยุดที่อยากขับรถเล่น ขับไปเจอเพื่อนๆ ค่อยเอารถด้านบนออกมาขับ
(ผมชอบ R56 เช่นกัน ชอบมานานมาก แต่พึ่งซื้อมือสองมาได้ไม่นานครับ)

[sukhontha]

ก็คงแบบนั้นครับ  มันดึงตั้งแต่เริ่มกดไปถึงจุดหนึ่งแล้วมันจะหยุดเลย

ส่วนรถเครื่อง  มันจะดีงเนิบ ๆ  ค่อย ๆเพิ่มแรงดีงขึ้น.....จนเสียงหวาน...

ความรู้สึกมันต่างกันครับ

[PREM]

ช่วงล่างผมมองว่าพวกรอยต่อต่างๆ แข็ง แต่พอถึงเวลาสาดโค้งจริงแล้วดันโยน พวงมาลัยทดมาไวมาก ขยับนิดหน่อยหน้ารถไปโน่นนี่แล้ว วิ่งเร็วจัดๆ ต้องประคองระดับนึง และการเก็บเสียงไม่ค่อยดีจริงๆ

ถ้าได้ลองตัว Highland จะพบว่าช่วงล่างนุ่มขึ้นมาก (ขนาด performance ยังนุ่มกว่า LR เก่า) และเก็บเสียงดีขึ้นชัดเจน สมราคามากขึ้น

ส่วนตัวผมเช่ามาขับหลายรอบเพราะเคยสนใจจะซื้อตัว Highland Performance สุดท้ายไปๆ มาๆ เบื่ออารมณ์ EV แรงอย่างเดียว กระแทกคันเร่งกี่ครั้งๆ ก็แค่ตัวจมไปกับเบาะ ขาดเสียง ขาดการเปลี่ยนเกียร์ ขาดความรู้สึก build รอบ build พลัง เลยพับโครงการไปออกรถ V8 มาขับแทนครับ

[bossa26]

ผิดกระทู้

[turbofever]

tesla ผมขับตัว rwd ล่างสุดของ 3 ที่ยางเป็นขอบ18 เต็มลมยางไว้ 42 psi ผมว่ามันพอรับได้นะ ไม่กระแทกเป็นรถซิ่ง พวกมาลัยก็โคตะระคม อัตราเร่ง 6 วิถึงร้อย ก็ยิ้มทุกครั้งตอนจอดไฟแดงคันแรก คือมันพอเพียงครับ

และได้ลอง seal perf ของเพื่อน เออ อันนี้แรงกว่ามาก สัก 50-120 โคตะระซะใจ และช่วงล่างก็นุ่มนวลพอกันกะ 3 rwd เพราะเป็นล้อ 19 ยางแบนกว่าหรือป่าวไม่รู้ แต่โช้คเหมือนจะยุบๆกว่า tesla

โดยรวมก็ชอบละครับ ถ้าใครมีงบซื้อของแบบของเล่นเลยก็เอามาขับเล่นสนุกๆได้

[InBkk]

แชร์ประสบการณ์ ในฐานะผู้ใช้ Model Y LR โดยส่วนใหญ่ ก็ตามที่ จขกท ว่ามาเลยครับ

อัตราเร่ง 10/10 (แน่นอนอยู่แล้ว) Top Speed คือ 220 แต่แค่นี้ก็เหลือๆ แล้ว
ช่วงล่าง 6/10 ถ้าคิดจะขับบนทางด่วน ต้องปรับพวงมาลัย หนักสุด เท่านั้น จึงจะพอได้ แล้วก็เล่นกับโค้งมากไม่ได้
User Interphase 8.5/10 หัก 1.5 คะแนน เพราะไม่มีปุ่ม แต่ต้องยอมรับว่า จอ ซอฟแวร์ ทำมาดีมากๆ และใช้ง่ายมากๆๆๆๆๆ ต่างจาก BMW IX ที่แม้จะมีทั้งปุ่ม และ Joy Stick ให้ ก็ยังนับว่าใช้ยากมาก ต่อให้ชินแล้วก็ยังใช้ยากอยู่ดี

[WASADM]

ผมใช้ Y RWD

อัตราเร่ง (7/10)
ของผมตัวเริ่ม ไม่ได้แรงอะไร แค่พอใช้งานทั่วไป ระดับ 0-100 6-7 วิ เคยลองตัว LR ผมให้ 9/10 แรงดึงดี แต่ไม่มีมิติ

ช่วงล่าง (7/10)
แข็ง เก็บรอยต่อถนนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ตอนเข้าโค้งคือเหวี่ยงโยนเลย อาจจะรถหนักเกิน แล้วทาง Tesla ทำ setup ช่วงล่างไม่เป็น บวกกับพวงมาลัยไวมาก ขับนานๆแล้วเหนื่อย

การเก็บเสียง (8/10)
ผมเทียบกับ G20 LCI, F10 LCI, G05, C257 ที่บ้าน มันเก็บเสียงดีวก่า G20 เยอะเลยนะ ของ G20 ขับแค่ 140 ก็คุยแทบไม่รู้เรื่องแล้ว

เทคโนโลยี (8/10)
ถ้าได้ลองใช้จริงๆ มีหลายจุดที่แบบเอ๊ะเยอะอยู่นะ เช่นปัดน้ำฝนเอ๋อๆ ปัดมั่วๆ ระบบปลดล็อครถช้า ยืนรอ 10 วิบางทีถึงจะปลดล็อครถได้ บลาๆๆๆ อีกเยอะครับ

เครื่องเสียง (8/10)
ดีกว่า Bose ของญี่ปุ่นทั้งหมด แต่มันก็จะไม่ค่อยมีมิติแนวเดียวกับ Hifi ของ BMW แต่เสียงดังฟังชัด ไม่แห้งแบบรถญี่ปุ่น