ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....  (อ่าน 17100 ครั้ง)

PeteFD

  • บุคคลทั่วไป
Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: กันยายน 14, 2011, 14:42:46 »
option มันก็แค่ของเล่น แต่ผมมองประโยชน์ในแง่ภาษีและการจ้างแรงงาน

เอาหละ รถของ MBTH แพงกว่า Gray แต่เห็นด้วยกับพี่จิมมี่ ว่า มีการจ้างแรงงานคนไทยประกอบและจัดจำหน่าย
เสียภาษีก็ไม่มีหมกเม็ด มีการรับประกันที่เชื่อถือได้

ผมว่ามันดีกว่า Gray เยอะที่ทำเน้นการขายไปวันๆ ซ่อมก็ปล่อยให้เป็นของศูนย์
แล้วเราจะมี MBTH ไว้ทำไม ผมว่าเขาปิดบริษัทไปเลยดีกว่า เพราะใครๆก็ไม่ซื้อรถกับเขา

ผมคิดว่าถ้ามีตัง 2-3 ล้านขึ้นไป การซื้อรถไม่ควรมามองแค่ ความเท่ห์และ option นะ
ต้องมองเรื่องบริการหลังการขายด้วยครับ ให้ซื้อรถ gray หรือรถจดประกอบ
ผมยอมขับรถในประเทศ option น้อยๆดีกว่า สบายใจดีครับ :D ช่วยเหลือแรงงานไทย และภาษีด้วย

พวก Grey ไม่มีการจ้างงานเหรอครับ?

จริงๆ ที่อยากให้ MBTH ทำคือปรับปรุงบริการหลังการขายให้ดีจนแบบคนออกรถเกรย์ต้องอิจฉา แต่ที่เป็นอยู่ปัจจุบันมันไม่หรอกครับ แค่สู้เรื่องนโยบายมันไม่พอหรอกครับ ต้องสู้ด้วยใจด้วย อยากให้ MBTH มีใจในการบริการมากกว่านี้ มากกว่าที่บางทีคำตอบเช่น เป็นแบบนี้ทุกคันไม่ควรจะเกิดขึ้นครับ  ;D

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,006
    • อีเมล์
Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: กันยายน 14, 2011, 14:58:10 »
ครับตามที่คุณ birm@productive ผมก็เข้าใจครับ

แต่ที่สินค้า ที่มีการหิ้วเข้ามา (ยกตัวอย่างของคุณbirm@productive เช่นกันนะครับ) เช่น กล้องถ่ายรูป canon EOS ที่เครื่องหิ้วมีมากมาย ในบ้านเรา แต่... สิ่งที่แตกต่างคือ ..... เครื่องหิ้ว ไม่ว่าจะมาจากไหน ศูนย์ Canon  ไม่เคยปฏิเสธที่จะซ่อมให้ลูกค้า  แต่ คิดค่าซ่อมและ อะไหล่ ในราคาเต็มเท่านั้นเอง ...

นี่คือความใจกว้างที่เป็นผลดีกับ "ผู้บริโภค"ครับ ... ผมขอพูดในฐานะผู้บริโภคเป็นหลักละกัน ... เพราะผมคงไปเป็นผู้บริหาร หรือผู้ถือหุ้นใน MBTH ไม่ได้ สิ่งที่ผมจะเป็นได้ในอนาคตอาจเป็นได้เพียงแค่ลูกค้าคนนึงเท่านั้น .....

เพราะผม ไม่ได้คิดจะเดือดร้อนแทน MBTH เลย สิ่งที่ผมคอยมองดูคือ การแข่งขัน และลูกค้าจะได้ประโยชน์สุงสุด แค่นั้นพอ ....

และก็ ถ้า เกรย์ปรับตัว สามารถมีทีม service ที่ดีเป็นของตัวเองได้ในอนาคต ... คนเดือดร้อนก็คงเป็น MBTH และ  ก็จะเกิดการแข่งขันและ สุดท้าย .. "ผู้บริโภค" ได้ประโยชน์ ......

มันไม่ดีหรือครับ ..... ??

---------------------------

เพิ่มเติมอีกหน่อย ...

เดือดร้อนแทนพ่อค้า ... เค้ากำไรมา ก็ไม่ได้แบ่งให้เรานิครับ .....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 14, 2011, 15:09:20 โดย apinui »

ออฟไลน์ KLANG MR-S

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 382
Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: กันยายน 14, 2011, 17:32:39 »
ครับตามที่คุณ birm@productive ผมก็เข้าใจครับ

แต่ที่สินค้า ที่มีการหิ้วเข้ามา (ยกตัวอย่างของคุณbirm@productive เช่นกันนะครับ) เช่น กล้องถ่ายรูป canon EOS ที่เครื่องหิ้วมีมากมาย ในบ้านเรา แต่... สิ่งที่แตกต่างคือ ..... เครื่องหิ้ว ไม่ว่าจะมาจากไหน ศูนย์ Canon  ไม่เคยปฏิเสธที่จะซ่อมให้ลูกค้า  แต่ คิดค่าซ่อมและ อะไหล่ ในราคาเต็มเท่านั้นเอง ...

นี่คือความใจกว้างที่เป็นผลดีกับ "ผู้บริโภค"ครับ ... ผมขอพูดในฐานะผู้บริโภคเป็นหลักละกัน ... เพราะผมคงไปเป็นผู้บริหาร หรือผู้ถือหุ้นใน MBTH ไม่ได้ สิ่งที่ผมจะเป็นได้ในอนาคตอาจเป็นได้เพียงแค่ลูกค้าคนนึงเท่านั้น .....

เพราะผม ไม่ได้คิดจะเดือดร้อนแทน MBTH เลย สิ่งที่ผมคอยมองดูคือ การแข่งขัน และลูกค้าจะได้ประโยชน์สุงสุด แค่นั้นพอ ....

และก็ ถ้า เกรย์ปรับตัว สามารถมีทีม service ที่ดีเป็นของตัวเองได้ในอนาคต ... คนเดือดร้อนก็คงเป็น MBTH และ  ก็จะเกิดการแข่งขันและ สุดท้าย .. "ผู้บริโภค" ได้ประโยชน์ ......

มันไม่ดีหรือครับ ..... ??

---------------------------

เพิ่มเติมอีกหน่อย ...

เดือดร้อนแทนพ่อค้า ... เค้ากำไรมา ก็ไม่ได้แบ่งให้เรานิครับ .....


ตั้งแต่อ่านเรื่องนี้มา เม้นนี้โดนใจมากครับ

ถ้าคิดว่ามีปัญหาในการเก็บภาษีคุณก็แก้ปัญหาโดยการไปร้องเรียนเรื่องภาษีสิครับ

มีหลักฐานมีอะไรก็ไปว่ากันตาม กม.ได้เลย

ไม่ใช่มาแก้ปัญหาโดยผลักภาระให้ผู้บริโภคแบบนี้

ผมเป็นลูกค้า MBTh มา 2 คัน เกรย์ 1 คัน 2-3 ปีแรกรถประกอบในจาก MBTh เคลมกันมากมาย ส่วนรถจากเกรย์มีเคลมแค่ครั้งเดียว พอหมดประกันผมก็ไม่เคยเข้าศูนย์ MBTh อีกเลย เพราะราคาซ่อมต่างกันประมาณเท่าตัว ซ่อมจบเหมือนกัน แถมอู่นอกเร็วกว่า เป็นคุณ คุณจะซ่อมที่ไหนล่ะครับ

ออฟไลน์ birm@productive

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 394
Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: กันยายน 14, 2011, 17:48:51 »
ครับตามที่คุณ birm@productive ผมก็เข้าใจครับ

แต่ที่สินค้า ที่มีการหิ้วเข้ามา (ยกตัวอย่างของคุณbirm@productive เช่นกันนะครับ) เช่น กล้องถ่ายรูป canon EOS ที่เครื่องหิ้วมีมากมาย ในบ้านเรา แต่... สิ่งที่แตกต่างคือ ..... เครื่องหิ้ว ไม่ว่าจะมาจากไหน ศูนย์ Canon  ไม่เคยปฏิเสธที่จะซ่อมให้ลูกค้า  แต่ คิดค่าซ่อมและ อะไหล่ ในราคาเต็มเท่านั้นเอง ...

นี่คือความใจกว้างที่เป็นผลดีกับ "ผู้บริโภค"ครับ ... ผมขอพูดในฐานะผู้บริโภคเป็นหลักละกัน ... เพราะผมคงไปเป็นผู้บริหาร หรือผู้ถือหุ้นใน MBTH ไม่ได้ สิ่งที่ผมจะเป็นได้ในอนาคตอาจเป็นได้เพียงแค่ลูกค้าคนนึงเท่านั้น .....

เพราะผม ไม่ได้คิดจะเดือดร้อนแทน MBTH เลย สิ่งที่ผมคอยมองดูคือ การแข่งขัน และลูกค้าจะได้ประโยชน์สุงสุด แค่นั้นพอ ....

และก็ ถ้า เกรย์ปรับตัว สามารถมีทีม service ที่ดีเป็นของตัวเองได้ในอนาคต ... คนเดือดร้อนก็คงเป็น MBTH และ  ก็จะเกิดการแข่งขันและ สุดท้าย .. "ผู้บริโภค" ได้ประโยชน์ ......

มันไม่ดีหรือครับ ..... ??

---------------------------

เพิ่มเติมอีกหน่อย ...

เดือดร้อนแทนพ่อค้า ... เค้ากำไรมา ก็ไม่ได้แบ่งให้เรานิครับ .....


เอ ... ผมไม่ได้เดือดร้อนนะ จะว่าใครลอยๆว่าพ่อใครเดือดร้อนก็ช่างเถอะ
...เพราะ...
ทั้งมุมมองเกรย์มาร์เก็ต และตัวแทนที่ถูกต้อง เพราะทั้งสองฝ่ายทำธุรกิจ มันต้องมีกำไรทั้งนั้น และก็ไม่มีใครมาแบ่งให้ผู้บริโภคอย่างเราๆรับทานอยู่ดี ใครจะไปอุดหนุนเกรย์ อุดหนุนศูนย์ อันนี้ผมไม่ได้จะมาพูดเพื่อบังคับใคร ผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย และมองในฐานะผู้บริโภคเหมือนกัน และมาแบ่งปันแนวคิดเท่านั้น

ถ้าอะไหล่ซ่อมกล้องพร้อมค่าแรงตกราคาหลายแสน รวมไปถึงการที่ตนเองจะต้องรับผิดชอบในสินค้าผิดสเปคที่ผลิตมากับตลาดที่ตนเองรับผิดชอบ อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อแบรนด์ ผมว่าแคนนอนก็น่าจะเริ่มคิดครับ ว่าจะรับของหิ้วมาซ่อมหรือไม่ และเพราะผมคิดว่ากล้องถ่ายรูปเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคใช้การพินิจพิจารณาในการซื้อไม่สูงเท่ารถยนต์หนึ่งคัน (ถ้าคุณไม่ไปเล่นยี่ห้อเทพๆ ที่มืออาชีพใช้ เช่น Hasselblad) หรือมีผู้บริโภคที่ซื้อกล้องหนึ่งตัว คิดนานกว่าซื้อรถหนึ่งคัน อันนั้นผมจะถือว่าคุณค่าของสินค้าต่อตัวผู้บริโภคมีคุณค่าไม่เท่ากัน

ส่วนเรื่องที่ว่าถ้าเกรย์สามารถมีทีมเซอร์วิสที่พร้อมบริการ แน่นอนมันก่อให้เกิดการแข่งขันภายในแบรนด์ ผู้บริโภคย่อมได้ประโยชน์ครับ แน่นอนว่าถ้าสามารถปฎิบัติการได้มาตรฐานเทียบเท่า หรือดีกว่าศูนย์ตัวแทนฯจริงครับ และก็พร้อมที่จะรับผิดชอบในกรณีที่มีความผิดพลาด เช่น ยกเครื่องให้ใหม่กรณีเกิดเติมน้ำมันแล้วเครื่องเสียหาย เพราะรถผิดเสปคจริง ครับ อันนี้ก็น่าชมเชย

แล้วถ้าเกรย์เอารถผิดสเปคมาจริง รถพังจริง แล้วเกรย์ซ่อมไม่ได้ (หรือไม่ซ่อม) แถมยังต้องให้ตัวแทนจำหน่ายซ่อมให้อีก
คนที่เดือดร้อน"จริงๆ"คงเป็นผู้บริโภคอย่างเราๆครับ ไม่ใช่ตัวแทนจำหน่าย หรือเกรย์มาร์เก็ตแต่อย่างไร

ตัวอย่างที่ MBth ทำนั้น ผมยังคิดว่าเขาปกป้องทั้งตัวเขาเอง และตัวผู้บริโภคเองอีกด้วยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 14, 2011, 17:51:38 โดย birm@productive »
ประวัติ
รถ 11 คัน
ยาง 14 รุ่น

ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,085
Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: กันยายน 14, 2011, 18:01:24 »
ก็พอเข้าใจนะครับว่า MBTH เป็นผู้แทนจำหน่าย"แต่เพียงผู้เดียว"
แต่การที่เกรย์ยังขายได้ แสดงว่า เกรย์ ก็ไม่ได้ทำผิดกฎหมายรึเปล่าครับ ?? (อันนี้ผมไม่รู้จริงๆ)
ถ้าสิ่งที่เกรย์ทำไม่ผิดกดหมาย ผมก็เห็นด้วยว่า เวลาเราซื้อของ เราก็คงมองในมุมมองของผู้บริโภค เพราะคนขาย ไม่ได้แบ่งอะไรให้เรา และเป็นกลไกธรรมชาติ ที่ทำให้คนขายต้องรู้จักปรับตัว ถ้าโดนผูกขาด ผมก็คงรับไม่ได้เช่นกัน

แต่ผมว่าปัจจุบัน MBTH พัฒนาขึ้นเยอะครับ บางรุ่นออฟชั่นพอกัน จนไม่มีความจำเป็นอะไรที่เราจะต้องไปออกเกรย์เลย ส่วนรุ่นที่ส่วนต่างร่วมล้านนั้น ยังไงก็ไม่รู้สึกว่าข้อดีของการออกกับตัวแทนจำหน่าย จะช่วยชดเชยเงินส่วนต่างนี้ไหวเลยแฮะ *-*

ป.ล. แต่ถ้าสิ่งที่เกรย์ทำมันผิดกฎหมาย อันนี้ก็คงจบครับ ยังไงเกรย์ก็ผิด ไม่ควรยกเหตุผลใดๆมาอ้างทั้งสิ้น >_<

ออฟไลน์ birm@productive

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 394
Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: กันยายน 14, 2011, 18:07:28 »
ก็พอเข้าใจนะครับว่า MBTH เป็นผู้แทนจำหน่าย"แต่เพียงผู้เดียว"
แต่การที่เกรย์ยังขายได้ แสดงว่า เกรย์ ก็ไม่ได้ทำผิดกฎหมายรึเปล่าครับ ?? (อันนี้ผมไม่รู้จริงๆ)
ถ้าสิ่งที่เกรย์ทำไม่ผิดกดหมาย ผมก็เห็นด้วยว่า เวลาเราซื้อของ เราก็คงมองในมุมมองของผู้บริโภค เพราะคนขาย ไม่ได้แบ่งอะไรให้เรา และเป็นกลไกธรรมชาติ ที่ทำให้คนขายต้องรู้จักปรับตัว ถ้าโดนผูกขาด ผมก็คงรับไม่ได้เช่นกัน

แต่ผมว่าปัจจุบัน MBTH พัฒนาขึ้นเยอะครับ บางรุ่นออฟชั่นพอกัน จนไม่มีความจำเป็นอะไรที่เราจะต้องไปออกเกรย์เลย ส่วนรุ่นที่ส่วนต่างร่วมล้านนั้น ยังไงก็ไม่รู้สึกว่าข้อดีของการออกกับตัวแทนจำหน่าย จะช่วยชดเชยเงินส่วนต่างนี้ไหวเลยแฮะ *-*

ป.ล. แต่ถ้าสิ่งที่เกรย์ทำมันผิดกฎหมาย อันนี้ก็คงจบครับ ยังไงเกรย์ก็ผิด ไม่ควรยกเหตุผลใดๆมาอ้างทั้งสิ้น >_<

Gray Market ไม่ผิดกฏหมายครับ มันคือหนึ่งในการกระจายสินค้า ซึ่งไม่ผิดกฏหมายแต่หากกระทำโดยไม่ได้ผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเท่านั้น ... ถ้าสินค้าได้รับการนำเข้าราชอาณาจักรอย่างถูกกฏหมายครับ

Black Market อันนี้ผิดกฏหมายครับ (ตลาดมืด)
ประวัติ
รถ 11 คัน
ยาง 14 รุ่น

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,630
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: กันยายน 14, 2011, 23:19:29 »
ถ้าวิธีคิดของคุณ apinui มองในมุมนี้

คุณคงอาจจะเป็นคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์ โดนแย่งเค้ก
หรืออาจจะไม่เคยผ่านโลกธุรกิจ ไม่เคยค้าขาย ไม่เคยต้องเจ็บปวด
กับการโดนเอารัดเอาเปรียบอย่างไม่เป็นธรรม ทั้งจากลูกค้า และ ผู้ที่ชุบมือเปิบ

ผมคิดว่า ผมไม่มีประโยชน์ที่จะต้องพูดกันต่อไปแล้วละครับ

เพราะเรื่องแบบนี้ "ต้องโดนเองเท่านั้นถึงจะรู้" ครับ

ผมยังไม่เห็นว่าจะมีใครในกระทู้นี้ หรือแม้แต่ตัวผมเอง เถียงแทนพ่อค้า
แต่เรากำลังพูดถึง "ความถูกต้อง และการเอารัดเอาเปรียบกัน ทั้งระหว่างบริษัทรถ กับลูกค้า ลูกค้ากับบริษัทรถ และ เกรย์กับลูกค้า"

อันที่จริง คุณ Apinui ก็คงรู้อยู่แล้วว่า คนอย่างผม ถ้าบริษัทรถ เอาเปรียบลูกค้า
ผมก็ไม่ปล่อยไว้ และต้องจัดการด้วยวิธีของผมอยู่แล้ว นั่นคือจุดยืนผมมาตลอด

แต่ คุณก็อาจจะไม่ทราบมาก่อนว่า "เพื่อให้ แฟร์ๆ เท่าเทียมกัน ในฐานะคนที่ชอบความยุติธรรมอย่างแท้จริง"
ถ้าลูกค้า มาในมุมที่ ไม่เข้าใจ พูดกันดีๆ เราก็จะพูดกันดีๆ แต่ถ้ามาในแนวงี่เง่า
ผมเองก็ไม่ยุ่งด้วย ไม่สนับสนุน เช่นเดียวกัน

เพราะโจทย์ของผม ในการตั้งเว็บนี้คือ เพื่อให้ บริษัทรถ ได้เข้าใจ ในผู้บริโภค
และเพื่อให้ผู้บริโภค เข้าใจในบริษัทรถยนต์  "ซึ่งกันและกันทั้งสองฝ่าย อย่างเท่าเทียม และแฟร์ต่อกัน"

เพราะในขณะที่คุณมองว่า ถ้าเพลง ยังไม่สามารถมาเปรียบกับรถได้
กล้อง ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะมาเปรียบกับรถ ได้เช่นเดียวกันครับ
ราคา ความซับซ้อน ความต้องการในด้านบริการซ่อมบำรุง แตกต่างกันมาก
(อันนี้คือ มองในมุมของผู้บริโภคแล้วนะ)

ถ้าคุณคิดว่า พ่อค้าจะต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบตลอดเวลา ลูกค้าจะต้องได้ประโยชน์เป็นหลัก
คิดว่า คนที่รวยกว่า ทำธุรกิจ คิดจะต้องจ้องแต่เอาเปรียบ อยู่ร่ำไปแล้ว

ผมอยากขอแนะนำว่า ลองปิดหน้าจอคอม ไปเปิดหูเปิดตาดูบ้างครับ
คุณจะพบกับสิ่งที่คุณคาดไม่ถึงอีกเยอะเลยทีเดียว ว่ายังมีพ่อค้าดีๆ ที่ยังคิดเผื่อให้ถึงลูกค้าอีกมาก


อย่าเอาอคติเดิมๆ ที่ฝังหัว มาใช้ในการคิดอยู่เลยครับ
โลกเปลี่ยนไปมากแล้ว

ออฟไลน์ YIM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,013
  • ไม่น่ารัก เราไม่มอง!!
    • อีเมล์
Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: กันยายน 14, 2011, 23:54:17 »
ตอนที่ผมทำงาน sales อยู่ ผมถือคติอยู่ข้อหนึ่ง

ลูกค้าไม่ใช่พระเจ้า ดังนั้นลูกค้าจะต้องได้รับในสิ่งที่สมควรได้รับเท่านั้น ไม่ใช่ทุกอย่างที่ลูกค้าอยากได้

เราไม่อยากถูกผู้ค้าเอาเปรียบ แต่เรากลับมองว่าการที่ผู้ค้าเสียเปรียบเป็นสิ่งที่ถูกต้อง???

ขอแรงหน่อยนะครับ

ไม่มีใครอยากขายของให้กับลูกค้าที่ไม่ระลึกว่าตัวเองควรจะได้อะไีร หรือไม่ควรจะได้อะไรหรอกนะครับ เพราะลูกค้ากลุ่มนี้ มักจะมีข้อเรียกร้องไม่สิ้นสุด ด้วยความคิดที่ว่า บริษัทจะขาดทุน หรือกำไร ก็ไม่ใช่ธุระ ลูกค้ากำไรก็จบ เพราะลูกค้าเป็นพระเจ้า

ผมเชื่อว่าผู้บริหาร marketting และ sales ที่เก่งจริงๆ เขาย่อมรู้วิธีหลีกเลี่ยงลูกค้ากลุ่มนี้ครับ

แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็คงต้องขาย แล้วเอาไปนินทาลับหลัง ไม่ก็เอาตุ๊กตา voodoo มาปักตะปู
JDM เท่านั้น จะครองโลก!

Blue 229

  • บุคคลทั่วไป
Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: กันยายน 15, 2011, 00:11:31 »
ขอตอบข้อ 6 ของจขกท.นะครับ ที่ถามว่าศูนย์กับเกรย์อันไหนดีกว่ากัน

เกรย์มาเก็ตถือเป็นสัญลักษณของการค้าในยุคใหม่ครับ
ลูกค้า กลยุทธ์ การตลาด สามสิ่งนี้มีความสำคัญมากขึ้นครับ
ในขณะที่ กฏหมายและจรรยาบรรณ ลดบทบาทลง
ส่วนศูนย์บริการ เป็นเรื่องของการค้ายุคเก่าครับ
กฏหมาย จรรยาบรรณ ลูกค้า การตลาด เรียงลำดับสำคัญมากไปหาน้อย

ลองนำไปนึกดูครับ ทุกเรื่องในสังคมไม่มีเรื่องใดผิดแท้ หรือถูกต้องแท้ หรอกครับ
มันอยู่ที่มุมมอง และค่านิยมของเราในขณะนั้น

แต่ถ้าจะว่าถึงสังคมในยุคปัจจุบัน มันก็แปลกอย่างนึงนะครับ
ผมเห็น คนเราทุกคนเป็นทุกข์เป็นร้อน แค้นใจเสมอเวลาโดนโกงหรือเสียประโยชน์
รังเกียจมากกับความไม่ถูกต้องในสังคม
แต่พอมีโอกาสได้โกงเค้าบ้าง หรือได้ตักตวงผลประโยชน์
คนบางกลุ่มไม่เห็นจะลังเลเลยครับ ทำในสิ่งที่ตนไม่ชอบซะอย่างนั้น


ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,006
    • อีเมล์
Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: กันยายน 15, 2011, 10:35:40 »
ท่าทางคุณ JIMMY จะโมโหผมแล้ว .........

ผมคิดแบบนี้ ผมขอโทษละกันครับ .......

ออฟไลน์ Silverliner

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 84
    • อีเมล์
Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
« ตอบกลับ #40 เมื่อ: กันยายน 22, 2011, 23:10:13 »
อ้าว  ผมกำลังมองหา E250 CDI อยู่  ปวดหัวเลย  ของเกรย์เขาออปชั่นเพียบ

เกียร์ก็ใส่ 7G มาให้แล้ว  อันนี้ผมให้ความสำคัญมาก  เพราะ MBTH ยังเป็นรุ่น 5 สปีด

ราคาเกรย์ก็ถูกกว่าเป็นแสนๆ  เอาไงดีวะตู

ออฟไลน์ paulmoderndog

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,780
    • อีเมล์
Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
« ตอบกลับ #41 เมื่อ: กันยายน 24, 2011, 12:08:53 »
ลองดูกำไรก็แล้วกัน


ราคา เริ่มของ E 200 CGI 28,000 Pound = 1,176,000 baht1.   Cost of Importing
      Cost = 1.176 M
      Insurance + Freight = 0.2 M
      CIF = 1.176 M + 0.2 M = 1.376 M

2. อากรขาเข้า
   30% of CIF = 1.376 M * 0.3 = 0.4128 M

3. ภาษีสรรพสามิต
   about 24 % of CIF = 1.376 * 0.24 = 0.33024 M

4. ภาษีมหาดไทย
    10% of 0.33024M = 0.033024 M

5. VAT 7 %
    = 0.07 * (1.376 M + 0.4128 M + 0.33024 M + 0.033024 M) = 0.150644 M

6. Total Cost + Total Tax
   = 1.376 M + 0.4128 M + 0.33024 M + 0.033024 M + 0.150644 M = 2.3027 M


The selling price of new MB E-class 200 CGI is 3.8 M
So profit per car is about 1.5 M baht     

Look at the option we get with this price

จาก


http://www.mercedesmania.com/forum/index.php/topic,69896.0.html

ออฟไลน์ V221

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,823
Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
« ตอบกลับ #42 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2011, 15:54:40 »
อ้าว  ผมกำลังมองหา E250 CDI อยู่  ปวดหัวเลย  ของเกรย์เขาออปชั่นเพียบ

เกียร์ก็ใส่ 7G มาให้แล้ว  อันนี้ผมให้ความสำคัญมาก  เพราะ MBTH ยังเป็นรุ่น 5 สปีด

ราคาเกรย์ก็ถูกกว่าเป็นแสนๆ  เอาไงดีวะตู
สมาชิกข้างบนอธิบายไว้ชัดเจนแล้วครับ ถูกและดีไม่มีในโลกครับ ซื้อจากเกรย์ก็ต้องรับความเสี่ยงมากกว่าครับ ที่บ้านผมมีรถMbth 4คันปัญหาบางคันก็ยังหลอนอยู่ รถเกรย์มี1คันปัญหาไม่ค่อยมีครับ ที่ซื้อใหม่ก็จะเป็นรถMbth1กับเกรย์2คันเพราะยอมรับความเสี่ยงได้ครับ คิดซะว่าความต่างราคาก็พอใจแล้วครับ
BMW 750E M SPORT