ผู้เขียน หัวข้อ: โปรดช่วยเปรียบเทียบPajeroกับFortunerด้วยครับ..ภาคต่อเลือกรถให้ศรีภรรยา  (อ่าน 44652 ครั้ง)

ออฟไลน์ Rung

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 170
กราบขอบคุณทุกความคิดเห็นจากกระทู้ที่แล้วนะครับ ครั้งนั้นตัดสินใจไปลองขับ CRV 2.4 4WD พอขับเสร็จ ภรรยาผมร้องอย่างดังเลยครับว่า "ผิดหวังอย่างแรง เสียดายที่แอบหลงรักมานาน" เพราะเสียงเครื่องดังเข้ามาในตัวรถมาก การเก็บเสียงและการเกาะถนนสู้รถPajaroไม่ได้เลย(มีโอกาสขับรถพี่สาวบ่อยครับ) ทำให้นึกถึงที่คุณจิมมี่กล่าวในรีวิวPajaroว่า ถ้าวัดกันเฉพาะการตอบสนองของช่วงล่างด้านหลัง Pajero Sport จะมีอาการ กระเด้ง "น้อยกว่า ช่วงล่างด้านหลังของ CR-V รุ่นปัจจุบัน!" (ยืนยันได้จาก ตาแพน Commander CHENG ของเรา ในฐานะที่ ครอบครัวเพิ่งถอย CR-V 2.4 ลิตรมาหมาดๆ และจนถึงตอนนี้ เจ้าตัวยังบ่นว่า "ทำไมพ่อกรูไม่ยอมซื้อ Pajero Sport วะ?") ซึ่งผมเองก็ขอนอนยันตามนั้นเหมือนกันครับ ทำให้ศรีภรรยาผมถึงต้องแอบเสียใจเลยครับ เพราะเธอเชียร์กึงบังคับให้ผมซื้อตั้งนานแล้ว แต่ตอนนั้นผมตัดสินใจซื้อ Accord ครับ ทำให้ตอนนี้เธอลบ CRV ออกไปจากฝันของเธอแล้วครับ ตอนนี้เกือบจะไปจองPajaroแล้วครับ แต่ก็อยากหาข้อมูลเพิ่มอีกนิดครับหลังจากที่อ่านจะรีวิวPajaroของคุณจิมมี่ จึงขอความกรุณาทุกท่านช่วยเปรียบเทียบPajaro 2.5 4WD กับ Fortuner 3.0 2WDModel2012 เพราะราคาใกล้เคียงกัน และรีวิวปัจจุบันของคุณจิมมี่เป็นการเปรียบเทียบกับFortunerรุ่นเดิมครับ ขอถามว่าใครเจ๋งกว่ากันดังนี้ครับ
1.การเกาะถนน รถวิ่งวันละ 100 กม. ความเร็วประมาณ 100-120 กม./ชม. ช่วงล่างทั้ง 2 รุ่นไม่เหมือนกัน Pajaro ตัวรถหนักกว่า 200 กก.มีผลต่อการทรงตัวไหมครับ ยิ่งเคยดูคลิปเปรียบเทียบการทรงตัวของTriton กับVigo แล้วไม่มั่นใจกับFortuner
2.ความปลอดภัย Fortunerมีเด่นกว่าที่ระบบ BA VSC และ TRD ไม่แน่ใจว่าจำเป็นไหมครับ และตัวถังใครแข็งแรงกว่ากัน
3.การเก็บเสียง ตอนนี้ประทับใจ Pajaro แต่ไม่เคยได้ลองขับ Fortuner เพราะยังไม่มีรถให้ลองครับ
4.ความคล่องตัวหรือความสะดวกสะบายในการใช้งาน อันนี้ภรรยาผมชอบระบบกล้องส่องหลังของFortuner มากเลยครับ
5.ความคุ้มค่ากับราคา 1.3ล้านบาท(เลือดตาแทบกระเด็น)
กราบขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 05, 2011, 10:06:12 โดย Rung »

last_dezember

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าเทียบเรื่องช่วงล่างเนี่ย ปาเจโร่ยังไงก็เหนือกว่าอยู่ครับ

ส่วนอ๊อฟชั่นนั้นถ้าเปรียบกัน ระหว่าง ปาเจยังให้มามากกว่าอยู่ครับ ถ้าหากอยากได้อ๊อฟจัดเต็มของฟอร์จูน

คงต้องไปเล่น ตัวขับสี่ล่ะครับ ส่วนระบบที่ฟอร์จูนให้มานั้น ทั้ง BA VSC TRC (ไม่ใช่ TRD นะครับนั้นมันชุดแต่ง อิอิ)

มันช่วยได้เยอะจริงๆ ครับ (ผมใช้บริการระบบเหล่านี้บ่อยเหลือเกิน 55)

ปล. นี่ถ้าอยู่ภูเก็ตจะเชิญมาลองขับครับ เพราะที่ 0 ผมมีรถให้ลองครับ เป็นตัว 3.0 ขับสอง...

ออฟไลน์ Rung

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 170
ขอบคุณ คุณPEA มากครับภรรยาผมก็คิดเหมือนคุณPAE เลยครับเธอจะซื้อ Fortuner ก็เพราะมีระบบ BA VSC และ TRD ครับ ทุกวันนี้ยังแอบบ่นผมเลยที่ไม่ซื้อ Accord ตัว 2.4 เราะมีแอร์แบค และระบบ VSC เพราะตอนนั้นผมเลือกตัว 2.0 เพราะมันถูกกว่ากันมากครับ เซลล์เพิ่งโทรมามีรถFortuner 3.0 2WD ให้ลองขับในวันอาทิตย์นี้ครับ ขอบคุณคุณ PAE มากๆครับ

ออฟไลน์ SitdownstrikE

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 711
ศรีภรรยา ชอบรถใหญ่จังครับ

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,615
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
ผมเริ่มมีคำถามว่า คุณมีความจำเป็นต้องใช้รถใหญ่ขนาดนั้นจริงๆหรือครับ?

คิดดีๆนิดนึงนะครับ

ถ้ามั่นใจแล้ว..

เลือก ช่วงล่าง การขับขี่ภาพรวม ความปลอดภัยจากโครงสร้าง และชุดเครื่องเสียงที่ ประเสริฐมาก แต่ใช้ยากชะมัด และกินน้ำมันกว่า ไปหา PJS
เลือก ออพชัน ความแรง ความปลอดภัยจาก ระบบอีเล็กโทรนิคส์ ไปหา Fortuner

ครับ

ออฟไลน์ Rung

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 170
ขอบคุณคุณจิมมี่มากๆครับ ในตอนแรกผมก็เห็นเหมือนคุณจิมมี่ว่าควรซื้อประมาณ C Segment ซึ่งผมแอบเชียร์ตัว Lancer 1.8 EX แต่เมื่อไปดูแล้วภรรยาผมให้เหตุผลว่าอยากได้รถใหญ่เพราะถนนที่ใช้มีรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์เยอะและถนนที่ไปทำงานมีหลุดและร่องถนนเยอะครับ ประกอบกับเมื่อเทียบราคารถ C Segment แล้วเธอบอกว่าเพิ่มเงินไปเล่นรถใหญ่ดีกว่า  ผ่อนต่างกันไม่มาก พวก SUV ยิ่งดีเพราะได้รถที่เอนกประสงค์มากขึ้น และได้เครื่องดีเซล เกิดอนาคตน้ำมันเบนซินแพงมากจนรับไม่ได้ ก็จะได้มาเน้นใช้ SUV แทน ซึ่งความคิดของเธอก็ดีครับ ผมคนง่ายๆ เรื่องเล็กแค่นี้ เลยตัดสินใจเลือกตามเธอครับ :D
ขอบคุณคุณจิมมี่มากๆครับ

ออฟไลน์ zekoza11

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 292
เท่าที่ผมเคยอ่าน ๆ ตามกระทู้ในเวปต่าง ๆ

คนเชียร์ส่วนใหญ่จะเป็น Mitsubishi
แต่คนขับส่วนใหญ่จะเป็น Toyota

ประมาณว่าหาข้อมูลเปรียบเทียบดูแล้ว Mitsubishi เหนือกว่า
แต่พอซื้อจริง ๆ มาลงจบที่ ศูนย์บริการและราคาขายต่อ ที่เยอะกว่าและดีกว่า


รู้สึกว่าผมก็น่าจะเป็นหนึ่งในคนส่วนใหญ่นะ 55555

ออฟไลน์ toonze

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,944
    • อีเมล์
โตโยต้า ใช้ระบบ อิเล็คทรอนิคช่วย แต่ ปาเจด๊โดยกำเนิด เครื่องเล็ก เสียภาษีน้อยกว่า จากคนเคย ขับ ฟอจูนตัวแรก แล้วมาขับปา ตัวล่าสุด

ออฟไลน์ Nioka

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,032
ศรีภรรยาคุณนี่ เยี่ยมเลยครับในการรับรู้ความรู้สึก พวกช่วงล่างหรือ ความต่างของรถ ซึ่งถือว่าดีเลยครับสำหรับสาวๆ

ส่วนศรีภรรเมียผม หรือบรรดาเพื่อนสาวของผม เนี้ย นั่งกันเป็นอย่างเดียว ไม่รู้หลอกมันนิ่ม มันกระด้าง มันเกาะ มันย้วย เป็นอย่างไร

นอกจากไป นั่งหลังสุด รถตู้  16 ที่นั่ง 5555555

ออฟไลน์ JIRATH

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,758
    • อีเมล์
คราวนั้นเส้นทางขาขึ้นมาจากภาคใต้ ทางเป็นหลุมบ่อยาวประมาณ สิบกิโลครับ ขับเจ้า PJS รูดหลุมกระจาย รูดแล้วให้ความนิ่งมาก ยังเกาะถนนอยู่

แล้วเส้นระนอง โค้งอย่างเยอะ ขับแล้วมันมากๆครับเจ้านี่ เสียดายอย่างเดียว ต้นอืด
2008 Mazda CX-9 (SOLD)
2008 BMW X5 3.0si E70 (SOLD)
2010 Volkswagen CC R-Line (SOLD)
2014 Subaru BRZ Limited (SOLD)
2016 Subaru STi (SOLD)
2016 Honda Accord Sport
2016 BMW 328d F31 Xdrive
2015 Lexus CT200h F-Sport
2006 BMW 330i E90 6M/T

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,702
  • Nine & Knight
ขอเพิ่มตัวเลือกให้คิดมาอีกนิดนึงครับ เคยไปลองแคปติว่ายังล่ะครับ ผมว่าปาเจโร่น่าใจใหญ่เกินไป ถ้าชอบทรงของ CRV แล้วล่ะก็น่าจะชอบแคปติว่า ถ้าตัวสีขาวผู้หญิงขับเนี่ยแจ๋วเลย งามมาก
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,084
    • อีเมล์
ลองใช้ดู ไม่ว่ายี่ห้อไหน  suv เครื่องดีเซล .... ผมเห็นเจ้าของรถร้องเรื่องค่าน้ำมันกันทุกคน .....

ขนาดเพื่อนผมคนนึง ที่เคยใช้ทั้งฟอร์จูนเนอร์ และเปลี่ยนมาใช้ไทรทัน ... ยังบ่นเลยว่า "โคตรแดก" ทั้งคู่ ...

มันบอกขับแคมรี่ 2.4(มันมีอีกคัน) ประหยัดกว่าเยอะ .....

ออฟไลน์ H.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,848
    • อีเมล์
CR-V เด้งจริงครับ พ่อเคยยืมคนรู้จักพาวิ่งไปสกลมา มันก็นั่งสบายหรอกแต่พอเจอทางไม่เรียบหน่อยนึงนี้กระแทกตูดเด้งเลย
H.

ออฟไลน์ au_GSR

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 83
ผมใช้ civic FD 1.8 กับ pjs2.5D

ขับลำปาง กทม pjs กินน้ำเยอะกว่าถ้าเทียบกิโลเมตรต่อลิตร

แต่ค่าน้ำดีเซลถูกกว่าเยอะเลยจ่ายค่่น้ำมันถูกกว่า

NUTTY LFC

  • บุคคลทั่วไป
ผมขอแนะนำPajero Sportครับ

ES

  • บุคคลทั่วไป
ผมก็แนะนำให้ท่านเจ้าของกระทู้ไปลอง Captiva 2.4 ตัวใหม่อีกท่านครับ
เพราะผมคิดว่าเหมาะกับผู้หญิงดี และค่อนข้างเอนกประสงค์ ช่วงล่างนิ่มๆจริงๆครับ เกาะถนนเยี่ยม
แต่ถ้าห่วงเรื่องน้ำมันและอัตราเร่ง ผมคิดว่า ถ้าอยู่ใน กทม แล้วมี e85 ก็เติมไปครับ แต่จะรถจะกินน้ำมันมากกว่าเดิม
แต่ถ้ารับไม่ได้อีก ก็ต้องดมแก๊ส LPG ล่ะครับ
ส่วนอัตราเร่งผมว่าดีกว่าเครื่องเดิมครับ แต่ก็ยังแพ้ดีเซลครับผม

เพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณาครับผม  ;D

ปล. อยากให้คุณพี่จิมมี่ จัด Review จังเลยครับ
ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ AVANTGARDe'

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,069
  • AWDiesel
ถ้าสองตัวเลือกนี้

Pajero 'Sport' จะมีช่วงล่างที่นิ่งกว่ามาก เคยรูดผ่านทางรถไฟที่100 ไปได้นิ่มๆเลยครับ
ภายในนั้นได้เบาะปรับไฟฟ้าสองข้างที่นั่งสบายย แต่เสียตรงโทนสีภายในซึ่งเลอะง่ายมาก
เครื่องเสียงดีแต่ใช้งานยาก เบาะแถวสามนั้นถ้าใช้โดยสารบ่อยๆอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนัก เพราะถึงจะพับราบได้ แต่การพับแต่ละทีค่อนข้างวุ่นวายไม่ต่างจากการแขวนเบาะฟอร์จูนเนอร์เลย สรุปถ้าเน้นการขับสาดโค้ง ขับเร็วประจำ ผ่านถนนเป็นหลุมบ่อด้วยความเร็วสูง ลุยป่าลุยเขา(เกียร์SS4 อันเลื่องชื่อ) มันเป็นตัวเลือกที่เลิศมากก

Fortuner ภายในได้คอนโซลที่ทำให้รถดูกว้างขึ้น (พร้อมดีไซน์แปลกๆ) เบาะนั่งถ้าเป็นคนตัวใหญ่อาจจะไม่สบายตัวเพราะค่อนข้างบีบและหมอนรองหัวที่ออกแบบแปลกๆ แผงข้างประตูที่หุ้มหนังแต่ตรงส่วนที่สัมผัสแขนกลับเป็นพลาสติกแข็งๆ ช่องแอร์ทุกแถวที่ทำให้เย็นแบบสะใจ เบาะแถวสามออกแบบให้พับแขวนอย่างสิ้นคิด แต่สามารถพับได้ที่ประตูหลังโดยไม่ต้องเดินไปเดินมา การโดยสารเบาะแถวสามนั้นสำหรับผมมันสบายที่สุดในกลุ่ม จุดขายคือระบบขับสี่ตลอดเวลาและระบบควบคุมเสถียรภาพเพียงรายเดียว สรุปถ้าต้องใช้ลุยทางหินเป็นหลุมเปํนบ่อ หรือสาดโค้งแรงๆ(ถ้ามองเรื่อง4WDและVSC) นั่งสามแถวบ่อยๆ มันเป็นตัวเลือกที่แจ๋วมาก

แต่จขกท.สนใจ 2WD งั้นตัดไป

แต่ในกรณีนี้ผมว่า Captiva 2.4Lt น่าจะเหมาะกว่า เพราะถึงคันใหญ่กว่าCR-V แต่ก็เล็กกว่าสองคันข้างบน เบาะแถวสามนั้นพับเก็บได้เรียบ และง่ายไม่วุ่นวาย
ช่วงล่างหนึบ ขับสนุก เครื่องอาจไม่แรงเท่าสองคันข้างบน
แต่ถ้าถนจเป็นหลุมบ่อลึกๆเยอะๆ PajeroSportเถอะครับ

ทั้งหมดนี้อยากให้พี่จขกท.และภรรยาไปทดลองขับด้วยตัวเองครับ เอาแบบขอเซลขับสัก10-20กม.ไปเลยครับ รถคันเป็นล้านต้องเลือกให้คุ้มกับที่เราจ่ายไปครับ ขอให้ได้รถที่ถูกใจนะคร้าบบ

ปล.ผมว่าเรียก PajeroSport หรือPJS จะดีกว่า Pajeroนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 05, 2011, 18:03:23 โดย AVANTGARDe' »

ออฟไลน์ reyeshenry

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,083
จัดให้ตอบทุกคำถาม

1. สมรรถนะโดยรวม (เครื่องยนต์,ช่วงล่าง,เบรก,ตัวถัง,การประกอบ)

ตอบ

-  แรงม้า  ปาร์เจโร่ 178 แรงม้า ฟอร์จูนเนอร์ 163 แรงม้า
- เครื่องยนต์ ฟอร์จูนเนอร์ 3,000 CC ปาร์เจโร่ 2,500 CC
- ช่วงล่าง ปาร์เจโร่ เกาะถนนดีกว่าเล็กน้อย  ส่วนฟอร์จูนเนอร์ตัวใหม่ ช่วงล่วงปรับปรุงดีขึ้น  ตอนนี้ สูสีปาร์เจโร่   อาจเท่ากันหรือดีกว่าแล้วด้วยซ้ำ
- เบรค ปาร์เจโร่  ดีกว่า  แต่ฟอร์จูนเนอร์ตัวใหม่ ก็ไม่ได้ด้อยกว่า  ให้เสมอกัน
-ตัวถัง ฟอร์จูนเนอร์น่าจะดีกว่าปาร์เจโร่นะ  (อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันแต่คิดว่าไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก)
-การประกอบ  ภายนอก ฟอร์จูนเนอร์ ออกเน้นหรู  เหมือนเลนครูเซอร์ ผมให้ชนะปาร์เจโร่ครับ  ส่วนภายในฟอร์จูนนเนอร์ ปรับปรุงขึ้นมา นิดหน่อย   แต่ โดยรวม ภายในยังทำดีไม่สู้ปาร์เจโร่

- ระบบความปลอดภัย ฟอร์จูนเนอร์ ดีกว่าปาร์เจโร่มาก
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า  ปาร์เจโร่ และฟอร์จูนเนอร์มีทุกรุ่น
ระบบเบรค ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD   ปาร์เจโร่ และฟอร์จูนเนอร์มีทุกรุ่น
- ระบบเสริมแรงเบรก BA  ปาร์เจโร่ไม่มี  ส่วนฟอร์จูนเนอร์ มีตั้งแต่รุ่น รุ่น 3.0V 2WD ขึ้นไป
- ระบบควบคุมการทรงตัว VSC ปาร์เจโร่ไม่มี  ส่วนฟอร์จูนเนอร์ มีตั้งแต่รุ่น รุ่น 3.0V 2WD ขึ้นไป
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC  ปาร์เจโร่ไม่มี  ส่วนฟอร์จูนเนอร์ มีตั้งแต่รุ่น รุ่น 3.0V 2WD ขึ้นไป

- กล้องมองหลัง (Back Camera)   ปาร์เจโร่ไม่มี  ส่วนฟอร์จูนเนอร์ มีตั้งแต่รุ่น รุ่น 2.7 V 2WD ขึ้นไป
- สัญญาณกะระยะขณะถอยหลัง  ปาร์เจโร่มีทุกรุ่น ส่วนฟอร์จูนเนอร์ไม่มียกเว้น รุ่น 2.5  เพราะมีกล้องถอยหลังให้แล้ว

---------------------------------

2. อ๊อปชั่น,อุปกรณ์ภายใน,การปรับเบาะนั่ง
ตอบ - อ๊อฟชั่นทั่งสองยี่ห้อนี้แทบไม่ต่างกัน

คร่าวๆ ดังนี้
- ไฟหน้า เลนส์ Projector  ปาร์เจโร่และฟอร์จูนเนอร์มีทุกรุ่น
- ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ  ปาร์เจโร่ มีเฉพาะ รุ่น GT และฟอร์จูนเนอร์มีทุกรุ่น
- ระบบปรับไฟหน้า สูง-ต่ำ  อัตโนมัติ  พร้อมไฟซีนอล HID   ฟอร์จูนเนอร์มีเฉพาะรุ่น 3.0 V คูณ4 และ รุ่น TOp  ส่วนปาร์เจโร่   เฉพาะ รุ่น GT
- ระบบทำความสะอาดไฟหน้า  ฟอร์จูนเนอร์มีเฉพาะรุ่น 3.0 V คูณ4 และ รุ่น TOp  ส่วนปาร์เจโร่   เฉพาะ รุ่น GT

อุปกรณ์ภายใน
- แอร์ดิจิตตอล  ปาร์เจโร่มีทุกรุ่น ส่วนฟอร์จูนเนอร์มีทุกรุ่น ยกเว้น รุ่น 2.5
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)   ปาร์เจโร่มีทุกรุ่น ส่วนฟอร์จูนเนอร์มีทุกรุ่น ยกเว้น รุ่น 2.5
- จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ (MID)   ปาร์เจโรไม่น่าจะมี  ส่วนฟอร์จูนเนอร์มีทุกรุ่น ยกเว้น รุ่น 2.5
- เบาะคนขับปรับด้วยไฟฟ้า  ปาร์เจโร่มีทุกรุ่น ส่วนฟอร์จูนเนอร์มีทุกรุ่น ยกเว้น รุ่น 2.5
- ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย  ปาร์เจโร่มีเฉพาะรุ่น TOP 2.5 GT 4WD  ส่วนฟอร์จูนเนอร์ไม่มีครับ
- เครื่องเสียง 2 DIN AM/FM DVD   ฟอร์จูนเนอร์ จอ 6.5 นิ้ว ส่วนปาร์เจโร่จอ 7 นิ้ว 
- ช่องต่ออุปกรณ์ USB / AUX  ฟอร์จูนเนอร์มีทุกรุ่นยกเว้น 2.5  ส่วนปาร์เจโร่ มีในรุ่น GLS
- ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth)   ปาร์เจโรไม่น่าจะมี  ส่วนฟอร์จูนเนอร์มีทุกรุ่น ยกเว้น รุ่น 2.5
- ระบบนำทาง (In-Car Navigator) ปาร์เจโร่ไม่มีสักรุ่น  ส่วนฟอร์จูนเนอร์มีในรุ่น TOP
- เครื่องปรับอากาศ  ฟอร์จูนเนอร์ แบบ อัตโนมัติ 3 แถวหน้า ด้านข้าง ด้านบน เพดาน และด้านหลังแถวสาม เหมือนรถตู้เลยครับ   ส่วนปาร์เจโร่มีด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง ไม่มีแอร์เพดาน


- การปรับเบาะนั้ง   ฟอร์จูนเนอร์ พับแถวสองมาชิดหลังเบาะคนขับแถวหน้าได้ และแถวสามพับห้อยไว้ที่ด้านข้างรถ    ส่วนปาร์เจโร๋ แถวสอง แถวสามพับเบาะได้แบบราบลงพื้นได้เลย   

- เบาะแถวสอง ฟอร์จูนเนอร์กับปาร์เจโร่  พื้นที่วางเท้าไม่ต่างกัน ส่วนเบาะแถวสามฟอร์จูนเนอร์มีพื้นที่วางเท้ามากกว่า ปาร์เจโล่เล็กน้อย

---------------------------------

3. อัตราการกินน้ำมัน ความเร็ว 120 ก.ม./ช.ม.

- อัตราการกินน้ำมันสูสีกันครับ  ราว 9 - 12 กิโลเมตรต่อลิตร   

---------------------------------

4. ราคาขายต่อ

(อิงเวปธนชาตินะครับ)

ถ้าเอาเฉพาะรุ่นที่คุณว่ามา   ราคามือหนึ่งของฟอร์จูนเนอร์ ยังยึดราคาเดิมอยู่นะครับรุ่นไมเนอร์เชนอยู่  (ซึ่งเป็นรุ่น บิ๊กไมเนอร์ของจูน จะบวกเพิ่มอีกทุกรุ่น 35,00 -50,000 บาทครับ)

Fortuner รุ่น 3.0V 2WD    ปี 2011 ไมเนอร์เชน์ ราคามือหนึ่ง 1,269,000 บาท  ราคามือสอง   1,100,000 บาท  ราคาตก ไป 169,000 บาท

ส่วน ปาร์เจโร่ สปอร์ต  รุ่น GT 2WD   ปี 2011 รุ่นปัจจุบัน ราคามือหนึ่ง 1,149,0000 บาท  ราคามือสอง   960,000 บาท  ราคาตก ไป 189,000 บาท

แต่ถ้าเป็นรุ่น TOP ของทั้งสองรุ่นนี้เทียบกัน ปีต่อปี

1.Toyota Fortuner คือ  3.0 V A/T Navi   ปี 2011 ตัวไมเนอร์นะครับ ไม่ใช่ตัว BMC
ราคา มือหนึ่ง อยู่ที่ 1,439,000 บาท
ราคาขายต่อมือสอง อยู่ที่ 1,300,000 บาท
ซึ่งบวกลบราคาขายจากมือหนึ่ง
ราคาจะตกไป 139,000 บาท

2.Mitsubishi PAJERO SPORT ตัวใหม่  รุ่นท๊อป ราคาอยู่ที่ 4WD 2.5 VGT GT / 5AT ปี 2011
ราคา มือหนึ่ง อยู่ที่ 1,312,000 บาท
ราคาขายต่อมือสอง อยู่ที่ 1,100,000 บาท
ซึ่ง บวกลบราคาขายจากมือหนึ่ง
ราคาจะตกไป 219,000 บาท
---------------

ส่วนถ้าคิดเป็นราคามืองสองของทั้งสองรุ่นนี้เทียบกันแบบ  4  ปี นะครับ คือรถปี 2008 จะได้รายละเอียดดังนี้

Mitsubishi   Pajero Sport   PAJERO Sport 3.2 GT รุ่น TOP Auto    ปี 2008  ซึ่งตอนนี้ไม่ได้ผลิตแล้ว

ราคามือหนึ่ง 1,250,000 บาท  ราคามือสอง   870,000 บาท  ราคาตก ไป 380,000 บาท


ส่วน

ToyotaFortuner   FORTUNER 3.0 V 4WD (DVD/NV) (MNC)Auto    ปี 2008
ราคามือหนึ่ง 1,419,000 บาท บาท  ราคามือสอง   1,150,000 บาท  ราคาตก ไป 269,000 บาท

---------------


5. ค่าซ่อมบำรุงตามระยะ (ในกรณีเข้าศูนย์บริการทุกครั้ง)

- คิดว่า โตโยต้าถูกกว่าครับและมีศูนย์บริการได้ที่ได้มาตรฐานกว่ามิสซูอยู่พอสมควร  ถ้าเรื่องการซ่อม อะไหล่  ของโตโยต้ากินขาด มิสซูมิสชิ หลายช่วงตัวครับ


-----------------------

6. ระบบความปลอดภัยยิ่งมาให้มากเท่าไหร่ ยิ่งดี ครับ  อย่างน้อยๆ ก็ทำให้จากหนัก เป็นกลาง เป็นเบาได้  เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้้นได้ทุกเมื่อ  
ไอ้พวกระบบความปลอดภัยพวกนี้

- ระบบเสริมแรงเบรก BA  ปาร์เจโร่ไม่มี  ส่วนฟอร์จูนเนอร์ มีตั้งแต่รุ่น รุ่น 3.0V 2WD ขึ้นไป
- ระบบควบคุมการทรงตัว VSC ปาร์เจโร่ไม่มี  ส่วนฟอร์จูนเนอร์ มีตั้งแต่รุ่น รุ่น 3.0V 2WD ขึ้นไป
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC  ปาร์เจโร่ไม่มี  ส่วนฟอร์จูนเนอร์ มีตั้งแต่รุ่น รุ่น 3.0V 2WD ขึ้นไป

Pajero Sports ตัวต่างประเทศมีมีระบบพวกนี้นะครับ  แต่ตัวที่ไทยไม่มี  เพราะอะไรน่ะเหรอก็เพราะหากใส่ระบบความปลอดภัยพวกนี้เข้าไป ราคา pajero sport  ก็คงจะพอๆ Fortuner แน่ๆ    แล้วถ้าทำแบบนั้น คงขายสู้ไม่ได้ โตโยต้าไม่ได้ อย่างเทียบชั้นไม่ติดเลยแหละ

-------------------

ตอบให้ 6 ข้อแล้วนะครับ  ลองพิจารณาดูครับ
ถ้าคุณจะเอา Fortuner 3.0 V แนะนำไปเอาตัว 3.0 V 4wd ดีกว่าครับ
มีอ๊อฟชั่น เพิ่มาให้เยอะกว่าตัว 2wd เยอะเลย

ราคาฟอร์จูนเนอร์ เทียบรุ่นต่อรุ่น กับปาร์เจโร่  มือหนึ่งต่างกับ เป็นแสนบาทครับ
ถ้าคิดว่าเงินหนา เอาฟอร์จูนเนอร์ไป เพราะ ราคาขายต่อเมื่อใช้รถไป 5 ปี แล้ว เทียบกับ ปาร์เจโร่  ของพี่โตโยต้า แกราคามือสองแรงครับ

อย่างที่ผมเทียบให้ดู แม้ราคาปาร์เจโร่จะถูกกว่าฟอร์จูนเนอร์เป็นแสน  โดยราคาอ้างอิงธนชาติ แต่ราคามือสองขายต่อของโตโยต้าก็ตกยากเหมือนกัน
ฟอร์จูนเนอร์ปี 2008 รุ่น TOP ราคาตกจากมือหนึ่ง 269,000 บาท แต่ปาร์เจโร่รุ่น TOP ปาร์เจโร่ ราคามือสอง ตกจากมือหนึ่งไป 380,000 บาทครับ

ยังไงก็ลองไปพิจารณาดูครับ ถ้านึกถึงเรื่องราคาขายต่อ จัดปาร์เจโร่ไปเลย เพราะราคาไม่แรง แต่ได้อ๊อฟชั่นเยอะ  แต่ ถ้าอยากได้อ๊อฟชั่นเยอะเหมือนปาร์เจโร่ แต่ราคาแรงกว่า แต่ราคามือสองขายต่อดี ก็ให้เอาปาร์เจโร่ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 05, 2011, 21:04:23 โดย thepowermancity »

ออฟไลน์ Pasakorndvm

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,307
ความเห็นด้านบน ตอบละเอียดดีครับ แต่ในรายละเอียดเรื่องระยะเบรค ฟอร์จูนเนอร์ดีกว่าอยู่แล้วนี่ครับ
อีกอย่างการใช้ระบบอีเล็กทรอนิกส์ในการช่วยเหลือ ไม่ใช่คำตอบของความปลอดภัยทั้งหมด

ตอบเจ้าของกระทู้ว่า ให้ลองขับก่อนนะครับ  ส่วนหนึ่งรถขนาดใหญ่ไม่ได้แสดงถึงความปลอดภัย
ในอุบัติเหตุมากกว่ารถคันเล็กกว่าเสมอไป แต่คันใหญ่ดีตรงทัศนวิสัยที่ดีกว่า ทำให้ขับระยะไกลแล้วเครียดน้อยกว่ารถคันเล็ก
แต่ผมก็เข้าใจว่า ในเขตอุตสาหกรรมของระยองมีรถบรรทุกขนาดใหญ่จำนวนมาก ถ้าทำให้ขนาดใหญ่แล้วปลอดภัย
ผมว่าถ้ารถเราเป็นรถพ่วง หรือ รถถังแบบ full size อันนี้ปลอดภัยกว่ารถยนต์โดยสารส่วนตัวแน่นอน
'19 Honda Civic EL

ออฟไลน์ toonze

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,944
    • อีเมล์
- ช่วงล่าง ปาร์เจโร่ เกาะถนนดีกว่าเล็กน้อย  ส่วนฟอร์จูนเนอร์ตัวใหม่ ช่วงล่วงปรับปรุงดีขึ้น  ตอนนี้ สูสีปาร์เจโร่   อาจเท่ากันหรือดีกว่าแล้วด้วยซ้ำ

อันนี้ ตอบเอียงไปป่าวอะ

ออฟไลน์ • Jmng™ •

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,398
  • My name is Ko krub.
    • www.facebook.com/satinokoko
จัด Pajero Sport หนักๆ เลยครับ

ตอนนี้เลขกิโลเกือบ 110,000 แล้วครับ ยังน่ารักน่าชัง ไม่งอแงเหมือนเดิม

เรื่องเครื่องยนต์และช่วงล่างเนี่ย เท่าที่แม่ผมขับอยู่ทุกวันนี้ แม่ผมเค้าก็บอกว่าขับมันส์แล้วล่ะครับ
ถ้าได้เครื่อง 178 แรงม้าผมว่าคงจะขับสนุกกว่ารุ่นผม (2.5L 140 แรงม้า) แน่นอนครับ

เรื่องช่วงล่างและเบรถ ยังไงก็หายห่วงแน่นอนครับ ผมว่าเผลอๆ ระบบ VSC นี่แทบจะไม่จำเป็นเลยน่ะครับ

เรื่องกล้องมองหลัง...อันนี้ก็สามารถให้ที่ศูนย์แถมเป็นของแถมได้ หรือไม่เราก็สามารถที่จะมาติดเองข้างนอกได้เลยครับ

ส่วนเรื่องเนวิ ผมแนะนำให้ซื้อของ Gramin เลยครับ เพราะตอนนี้ก็ใช้อยู่ ราคาประมาณ 3000 กว่าบาท

แต่ถ้าอยากได้ความไฮโซนิดๆ แต่ต้องแลกด้วยค่าอัพเกรดแผนที่แพงโคตรมหาโหด อันนี้ฟอร์จูนเนอร์เลยครับ

แต่ยังไงก็ขอให้คุณภรรยาเจอกับรถที่ถูกใจนะครับ :)
난널사랑해...파제로 스포트......... รีวิว Pajero Sport .. http://bit.ly/pZjq5h เชิญเสพ
www.facebook.com/satinokoko  
!Instagram @Kbltz_Jmng

Jmng FACMU19 :)

ออฟไลน์ no7749

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 97
Fortune จะซื้อ เพราะที่วางแก้วมันเยอะเนี้ยแหละ  ;D เป็นรถที่วางแก้วมาให้เหลือกินเหลือใช้มาก

อีกอย่างหนึ่งครับ ระบบแอร์ ถ้าใช้รถคนเดียว ไม่มีปัญหาครับ

แต่ถ้าสมมุติ รถมันมีแอร์ตรงเพดาน เข้ารถมาร้อนๆ เย็นสะใจกว่าครับ (อันนี้เท่าที่ใช้ Fortune)

ส่วน ปาเจ นี้ ส่วนตัวชอบครับ แต่ยังมีปัญหา เรื่อง 0 อยู่ (หลังจากที่บ้านซื้อ EXมา) ส่วนตัวคิดว่าหา 0 ดีๆยากเหมือนกัน

แต่เรื่องค่าตัวและความคุ้มค่า ชนะตัวฟอร์จูน ครับ

gatasila

  • บุคคลทั่วไป
- ช่วงล่าง ปาร์เจโร่ เกาะถนนดีกว่าเล็กน้อย  ส่วนฟอร์จูนเนอร์ตัวใหม่ ช่วงล่วงปรับปรุงดีขึ้น  ตอนนี้ สูสีปาร์เจโร่   อาจเท่ากันหรือดีกว่าแล้วด้วยซ้ำ

อันนี้ ตอบเอียงไปป่าวอะ
ผมว่าเค้าเอียงไปมากกว่านี้อยู่นะครับ  ;D

ออฟไลน์ Rung

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 170
ผมขอขอบคุณทุกความคิดเห็นมากๆๆๆๆครับ ตอนนี้ไปจองรถเรียบร้อยศรีภรรยาแล้วครับ