พอดีมีพี่ที่รู้จักทำงานอยู่บริษัทรถยนต์น่ะครับ ขอตอบว่า บริษัท รถยนต์ ณ ปัจจุบัน เค้าออกแบบ และผลิตยนต์ยนต์นั่ง มาให้ใช้งานจริงๆจังๆ
อยู่ที่ 5 ปีครับ (ยกเว้นปิคอัพ) แต่..ไม่ได้หมายความว่า พอ 5 ปีปุ๊บ แล้วพังปั๊บนะครับ เพียงแต่ว่ารายการการซ่อมจะมีมาเรื่อย ตามอายุการใช้งานของอุปกรณ์
ต่างๆ โดยเฉพาะระบบไฟฟ้า ในรถยนต์ เนื่องจากรถยนต์ในปัจจุบันมีระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาเกี่ยวข้องเยอะมาก เมื่อเปรียบกับรถยนต์เมื่อ สมัย 20 ปีที่แล้วนะครับ
ยกตัวอย่าง Collora AE101 ใช้มา 8 ปี ไดชาร์ตถึงไป แต่ในขณะที่ Ford Focus ใช้มา 3 ปี คอยล์จุดระเปิดไป เป็นต้น อันนี้คือการยกตัวอย่าง ระหว่างรถยุคเก่าๆ กับรถยุคใหม่ๆ
แต่เหตุผลหลักๆ ที่บริษัทรถยนต์ เค้าออกแบบรถยนต์มาให้ไม่ทนทานเหมือนรถยนต์สมัยก่อน ก็เป็นเพราะ
1. ผลประกอบการ ถ้ารถทำมาทนมากๆ แล้วรถรุ่นใหม่ๆ จะขายออกมั้ยล่ะ
2. ลดต้นทุนในการผลิต อันนี้เป็นหัวใจหลัก ของการได้มา ซึ่งข้อแรก
3. กฏหมายมลภาวะ (ในบางประเทศ) ในบางประเทศ รถยิ่งเก่า ยิ่งเสียภาษีแพงขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยีที่เก่ากว่าอัตราบริโภคเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น และปล่อยมลภาวะมากขึ้น
4. ภาครัฐบาลของกลุ่มประเทศที่ผลิตรถยนต์หรือบริษัทรถยนต์เอง (เกี่ยวเนื่องกับข้อ 3) ต้องการกระตุ้นให้มีการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ ไม่ต้องการให้ย่ำอยู่กับที่ ยกตัวอย่าง
เทคโนโลยี ฉีดตรง เกียร์ DSG CVT ระบบ Hybrid เป็นต้น ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นเพราะ เชื้อเพลิงที่แพงขึ้น และสภาวะโลกร้อน
5. วัสดุส่วนใหญ่ที่ใช้กับรถยนต์สมัยนี้ เป็นวัสดุริไซเคิล ซึ่งกระบวนการผลิตที่ถูกควบคุมในเรื่องของมลพิษ ทำให้เกิดข้อจำกัดของวัสดุที่นำมาใช้ ยกตัวมอย่าง ยางแท่นเครื่อง Ford Focus
ลาโลก ที่ระยะทาง 8 หมื่นกิโลเมตร ในขณะนี่ CIVIC DIMENSION วิ่งมา 1แสน8หมื่นกิโลเมตร ยางแท่นเครื่องยังอยู่ดี แถมยังหัวเพลายังไม่ขาดด้วย (สงสัยวิ่งแต่ทางตรง) อะไรประมาณนี้
ที่ผมพิมพ์มานี้ ส่วนนึงมาจากพี่ที่รู้จัก และมาจากการวิเคราะห์ของผมเองด้วย เพราะฉะนั้นโปรดใช้วิจารณญาณนะครับ..