ผู้เขียน หัวข้อ: 2015 Lotus Elise Co2 150 g/km  (อ่าน 7183 ครั้ง)

ออฟไลน์ H3T

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,720
    • อีเมล์
2015 Lotus Elise Co2 150 g/km
« เมื่อ: ธันวาคม 19, 2014, 12:23:03 »
  ผมเชื่อว่ามีหลายท่านเริ่มวางแผนมองๆรถนำเข้าในช่วงปี 2559 กันบ้างนะครับ

 ประเด็นมันอยู่ที่การเปลี่ยนแปลงอัตราการเก็บภาษีสรรพสามิตใหม่ โดยคิดตามการปล่อย Co2 แทนอย่างที่ทราบกัน

 ผลที่ตามมาก็คือ รถส่วนใหญ่ที่ความจุต่ำกว่า 3000 cc จะมีราคาถูกลง มากน้อยขึ้นอยู่กับการปล่อย Co2 ซึ่งมี 3 พิกัด
   1. ต่ำกว่า 150 g/km = 30%
   2. 150 < 200 g/km = 35%
   3. > 200 g/km = 40%

 จากปัจจุบันที่มีแรงม้าจำกัดไว้ที่ 220 แรงม้าในทุกพิกัด ซึ่งพอเกินก็จะโดนเก็บพิกัด 50%

 ด้วยผมเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนำเข้ารถยนต์ ( ผมไม่ใช่ผู้นำเข้าอิสระนะครับ ) ทำให้ต้องทำการบ้าน หาข้อมูลกันเป็นพิเศษ จึงลองเอาแชร์กันครับ

 คราวนี้ก็ต้องหาดูว่า รถรุ่นไหนที่น่าสนใจ ซึ่งต้องมีมลพิษ Co2 ต่ำๆ และความจุไม่เกิน 3000 cc
   กลุ่ม Sport car ยกตัวอย่าง
   
      1. Lotus Elise model change ช่วงกลางปี 2015 ถ้านำเข้ามาเลยก็จะโดนภาษีสรรพสามิตพิกัด 50% เพราะแรงม้าเกิน แต่ถ้าเข้าปี 2016 ก็จะเหลือแค่ 30%
         - 2.0L 300 แรงม้า
         - น้ำหนัก 1095 kg
          - Co2 150 k/km = 30%

      2. BMW M2 ปลายปี 2015
          - 3.0L 6 สูบ Turbo 380 ม้า
           - Co2 176 g/km = 35%

       3. BMW M3/M4 Current
          - 3.0L 6 สูบ Turbo 430 ม้า
          - Co2 194 g/km ( เฉพาะ DCT ) = 35%

       4. Cayman , Boxster Current
           - 2.7 6 สูบ 275 ม้า
            - Co2 195 g/km = 35%
           
           2016 Cayman , Boxster
            - 2.0L Turbo 3xx ม้า
             - Co2 < 200 g/km = 35%
       
        5. Civic Type R กลางปี 2015
             - 2.0L Turbo เกือบ 300 ม้า
              - Co2 < 200 g/km = 35%

         6. Subaru WRX Current
              - 2.0L Turbo 305 ม้า
               - Co2 197 g/km

  มีท่านใดสนใจรถกลุ่มไหน รุ่นอะไรอยู่ลองแชร์กันดูนะครับ ซึ่งส่วนใหญ่พูดได้เลยว่าภาษีถูกลงครับ

 หมายเหตุ :
    1. รถ Hybrid จากเดิมเก็บ 10% แต่อัตราใหม่ ถ้าปล่อย Co2 เกิน 100 g/lm จะเก็บสูงขึ้นเป็น 20%
    2. A45 AMG ข้างล่าง ก็ Co2 161 g/km ( รวมทั้ง CLA45 AMG ) ภาษีสรรพสามิตใหม่ก็เท่ากับ 35% ราคาถูกลงอีกพอสมควร

ออฟไลน์ TaeZ

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 26
Re: 2015 Lotus Elise Co2 150 g/km
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2014, 15:24:41 »
ขอบคุณครับ เล็งๆไว้หลายคันอยู่ครับ  :D

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
Re: 2015 Lotus Elise Co2 150 g/km
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2014, 16:19:07 »
Rides under my consideration are both yank and Euro performance ones.

- Mustang GT (S550)

5.0 V8 (302ci)
420 ponies
Co2 272 g/km
- Morgan Roadster 3.7

3.7 V6
280 ponies
Co2 240 g/km
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 19, 2014, 16:32:03 โดย Ivy Modernist »

onnonn

  • บุคคลทั่วไป
Re: 2015 Lotus Elise Co2 150 g/km
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2014, 01:01:23 »
     1. Lotus Elise model change ช่วงกลางปี 2015 ถ้านำเข้ามาเลยก็จะโดนภาษีสรรพสามิตพิกัด 50% เพราะแรงม้าเกิน แต่ถ้าเข้าปี 2016 ก็จะเหลือแค่ 30%
         - 2.0L 300 แรงม้า
         - น้ำหนัก 1095 kg
          - Co2 150 k/km = 30%

สงสัยนะครับ แปลกใจ Lotus Elise จะมี Modelchange ด้วยหรอครับ ตัว Concept Design ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2010 (ทั้ง 6 รุ่น) ล้มเลิกไปหมดแล้วนิครับ เครื่องยนต์กำลัง 300 แรงม้า คงต้องพัฒนาเครื่องยนต์กันยกใหญ่ ซึ่งข่าวคราวเรื่องพัฒนารุ่นใหม่ก็ไม่มีนะครับ

ออฟไลน์ H3T

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,720
    • อีเมล์
Re: 2015 Lotus Elise Co2 150 g/km
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2014, 08:50:34 »
     1. Lotus Elise model change ช่วงกลางปี 2015 ถ้านำเข้ามาเลยก็จะโดนภาษีสรรพสามิตพิกัด 50% เพราะแรงม้าเกิน แต่ถ้าเข้าปี 2016 ก็จะเหลือแค่ 30%
         - 2.0L 300 แรงม้า
         - น้ำหนัก 1095 kg
          - Co2 150 k/km = 30%

สงสัยนะครับ แปลกใจ Lotus Elise จะมี Modelchange ด้วยหรอครับ ตัว Concept Design ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2010 (ทั้ง 6 รุ่น) ล้มเลิกไปหมดแล้วนิครับ เครื่องยนต์กำลัง 300 แรงม้า คงต้องพัฒนาเครื่องยนต์กันยกใหญ่ ซึ่งข่าวคราวเรื่องพัฒนารุ่นใหม่ก็ไม่มีนะครับ

 ใช่ครับ concept ทั้งหมดในงาน paris motor show 2010 จะไม่มีการทำออกมาขาย ด้วยเหตุผลด้านต้นทุนในการพัฒนาที่สูงเกินไป เพราะความหลากหลายของตัวถังที่แตกต่างกันทั้งหมด

 โดยผู้บริหารจะมาเน้นทำรถที่มีอยู่ให้ดีขึ้น มียอดขายที่สูงขึ้น ซึ่งจะมี Elise , Exige , Evora เป็นรุ่นหลักในการทำตลาด
  ซึ่ง Elise เป็นรุ่นที่มียอดขายสูงสุดของ Lotus และต้องมีการโมเดลเชนจ์ในปี 2015 ตาม Planning เดิม โดยต่อจาก Exige โมเดลเชนจ์เมื่อปีที่ผ่านมา และตามมาด้วย Evora ในปี 2016

 เบื้องต้นยังไม่มีความชัดเจนว่า Elise ใหม่จะออกแบบตามตัว concept ที่เคยเห็นหรือเปล่า แต่มีการวางเป้าหมายเชิงเทคนิคเอาไว้
  1. ขยายตัวถังขึ้นเล็กน้อย
  2. มีความสะดวกสบายขึ้น
  3. เครื่องยนต์ใหม่ 2.0L 3ZR-FAE จาก Toyota ติดระบบอัดอากาศ
  4. ปล่อย Co2 ให้ได้ 150 k/kg
  5. โครงสร้างตัวถังแชร์กับ Exige

  จะเห็นว่า Elise เพิ่งจะไมเนอร์เชนจ์ไปเมื่อปีที่แล้ว อาจจะบอกเป็นนัยว่า Elise ใหม่อาจจะล่าช้ากว่าเดิมก็ได้ แต่ไม่น่าจะเกิน 2016 แน่นอนครัย

HIGHSEA

  • บุคคลทั่วไป
Re: 2015 Lotus Elise Co2 150 g/km
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2014, 09:45:23 »
ขอบคุณ จขกท มากครับ ผมกำลังหาข้อมูลอยู่พอดีเลยว่าภาษีใหม่จะมีผลมากน้อยแค่ใหน...มีแพลนว่าจะซื้อรถใหม่เลยต้องพักใว้ก่อน เพราะผมมองว่าเครื่องขนาด 2,000 cc น่าจะเพียงพอต่อการใช้งานในหลายๆรุ่นและขับสนุกมาก  ในกลุ่มที่น่าสนใจก็พวก 2,000 cc turbo ทั้งหมดครับ

ออฟไลน์ H3T

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,720
    • อีเมล์
Re: 2015 Lotus Elise Co2 150 g/km
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2014, 11:24:02 »
 ถ้าเจาะดู รถประเภท Sport car light weight mid-engine
  นอกจาก Lotus Elise แล้ว ก็น่าจะเป็น
      Alfa Romeo 4C
        - 895 kg
        - 240 ม้า
        - โครงสร้างตัวถังชั้นดี
         - Co2 157 g/km = 35%

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
Re: 2015 Lotus Elise Co2 150 g/km
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2014, 12:06:16 »
ถ้าเจาะดู รถประเภท Sport car light weight mid-engine
  นอกจาก Lotus Elise แล้ว ก็น่าจะเป็น
      Alfa Romeo 4C
        - 895 kg
        - 240 ม้า
        - โครงสร้างตัวถังชั้นดี
         - Co2 157 g/km = 35%

Morgan Roadster is quite similar in concept, yet featuring bespoke production and retro-style looking.

onnonn

  • บุคคลทั่วไป
Re: 2015 Lotus Elise Co2 150 g/km
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2014, 19:46:14 »
ถ้าเจาะดู รถประเภท Sport car light weight mid-engine
  นอกจาก Lotus Elise แล้ว ก็น่าจะเป็น
      Alfa Romeo 4C
        - 895 kg
        - 240 ม้า
        - โครงสร้างตัวถังชั้นดี
         - Co2 157 g/km = 35%

ปัจจุบัน 4C เกรย์เจ้านึงนำเข้ามาขายอยู่ที่ 7 ล้านบาทครับ อนาคตราคาน่าจะลงมาพอสมควรเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 20, 2014, 19:48:55 โดย ceedee »

ออฟไลน์ Jonbaba

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 62
    • อีเมล์
Re: 2015 Lotus Elise Co2 150 g/km
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2014, 14:02:55 »
Golf gti จะเหลือเท่าไหร่นะ...รอ รอ รอ

แล้วแบบนี้จะมีผลกับราคาอะไหล่ด้วยมั้ยคับ

ออฟไลน์ top3245

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 465
Re: 2015 Lotus Elise Co2 150 g/km
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2014, 14:38:34 »
พวกเครื่องไม่เกิน 3000 แต่แรงมากกว่า 220 ม้า ราคาถูกลงหลายแสนแน่ครับ

ออฟไลน์ H3T

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,720
    • อีเมล์
Re: 2015 Lotus Elise Co2 150 g/km
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2014, 14:54:53 »
Golf gti จะเหลือเท่าไหร่นะ...รอ รอ รอ

แล้วแบบนี้จะมีผลกับราคาอะไหล่ด้วยมั้ยคับ

Golf GTi MK7 220 ม้าพอดี ตอนนี้เสีย 30%
 ปี 2559 ดู Co2 = 139 g/km = 30% เท่าเดิมครับ

Golf R MK7 300 ม้า ตอนนี้เสีย 50%
 ปี 2559 ดู Co2 = 163 g/km = 35% ถูกลงครับ

 เพิ่มเติมอีกหน่อยนะครับ ตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา รถที่นำเข้าจากญี่ปุ่นขนาดเกิน 3000 cc จะเสียอากรขาเข้าเพียง 60% เท่านั้น ( รถจากที่อื่นจะเสียที่ 80% ) จากสนธิสัญญา JTEPA

 ดังนั้นรถที่เกิน 3000 cc ถ้ามาจากญี่ปุ่นจะเสียภาษีรวมต่ำกว่าที่อื่นครับ

 แต่ไฮไลท์ของ JTEPA คือ ในปี 2560 มอเตอร์ไซด์จากญี่ปุ่นจะไม่ต้องเก็บอาการขาเข้า ( 0% ) ไม่จำกัด cc

 หมายเหตุ : อาการขาเข้า 0% แต่ยังมีภาษีสรรพสามิต มหาดไทย และมูลค่าเพิ่มอยู่ครับ

ออฟไลน์ H3T

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,720
    • อีเมล์
Re: 2015 Lotus Elise Co2 150 g/km
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2014, 15:01:09 »
พวกเครื่องไม่เกิน 3000 แต่แรงมากกว่า 220 ม้า ราคาถูกลงหลายแสนแน่ครับ

 จับตา Ferrari 458 next gen ที่กำลังจะวางเครื่อง 2.9L V6 twin turbo ให้ดีครับ ราคาขายอาจจะได้เห็น 10 ล้านกลางๆก็ได้ครับ
 เร็วกว่านั้นก็ Audi R8 3.0L V6 twin turbo ราคา 10 ล้านต้นครับ

ออฟไลน์ Bond007

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 792
Re: 2015 Lotus Elise Co2 150 g/km
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ธันวาคม 24, 2014, 09:24:19 »
เป็นความรู้มากๆขอบคุณมากครับ

สอบถามเพิ่มเติม
- ภาษีดังกล่าวจะเริ่มใช้จริง 1 มกราคม 2559 ใช่ไหมครับ ?
- แล้วรถที่เกิน 3,000cc จะเปลี่นยแปลงบ้างหรือเปล่าครับ เช่น R8V10 , Huracan , Cayman/Boxster S 3.4
ขอเป็นความรู้ ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ top3245

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 465
Re: 2015 Lotus Elise Co2 150 g/km
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ธันวาคม 24, 2014, 09:55:55 »
เป็นความรู้มากๆขอบคุณมากครับ

สอบถามเพิ่มเติม
- ภาษีดังกล่าวจะเริ่มใช้จริง 1 มกราคม 2559 ใช่ไหมครับ ?
- แล้วรถที่เกิน 3,000cc จะเปลี่นยแปลงบ้างหรือเปล่าครับ เช่น R8V10 , Huracan , Cayman/Boxster S 3.4
ขอเป็นความรู้ ขอบคุณครับ
- ครับ
-ไม่ครับ ถ้าเกิน 3000 ต้องเจออัตรา 50% เท่ากับอัตราปัจจุบัน

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
Re: 2015 Lotus Elise Co2 150 g/km
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ธันวาคม 26, 2014, 20:20:16 »
ผมลองนั่งกดดูเล่นๆ อัตราภาษีใหม่นี้เอื้อประโยชน์กับกลุ่มรถแรงของคนฐานะปานกลางถึงค่อนข้างรวย (แน่นอนไม่รวม V8, V12 ที่อยู่ในตลาดคนรวยจริงๆ)

ต้องขอบคุณคุณ H3T มาก กระทู้นี้ทำให้ผมเพิ่งหันมาศึกษาโครงภาษีสรรพสามิตใหม่ครั้งแรก และได้รู้อะไรอีกมากครับ
ที่น่าสนใจคือจุดคาบเกี่ยวของ Tier ภาษีที่จะทำให้เกิดกรณีประมาณนี้
1. BMW M4 DCT ราคาถูกกว่าเกียร์ธรรมดา (เพราะเกียร์ธรรมดา CO2 เกิน 200)
2. C63AMG จะราคาแรงกว่า BMW M4 มาก (เพราะพี่พกมา 4.0 ลิตร)
3. Golf R จะราคาถูกลง ใกล้เคียง Golf GTi มากขึ้น
4. Lexus IS250F จะแพงขึ้น เพราะ CO2 213 กรัม/ก.ม. แต่ IS250 รุ่นล่างๆล้อบางๆจะไม่แพงเท่า (199กรัม/ก.ม.) แต่ที่แน่ๆแพงกว่าเดิมที่เป็นอยู่
5. รถไฮบริดที่ไม่ได้มลภาวะน้อยมากจริงจะแพงขึ้น เช่น Lexus GS250h, GS450h พวกนี้จะโดนเพิ่ม 10% แต่ CT200h จะรอดพ้นเพราะ 94 กรัม/ก.ม.
6. Jaguar F-Type V6 และ Maserati Ghibli เสียสรรพสามิตน้อยลง 10% จากเดิม 50 เหลือ 40%

เท่าที่ดูภาพรวม ภาษีใหม่ คนใช้รถเล็กทั่วไปชีวิตไม่เปลี่ยน คนใช้ไฮบริดตัวไม่ใหญ่ไม่หนัก ชีวิตไม่เปลี่ยน คนที่ชอบ 4 เม็ดเทอร์โบม้าเกิน 220 ชีวิตได้กำไร คนชอบ 3.0ลิตรเทอร์โบได้กำไร ส่วนไฮบริดตัวใหญ่ๆ ไฮบริด SUV กับรถ NA ที่ม้าไม่เกิน 220 แต่ CO2 เกิน 150กรัม/ก.ม. ชีวิตเปลี่ยน..
- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ pop

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 689
  • ชีวิตออกแบบได้
    • www.teemgroup.com
    • อีเมล์
Re: 2015 Lotus Elise Co2 150 g/km
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: ธันวาคม 26, 2014, 21:32:59 »
เฮียแพนตอบซะ เห็นภาพเลย
เอา! เก็บตังค์กันต่อไป ;D

ออฟไลน์ Bond007

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 792
Re: 2015 Lotus Elise Co2 150 g/km
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: ธันวาคม 27, 2014, 21:24:48 »
ผมลองนั่งกดดูเล่นๆ อัตราภาษีใหม่นี้เอื้อประโยชน์กับกลุ่มรถแรงของคนฐานะปานกลางถึงค่อนข้างรวย (แน่นอนไม่รวม V8, V12 ที่อยู่ในตลาดคนรวยจริงๆ)

ต้องขอบคุณคุณ H3T มาก กระทู้นี้ทำให้ผมเพิ่งหันมาศึกษาโครงภาษีสรรพสามิตใหม่ครั้งแรก และได้รู้อะไรอีกมากครับ
ที่น่าสนใจคือจุดคาบเกี่ยวของ Tier ภาษีที่จะทำให้เกิดกรณีประมาณนี้
1. BMW M4 DCT ราคาถูกกว่าเกียร์ธรรมดา (เพราะเกียร์ธรรมดา CO2 เกิน 200)
2. C63AMG จะราคาแรงกว่า BMW M4 มาก (เพราะพี่พกมา 4.0 ลิตร)
3. Golf R จะราคาถูกลง ใกล้เคียง Golf GTi มากขึ้น
4. Lexus IS250F จะแพงขึ้น เพราะ CO2 213 กรัม/ก.ม. แต่ IS250 รุ่นล่างๆล้อบางๆจะไม่แพงเท่า (199กรัม/ก.ม.) แต่ที่แน่ๆแพงกว่าเดิมที่เป็นอยู่
5. รถไฮบริดที่ไม่ได้มลภาวะน้อยมากจริงจะแพงขึ้น เช่น Lexus GS250h, GS450h พวกนี้จะโดนเพิ่ม 10% แต่ CT200h จะรอดพ้นเพราะ 94 กรัม/ก.ม.
6. Jaguar F-Type V6 และ Maserati Ghibli เสียสรรพสามิตน้อยลง 10% จากเดิม 50 เหลือ 40%

เท่าที่ดูภาพรวม ภาษีใหม่ คนใช้รถเล็กทั่วไปชีวิตไม่เปลี่ยน คนใช้ไฮบริดตัวไม่ใหญ่ไม่หนัก ชีวิตไม่เปลี่ยน คนที่ชอบ 4 เม็ดเทอร์โบม้าเกิน 220 ชีวิตได้กำไร คนชอบ 3.0ลิตรเทอร์โบได้กำไร ส่วนไฮบริดตัวใหญ่ๆ ไฮบริด SUV กับรถ NA ที่ม้าไม่เกิน 220 แต่ CO2 เกิน 150กรัม/ก.ม. ชีวิตเปลี่ยน..

อย่างงี้ New TTRS กับ TTS คงถูกลงเยอะสิครับนั้น  :o :o :o

AuNaraKa

  • บุคคลทั่วไป
Re: 2015 Lotus Elise Co2 150 g/km
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2015, 00:41:03 »
พวกเครื่องไม่เกิน 3000 แต่แรงมากกว่า 220 ม้า ราคาถูกลงหลายแสนแน่ครับ

 จับตา Ferrari 458 next gen ที่กำลังจะวางเครื่อง 2.9L V6 twin turbo ให้ดีครับ ราคาขายอาจจะได้เห็น 10 ล้านกลางๆก็ได้ครับ
 เร็วกว่านั้นก็ Audi R8 3.0L V6 twin turbo ราคา 10 ล้านต้นครับ

458 next gen นี่คือ 488 ที่เพิ่งออกรึเปล่าครับ หรือจะมีตัวเครื่องใหม่อีก