บางคนห่วงปัญหาจราจร ซึ่งจะมีแน่ แต่เราจะเจอปัญหารถติดแบบ ที่สุดของที่สุด แต่มันจะระดับเดียวกันกับที่เจอทุกวันนี้แหละ เพราะตราบใดที่ ถนน ไม่มีเพิ่มขึ้น
ต่อให้รถมากมายเป็นล้านๆคัน รถมันก็วิ่งได้เท่าเดิม..สุดท้าย คนที่ไม่ได้จำเป็นต้องใช้รถ ก็คงซื้อมาจอดที่บ้านซะมากกว่าวิ่ง กลายเป็นว่า หาภาระมาใส่ตัว ไหนจะค่าผ่อน ค่าดูแลรักษา ค่าภาษีประจำปี เป็นต้น สุดท้าย ก็ต้องหาเรื่องออกไปท่องเที่ยวตาม ตจว. แต่ถ้ามองในแง่ ศก. ก็คงเป้นการกระตุ้นให้ส่วนอื่นๆมีการขับเคลื่อน
บางคนห่วงหนี้เสีย สุดท้าย เดี๋ยวก็แก้กฏหมาย เพื่อให้มีทางออก
แต่ ยังไม่ค่อยมีใครห่วง ปัญหาฟองสบู่ ของวงการอุตสาหกรรมรถยนต์ !
ยังไม่ได้ศึกษารายละเอียดว่า ถ้าเกิดแล้วจะเป้นอย่างไร
แต่ผมคิดแบบชาวบ้านนะ ผมไม่อย่าจะเชื่อหรอก ว่า 9.1แสนคันนั้น จะมีคนที่จองไว้มาซื้อครบตามจะนวนหรอก อย่างเก่งก็ 2 ใน 3ของยอดจอง ภายใน2ปีนี้
แล้วผลิตมาเยอะๆๆๆๆ จะเอาไปทำอะไรต่อ และจะมีผลกระทบอะไร ตามมาอีกบ้าง
ซึ่งที่นั่งคิดอยู่ มีโอกาศที่จะไม่จริง พอๆกับ จริง แต่....ที่มั่นใจแน่นอน อาชีพเซลส์ขายรถ ปีนี้รับโบนัสเละ ก็เก็บเอาไว้ละกัน เพราะต่อจากนี้ไปอีก 3 ปี อาชีพนี้น่าจะเป็นขาลง
ส่วนใครที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับ ตกแต่ง หรืออู่ซ่อมรถยนต์ น่าจะเป็นยุคขาขึ้น แน่ๆ !
เสียดาย ไม่ได้เรียนทางด้าน เศรษฐศาสตร์ ไม่งั้น คงจินตนาการอะไรได้มากกว่านี้ จาก ภาวะ"ภาษีรถคันแรก"
แต่ทุกวันนี้ คิดแบบชาวบ้าน "นโยบายนี้มันๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ....คิดกันออกมาได้ยังไงว้า?
"