เอาเป็นว่าภาษี excise tax คิดจากราคาขาย ถ้ามองในมุมนั้น
แต่ราคาขายรถยนต์เท่าไหร่ต้องแสดงราคาต้นทุนที่น่าโรงงานต้องไม่ต่ำกว่ากี่% ของราคาขาย
เช่น ราคาขาย 1 ล้าน คือราคาที่รวมภาษีแล้ว คิดเป็น 125% ของราคาหน้าโรงงาน
เท่ากับว่าราคาหน้าโรงงาน 100% คือ 800,000
ตันทุนจริงต้องแสดงว่าเป็นกี่ % เช่น 80% 90% อะไรก็แล้วแต่ครับ
ไม่ใช้เอาราคาขาย 1 ล้าน แล้วมาบวกภาษีอีก 250,000 ครับ
ส่วนปิคอัพ ต้นทุนด้านโครงสร้างและอุปกรณ์ น่าจะถูกกว่าเพราะเป็นแบบ ชัสซีส์ และแถมใช้รวมกันได้หลายรุ่นยิ่งถูกครับ
แต่ที่แพงกว่าคือ ราคาเครื่องยนต์ดีเซลครับ ส่วนปิคอัพที่เป็นเครื่องยนต์เบนซิล แพงกว่านิดหน่อยเพราะ cc มากกว่า
อย่างนี้ครับ
เอาราคารถที่ขายในต่างประเทศ ที่ไม่มีภาษีสรรพสามิตสิครับ ราคาเปล่า ๆ คุณจะเห็นว่า เอาราคาพวกนั้น มาบวกสรรพสามิต จะยังมีส่วนต่างอีกหลักแสนสำหรับรถขนาดนี้ครับ
ประเทศอื่น ๆ คงไม่ขายรถขาดทุนแน่ ๆ ใช่ไหมครับ ?
ดูอย่างนั้นก็ได้ครับ แต่ต้องดูจากประเทศที่มีภาษีนำเข้าชิ้นส่วน rate พอๆกับเรานะครับ
บางประเทศถูกจริงเช่น ญี่ปุ่น เพราะเค้าไม่มีภาษีนำเข้าชิ้นส่วนเพื่อประกอบเป็นรถนะครับ
ราคารถเค้าจึงถูกกว่าครับ
รถVIOS, ALTIS, CIVIC, CITY มีชิ้นส่วนนำเข้าชิ้นไหน ที่ไทยซื้อแพงกว่าที่อื่นครับ ที่จะำทำให้รถมันแพงกว่าเขาก่อนภาษีเป็นแสน? BOI ภาษีนำเข้าเพื่อการขายภายในประเทศ ก็เรทต่ำอยู่แล้วสำหรับอะไหล่ใหม่นะครับ
ไทยน่ะ ต้นทุนอะไหล่ถูกสุดแล้วครับ อะไหล่ใน ASEAN, AFTA นำเข้าภาษีศูนย์ -5 เปอร์เซนต์ด้วย ถ้าประกอบเพื่อส่งออก ตอนน้ำเข้าอะไหล่ ภาษีเป็นศูนย์นะครับ คืนได้หมด ญี่ปุ่นเขาก็ไม่โง่มาลงทุนหรอกครับถ้าทำให้้ต้นทุนแพงขึ้น
ค่าแรงเราในเอเซีย ก็ถูกเกือบที่สุด ถ้ารถญีปุ่น ประกอบญี่ปุ่น ถูกกว่า มันก็ชัดอยู่แล้ว ไม่น่าต้องอธิบายครับ Overhead cost ที่นั้นมันก็เยอะกว่าอยู่แล้ว ครับ
ไม่ว่าจะ สรรพสามิต ภาษีนำเข้าอะไหล่ overhead cost เมืองไทย ส่งรถไปขายไม่รู้กี่ประเทศ มันบอกได้ชัดเจนอยุ่แล้วว่า เขาเอากำไรกับเราต่อคันเยอะกว่าครับ AUSTRALIA, INDO, Singapore (ไม่นับภาษีครอบครอง) ถ้าได้ตัดค่าขนส่ง ค่าภาษีนำเข้า มันถูกกว่าเราทั้งนั้นแหละครับ
ผ่านมาหลายข้อ ไม่เห็นมีอันไหนที่ผมจะสรุปได้เลยว่า รถในนี้มันเอากำไรเยอะกว่าน่ะครับ
ด้วยความเคารพ