ในช่วงปี 1986 หลังจาก Shell ออกน้ำมันเครื่อง Helix ในเมืองไทยเป็นครั้งแรก
ปีถัดมา 1987 Shell ได้นำสูตรน้ำมันเบนซินตัวใหม่ล่าสุดมาใช้
มันมีชื่อว่า... ฟอร์มูลา เชลล์ (Formular Shell)
แต่มันก็เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นจริงครับ
พอดีเสริชไปเจอ ในเว็บ คลังบทความเก่าของ Manager Online
และเจอบทความ เรื่องนี้ ใน ผู้จัดการรายเดือน ซึ่งถือว่า เป็นนิตยสารการตลาดรายเดือน
ที่ดีที่สุดเล่มหนึ่งในยุค 1980 - 1990 ก็เลยขอนำมาลงให้อ่านกัน
เพียงแต่ว่า บทความนี้ พูดถึง เรื่อง การนำน้ำมันไร้สารตะกั่วเข้ามาขายในบ้านเรา
เมื่อปี 1991
และ สิ่งที่เจ้าของกระทู้ถามไว้ มีการกล่าวถึงในรายละเอียดอยู่แล้วครับ
ตามลิงค์นี้
http://info.gotomanager.com/news/details.aspx?id=2732รายละเอียดตรงจุดที่เจ้าของกระทู้สนใจก็คือ
"ย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ในช่วงปลายปี 2530 จะเห็นถึงการแข่งขันช่วงนั้นได้เป็นอย่างดี
ในขณะที่เอสโซ่นำเอสโซ่ซูเปอร์ เอ็กซ์-ที สูตรใหม่ออกมาได้ระยะหนึ่ง
เชลส์ก็แถลงข่าวข้ามโลก เปิดตัวฟอร์มูล่า เชลส์ พร้อมกันทั่วโลกเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2530
ทำให้คาลเท็กซ์ต้องรื้อฟื้นคาลเท็กซ์ ซีเอ็กซ์-3 กลับมาใหม่อีกครั้ง พร้อมทั้งยืนยันความมั่นใจว่า
คุณภาพที่เคยประกาศมาเมื่อ 7 ปีก่อน ยังใช้ได้ดีอยู่ ในขณะที่ ปตท.ยังคงเงียบเหงากับเรื่อง
การพัฒนาสูตรใหม่จะมีก็แต่เพียงแคมเปญสวนหลวง ร.9 ที่ช่วยพยุงยอดขายไว้เท่านั้น
ดังนั้นการตัดสินใจนำสาร MTBE เพื่อเพิ่มค่าออกเทนในน้ำมันเบนซินพิเศษให้สูงกว่าคู่แข่ง
จึงเป็นโอกาสสำคัญสำหรับ ปตท.ในการช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดขณะนั้น
เมื่อเชลส์ต้องประสบอุบัติเหตุทางการตลาดด้วยการประกาศถอนฟอร์มูล่า เชลส์
สูตรผสมสารเพิ่มคุณภาพ "สปาร์ค เฮดเดอร์" ออกจากตลาดน้ำมันของไทย
เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2531 หลังจากที่วางตลาดได้ 4 เดือน ซึ่งการถอนฟอร์มูล่า เชลส์
ในครั้งนี้เป็นไปตามคำสั่งของบริษัทแม่ของเชลส์ที่ให้บริษัทลูกกว่า 30 ประเทศทั่วโลก
ถอนออกมาในทันที ด้วยสาเหตุว่ามีรถยนต์ .002% ของรถกว่า 20 ล้านคันทั่วโลกที่ใช้เชลส์
มีปัญหาเรื่องวาล์วค้างและในจำนวนนั้นสงสัยว่าจะเป็นเพราะฟอร์มูล่า เชลส์ โดยเจ้าตัวเอง
ก็ยังยอมรับหรือปฏิเสธไม่ได้ จึงขอถอนตัวออกจากตลาดไปก่อน
ช่วงจังหวะนี้เองที่ทำให้เลื่อน กฤษณกรี รองผู้ว่าการด้านการตลาดของ ปตท. เห็นเป็น
ช่องทางในการรุกตลาดด้วยการเปิดตัวน้ำมันเบนซินพิเศษสูตรใหม่ "พีทีที ไฮ-ออกเทน"
ที่ผสมสาร MTBE ทันทีในวันที่ 28 มกราคม 2531 เพียง 1 วันให้หลังจากการถอนฟอร์มูล่า เชลส์
ออกจากตลาด
การตัดสินใจนำพีทีที ไฮ-ออกเทนออกตลาดในช่วงนั้นทำให้ ปตท.สามารถเพิ่มยอดขายน้ำมัน
เบนซินพิเศษจากปี 2530 จำนวน 215.6 ล้านลิตร เป็น 270 ล้านลิตรในปี 2531 และทำให้
ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มจาก 19.4% ในปี 2530 เป็น 20.8% ในปี 2531
ถึงแม้ว่าเชลส์จะสามารถแก้สถานการณ์กลับมาได้ทันทีด้วยการนำฟอร์มูล่า เชลส์สูตร SAP9404
ออกวางตลาดในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ถัดมาพร้อมกับยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากจำนวน 369.4 ล้านลิตร
ในปี 2530 เป็น 443.7 ล้านลิตรในปี 2531 ก็ตาม แต่ส่วนแบ่งการตลาดของเชลส์กลับลดลงจาก
35.6% ในปี 2530 เป็น 34.15% ในปี 2531
จนกระทั่งตัวเลขล่าสุดของปี 2533 ปตท.ยังคงมีส่วนแบ่งตลาดน้ำมันเบนซินพิเศษอยู่ 20.9%
ในขณะที่เชลส์ 34.5% เอสโซ่ 25.9% และคาลเท็กซ์ 16.8% นับว่าเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญ
ในเกมการตลาดของ ปตท.ก็ว่าได้
- See more at:
http://info.gotomanager.com/news/details.aspx?id=2732#sthash.rSon7iFu.dpufอันนี้เป็นหนังโฆษณา ในต่างประเทศ แต่ของบ้านเรา ไม่ใช่ตัวนี้เลย
เพียงแต่ว่า หน้าตาของสถานีบริการน้ำมัน จะเป็นสัญลักษณ์นี้ทั่วโลกเหมือนกันครับ
อย่างไรก็ตาม เท่าที่หาข้อมูลเพิ่มเติมได้
มีการกล่าวถึงใน เว็บไซต์ ของผู้เกลียดชัง Shell ในต่างประเทศ
ซึ่งเกลียดชัง เพราะไม่เห็นด้วยในสิ่งที่ Shell ทำในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ต่อปัญหาของโลก โดยเฉพาะใน ไนจีเรีย
http://royaldutchshellplc.com/2011/08/28/shell-fuelsave-wakens-memories-of-formula-shell-debacle/ลองอ่านดูครับ
Enjoy!