ต้องดูเงื่อนไขบางข้อก่อน โอเคทราบแล้วว่าเป็นมือหนึ่ง ป้ายแดง แต่ต้องดูว่าขับสนุกนั้น เน้นสภาพเดิมๆเลย หรือหมายถึงว่ามีเงินก้อน 1 ล้าน ให้รวมค่าตัวรถ และรวมค่าโมดิฟายด้วยให้ออกมาเป็นรถคันนึง
ในบรรดารถเกียร์ธรรมดาภายใต้งบ 1 ล้าน ผมขับมาเกือบครบแล้วยกเว้น Altis 1.6J 6สปีด และ Sylphy 5 สปีด สองคันนี้ดูฟอร์มแล้วช่วงล่างไม่ได้เน้นขับสนุก พวงมาลัยก็ไม่ได้เน้นขับสนุก ถ้าเน้นการขับแบบรถเดิมสนิท Altis มีของดีคือเกียร์ แต่ถ้าฟีลลิ่งคันเกียร์มันไม่ต่างอะไรกับ Auris ตัวท้อปของญี่ปุ่น บอกเลยว่าธรรมดามาก คันเกียร์หลวมๆแบบรถทั่วไป ไม่มีความเป็นสปอร์ต Honda มักจะทำได้ดีกว่าในจุดนี้ (แต่ก็ไม่รู้ว่าพอโมหนักๆแล้วซินโครจะกลับบ้านเก่าเร็วเหมือนเครื่อง B-Seriesหรือเปล่า) ในบรรดา 3 คันนี้ถ้าเอามาโม ผมยังค่อนข้างเอียงไปทาง Civic เพราะองค์ประกอบที่ทำมารับ E85 อยู่แล้ว ในกรณีที่ลงเทอร์โบและจูนเติม E85 ด้วยจะสามารถทำม้าลงพื้นได้เยอะ แล้วแต่จะชอบว่าอยากให้เครื่องเสื่อมเร็วแค่ไหน ม้าลงพื้น 170 นี่ซัดให้ตายจูนเนอร์กับไดรฟเวอร์ไม่ควายจัด ยังไงก็ไม่พัง..200 ตัวลงพื้น..ดาษดื่นถมไปใครก็ทำ..260 ลงพื้น..ท่อนล่างเดิมยังรับได้อยู่แต่ขับไปก็มีกลัวๆเหมือนกัน..ส่วนตัวผมพยายามให้อยู่ราว 250 (เติมE85) หรือ 235 (เติม E10) ซึ่งนั่นก็คือม้าโบรชัวร์ราว 270-300ตัวแล้ว
แต่รถ FD, FB มีเทอร์โบ มันจะมีอารมณ์สนุกแบบรถขนาดกลาง น้ำหนักตัวมันไม่ใช่น้อยและขนาดตัว แม้จะเรียกว่ารถขนาดกลางๆแต่มันก็ไม่กระทัดรัดแล้วในยุคนี้ (ลองเอาไปจอดเทียบกับ E-Class W124ดูได้) ดังนั้นคนที่จะเอ็นจอยกับรถแบบนี้คือชอบแรงดึง ชอบแรงบิด เล่นโค้งก็เป็นโค้งยาวกว้างๆความเร็วสูงๆมากกว่า ถ้าอยากสนุกแบบรถเล็ก ก็คงต้องมองพวก B-Segment คือ Mazda 2 ซึ่งมีการวางคันเกียร์ได้เหมาะสม มี Ergonomics สำหรับการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบมากสำหรับรถราคาแค่นี้ สิ่งที่มันขาดคือพลัง แต่ชดเชยด้วยฟีลช่วงล่างกับพวงมาลัยที่ดี ถ้าโมในแบบ NA อาจต้องใช้เงินเยอะเพื่อให้ได้แรง ดังนั้นหลายคันจึงไปคบเทอร์โบ ซึ่งผมเห็นมาหลายพิกัดตั้งแต่เบาะๆ 140 ตัวลงพื้น ไปจนถึงระดับ 180ตัวลงพื้น เกียร์อัตราทดมาโอเค พอได้แรงบิดดีก็ขับสนุกเหมือนกัน แต่ถ้าชอบรถเล็ก สนุกแบบ NA ในวินาทีนี้ Jazz GE ตัวเก่านี่ล่ะขุนขึ้น รถเพื่อนๆน้องๆผมหลายคนวิ่งกัน 15.2-15.4วิที่คลองห้าได้ ไม่ได้ใส่กล่องจูนด้วยซ้ำ ของแต่งล้นตลาด และถ้าเน้นการขับที่หนักหน่วง GE ตัวเก่านี่น่าสน เพราะช่วงล่างหน้ามีการวางแนวลูกหมากที่ทำให้รองรับงานหนักได้ดี อายุการใช้งานยาวนานกว่า GD หรือ GK (ข้อมูลจากTee@Abuser)
รถอีกรุ่นที่ไม่ค่อยมีคนเอามาแต่งแบบแรงๆคือ Swift ซึ่งผมว่าด้วยกระจกหน้าที่ตั้งและยิงแนวกว้างๆทำให้มันมีทัศนวิสัยด้านหน้าดี ระยะคลัตช์พอดี การเข้าเกียร์ดี (แค่คันเกียร์ไม่ได้อยู่สูงแบบมาสด้า 2) ผมค้นพบว่าบางครั้งความสนุกไม่ต้องจ่ายแพงหมดตูดก็ได้ ถ้าความสนุกของคุณหมายถึงความคล่อง ไว ใกล้เคียงกับการขับโกคาร์ทมากที่สุด Swift นั้นมีศักยภาพในการเอาไปทำเป็นมุดโมบิลได้ดีมากด้วยพวงมาลัยที่ไว รถที่สั้นและน้ำหนักตัวที่เบา สิ่งที่ Swift ขาดคือพลัง ซึ่งต่อมาเพื่อนผมที่ซื้อ Swift ไปได้ลองปั้นรถของตัวเอง โดยเริ่มจากช่วงล่าง TEIN SS ที่ต้องให้พี่ใหญ่มาสเตอร์ช้อปรื้อรีวาล์วใหม่ (ของเดิมปรับแข็งสุดแล้วยังนุ่มไปสำหรับมัน) ผ้าเบรก NAP เฮดเดอร์สูตร ท่อสูตรที่ร่วมกันคิดค้นกับร้านทำท่อและทดสอบไดโน่ด้วย จากนั้นเติม E85 และจูนกล่อง ม้าเดิมๆโรงงาน 79-80ลงพื้น ทำSTEPนี้แล้วจบที่ 105 ลงพื้นแบบที่เจ้าของรถยังงงเพราะปกติการเพิ่ม 20%ในรถ NA นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ฝาเดิม ล่างเดิม กำลังอัดเดิม ..ท้ายสุดยัด Progressive NOS..คือไนตรัส..แต่ไม่ใช่กดทีเดียวแรงเป็นจรวดแล้วจบแบบในหนัง แต่เป็นการเปิดด้วยสวิตช์ จากนั้นจะให้ NOSฉีดที่รอบเท่าไหร่ คันเร่งลึกเท่าไหร่ ฉีดเยอะแค่ไหน ก็จูนไป ..ผ่าน Step นี้ได้ 180 ม้าลงพื้น ผมลองขับแล้ว สนุก มันส์ ดึง มีแรงบิดที่คอนโทรลได้ง่ายกว่าเทอร์โบมาก แต่ปัญหาคือความสนุกมันหมดไว ต้องคอยเติม NOS เติมทีก็ขับรถไปไกลบ้านผมมาก และเติมทีละพันบาท ..ปัจจุบันคันนี้แหวนร่วง รอรื้อซ่อม เพราะเจ้าของพลีชีพเพื่อต้องการรู้ว่าท่อนล่าง Swift สามารถรับม้าได้เท่าไหร่ก่อนพัง..สรุป 200 ตัว (จูนเนอร์แง้มว่ากูพลาดเอง ที่จริงต้องพยายามหาทางทำให้แรงกว่านี้ได้)