ขอถามเกี่ยวกับระบบปรับอากาศในรถยนต์ยุโรปครับ

[Lookkaew]

มีข้อสงสัยครับ เกี่ยวกับระบบแอร์รถยุโรปต่างๆ ครับ ไม่ว่าจะยุโรปแท้ ยุโรปเทียม เช่น M-B, BMW, Volvo, VW,Audi, Skoda, Fiat, Ford

1. ระบบแอร์รถยุโรปพวกนี้ ส่วนใหญ่แล้ว คอมเพรสเซอร์แอร์จะถูกเชื่อมต่อตลอดเวลารึเปล่าครับ คือคอมแอร์ไม่มีการตัด-ต่อ แต่ใช้ระบบน้ำร้อน น้ำเย็น
รึไม่ก็ใช้ระบบแปรผันปริมาตรคอมฯ แอร์เอา ต่างจากรถญี่ปุ่นบ้านๆ ทั่วไปส่วนใหญ่ที่ใช้กันในบ้านเรา

2. ระบบแอร์รถยุโรปพวกนี้ มียี่ห้อไหน หรือรุ่นไหน ที่ยังคงมีการดึงเอาอากาศภายนอกรถมาหมุนเวียนตลอด ไม่สามารถปิดได้เลย
แล้วระบบพวกนี้ ถ้าสั่งให้มันหมุนเวียนอากาศแต่ภายในรถ พอถึงเวลากี่นาที มันถึงดึงเอาอากาศภายนอกเข้ามาครับ

3. ระบบแอร์รถยุโรปทั้งหลาย เวลามันเสีย (หมดประกัน) หากมีการปฏิเสธการเคลม เราจะต้องรับภาระมาก หรือน้อยขนาดไหนครับ

ขอบคุณครับ พอดีสนใจรถยุโรป แต่เรื่องระบบแอร์ เป็นอะไรที่ผมหวั่นๆ เพราะใช้มาแต่รถญี่ปุ่น เช่น โตโยต้า นิสสัน มิตซูบิชิ ระบบแอร์ไม่เคยจุกจิกเลย

[sukhontha]

เอาเท่าที่รู้...
1.  ถูกต้องครับ  ไม่มีคลัชคอมฯ...แต่ใช้ระบบเพิ่ม -ลดแรงดันที่วิ่งผ่านคอมฯ  เป็นการเพิ่มหรือลดความเย็น  นำไปรวมกับระบบฮีทเตอร์  ออกมาเป็นอุณหภูมิแยกซ้ายขวา  รู้ประมาณนี้ครับ
2.  เห็นเป็นบางยี่ห้อ  แต่  ของผม saab เลือกได้ครับ
3.  ไม่รู้ครับ  แต่เสียยากเหมือนกัน  เสียเมื่อไรก็เปลี่ยนคอมฯเลย  ส่วนราคาคงพอควรเดาเอาว่า สองหมื่นขึ้น..

[benley]

ตอบเอาที่ผ่านมือละกัน (W202)
1. ของผมตัดนะครับ แต่นานหน่อย
2. ของผมเป็น เดนโซ่ ช่องอากาศปิดตายไปแล้ว
แต่ถ้าไม่ปิด หมุนเวียนอากาศโดยประมาณ 15 นาที
3. จะรับภาระมาก/น้อย ขึ้นอยู่กับอาการเสีย และ ช่างที่เราๆท่านๆไปเจอครับ 

[ChinoZz]

จากรถที่บ้านมี Toyota MB BMW
โตโยต้าแอร์เย็นฉ่ำสบายที่สุด

[madboy]

แอร์รถยุ่นบางรุ่น คอมแอร์ก็ทำงานตลอดเวลาเช่นเดียวกัน ยกเว้นว่ามันเย็นเกินไปแบบสุดๆมันก็ตัดครับ 

[jaesz]

มีข้อสงสัยครับ เกี่ยวกับระบบแอร์รถยุโรปต่างๆ ครับ ไม่ว่าจะยุโรปแท้ ยุโรปเทียม เช่น M-B, BMW, Volvo, VW,Audi, Skoda, Fiat, Ford

1. ระบบแอร์รถยุโรปพวกนี้ ส่วนใหญ่แล้ว คอมเพรสเซอร์แอร์จะถูกเชื่อมต่อตลอดเวลารึเปล่าครับ คือคอมแอร์ไม่มีการตัด-ต่อ แต่ใช้ระบบน้ำร้อน น้ำเย็น
รึไม่ก็ใช้ระบบแปรผันปริมาตรคอมฯ แอร์เอา ต่างจากรถญี่ปุ่นบ้านๆ ทั่วไปส่วนใหญ่ที่ใช้กันในบ้านเรา

2. ระบบแอร์รถยุโรปพวกนี้ มียี่ห้อไหน หรือรุ่นไหน ที่ยังคงมีการดึงเอาอากาศภายนอกรถมาหมุนเวียนตลอด ไม่สามารถปิดได้เลย
แล้วระบบพวกนี้ ถ้าสั่งให้มันหมุนเวียนอากาศแต่ภายในรถ พอถึงเวลากี่นาที มันถึงดึงเอาอากาศภายนอกเข้ามาครับ

3. ระบบแอร์รถยุโรปทั้งหลาย เวลามันเสีย (หมดประกัน) หากมีการปฏิเสธการเคลม เราจะต้องรับภาระมาก หรือน้อยขนาดไหนครับ

ขอบคุณครับ พอดีสนใจรถยุโรป แต่เรื่องระบบแอร์ เป็นอะไรที่ผมหวั่นๆ เพราะใช้มาแต่รถญี่ปุ่น เช่น โตโยต้า นิสสัน มิตซูบิชิ ระบบแอร์ไม่เคยจุกจิกเลย

1. แอร์รถที่เป็นคอมเพรสเซอร์แบบแวเรียเอเบิล มักจะไม่มีการตัดต่อในเวลาที่ทำงานปรกติ จะใช้หลักการที่แรงดันเปลี่ยน กำลังอัดเปลียน เพื่อควบคุมความเย็นของอีแวบปอเรเตอร์ หรือ คอยล์เย็น รถยี่ปุ่นบางรุ่นก็เป็นแบบนี้ อยู่ที่คอมแอร์ ไม่ใช่อยู่ทีว่าเป็นรถจากทวีป หรือ ประเทศไหนครับ

2. ระบบปรับอากาศทีอาศัยอากาศจากภายนอกมาหมุนเวียน มีทุกยี่ห้ออีกเหมือนกัน แต่ของเบนซ์มักจะทำให้มันดีดกลับ แต่แก้ไขได้ด้วย STAR DIAGNOSTIC ครับ

3. คอมแอร์รถยนต์เบิกห้าง แทบทุกยี่ห้อราคาจะอยู่ราว ๆ 3-4 หมื่นบาท ถ้าเบิกร้านแอร์ข้างนอกก็อาจจะ 5พัน ถึง 1 หมื่นบาท คอยล์แอร์ถ้ารั่ว เบิกศูนย์ก็หลักหมื่น ค่าแรงต่างหาก เบิกข้างนอกก็ 3พัน ถึง 1 หมื่นบาท

รถยุโรปที่โปรแกรม หรือ ออกแบบมาให้ถูกต้องตามสภาพอากาศ จะทำงานโดยไม่มี Heater เข้าร่วม เช่น BMW IHKA จะมีการแบ่งโซนการทำงานของระบบปรับอากาศ ที่สามารถโปรแกรมย่อยได้ว่าจะเลือกใช้ characteristic curve หรือไม่ และคอมแอร์แบบไหน ดังตัวอย่างในรูปครับ จะเห็นว่ามีโปรแกรมรองรับไว้แล้ว

ใครใช้รถยุโรป แอร์ไม่เย็น ผมก็คิดว่าแค่คนไม่รู้เรื่องรถแค่นั้นเอง เพราะถ้าเปิดแบบไม่ให้heater ทำงาน หรือ ตัดheater ทิ้งไป หยดน้ำทิ้งไว้ช่องแอร์ยังเป็นน้ำแข็งก็ทำได้

[benley]

มีข้อสงสัยครับ เกี่ยวกับระบบแอร์รถยุโรปต่างๆ ครับ ไม่ว่าจะยุโรปแท้ ยุโรปเทียม เช่น M-B, BMW, Volvo, VW,Audi, Skoda, Fiat, Ford

1. ระบบแอร์รถยุโรปพวกนี้ ส่วนใหญ่แล้ว คอมเพรสเซอร์แอร์จะถูกเชื่อมต่อตลอดเวลารึเปล่าครับ คือคอมแอร์ไม่มีการตัด-ต่อ แต่ใช้ระบบน้ำร้อน น้ำเย็น
รึไม่ก็ใช้ระบบแปรผันปริมาตรคอมฯ แอร์เอา ต่างจากรถญี่ปุ่นบ้านๆ ทั่วไปส่วนใหญ่ที่ใช้กันในบ้านเรา

2. ระบบแอร์รถยุโรปพวกนี้ มียี่ห้อไหน หรือรุ่นไหน ที่ยังคงมีการดึงเอาอากาศภายนอกรถมาหมุนเวียนตลอด ไม่สามารถปิดได้เลย
แล้วระบบพวกนี้ ถ้าสั่งให้มันหมุนเวียนอากาศแต่ภายในรถ พอถึงเวลากี่นาที มันถึงดึงเอาอากาศภายนอกเข้ามาครับ

3. ระบบแอร์รถยุโรปทั้งหลาย เวลามันเสีย (หมดประกัน) หากมีการปฏิเสธการเคลม เราจะต้องรับภาระมาก หรือน้อยขนาดไหนครับ

ขอบคุณครับ พอดีสนใจรถยุโรป แต่เรื่องระบบแอร์ เป็นอะไรที่ผมหวั่นๆ เพราะใช้มาแต่รถญี่ปุ่น เช่น โตโยต้า นิสสัน มิตซูบิชิ ระบบแอร์ไม่เคยจุกจิกเลย

1. แอร์รถที่เป็นคอมเพรสเซอร์แบบแวเรียเอเบิล มักจะไม่มีการตัดต่อในเวลาที่ทำงานปรกติ จะใช้หลักการที่แรงดันเปลี่ยน กำลังอัดเปลียน เพื่อควบคุมความเย็นของอีแวบปอเรเตอร์ หรือ คอยล์เย็น รถยี่ปุ่นบางรุ่นก็เป็นแบบนี้ อยู่ที่คอมแอร์ ไม่ใช่อยู่ทีว่าเป็นรถจากทวีป หรือ ประเทศไหนครับ

2. ระบบปรับอากาศทีอาศัยอากาศจากภายนอกมาหมุนเวียน มีทุกยี่ห้ออีกเหมือนกัน แต่ของเบนซ์มักจะทำให้มันดีดกลับ แต่แก้ไขได้ด้วย STAR DIAGNOSTIC ครับ

3. คอมแอร์รถยนต์เบิกห้าง แทบทุกยี่ห้อราคาจะอยู่ราว ๆ 3-4 หมื่นบาท ถ้าเบิกร้านแอร์ข้างนอกก็อาจจะ 5พัน ถึง 1 หมื่นบาท คอยล์แอร์ถ้ารั่ว เบิกศูนย์ก็หลักหมื่น ค่าแรงต่างหาก เบิกข้างนอกก็ 3พัน ถึง 1 หมื่นบาท

รถยุโรปที่โปรแกรม หรือ ออกแบบมาให้ถูกต้องตามสภาพอากาศ จะทำงานโดยไม่มี Heater เข้าร่วม เช่น BMW IHKA จะมีการแบ่งโซนการทำงานของระบบปรับอากาศ ที่สามารถโปรแกรมย่อยได้ว่าจะเลือกใช้ characteristic curve หรือไม่ และคอมแอร์แบบไหน ดังตัวอย่างในรูปครับ จะเห็นว่ามีโปรแกรมรองรับไว้แล้ว

ใครใช้รถยุโรป แอร์ไม่เย็น ผมก็คิดว่าแค่คนไม่รู้เรื่องรถแค่นั้นเอง เพราะถ้าเปิดแบบไม่ให้heater ทำงาน หรือ ตัดheater ทิ้งไป หยดน้ำทิ้งไว้ช่องแอร์ยังเป็นน้ำแข็งก็ทำได้

ขอคำแนะนำหน่อยครับ
อย่าง W202 ที่บ้าน เป็นแอร์แบบบิด
แอร์ไม่สู้แดดเลยครับ
โดนช่างหลายปีก่อนตัดฮีทเตอร์ทิ้ง
และก่อนหน้านั้นอีกหลายๆปี เปลี่ยนแผงคอย์ลเย็นไป

ขอบคุณครับ

[jaesz]

ขอคำแนะนำหน่อยครับ
อย่าง W202 ที่บ้าน เป็นแอร์แบบบิด
แอร์ไม่สู้แดดเลยครับ
โดนช่างหลายปีก่อนตัดฮีทเตอร์ทิ้ง
และก่อนหน้านั้นอีกหลายๆปี เปลี่ยนแผงคอย์ลเย็นไป

ขอบคุณครับ

ถ้าตัด Heaterแอร์ไม่สู้แดด เช็คระบบรวม ๆ ก่อนครับ

เวลาหมุนไปถึงสีขาวแล้วยังสู้แดดไม่ได้ ก็เป็นที่คอม หรือไม่ก็น้ำยาไม่พอ หรือแผงคอยล์ร้อนสกปรก

 ทำเองไม่เป็นแนะนำเป็นช่างที่ชำนาญครับ
http://www.amornair.com/
Star air บางบัวทอง
เฟืองทอง สะพานใหม่
เยอะครับ

[madboy]

ขอคำแนะนำหน่อยครับ
อย่าง W202 ที่บ้าน เป็นแอร์แบบบิด
แอร์ไม่สู้แดดเลยครับ
โดนช่างหลายปีก่อนตัดฮีทเตอร์ทิ้ง
และก่อนหน้านั้นอีกหลายๆปี เปลี่ยนแผงคอย์ลเย็นไป

ขอบคุณครับ

ถ้าตัด Heaterแอร์ไม่สู้แดด เช็คระบบรวม ๆ ก่อนครับ

เวลาหมุนไปถึงสีขาวแล้วยังสู้แดดไม่ได้ ก็เป็นที่คอม หรือไม่ก็น้ำยาไม่พอ หรือแผงคอยล์ร้อนสกปรก

 ทำเองไม่เป็นแนะนำเป็นช่างที่ชำนาญครับ
http://www.amornair.com/
Star air บางบัวทอง
เฟืองทอง สะพานใหม่
เยอะครับ

ตามนี้เลยครับ ร้านแอร์ดีๆยังพอมีหลงเหลือในประเทศไทยอยู่บ้าง 

[V221]

มีข้อสงสัยครับ เกี่ยวกับระบบแอร์รถยุโรปต่างๆ ครับ ไม่ว่าจะยุโรปแท้ ยุโรปเทียม เช่น M-B, BMW, Volvo, VW,Audi, Skoda, Fiat, Ford

1. ระบบแอร์รถยุโรปพวกนี้ ส่วนใหญ่แล้ว คอมเพรสเซอร์แอร์จะถูกเชื่อมต่อตลอดเวลารึเปล่าครับ คือคอมแอร์ไม่มีการตัด-ต่อ แต่ใช้ระบบน้ำร้อน น้ำเย็น
รึไม่ก็ใช้ระบบแปรผันปริมาตรคอมฯ แอร์เอา ต่างจากรถญี่ปุ่นบ้านๆ ทั่วไปส่วนใหญ่ที่ใช้กันในบ้านเรา

2. ระบบแอร์รถยุโรปพวกนี้ มียี่ห้อไหน หรือรุ่นไหน ที่ยังคงมีการดึงเอาอากาศภายนอกรถมาหมุนเวียนตลอด ไม่สามารถปิดได้เลย
แล้วระบบพวกนี้ ถ้าสั่งให้มันหมุนเวียนอากาศแต่ภายในรถ พอถึงเวลากี่นาที มันถึงดึงเอาอากาศภายนอกเข้ามาครับ

3. ระบบแอร์รถยุโรปทั้งหลาย เวลามันเสีย (หมดประกัน) หากมีการปฏิเสธการเคลม เราจะต้องรับภาระมาก หรือน้อยขนาดไหนครับ

ขอบคุณครับ พอดีสนใจรถยุโรป แต่เรื่องระบบแอร์ เป็นอะไรที่ผมหวั่นๆ เพราะใช้มาแต่รถญี่ปุ่น เช่น โตโยต้า นิสสัน มิตซูบิชิ ระบบแอร์ไม่เคยจุกจิกเลย

1. แอร์รถที่เป็นคอมเพรสเซอร์แบบแวเรียเอเบิล มักจะไม่มีการตัดต่อในเวลาที่ทำงานปรกติ จะใช้หลักการที่แรงดันเปลี่ยน กำลังอัดเปลียน เพื่อควบคุมความเย็นของอีแวบปอเรเตอร์ หรือ คอยล์เย็น รถยี่ปุ่นบางรุ่นก็เป็นแบบนี้ อยู่ที่คอมแอร์ ไม่ใช่อยู่ทีว่าเป็นรถจากทวีป หรือ ประเทศไหนครับ

2. ระบบปรับอากาศทีอาศัยอากาศจากภายนอกมาหมุนเวียน มีทุกยี่ห้ออีกเหมือนกัน แต่ของเบนซ์มักจะทำให้มันดีดกลับ แต่แก้ไขได้ด้วย STAR DIAGNOSTIC ครับ

3. คอมแอร์รถยนต์เบิกห้าง แทบทุกยี่ห้อราคาจะอยู่ราว ๆ 3-4 หมื่นบาท ถ้าเบิกร้านแอร์ข้างนอกก็อาจจะ 5พัน ถึง 1 หมื่นบาท คอยล์แอร์ถ้ารั่ว เบิกศูนย์ก็หลักหมื่น ค่าแรงต่างหาก เบิกข้างนอกก็ 3พัน ถึง 1 หมื่นบาท

รถยุโรปที่โปรแกรม หรือ ออกแบบมาให้ถูกต้องตามสภาพอากาศ จะทำงานโดยไม่มี Heater เข้าร่วม เช่น BMW IHKA จะมีการแบ่งโซนการทำงานของระบบปรับอากาศ ที่สามารถโปรแกรมย่อยได้ว่าจะเลือกใช้ characteristic curve หรือไม่ และคอมแอร์แบบไหน ดังตัวอย่างในรูปครับ จะเห็นว่ามีโปรแกรมรองรับไว้แล้ว

ใครใช้รถยุโรป แอร์ไม่เย็น ผมก็คิดว่าแค่คนไม่รู้เรื่องรถแค่นั้นเอง เพราะถ้าเปิดแบบไม่ให้heater ทำงาน หรือ ตัดheater ทิ้งไป หยดน้ำทิ้งไว้ช่องแอร์ยังเป็นน้ำแข็งก็ทำได้

ขอคำแนะนำหน่อยครับ
อย่าง W202 ที่บ้าน เป็นแอร์แบบบิด
แอร์ไม่สู้แดดเลยครับ
โดนช่างหลายปีก่อนตัดฮีทเตอร์ทิ้ง
และก่อนหน้านั้นอีกหลายๆปี เปลี่ยนแผงคอย์ลเย็นไป

ขอบคุณครับ

W202 เท่าที่เคยใช้เป็นแอร์แบบกดปุ่มแล้วนี่ครับ

[V221]

ถ้าเป็นW202สามารถตรวจสอบการทำงานของระบบแอร์และอื่นๆในรถได้ด้วยตามนี้ครับ
บิดกุญแจไปที่ตำแหน่ง 1
เปิดแอร์
กดปุ่มRESTแช่ไว้5วิ หน้าจอจะเปลี่ยนเป็นเลข01 กดปุ่มลูกศรไล่ไปจะเปลี่ยนตำแหน่งSensorไปเรื่อยๆตามนี้

[V221]

01 Sensorวัดอุณหภูมิห้องโดยสารอยู่ที่หลังคาจะมีร่องๆอยู่
02 Sensorวัดอุณหภูมิด้านนอก อยู่ที่กันชนหน้า
03 Sensor Heaterที่บอกว่าช่างชอบตัดทิ้งท่อออกไป
05 Sensorอยู่ที่ใต้เท้าหลังวิทยุ ถ้าปกติจะอยู่ที่ประมาณ2องศา C
06 อุณหภูมิน้ำหม้อน้ำ
07 แรงดันน้ำยาคอย์ร้อน ควรอยู่ที่ 12-20บาร์
08 อุณหภูมิคอย์ร้อน ควรอยู่ที่ 30-50องศา C

[V221]

มีข้อสงสัยครับ เกี่ยวกับระบบแอร์รถยุโรปต่างๆ ครับ ไม่ว่าจะยุโรปแท้ ยุโรปเทียม เช่น M-B, BMW, Volvo, VW,Audi, Skoda, Fiat, Ford

1. ระบบแอร์รถยุโรปพวกนี้ ส่วนใหญ่แล้ว คอมเพรสเซอร์แอร์จะถูกเชื่อมต่อตลอดเวลารึเปล่าครับ คือคอมแอร์ไม่มีการตัด-ต่อ แต่ใช้ระบบน้ำร้อน น้ำเย็น
รึไม่ก็ใช้ระบบแปรผันปริมาตรคอมฯ แอร์เอา ต่างจากรถญี่ปุ่นบ้านๆ ทั่วไปส่วนใหญ่ที่ใช้กันในบ้านเรา

2. ระบบแอร์รถยุโรปพวกนี้ มียี่ห้อไหน หรือรุ่นไหน ที่ยังคงมีการดึงเอาอากาศภายนอกรถมาหมุนเวียนตลอด ไม่สามารถปิดได้เลย
แล้วระบบพวกนี้ ถ้าสั่งให้มันหมุนเวียนอากาศแต่ภายในรถ พอถึงเวลากี่นาที มันถึงดึงเอาอากาศภายนอกเข้ามาครับ

3. ระบบแอร์รถยุโรปทั้งหลาย เวลามันเสีย (หมดประกัน) หากมีการปฏิเสธการเคลม เราจะต้องรับภาระมาก หรือน้อยขนาดไหนครับ

ขอบคุณครับ พอดีสนใจรถยุโรป แต่เรื่องระบบแอร์ เป็นอะไรที่ผมหวั่นๆ เพราะใช้มาแต่รถญี่ปุ่น เช่น โตโยต้า นิสสัน มิตซูบิชิ ระบบแอร์ไม่เคยจุกจิกเลย

ถ้าเป็นรุ่นใหม่ๆคอมจะไม่ตัดต่อแล้วครับ ตัวอย่างตั้งแต่W220

[benley]

มีข้อสงสัยครับ เกี่ยวกับระบบแอร์รถยุโรปต่างๆ ครับ ไม่ว่าจะยุโรปแท้ ยุโรปเทียม เช่น M-B, BMW, Volvo, VW,Audi, Skoda, Fiat, Ford

1. ระบบแอร์รถยุโรปพวกนี้ ส่วนใหญ่แล้ว คอมเพรสเซอร์แอร์จะถูกเชื่อมต่อตลอดเวลารึเปล่าครับ คือคอมแอร์ไม่มีการตัด-ต่อ แต่ใช้ระบบน้ำร้อน น้ำเย็น
รึไม่ก็ใช้ระบบแปรผันปริมาตรคอมฯ แอร์เอา ต่างจากรถญี่ปุ่นบ้านๆ ทั่วไปส่วนใหญ่ที่ใช้กันในบ้านเรา

2. ระบบแอร์รถยุโรปพวกนี้ มียี่ห้อไหน หรือรุ่นไหน ที่ยังคงมีการดึงเอาอากาศภายนอกรถมาหมุนเวียนตลอด ไม่สามารถปิดได้เลย
แล้วระบบพวกนี้ ถ้าสั่งให้มันหมุนเวียนอากาศแต่ภายในรถ พอถึงเวลากี่นาที มันถึงดึงเอาอากาศภายนอกเข้ามาครับ

3. ระบบแอร์รถยุโรปทั้งหลาย เวลามันเสีย (หมดประกัน) หากมีการปฏิเสธการเคลม เราจะต้องรับภาระมาก หรือน้อยขนาดไหนครับ

ขอบคุณครับ พอดีสนใจรถยุโรป แต่เรื่องระบบแอร์ เป็นอะไรที่ผมหวั่นๆ เพราะใช้มาแต่รถญี่ปุ่น เช่น โตโยต้า นิสสัน มิตซูบิชิ ระบบแอร์ไม่เคยจุกจิกเลย

1. แอร์รถที่เป็นคอมเพรสเซอร์แบบแวเรียเอเบิล มักจะไม่มีการตัดต่อในเวลาที่ทำงานปรกติ จะใช้หลักการที่แรงดันเปลี่ยน กำลังอัดเปลียน เพื่อควบคุมความเย็นของอีแวบปอเรเตอร์ หรือ คอยล์เย็น รถยี่ปุ่นบางรุ่นก็เป็นแบบนี้ อยู่ที่คอมแอร์ ไม่ใช่อยู่ทีว่าเป็นรถจากทวีป หรือ ประเทศไหนครับ

2. ระบบปรับอากาศทีอาศัยอากาศจากภายนอกมาหมุนเวียน มีทุกยี่ห้ออีกเหมือนกัน แต่ของเบนซ์มักจะทำให้มันดีดกลับ แต่แก้ไขได้ด้วย STAR DIAGNOSTIC ครับ

3. คอมแอร์รถยนต์เบิกห้าง แทบทุกยี่ห้อราคาจะอยู่ราว ๆ 3-4 หมื่นบาท ถ้าเบิกร้านแอร์ข้างนอกก็อาจจะ 5พัน ถึง 1 หมื่นบาท คอยล์แอร์ถ้ารั่ว เบิกศูนย์ก็หลักหมื่น ค่าแรงต่างหาก เบิกข้างนอกก็ 3พัน ถึง 1 หมื่นบาท

รถยุโรปที่โปรแกรม หรือ ออกแบบมาให้ถูกต้องตามสภาพอากาศ จะทำงานโดยไม่มี Heater เข้าร่วม เช่น BMW IHKA จะมีการแบ่งโซนการทำงานของระบบปรับอากาศ ที่สามารถโปรแกรมย่อยได้ว่าจะเลือกใช้ characteristic curve หรือไม่ และคอมแอร์แบบไหน ดังตัวอย่างในรูปครับ จะเห็นว่ามีโปรแกรมรองรับไว้แล้ว

ใครใช้รถยุโรป แอร์ไม่เย็น ผมก็คิดว่าแค่คนไม่รู้เรื่องรถแค่นั้นเอง เพราะถ้าเปิดแบบไม่ให้heater ทำงาน หรือ ตัดheater ทิ้งไป หยดน้ำทิ้งไว้ช่องแอร์ยังเป็นน้ำแข็งก็ทำได้

ขอคำแนะนำหน่อยครับ
อย่าง W202 ที่บ้าน เป็นแอร์แบบบิด
แอร์ไม่สู้แดดเลยครับ
โดนช่างหลายปีก่อนตัดฮีทเตอร์ทิ้ง
และก่อนหน้านั้นอีกหลายๆปี เปลี่ยนแผงคอย์ลเย็นไป

ขอบคุณครับ

W202 เท่าที่เคยใช้เป็นแอร์แบบกดปุ่มแล้วนี่ครับ

คันที่บ้านเป็นแบบบิด พัดลม 5 สปีดครับ

ขอบคุณ ท่าน jaesz madboy V221 ด้วยครับ

[tarahlm]

ระบบแอร์(air condition)ของรถยนต์ มีพื้นฐานเบื้องต้นไม่แตกต่างกันครับ ไม่ว่ารถญี่ปุ่นหรือรถยุโรป จะประกอบไปด้วย

คอมเพรสเซอร์(Compressor),คอยล์เย็น(Evaporator), คอยล์ร้อน(Condenser) และ Accumulator

แต่ที่แตกต่างกันก็คือ การควบคุมการทำงานของคอมเพรสเซอร์ และ ขั้นตอนวิธีการเปลี่ยนนำยาแอร์เป็นสถานะก๊าซเพื่อที่

จะดึงความร้อนจากในห้องโดยสารรถ


ปกติคอมเพรสเซอร์ จะไม่ทำงานตลอดเวลา แต่จะมีการทำงานเป็นพักๆ (ถ้าหากทำงานตลอดเวลาจะมีผลเสียคือ

ต้องใช้แรงเครื่องยนต์ฉุดตลอดเวลาทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิง การทำงานตลอดคอมเพรสเซอร์ก็จะชำรุดเสียไว และ

การทำงานที่ต่อเนื่องก็จะทำให้คอยล์เย็นในตู้แอร์เป็นน้ำแข็ง)

 
ระบบแอร์รถยนต์ หลักๆจะมีวิธีการต้ดต่อควบคุมการทำงานของคอมเพรสเซอร์ 2 วิธี

 / อุย่างแรกใช้ระดับอุณหภูมิ มีเทอร์โมสตัทตัดต่อตามอุณหภูมิที่ตั้งกำหนดไว้ ระบบนี้มักจะใช้ร่วมกับเอ็กแพนชั่น

วาล์ว(Expansion valve)

 / อย่างที่สองใช้ระดับของแรงดันน้ำยาแอร์ (ซึ่งที่จริงแล้วแรงดันของน้ำยาแอร์ในสถานะก๊าซจะสัมพันธ์กับระดับของ

อุณหภูมิ) และมักใช้ร่วมกับท่อออริฟิส(Orifice tube)


แบบแรกใช้ในรถญี่ป่นทั่วไปเกือบทุกยี่ห้อ รถปิกอัพไม่ว่าญี่ปุนหรือไม่ใช่ญี่ปุ่น, Benz BMW

แบบหลังเจอในรถบางยี่ห้อ บางรุ่น ของ Ford รถเครือGM Volvo Hyundai

แต่รถรุ่นใหม่ๆไฮเทคปัจจุบันเอาทั้งเทอร์โมสตัทและการคุมแรงดันน้ำยาแอร์มาใช้ร่วมกันในระบบแอร์เลย เพื่อให้มี

ประสิทธิภาพมากขึ้น


พื้นฐานรถในบ้านเราส่วนใหญ่มาจากToyota ช่างส่วนใหญ่รวมถึงช่างร้านแอร์รถยนต์ทั่วไป จึงชำนาญแต่แอร์รถระบบแรก

แบบToyota เพราะขาดความรู้ความเข้าใจทำให้แก้ปัญหารถที่มีพื้นฐานแอร์ระบบหลังไม่ได้ดีนัก บางทีเหมือนแก้ปัญหาไม่

ได้ ปัจจุบันมีช่างที่เข้าใจการทำงานของระบบหลังอยู่หลายที่มากขึ้น


อีกส่วนที่เกี่ยวข้อง คือระบบปรับอากาศ( climate control) เอาความเย็นจากระบบแอร์มาผสมกับไอร้อนจากฮีทเตอร์

เพื่อมาปรับควบคุมให้อุณหภูมิเหมาะสมสบายกับผู้ขับขี่ รถจากยุโรปและรถญี่ปุ่นรุ่นใหม่ๆหลายยี่ห้อก็จะมีฮีทเตอร์ที่

ใช้ความร้อนจากระบบน้ำหล่อเย็นเครื่องยนต์เอามาใช้ ซึ่งก็ทำให้สบายขึ้นในการขับขี่ในที่อากาศหนาวหรือเวลากลาง

คืน

รถหลายรุ่นมองว่าอาจไม่จำเป็นนัก และเป็นการประหยัดต้นทุนจึงไม่ติดตั้งฮีทเตอร์มาในรถที่จำหน่ายในบ้านเรา

เนื่องจากตัวฮีทเตอร์ติดตั้งใกล้คอยล์เย็น ก็อาจมีผลไปลดประสิทธิภาพของความเย็นได้บ้างเล็กน้อย แต่อาจมีผล

มากขึ้นถ้าใช้งานนานๆจนอุปกรณ์เริ่มเสื่อมชำรุดมีไอร้อนหลุดลอดออกมาปนกับความเย็นของระบบแอร์ เช่น ฝาปิด

ช่องปล่อยไอร้อนของฮีทเตอร์ปิดไม่สนิท


เรื่องแอร์ในรถยุโรป ส่วนใหญ่ก็เหมือนรถญี่ปุ่นนั่นแหละ แต่มีระบบปรับอากาศที่ซับซ้อนทันสมัยขึ้น เช่น ที่เรียกว่าแอร์

ออโต้ แอร์แยกซ้ายขวา มีระบบคอมพิวเตอร์มาคุมการทำงาน ถ้าช่างที่เข้าใจวิเคราะห์เป็น มีอุปกรณ์ช่วยวิเคราะห์ก็

คงไม่เป็นเหตูให้ต้องน่ากลัวเกินไป



ถ้าได้ช่างมีความรู้เข้าใจจริงๆ มีการเติมน้ายาแอร์คุณภาพดีปริมาณถูกต้องตามสเปค น้ำมันคอมฯปริมาณถูกต้อ มี

การเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสื่อมตามอายุการใช้งานระบบแอร์ไม่ว่าแบบไหนก็คงดูแลแก้ไขไม่ยากนัก ให้ใช้งานอย่างมีคุณภาพน่า

พึงพอใจ

[benley]

ระบบแอร์(air condition)ของรถยนต์ มีพื้นฐานเบื้องต้นไม่แตกต่างกันครับ ไม่ว่ารถญี่ปุ่นหรือรถยุโรป จะประกอบไปด้วย

คอมเพรสเซอร์(Compressor),คอยล์เย็น(Evaporator), คอยล์ร้อน(Condenser) และ Accumulator

แต่ที่แตกต่างกันก็คือ การควบคุมการทำงานของคอมเพรสเซอร์ และ ขั้นตอนวิธีการเปลี่ยนนำยาแอร์เป็นสถานะก๊าซเพื่อที่

จะดึงความร้อนจากในห้องโดยสารรถ


ปกติคอมเพรสเซอร์ จะไม่ทำงานตลอดเวลา แต่จะมีการทำงานเป็นพักๆ (ถ้าหากทำงานตลอดเวลาจะมีผลเสียคือ

ต้องใช้แรงเครื่องยนต์ฉุดตลอดเวลาทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิง การทำงานตลอดคอมเพรสเซอร์ก็จะชำรุดเสียไว และ

การทำงานที่ต่อเนื่องก็จะทำให้คอยล์เย็นในตู้แอร์เป็นน้ำแข็ง)

 
ระบบแอร์รถยนต์ หลักๆจะมีวิธีการต้ดต่อควบคุมการทำงานของคอมเพรสเซอร์ 2 วิธี

 / อุย่างแรกใช้ระดับอุณหภูมิ มีเทอร์โมสตัทตัดต่อตามอุณหภูมิที่ตั้งกำหนดไว้ ระบบนี้มักจะใช้ร่วมกับเอ็กแพนชั่น

วาล์ว(Expansion valve)

 / อย่างที่สองใช้ระดับของแรงดันน้ำยาแอร์ (ซึ่งที่จริงแล้วแรงดันของน้ำยาแอร์ในสถานะก๊าซจะสัมพันธ์กับระดับของ

อุณหภูมิ) และมักใช้ร่วมกับท่อออริฟิส(Orifice tube)


แบบแรกใช้ในรถญี่ป่นทั่วไปเกือบทุกยี่ห้อ รถปิกอัพไม่ว่าญี่ปุนหรือไม่ใช่ญี่ปุ่น, Benz BMW

แบบหลังเจอในรถบางยี่ห้อ บางรุ่น ของ Ford รถเครือGM Volvo Hyundai

แต่รถรุ่นใหม่ๆไฮเทคปัจจุบันเอาทั้งเทอร์โมสตัทและการคุมแรงดันน้ำยาแอร์มาใช้ร่วมกันในระบบแอร์เลย เพื่อให้มี

ประสิทธิภาพมากขึ้น


พื้นฐานรถในบ้านเราส่วนใหญ่มาจากToyota ช่างส่วนใหญ่รวมถึงช่างร้านแอร์รถยนต์ทั่วไป จึงชำนาญแต่แอร์รถระบบแรก

แบบToyota เพราะขาดความรู้ความเข้าใจทำให้แก้ปัญหารถที่มีพื้นฐานแอร์ระบบหลังไม่ได้ดีนัก บางทีเหมือนแก้ปัญหาไม่

ได้ ปัจจุบันมีช่างที่เข้าใจการทำงานของระบบหลังอยู่หลายที่มากขึ้น


อีกส่วนที่เกี่ยวข้อง คือระบบปรับอากาศ( climate control) เอาความเย็นจากระบบแอร์มาผสมกับไอร้อนจากฮีทเตอร์

เพื่อมาปรับควบคุมให้อุณหภูมิเหมาะสมสบายกับผู้ขับขี่ รถจากยุโรปและรถญี่ปุ่นรุ่นใหม่ๆหลายยี่ห้อก็จะมีฮีทเตอร์ที่

ใช้ความร้อนจากระบบน้ำหล่อเย็นเครื่องยนต์เอามาใช้ ซึ่งก็ทำให้สบายขึ้นในการขับขี่ในที่อากาศหนาวหรือเวลากลาง

คืน

รถหลายรุ่นมองว่าอาจไม่จำเป็นนัก และเป็นการประหยัดต้นทุนจึงไม่ติดตั้งฮีทเตอร์มาในรถที่จำหน่ายในบ้านเรา

เนื่องจากตัวฮีทเตอร์ติดตั้งใกล้คอยล์เย็น ก็อาจมีผลไปลดประสิทธิภาพของความเย็นได้บ้างเล็กน้อย แต่อาจมีผล

มากขึ้นถ้าใช้งานนานๆจนอุปกรณ์เริ่มเสื่อมชำรุดมีไอร้อนหลุดลอดออกมาปนกับความเย็นของระบบแอร์ เช่น ฝาปิด

ช่องปล่อยไอร้อนของฮีทเตอร์ปิดไม่สนิท


เรื่องแอร์ในรถยุโรป ส่วนใหญ่ก็เหมือนรถญี่ปุ่นนั่นแหละ แต่มีระบบปรับอากาศที่ซับซ้อนทันสมัยขึ้น เช่น ที่เรียกว่าแอร์

ออโต้ แอร์แยกซ้ายขวา มีระบบคอมพิวเตอร์มาคุมการทำงาน ถ้าช่างที่เข้าใจวิเคราะห์เป็น มีอุปกรณ์ช่วยวิเคราะห์ก็

คงไม่เป็นเหตูให้ต้องน่ากลัวเกินไป



ถ้าได้ช่างมีความรู้เข้าใจจริงๆ มีการเติมน้ายาแอร์คุณภาพดีปริมาณถูกต้องตามสเปค น้ำมันคอมฯปริมาณถูกต้อ มี

การเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสื่อมตามอายุการใช้งานระบบแอร์ไม่ว่าแบบไหนก็คงดูแลแก้ไขไม่ยากนัก ให้ใช้งานอย่างมีคุณภาพน่า

พึงพอใจ

ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ