น้ำมันเครื่อง 0w-20

mick

น้ำมันเครื่อง 0w-20
« เมื่อ: มิถุนายน 18, 2014, 07:19:22 »
ใช้ตัวไหนดีครับ มันใสไปไหมครับ ประหยัดขึ้นมากไหมครับ
เห็นมีของ shell PTT ครับ



jaesz

Re: น้ำมันเครื่อง 0w-20
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2014, 08:54:02 »
ใช้ตัวไหนดีครับ มันใสไปไหมครับ ประหยัดขึ้นมากไหมครับ
เห็นมีของ shell PTT ครับ

การผลิตน้ำมันเครื่องเพืื่อใช้งานในโลกนี้ ในยุคหลัง เขาเน้นประหยัดน้ำมันครับ

ที่เขาบอกว่าประหยัดนี่ คือ ที่เมืองหนาวนะครับ 20องศาเซลเซียส หรือ เย็นกว่านี้ลงไป จะประหยัดได้ราว ๆ 0.5% ข้อมูลนี้ผมเคยให้ไว้ในเว็บนี้แล้ว จาก API นะครับ ลองหาดูก็ได้ นั่นแปลว่าอากาศร้อน ๆ แบบบ้านเรา อาจจะไม่ประหยัดเลยก็ได้ครับ

เนื่องจากความต้องการน้ำมันสังเคราะห์เบอร์บางสูงขึ้น ผุ้ผลิตก็เลยผลิตเบอร์บางตั้งแต่กระบวนการแรกเสร็จสิ้น ไม่ต้องปรุงให้ได้เบอร์หนา ไม่ต้องเพิ่มค่าใช้จ่าย  ซึ่งกระบวนการสังเคราะห์น้ำมัน ปัจจุบัน จะทำให้น้ำมันเบอร์บางตั้งแต่แรกเลยก็ทำได้ ไม่เหมือนสมัยก่อนที่ทำหัวเชื้อเหนี่ยว ๆ แล้วเอาไปผสมน้ำมันบาง ๆ จะได้น้ำมันบาง ถ้าคุณเคยซื้อพวกหัวเชื้อสังเคราะห์สมัยก่อนจะรู้ว่ามันเหนี่ยวขนาดไหน (ทุกวันนี้ก็ยังมี แต่น้อยครับ เพราะมันแพง)

บริษัทรถก็เล่นง่ายเข้าว่า ใช้เบอร์เดียวทั่วโลก จะได้ไม่ต้องstock น้ำมันหลากหลาย และยังได้ต้นทุนต่ำด้วย

เริ่ิมจาก FORD TOYOTA  HONDA แต่ในไทย HONDA เขาจะเริ่มก่อน ให้ผมเดาเพราะพนักงานแปลเอกสารที่อาจจะเป็นวิศวกร ไม่ได้อ่านถึง HTHS เลยเอามาใช้โต้ง ๆ

TOYOTA เขามีหน่วยงาน R&D ครับ ทำเอกสารมาบอกให้ทุกคนทราบว่า ถ้าใช้ น้ำมันที่มีค่า HTHS ต่ำกว่า 2.6 อาจจะเกิดความเสียหายหนักกับเครื่องยนต์  อันนี้ผมก็เคยเอามาแปะให้ครับ จากเว็บของ โตโยต้าR&D อีกนั่นแหละ http://www.tytlabs.com/english/review/rev324epdf/e324ab_tohyama.html ซ้ำอีกทีก็ได้ เผื่อไว้

ถ้าคุณมองในตัวเลข HTHS คุณจะรู้ว่าเขาทดสอบกันที่ 150 องศาเซลเซียส ซึ่ง เบาะ ๆ มาก ๆ กับเครื่องยนต์ทั่วไปที่ไม่ใช่เมืองไทย อุณหภูมิบนผนังสูบ ของรถที่วิ่งในเมืองร้อนที่มีอากาศเข้า 30-40 องศา หรือมากกว่านี้ จะมีค่าราว ๆ 200-300 ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แล้วคุณคิดว่า ค่า HTHS ทีเอามาขายให้แค่ 3.2 มันจะพอไหมครับ ? อันนี้คุณต้องศึกษาเพิ่มเอง ถ้าผมบอกไม่พอมันก็แค่ลมปาก

ไม่แปลกใจครับ รถสมัยนี้ พอสองแสนโล เครื่องหลวม วาล์วทรุดกันหมด ทั้ง ๆ ที่เข้าศูนย์กันปรกติ แถมยังไม่ได้ติดแก๊สด้วยซ้ำไป อันนี้ ประสพการณ์ตรงของผมเอง เชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่วิจารณญาณ

สรุปสั้น ๆครับ เบอร์ 20 มันบางไปกับเมืองไทย แต่มันจะเหมาะมากเวลาวิ่งแถว เมืองหนาว ติดลบ RUSSIA,ALASKA, CANADAและยุโรปตอนบน แม้แต่อเมริกาตอนบนก็ไม่ต่างกัน แต่นั่นเขารู้เรื่องกว่าเราพอหน้าร้อนก็หนีไปใช้ 30 40 ก็ว่ากันไป ลูกค้ากลุ่ม SAVVY เยอะครับ

ถ้าสนใจค้นคว้าเพิ่มเติม ลองหาจากเว็บ API ที่เป็นpresentation จากงาน API Detroit Advisory Panel ดูครับ จัดขึ้นหลายครั้งแล้ว จะได้ไม่ต้องเชื่อแต่บริษัทรถว่าให้เราใช้เบอร์อะไรก็ใช้ตามเขา พอหมดประกันอันสั้นก็แล้วแต่โชคชะตาแบบนั้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 18, 2014, 09:26:40 โดย jaesz »



kez

Re: น้ำมันเครื่อง 0w-20
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2014, 08:55:27 »
 ใช้กับเครื่องอะไร  และดูคู่มือว่าใช้ได้หรือเปล่า

 เบอร์ 20 ส่วนใหญ่จะใช้กับ eco car



nuntapon.s

Re: น้ำมันเครื่อง 0w-20
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2014, 10:19:40 »
ใช้ตัวไหนดีครับ มันใสไปไหมครับ ประหยัดขึ้นมากไหมครับ
เห็นมีของ shell PTT ครับ

การผลิตน้ำมันเครื่องเพืื่อใช้งานในโลกนี้ ในยุคหลัง เขาเน้นประหยัดน้ำมันครับ

ที่เขาบอกว่าประหยัดนี่ คือ ที่เมืองหนาวนะครับ 20องศาเซลเซียส หรือ เย็นกว่านี้ลงไป จะประหยัดได้ราว ๆ 0.5% ข้อมูลนี้ผมเคยให้ไว้ในเว็บนี้แล้ว จาก API นะครับ ลองหาดูก็ได้ นั่นแปลว่าอากาศร้อน ๆ แบบบ้านเรา อาจจะไม่ประหยัดเลยก็ได้ครับ

เนื่องจากความต้องการน้ำมันสังเคราะห์เบอร์บางสูงขึ้น ผุ้ผลิตก็เลยผลิตเบอร์บางตั้งแต่กระบวนการแรกเสร็จสิ้น ไม่ต้องปรุงให้ได้เบอร์หนา ไม่ต้องเพิ่มค่าใช้จ่าย  ซึ่งกระบวนการสังเคราะห์น้ำมัน ปัจจุบัน จะทำให้น้ำมันเบอร์บางตั้งแต่แรกเลยก็ทำได้ ไม่เหมือนสมัยก่อนที่ทำหัวเชื้อเหนี่ยว ๆ แล้วเอาไปผสมน้ำมันบาง ๆ จะได้น้ำมันบาง ถ้าคุณเคยซื้อพวกหัวเชื้อสังเคราะห์สมัยก่อนจะรู้ว่ามันเหนี่ยวขนาดไหน (ทุกวันนี้ก็ยังมี แต่น้อยครับ เพราะมันแพง)

บริษัทรถก็เล่นง่ายเข้าว่า ใช้เบอร์เดียวทั่วโลก จะได้ไม่ต้องstock น้ำมันหลากหลาย และยังได้ต้นทุนต่ำด้วย

เริ่ิมจาก FORD TOYOTA  HONDA แต่ในไทย HONDA เขาจะเริ่มก่อน ให้ผมเดาเพราะพนักงานแปลเอกสารที่อาจจะเป็นวิศวกร ไม่ได้อ่านถึง HTHS เลยเอามาใช้โต้ง ๆ

TOYOTA เขามีหน่วยงาน R&D ครับ ทำเอกสารมาบอกให้ทุกคนทราบว่า ถ้าใช้ น้ำมันที่มีค่า HTHS ต่ำกว่า 2.6 อาจจะเกิดความเสียหายหนักกับเครื่องยนต์  อันนี้ผมก็เคยเอามาแปะให้ครับ จากเว็บของ โตโยต้าR&D อีกนั่นแหละ http://www.tytlabs.com/english/review/rev324epdf/e324ab_tohyama.html ซ้ำอีกทีก็ได้ เผื่อไว้

ถ้าคุณมองในตัวเลข HTHS คุณจะรู้ว่าเขาทดสอบกันที่ 150 องศาเซลเซียส ซึ่ง เบาะ ๆ มาก ๆ กับเครื่องยนต์ทั่วไปที่ไม่ใช่เมืองไทย อุณหภูมิบนผนังสูบ ของรถที่วิ่งในเมืองร้อนที่มีอากาศเข้า 30-40 องศา หรือมากกว่านี้ จะมีค่าราว ๆ 200-300 ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แล้วคุณคิดว่า ค่า HTHS ทีเอามาขายให้แค่ 3.2 มันจะพอไหมครับ ? อันนี้คุณต้องศึกษาเพิ่มเอง ถ้าผมบอกไม่พอมันก็แค่ลมปาก

ไม่แปลกใจครับ รถสมัยนี้ พอสองแสนโล เครื่องหลวม วาล์วทรุดกันหมด ทั้ง ๆ ที่เข้าศูนย์กันปรกติ แถมยังไม่ได้ติดแก๊สด้วยซ้ำไป อันนี้ ประสพการณ์ตรงของผมเอง เชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่วิจารณญาณ

สรุปสั้น ๆครับ เบอร์ 20 มันบางไปกับเมืองไทย แต่มันจะเหมาะมากเวลาวิ่งแถว เมืองหนาว ติดลบ RUSSIA,ALASKA, CANADAและยุโรปตอนบน แม้แต่อเมริกาตอนบนก็ไม่ต่างกัน แต่นั่นเขารู้เรื่องกว่าเราพอหน้าร้อนก็หนีไปใช้ 30 40 ก็ว่ากันไป ลูกค้ากลุ่ม SAVVY เยอะครับ

ถ้าสนใจค้นคว้าเพิ่มเติม ลองหาจากเว็บ API ที่เป็นpresentation จากงาน API Detroit Advisory Panel ดูครับ จัดขึ้นหลายครั้งแล้ว จะได้ไม่ต้องเชื่อแต่บริษัทรถว่าให้เราใช้เบอร์อะไรก็ใช้ตามเขา พอหมดประกันอันสั้นก็แล้วแต่โชคชะตาแบบนั้น

แล้วรถใหม่ตอนนี้ที่เขายังบังคับเข้าศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ำมันตามที่ผู้ผลิตกำหนดควรต้องทำยังไงครับ



GreenG

Re: น้ำมันเครื่อง 0w-20
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2014, 10:24:24 »
ผมตั้งใจว่าจะใช้ไม่เกิน 4 หมื่นกิโลครับ เคยใช้ 0W20 มา 2 ครั้ง และคงกลับไปใช้เบอร์ 30 แบบเดิมครับ



jaesz

Re: น้ำมันเครื่อง 0w-20
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2014, 10:37:22 »
....

แล้วรถใหม่ตอนนี้ที่เขายังบังคับเข้าศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ำมันตามที่ผู้ผลิตกำหนดควรต้องทำยังไงครับ

เอาน้ำมันเครื่องไปเองครับ ผมเห็นมีแค่สองยี่ห้อที่ให้ใช้ 0W-20  HONDA กับ NISSAN

ถ้าบริษัทไม่ให้หิ้วน้ำมันเครื่องไปเอง ก็บอกไปได้ครับว่าเรารับสภาพว่าถ้าเครื่องยนต์มีปัญหาจากน้ำมันเครื่อง เรารับผิดชอบเอง

อันนี้คุณต้องมั่นใจว่าซื้อน้ำมันเครื่องของแท้เข้าไปครับ บริษัทอย่างปตท มีวิศวกรคอยมายันให้คุณหากน้ำมันเครื่องทำเครื่องยนต์เสียหาย

ในคู่มือรถ ก็ไม่มีเล่มไหนบอกว่า "ต้องใช้" 0W-20 เท่านั้นครับ มีแต่ที่ผมเห็นคนไทยเขีียนกันเอง



Thor.1

Re: น้ำมันเครื่อง 0w-20
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2014, 15:24:02 »

 รถแฟนผมอัลเมร่าท๊อป ศูนย์/สเปกเครื่องให้ใช้0w20 ผมก็ซื้อมาถ่ายเอง2รอบ ใช้งานปกติดี รถแค่หมื่นกว่าโล
 เดือนที่แล้วจะเดินทางไกล และรถจอดมากกว่าขับ เลยอยากเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง

 เอาของที่มีอยู่มาใช้ ผมไม่ค่อยซีเรียสเรื่องน้ำมันเครื่องเท่าไหร่ ขับบ้านๆใช้ยี่ห้อมาตรฐานเป็นพอ
 จัดการเอา10w40ที่มีอยู่แล้ว ถ่ายเสร็จเรียบร้อย วอร์มเครื่องและก็เอาไปลองวิ่ง

 อัลเมร่าที่ว่าอืดอยู่แล้ว อืดหนักเข้าไปอีก เหมือนนั่งในรถอยู่4คนแล้ววิ่งยังไงยังงั้น
กดนี่แทบไม่อยากไป จังหวะเร่งแซงนี่หน่วงมากๆ ขับช่วงนี้เซ็งสุดๆ
แต่อัตราการกินน้ำมันพอๆกับตอนเดิม ทีเเรกนึกว่าจะกินหนักกว่าเดิมเพราะหนืดขนาดนั้น

 เดี๋ยวกะว่าสิ้นเดือนจะเข้ากทม. ก่อนไป จะถ่ายเอา0w20มาใช้เหมือนเดิมครับ
 



jaesz

Re: น้ำมันเครื่อง 0w-20
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2014, 15:27:49 »

 รถแฟนผมอัลเมร่าท๊อป ศูนย์/สเปกเครื่องให้ใช้0w20 ผมก็ซื้อมาถ่ายเอง2รอบ ใช้งานปกติดี รถแค่หมื่นกว่าโล
 เดือนที่แล้วจะเดินทางไกล และรถจอดมากกว่าขับ เลยอยากเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง

 เอาของที่มีอยู่มาใช้ ผมไม่ค่อยซีเรียสเรื่องน้ำมันเครื่องเท่าไหร่ ขับบ้านๆใช้ยี่ห้อมาตรฐานเป็นพอ
 จัดการเอา10w40ที่มีอยู่แล้ว ถ่ายเสร็จเรียบร้อย วอร์มเครื่องและก็เอาไปลองวิ่ง

 อัลเมร่าที่ว่าอืดอยู่แล้ว อืดหนักเข้าไปอีก เหมือนนั่งในรถอยู่4คนแล้ววิ่งยังไงยังงั้น
กดนี่แทบไม่อยากไป จังหวะเร่งแซงนี่หน่วงมากๆ ขับช่วงนี้เซ็งสุดๆ
แต่อัตราการกินน้ำมันพอๆกับตอนเดิม ทีเเรกนึกว่าจะกินหนักกว่าเดิมเพราะหนืดขนาดนั้น

 เดี๋ยวกะว่าสิ้นเดือนจะเข้ากทม. ก่อนไป จะถ่ายเอา0w20มาใช้เหมือนเดิมครับ
 

ถ้ามันอืดขึ้นจริงแบบรู้สึกได้ ขับทางเดิม วิ่งความเร็วเท่า ๆ เดิม และ กินน้ำมันเท่าเดิม ผมก็ไม่รู้ว่ากฎเทอร์โมไดนามิคมันมีไว้ทำไมแล้วล่ะครับ คุณล้มทฤษฎีระดับโลกได้นะครับเนี่ย

เอาให้ชัวร์นะครับ ลองจับ 0-100 ดูสิครับว่ามันเปลี่ยนไปรึเปล่า หรือถ้ามีเครื่องมือวัดกำลังอัด ก็ลองเอามาใช้ดูครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 18, 2014, 15:29:28 โดย jaesz »



jubcup

Re: น้ำมันเครื่อง 0w-20
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2014, 17:21:17 »
มันอยู่ที่ใช้งานมากี่โลแล้ว ถ้าเลยหมื่นยังไม่ถึงแสน
เบอร์ 20 มันบางไปรึป่าว ควรเปนเบอร์ 30 นะ
แนะนำ PTT 5w-30
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 18, 2014, 17:23:51 โดย jubcup »



shikimaru

Re: น้ำมันเครื่อง 0w-20
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2014, 17:28:48 »
ผมไม่เคยเชียคนรู้จักเลย ไอน้ำมันเบอร์ 20 เนี่ย ใสเกินไปที่จะใส่ในบ้านเรา บ้านเรามันร้อนมากอยู่แล้ว เฉลี่ย 30+ขึ้นไปถึง 40 กว่า
ที่นี้ความร้อนสะสมจากในเมืองอีก ขับรถติดๆยิ่งทำให้น้ำมันเครื่องเบอร์ที่มันใสมากๆหมดสภาพหล่อลื่นไปด้วย



Thor.1

Re: น้ำมันเครื่อง 0w-20
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2014, 18:01:39 »

 รถแฟนผมอัลเมร่าท๊อป ศูนย์/สเปกเครื่องให้ใช้0w20 ผมก็ซื้อมาถ่ายเอง2รอบ ใช้งานปกติดี รถแค่หมื่นกว่าโล
 เดือนที่แล้วจะเดินทางไกล และรถจอดมากกว่าขับ เลยอยากเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง

 เอาของที่มีอยู่มาใช้ ผมไม่ค่อยซีเรียสเรื่องน้ำมันเครื่องเท่าไหร่ ขับบ้านๆใช้ยี่ห้อมาตรฐานเป็นพอ
 จัดการเอา10w40ที่มีอยู่แล้ว ถ่ายเสร็จเรียบร้อย วอร์มเครื่องและก็เอาไปลองวิ่ง

 อัลเมร่าที่ว่าอืดอยู่แล้ว อืดหนักเข้าไปอีก เหมือนนั่งในรถอยู่4คนแล้ววิ่งยังไงยังงั้น
กดนี่แทบไม่อยากไป จังหวะเร่งแซงนี่หน่วงมากๆ ขับช่วงนี้เซ็งสุดๆ
แต่อัตราการกินน้ำมันพอๆกับตอนเดิม ทีเเรกนึกว่าจะกินหนักกว่าเดิมเพราะหนืดขนาดนั้น

 เดี๋ยวกะว่าสิ้นเดือนจะเข้ากทม. ก่อนไป จะถ่ายเอา0w20มาใช้เหมือนเดิมครับ
 

ถ้ามันอืดขึ้นจริงแบบรู้สึกได้ ขับทางเดิม วิ่งความเร็วเท่า ๆ เดิม และ กินน้ำมันเท่าเดิม ผมก็ไม่รู้ว่ากฎเทอร์โมไดนามิคมันมีไว้ทำไมแล้วล่ะครับ คุณล้มทฤษฎีระดับโลกได้นะครับเนี่ย

เอาให้ชัวร์นะครับ ลองจับ 0-100 ดูสิครับว่ามันเปลี่ยนไปรึเปล่า หรือถ้ามีเครื่องมือวัดกำลังอัด ก็ลองเอามาใช้ดูครับ

  ผมคงสื่อบ้านๆไปหน่อย... ;D

 ที่บอกว่ากินพอๆกับตอนเดิม จริงๆมันคงต่างล่ะครับแต่มันไม่ได้มากจนเป็นสาระอะไร
 และคงไม่ได้ทะลายกฎฟิสิกส์ข้อใดด้วยครับ เพราะตัวแปรอื่นๆมันอาจจะรวมกันจนเป็นผลลัพท์นี้
 
 คันเดียวกันนี้ เคยนั่งกันไปเต็มรถ5คน มีของท้ายรถด้วย วิ่งอืดยิ่งกว่านี้ ผลลัพท์ก็คล้ายๆกันนี้.
ถ้าทางทฤษฎีมันคงต้องกินต่างกันมาก.    แต่มันก็ไม่ได้ต่างจากตอนไปกัน2คนมากนัก
บางครั้งขับช้าเอาประหยัด ก็เจอว่าไม่ได้ประหยัดกว่าตอนขับเร็วเท่าไหร่

 บางทีก็เจอV8 สี่พันซีซี กินน้อยกว่า6สูบ3พัน บรรทุกของนิดนึงประหยัดกว่ารถเปล่า
ซึ่งถ้าจะวัดเอาจริงๆ คงจะรู้ว่าเป็นเพราะอะไร ไม่ได้แหกกฏอะไรหรอกครับ

 ของผมนี่มันก็มาจากการใช้งานจริงที่ไม่ได้ทดสอบโดยละเอียด
และคงไม่ไปทดสอบล่ะครับ. แค่เล่าสู่กันฟัง.  ไม่ได้จริงจังเรื่องทฤษฎีหรือข้อมูลครับ...

 มาละเอียดเลย. .....กลัวข้อมูลไม่ครบอีก....555



muying

Re: น้ำมันเครื่อง 0w-20
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2014, 19:13:43 »
ขอเพิ่มเติมข้อมูลให้ก่อน

มีอีกแบรนด์ที่ใช้ 0w20 คือ มาสด้า 2 แต่ศูนย์ไม่ได้บังคับน่ะครับ  แล้วแต่จะเลือก มีเบอร์ 30 full synthetic ของ castrol ด้วย


ผมเลือกใช้ 0w20 เพราะ ประหยัดน้ำมันกว่าคับ  เพราะผมจดบันทึกทุกถัง  นี่เข้าปีที่หกแล้ว  แม้จะต่างกันไม่มาก เฉลี่ยประมาณ 0.8 โลต่อลิตร  แค่นี้คงพอยืนยันได้น่ะครับ  ไม่ใช่ความรู้สึก  ส่วนเครื่องจะเสียหรือปล่าว ยังไม่ทราบครับ  เพราะตอนนี้ก็ยังใช้ดีอยู่คับ



Deaw

Re: น้ำมันเครื่อง 0w-20
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2014, 19:20:07 »
ผมลองใช้ 0W-20 ของ ปตท. กับ mazda 2
ปรากฏว่า แกลลอนเดียวไม่พอครับ
ปตท. 1 แกนลอนของ 0W20 มีแค่ 3.5 ลิตรเอง แต่ mazda 2 ต้องการ 4ศ
สรุปต้องไปหามาเติมเพิ่มอีก
สงสัยคงผลิตมาเพื่อ eco car จริงๆ



decptt

Re: น้ำมันเครื่อง 0w-20
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2014, 23:45:26 »
PTT 0w-20 มันมีตัวใหม่ เขียนว่า VI++ ด้วยครับ มันยืดอายุหรืออะไรนี่แหละ ลองศึกษาดูครับ
ถ้าขับไม่เกิน 120 บ่อยๆ ผมว่า 0w-20 ก็สามารถใช้ได้ครับ
ปล. จนกว่าเครื่องจะเริ่มหลวมครับ จากนั้นก็ค่อยเพิ่มความหนืดตัวหลังก็ได้ครับ



muying

Re: น้ำมันเครื่อง 0w-20
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: มิถุนายน 19, 2014, 11:48:01 »
ผมลองใช้ 0W-20 ของ ปตท. กับ mazda 2
ปรากฏว่า แกลลอนเดียวไม่พอครับ
ปตท. 1 แกนลอนของ 0W20 มีแค่ 3.5 ลิตรเอง แต่ mazda 2 ต้องการ 4ศ
สรุปต้องไปหามาเติมเพิ่มอีก
สงสัยคงผลิตมาเพื่อ eco car จริงๆ

บรื๋ออออออ   หลีกให้ไกลๆดีกว่าคับ  น้องสองเหมือนกัน



Spirit_P

Re: น้ำมันเครื่อง 0w-20
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: มิถุนายน 20, 2014, 03:49:57 »
รถอะไรครับ แล้วใช้งานแบบไหน

ส่วนตัวแล้ว ผมใช้ตามลักษณะการใช้งานครับ เล่นกันง่ายๆ คือ เลือกเบอร์น้ำมันเครื่องเบอร์ใสที่สุด เท่าที่รถเราจะสามารถเติมได้โดยที่เติมใช้งานไปแล้ว น้ำมันเครื่องไม่หาย

รถที่ขับน้อย ใช้ไม่บ่อย วิ่งไม่เร็ว ก็ใช้เบอร์ใสๆ ลื่นๆ ได้ ประหยัดๆ ....ส่วนรถที่วิ่งเยอะหน่อย อัดประจำ ก็ใช้เบอร์ที่หนืดขึ้น เพราะถ้าใสไปขับใช้งานไปจะรู้เลย ว่าไม่มีกำลังอัด

และตัวเลข หน้า w เช่น 0w 5w 10w ไม่ต้องไปสนใจ มันมีไว้ให้เมืองหนาวดู กลัวน้ำมันจะเป็นไข ประเทศไทยร้อนแบบนี้ใช้ได้อยู่แล้ว ฉะนั้น ไม่เกี่ยวเลยที่ประเทศไทยจะใช้เบอร์ 0w20 ไม่ได้

เทคโนโลยีการผลิตเครื่องยนต์รุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบันที่เน้นประหยัดเชื้อเพลิง ถูกผลิตมาเพื่อให้ใช้กับน้ำมันเครื่องที่ลื่นและใสมากขึ้นกว่าแต่ก่อน

เครื่องยนต์บางรุ่น อาจจะมีรู ท่อ ทางเดินน้ำมันที่ส่งไปหล่อลื่นชิ้นส่วนต่างๆ ที่มีขนาดเล็ก จำเป็นจะต้องใช้น้ำมันเครื่องที่ใส ความหนืดน้อยๆ เพื่อที่จะส่งผ่านรูนี้ไปได้อย่างทั่วถึง....การที่ไปขยับเบอร์ความหนืดให้ขึ้น ทั้งๆ ที่ยังใช้เบอร์ความหนืดเดิมได้ ด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่...กลายเป็นรถวิ่งอืด เครื่องพัง อายุการใช้งานสั้นลงกว่าปกติด้วยซ้ำ

เพราะฉะนั้น จริงๆ แล้ว เราควรจะใช้เบอร์น้ำมันเครื่องตามที่คู่มือแนะนำ ซึ่งจะแนะนำเบอร์ที่เหมาะสมที่สุดเพียง "เบอร์เดียว" หรือถ้าไม่มี คู่มือก็จะแนะนำเบอร์ที่พอทดแทนได้
แต่บ้านเราไม่น่าไว้ใจ โดยเฉพาะพวกศูนย์ต่างๆ คู่มือบอกอย่าง เติมอีกอย่าง....ยิ่งรถที่ยังอยู่ในประกัน0 ต้องเข้าศูนย์เปลี่ยนน้ำมันเครื่องของศูนย์ เหมือนโดนยัดเยียดเลย