ผู้เขียน หัวข้อ: ขอคำแนะนำจากเพื่อนสมาชิกเกี่ยวกับเจ้า มาสด้า 2 :: 1.3 และ 1.5  (อ่าน 7479 ครั้ง)

ออฟไลน์ BOBBY_7

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 195
เมื่อวันหยุดผมได้ไปทดสอบมา แต่ยังสรุปไม่ลงตัวว่าจะเอาเช่นไร
คำถามมากมายอยากสอบถามเพื่อนสมาชิก ที่พอมีความรู้ หรือได้ทดสอบ หรือมีในครอบครอง

ดังนี้
1. การขับขี่หาก Hatchback และ Sedan ในเสป็กรุ่นเดียวกันคิดว่าแตกต่างหรือเหมือนกันหรือไม่
2. ในรุ่น 1.3 Sports Standard  และ  XD Sports  ซึ่งเป็นรุ่นล่างสุดของทั้ง 1.3 และ 1.5  วัสดุทั้ง2รุ่น เหมือนกันหรือไม่ครับ
    (ได้เห็นแต่  1.3 Sports Standard ผมว่าเบาะกับวัสดุพาสติกมันดู ECO car มากๆ กับราคา    550,000 นอยๆ )

3. XD Sports ล่างสุดของ 1.5 เบรคหลังเป็นดรัม เพื่อนสมาชิกที่ใช้อยู่พบปัญหาการเบรคหรือแตกต่างจาก เจ้า 2ตัวบนซึ่งเป็นดิส 4 ล้อมากหรือไม่
4. ช่วงล่างของทั้ง 1.3 และ 1.5 เหมือนกันไหมครับ ผมแอบรู้สึกว่า 1.5 ช่วงล่างมันนิ่งและมั่นใจกว่า

สำหรับผมชอบดีเซล 1.5 เอามากๆ หลังจากที่ผิดหวังไม่ได้ครอบครองเจ้า CX5 ก็หันมาเอาหลังติดเบาะแบบรุ่นน้องมาแทนก็แล้วกัน
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับการแชร์กันครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 20, 2015, 20:07:35 โดย Lerm_7 »

ออฟไลน์ chettaphong

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 115
เมื่อวันหยุดผมได้ไปทดสอบมา แต่ยังสรุปไม่ลงตัวว่าจะเอาเช่นไร
คำถามมากมายอยากสอบถามเพื่อนสมาชิก ที่พอมีความรู้ หรือได้ทดสอบ หรือมีในครอบครอง

ดังนี้
1. การขับขี่หาก Hatchback และ Sedan ในเสป็กรุ่นเดียวกันคิดว่าแตกต่างหรือเหมือนกันหรือไม่
2. ในรุ่น 1.3 Sports Standard  และ  XD Sports  ซึ่งเป็นรุ่นล่างสุดของทั้ง 1.3 และ 1.5  วัสดุทั้ง2รุ่น เหมือนกันหรือไม่ครับ
    (ได้เห็นแต่  1.3 Sports Standard ผมว่าเบาะกับวัสดุพาสติกมันดู ECO car มากๆ กับราคา    550,000 นอยๆ )

3. XD Sports ล่างสุดของ 1.5 เบรคหลังเป็นดรัม เพื่อนสมาชิกที่ใช้อยู่พบปัญหาการเบรคหรือแตกต่างจาก เจ้า 2ตัวบนซึ่งเป็นดิส 4 ล้อมากหรือไม่
4. ช่วงล่างของทั้ง 1.3 และ 1.5 เหมือนกันไหมครับ ผมแอบรู้สึกว่า 1.5 ช่วงล่างมันนิ่งและมั่นใจกว่า

สำหรับผมชอบดีเซล 1.5 เอามากๆ หลังจากที่ผิดหวังไม่ได้ครอบครองเจ้า CX5 ก็หันมาเอาหลังติดเบาะแบบรุ่นน้องมาแทนก็แล้วกัน
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับการแชร์กันครับ

ผมใช้ M2 XD (ตัวเริ่มต้น) อยู่นะครับ

1. Sedan กับ Hatchback เท่าที่จำได้จากที่คุณจิมมี่ พรีวิว ไว้รู้สึกว่าจะไม่ต่างกันมากนัก โดย Hatchback ออกจะแข็งกว่าเล็กน้อย (น้อยมาก ๆ)

2. วัสดุน่าจะเหมือนกันนะครับ น่าจะต่างกันที่โทนสีเล็กน้อย อย่าเอาไปเทียบตัว top ครับ อันนั้น วัสดุบุหนัง ดูไฮโซ แต่ผมว่าเอาไปเทียบกับ VIOS City หรือ Jazz ก็ไม่ขี้เหร่กว่ากันหรอกครับ

3. สำหรับรถขนาดนี้ เบรคหลังจะเป็น Disc break หรือ ดรัมเบรค ก็ไม่เป็นปัญหาหรอกครับ

4. ไม่เคยลองขับเทียบกันขอผ่านข้อนี้ครับ

ออฟไลน์ BOBBY_7

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 195
ขอบคุณนะครับสำหรับข้อมูล :-*แบ่งปันกัน

ออฟไลน์ mckyparty

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 748
    • อีเมล์
ดีเซล ใช้จริงเกิน 25km/l มั้ยครับ เห็นทดสอบกันได้ 30-35km/l ว้าวมากก

ออฟไลน์ chettaphong

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 115
ดีเซล ใช้จริงเกิน 25km/l มั้ยครับ เห็นทดสอบกันได้ 30-35km/l ว้าวมากก

เวลาขับต้องเนียนนิดนึงครับ สัก 110 +/- นิดหน่อย จะทำได้  ~ 25km/l

ที่ไปได้ถึง 30 - 35 km/l นี่ต้องใจเย็นมาก ๆ ~ 80 - 90 เคยลองช่วงสั้น ๆ รู้สึกต้องเป็นทางราบ และ นิ่ง ๆ ซึ่งผมยังทำไม่ได้

ล่าสุดขับแบบ เหยียบ 120 - 140 ไปกลับ กรุงเทพ จันทบุรี เส้นทาง มอเตอร์เวย์ ผ่านบ้านบึง แกลง ขึ้นลง เนิน ~ 20% ผมทำได้ราว ๆ 19+ km/l ครับ เติม FuelSave Diesel ครับ

เทียบกับที่เมื่อก่อนใช้ Honda Freed เติม E20 ทำได้ดีสุด ราว ๆ 12km/l อันนี้พยายามขับแบบเนียน ๆ  110 - 120 นะครับ

เพิ่มเติมครับ
สำหรับวิ่งใน กทม ผมไปกลับ บ้านอยู่ย่านวัชรพล ที่ทำงาน อยู่ ย่านรัชดา (พระรามเก้า) วิ่งขึ้นทางด่วน รามอินทรา ลงพระรามเก้า ทำได้ราว ๆ 17km/l (ปัดทศนิยมลงมา)

เทียบกับที่ใช้ Honda Freed เส้นทางเดียวกัน Freed ทำได้ราว ๆ  7 - 8 km/l ครับ

อยากเสริมกว่า ด้วยพฤติกรรมการขับที่เหมือนกัน คน ๆ เดียวกัน อย่างไรก็ตาม ประหยัดกว่าคันเดิมที่เคยขับแน่ ๆ ครับ แต่ถ้าคันเดิมเป็น BMW Diesel หรือ Hybrid อันนั้นคงสู้ไม่ได้นะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 20, 2015, 21:48:52 โดย chettaphong »

ออฟไลน์ IncarRus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,519
    • อีเมล์
ตอบ ข้อ 4.

เซลส์โม้ว่า,,, 1.5D เซ็ทมาแข็งกว่าหน่อย, เพราะน้ำหนักมากกว่า 1.3G ประมาณ 100 โลคับ

ออฟไลน์ CNX

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,300
    • อีเมล์
ไม่เคยขับ 1.3เบนซินนะครับ  :D

เปรียบเทียบ อัตราการสิ้นเปลือง ระหว่าง M2 1.5 Gasoline (Gen1) v$ M2 Diesel

ที่บ้านผมใช้ M2 1.5 Gasoline (Gen1) ขับระยะสั้น 70กม. เติมน้ำมัน E20 Shell
ความเร็วเฉลี่ย 60-80กม./ชั่วโมง
ได้ตัวเลขที่หน้าจอ คร่าว ดังรูป 5.4liter/100km. ประมาณ 18.51กม./ลิตร (อันนี้ ไม่แน่นอน เชื่อถือไม่ได้)
(ที่จริง ต้องวัดจากการเติมน้ำมันเต็มถัง ตามสูตรของคุณJ!MMY)

ส่วนอัตราการสิ้นเปลืองของดีเซล อ้างอิงจากสถิติที่ผู้ใช้งานจริงท่านอื่นๆ ที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ครับ

สรุปว่า ผมเชียร์ Diesel XD (ตัวล่างสุด) ราคา 675,000ครับ  ;D

อยากจะเปลี่ยน Fiesta 1.5 รุ่นเกียร์เจ้าปัญหา ไปเล่นดีเซล , ผมไม่เน้นแรงแบบเบนซินFlat torque แต่ขอแรงแบบประหยัดในแบบดีเซลครับ
วิถีพอเพียง วิถียั่งยืน

ออฟไลน์ TaR

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 981
  • "เป้าหมาย..."
เข้ามาเก็บข้อมูลครับ ;D
"ชีวิตคือการเดินทาง..."
.
.
.

ออฟไลน์ atc40

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 176
ขอเสริมนิดครับ  ;D

Mazda2 Gen1 (DW) 1996-2002
Mazda2 Gen2 (DY) 2002-2007
Mazda2 Gen3 (DE) 2007-2014  (หรือGen1 ไทย)
Mazda2 Gen4 (DJ) 2014-ปัจจุบัน (หรือGen2 ไทย)

ผมใช้ GEN3 (เบนซิน) และGEN4 (ดีเซล) ตัวTOP ทั้งคู่

All New Mazda2 Skyactiv-D  1.5 (105แรงม้า)
ขับในกรุงเทพ ความเร็ว80-100 กินน้ำมันเฉลี่ย 20โลลิตร
ไปต่างจังหวัด กรุงเทพ-กุยบุรี ความเร็ว 100-140 กินน้ำมันเฉลี่ย 17โลลิตร
ชอบมากคือน้ำมัน1ถังดีเซล วิ่งได้ 700-800 กิโลเมตร

กลับมาขับGEN3 ก็รู้ตัวว่าตัวเองติดรถดีเซลแรงบิดเยอะๆ ออกตัวดีดีไปซะแล้วครับ
ขับเบนซินได้ยินเสียงรอบเครื่องกวาดแล้วรู้สึกไม่ทันใจครับ 5555 เบนซิน1ถังก็วิ่งได้แค่สัก400-500โลเอง

ส่วน Skyactiv-G 1.3 (93แรงม้า) ยังไม่ได้เข้าไปดู เข้าไปลองครับ

ข้อมูลอื่นๆ เท่าที่มีข้อมูล คนนั่งหลังตัวHatchback นั่งสบายกว่า
นั่ง4คนAll New Mazda2 ผมว่าช่วงมันยาวกว่าตัวเก่าแบบรู้สึกได้นะครับ ขยับให้คนนั่งหลังนั่งได้สบายกว่ารุ่นเก่า
Sedan หรือHatchback ผมว่าการขับขี่ไม่ต่างกันครับ เลือกในแบบที่คุณชอบ ราคามันก็เท่ากัน
เบรคหลัง จะดิสก์หรือดรัม ถ้าไม่ซีเรียส ผมว่ามันก็ใช้งานได้ดีทั้งคู่ครับ ถ้าชอบสวยงามก็เอาตัวดิสก์4ล้อซะครับ
ส่วนช่วงล่าง รถที่Setมาเหมือนกัน คันที่น้ำหนักเยอะกว่ามันก็จะรู้สึกว่าเกาะถนนกว่าอยู่แล้วครับ (ผมไม่รู้นะครับว่าเค้าSetมายังไง เหมือนหรือต่าง แค่ยกตัวอย่างเฉยๆ) น้ำหนักเบนซิน 1,038กิโลกรัม น้ำหนักดีเซล 1,142 กิโลกรัม ต่างกัน104กิโลกรัม  ก็เยอะอยู่นะครับ

อัตราการสิ้นเปลืองตาม JC08
Skyactiv-D 1.5 2WD(FF)AT  --> 26.4 km/L มากับถังน้ำมัน 44ลิตร
Skyactiv-G 1.3 2WD(FF)AT --> 24.6 km/L มากับถังน้ำมัน 35ลิตร

ซึ่งถ้าได้ตัวเลขตามนี้ มันก็ประหยัดใช้ได้ทั้งคู่นะครับ  ;D

Skyactiv-Drive 6-Speed ก็ใช้งานได้ดีครับ เกียร์ตั้ง6เกียร์ ผมไม่ห่วงเลยว่าดีเซลปลายจะอืดครับ5555 รถบ้านๆ ขึ้น170ชิวๆได้ ผมไม่ต้องการอะไรแล้ว  ;D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 21, 2015, 05:12:48 โดย atc40 »

ออฟไลน์ Victor_AuM

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 6
เท่าที่ได้ลองขับๆ ทั้งเบนซินและดีเซล

1.เบนซินเวลาเข้าโค้งเหมือนจะเกาะไม่เท่าดีเซล 10-15% อาจจะเป็นเพราะน้ำหนักของรถตามสเปคเบนซินจะน้ำหนักจะเบากว่าดีเซลอยู่ ~100 กิโลกรัม
2.ราคาส่วนต่างของเบนซินและดีเซลอยู่ราวๆ 125,000 บาท
3.เบนซินอาจจะต้องกดแป้นเบรกเพิ่มอีกนิดหน่อย 5-10%เพื่อให้รถมันหยุดได้เร็ว ถ้าเทียบกับดีเซลรุ่นที่มีดิสก์เบรกหลังนะ
4.ต้องดูลักษณะการใช้รถ ปีหนึ่งใช้รถเกิน 30,000 กิโลเมตรไหม ถ้าเกินไปดีเซลเลยคุ้มกับส่วนต่างราคากับค่าน้ำมัน
5.อยู่ที่จะเลือกใช้เครื่องหรือให้อ๊อฟชั่นรถ ท่าใช้เครื่องไปดีเซล ท่าใช้อ๊อฟชั่นไปเบนซินตัวท็อปเลย (เพราะทุกรุ่นความปลอดภัยเท่ากัน เหล็กแข็งเท่ากัน มันต่างกันของเล่นในรถเท่านั้น)
6.เบนซินแตะคันเร่งนิดหน่อยเกียร์เดี๋ยวเชน เดี๋ยวเชน ถ้าเทียบกับดีเซล ถ้าวิ่งความเร็วเท่ากัน แล้วแซง กดคันเร่งเท่ากัน ดีเซลจะไม่เชนเกียร์เยอะ จะค่อยๆไต่ความเร็วมากกว่า แต่ท่าเป็นเบนซิน จะเชนเกียร์ลงอย่าน้อย 1-2เกียร์เลย
7.เบนซินตัวนี้ผมว่ามันดีดออกตัวดีกว่าเบนซินรุ่นที่แล้วนะ
8.ผมเคยเบรคจนABS ทำงาน ทั้งเบนซินและดีเซล มันไม่มีอาการสบัดเลยอะ เบรกจาก100-0 นะ

ปล.ส่วนตัวผมเชียร์ดีเซล ดูจากลูกค้าที่ผ่านมา น้ำมัน1ถังหนึ่งได้เกิน 800กิโลกันหมดนะ บางคนได้900กว่าก็มีนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 21, 2015, 16:53:37 โดย Victor_AuM »
V!ctor_AuM

ออฟไลน์ chettaphong

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 115
เท่าที่ได้ลองขับๆ ทั้งเบนซินและดีเซล

1.เบนซินเวลาเข้าโค้งเหมือนจะเกาะไม่เท่าดีเซล 10-15% อาจจะเป็นเพราะน้ำหนักของรถตามสเปคเบนซินจะน้ำหนักจะเบากว่าดีเซลอยู่ ~100 กิโลกรัม
2.ราคาส่วนต่างของเบนซินและดีเซลอยู่ราวๆ 125,000 บาท
3.เบนซินอาจจะต้องกดแป้นเบรกเพิ่มอีกนิดหน่อย 5-10%เพื่อให้รถมันหยุดได้เร็ว ท่าเทียบกับดีเซลรุ่นที่มีดิสก์เบรกหลังนะ
4.ต้องดูลักษณะการใช้รถ ปีหนึ่งใช้รถเกิน 30,000 กิโลเมตรไหม ท่าเกินไปดีเซลเลยคุ้มกับส่วนต่างราคากับค่าน้ำมัน
5.อยู่ที่จะเลือกใช้เครื่องหรือให้อ๊อฟชั่นรถ ท่าใช้เครื่องไปดีเซล ท่าใช้อ๊อฟชั่นไปเบนซินตัวท็อปเลย (เพราะทุกรุ่นความปลอดภัยเท่ากัน เหล็กแข็งเท่ากัน มันต่างกันของเล่นในรถเท่านั้น)
6.เบนซินแตะคันเร่งนิดหน่อยเกียร์เดี๋ยวเชน เดี๋ยวเชน ท่าเทียบกับดีเซล ท่าวิ่งความเร็วเท่ากัน แล้วแซง กดคันเร่งเท่ากัน ดีเซลจะไม่เชนเกียร์เยอะ จะค่อยๆไต่ความเร็วมากกว่า แต่ท่าเป็นเบนซิน จะเชนเกียร์ลงอย่าน้อย 1-2เกียร์เลย
7.เบนซินตัวนี้ผมว่ามันดีดออกตัวดีกว่าเบนซินรุ่นที่แล้วนะ
8.ผมเคยเบรคจนABS ทำงาน ทั้งเบนซินและดีเซล มันไม่มีอาการสบัดเลยอะ เบรกจาก100-0 นะ

ปล.ส่วนตัวผมเชียร์ดีเซล ดูจากลูกค้าที่ผ่านมา น้ำมัน1ถังหนึ่งได้เกิน 800กิโลกันหมดนะ บางคนได้900กว่าก็มีนะ


รบกวนแก้นิดนะครับ ถ้า ครับ ไม่ใช่ ท่า (ท่า อันนี้คือ ท่าทาง) ผมอ่านแล้วแอบมึนเล็ก ๆ

ออฟไลน์ littlejoe77777

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 24
    • อีเมล์
เครื่องดีเซลพ่อผมขับได้ประมาณ16โล/ลิตรครับ

พ่อเป็นคนขับเร็ว+ขับกระชาก ได้แค่นี้ก็เกินความคาดหมายล่ะครับ

ตอนนี้ตัดสินใจจองคันที่2ให้ตัวผมเอง และยกคันเก่าให้แฟนใช้

ออฟไลน์ tnp_super

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,924
    • อีเมล์
ผมเชียร์ดีเซลครับ ถึงผมจะไม่ได้ใช้ M2 ผมว่าดีเซลน่าจะดีกว่าเบนซินหลายอย่าง เช่น อันตรายจากการเกิดเพลิงใหม้เวลาเกิดอุบัติเหตุน้อยกว่า ราคาเชื้อเพลิงที่ถูกกว่า ทนทานกว่า(ถ้าดูแลอย่างสมำ่เสมอ) อัตราสิ้นเปลืองที่ดีกว่า การระเหยของเชื้อเพลิงน้อยกว่า คิดออกแค่นี้ครับ

ออฟไลน์ wa330

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,566

ออฟไลน์ BOBBY_7

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 195
ได้ข้อมูลมากทีเดียว

      ชีวิตประจำวัน ผมใช้  CRV 2.0E และวันหยุดเราไปด้วยกันคันเดียว  และ เจ้าออส  2007 ภรรยาใช้เฉพาะขับไปทำงาน (รถคันแรกของเรา)
ซึ่งผมให้เธอขับคันใหญ่ไปทำงาน เธอปฎิเสธมาตลอด เพราะที่ทำงานจอดตากแดดทั้งวัน เธอกลัวรถจะเก่า!
 
     เธอน่ารัก ไม่ยึดติดอะไร เธอบอก มีอะไรเธอก็ขับได้ ขอให้มันไม่ดับกลางทางแล้วกัน   แต่รถที่ใช้ก็ 8 ปีแล้วก็ยังใช้ดีอยู่
แต่ผมกลัวความเก่าอาจมีปัญหาที่เราไม่ทราบล่วงหน้า  จึงมองรถใหม่ให้ จะไปลง CITY  มาหลายรอบ แต่เธอไม่ชอบทรง
และด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ไม่น่าวางใจ จึงลากการเปลี่ยนรถมามากว่า 1 ปี  ระหว่างทาง 1ปี ก็ไปเทส ไปลองมาหลายเจ้า  แต่มันไม่ตอบโจทย์
สุดท้าย เจอรถที่เธอชอบหน้าตารูปทรง ( จริงๆ เธอชอบรูปทรง M3 มากๆ แต่ไม่ประหยัดน้ำมันเธอ ราคาสูงไปในมุมเธอ  มีคันใหญ่อยู่แล้ว)
M2  ราคา 1.3 Sports Standard  และ 1.5 XD Sports ต่างกันอยู่ 125,000 บาท ปัญหาใหญ่!
ต้องอธิบายกันอยู่พอสมควร  ข้อมูลผมได้ทดสอบเอง และข้อมูลจากสมาชิก

      จึงได้ข้อสรุปกันที่  1.5 XD Sports อย่างที่บอกครับ เธอขอแค่ขับไม่ดับ แต่ผมอยากให้เธอได้เสริมในสิ่งที่เธอไม่รู้ตัว คือขับรถเร็ว
ใจถึง เหยียบปุ๊ดๆ ออกไปแล้ว จึงเพิ่มเรื่องสมถนะการขับขี่ให้  และประหยัดน้ำมันแบบที่เธอชอบ  จ่ายเพิ่มแค่คุณภาพการขับขี่เหมาะสมกับเธอ



ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆสำหรับการตัดสินใจ
และหวังว่าอาจจะมีประโยชน์กับสมาชิกที่กำลังอ่านอยู่  แต่สิ่งสำคัญต้องดูความเหมาะสมกับตนด้วยนะครับในการเลือกรถ
มันมีเงื่อนไขหลายอย่างในชีวิต ขอให้รอบคอบ ดูหลายๆ มิติ  รถใครรถมันครับ ดูว่ามันเหมาะ มันใช่กับเราไหม มีดี มีเสีย
อยู่ที่ว่าท่านรับได้  ขับได้ การเงินได้  ฯลฯ....... OK ลุย



ออฟไลน์ V221

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,823
ได้ข้อมูลมากทีเดียว

      ชีวิตประจำวัน ผมใช้  CRV 2.0E และวันหยุดเราไปด้วยกันคันเดียว  และ เจ้าออส  2007 ภรรยาใช้เฉพาะขับไปทำงาน (รถคันแรกของเรา)
ซึ่งผมให้เธอขับคันใหญ่ไปทำงาน เธอปฎิเสธมาตลอด เพราะที่ทำงานจอดตากแดดทั้งวัน เธอกลัวรถจะเก่า!
 
     เธอน่ารัก ไม่ยึดติดอะไร เธอบอก มีอะไรเธอก็ขับได้ ขอให้มันไม่ดับกลางทางแล้วกัน   แต่รถที่ใช้ก็ 8 ปีแล้วก็ยังใช้ดีอยู่
แต่ผมกลัวความเก่าอาจมีปัญหาที่เราไม่ทราบล่วงหน้า  จึงมองรถใหม่ให้ จะไปลง CITY  มาหลายรอบ แต่เธอไม่ชอบทรง
และด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ไม่น่าวางใจ จึงลากการเปลี่ยนรถมามากว่า 1 ปี  ระหว่างทาง 1ปี ก็ไปเทส ไปลองมาหลายเจ้า  แต่มันไม่ตอบโจทย์
สุดท้าย เจอรถที่เธอชอบหน้าตารูปทรง ( จริงๆ เธอชอบรูปทรง M3 มากๆ แต่ไม่ประหยัดน้ำมันเธอ ราคาสูงไปในมุมเธอ  มีคันใหญ่อยู่แล้ว)
M2  ราคา 1.3 Sports Standard  และ 1.5 XD Sports ต่างกันอยู่ 125,000 บาท ปัญหาใหญ่!
ต้องอธิบายกันอยู่พอสมควร  ข้อมูลผมได้ทดสอบเอง และข้อมูลจากสมาชิก

      จึงได้ข้อสรุปกันที่  1.5 XD Sports อย่างที่บอกครับ เธอขอแค่ขับไม่ดับ แต่ผมอยากให้เธอได้เสริมในสิ่งที่เธอไม่รู้ตัว คือขับรถเร็ว
ใจถึง เหยียบปุ๊ดๆ ออกไปแล้ว จึงเพิ่มเรื่องสมถนะการขับขี่ให้  และประหยัดน้ำมันแบบที่เธอชอบ  จ่ายเพิ่มแค่คุณภาพการขับขี่เหมาะสมกับเธอ



ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆสำหรับการตัดสินใจ
และหวังว่าอาจจะมีประโยชน์กับสมาชิกที่กำลังอ่านอยู่  แต่สิ่งสำคัญต้องดูความเหมาะสมกับตนด้วยนะครับในการเลือกรถ
มันมีเงื่อนไขหลายอย่างในชีวิต ขอให้รอบคอบ ดูหลายๆ มิติ  รถใครรถมันครับ ดูว่ามันเหมาะ มันใช่กับเราไหม มีดี มีเสีย
อยู่ที่ว่าท่านรับได้  ขับได้ การเงินได้  ฯลฯ....... OK ลุย



ดีแล้วละครับ ดีเซลเทอร์โบน่าจะถูกใจละครับ ยินดีล่วงหน้าด้วยครับ
BMW 750E M SPORT