ผู้เขียน หัวข้อ: เหตุผลที่ตัดสินใจใช้รถยนต์ Hybrid ของท่าน ?  (อ่าน 5695 ครั้ง)

ออฟไลน์ Red Bicycle

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 849
## จะมีการเปรียบเทียบให้เห็นกันอยู่เสมอว่า ถ้าเปรียบเทียบ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ประหยัดลง

      ของรถยนต์ Hybrid เช่น camry hybrid กับรุ่นเครื่องยนต์ธรรมดา มักจะไม่คุ้มค่าเงินส่วนต่าง ( ถูกปรามาสตลอด ) เติม E20 หรือ E85 ก็ไม่ได้
      แถมราคาขายต่อก็ตกมากๆๆๆๆๆ  ยังจะต้องคอยลุ้นว่าอุปกรณ์ hybrid จะเสียอีก (ราคาแพงเอาเรื่อง )

      แต่ก็ยังมีผู้ใช้รถยนต์จำนวนไม่น้อย ที่เลือกใช้รถ hybrid  อยากทราบเหตุผลในการเลือกใช้ นะครับผม

      ว่ามีจุดเด่น หรือ ข้อดีที่ถูกใจท่านอย่างไรครับผม. !
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 11, 2015, 09:08:02 โดย Red Bicycle »

ออฟไลน์ Lucky_suby

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 374
    • อีเมล์
Re: เหตุผลที่ตัดสินใจใช้รถยนต์ Hybrid ของท่าน ?
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2015, 08:57:42 »
ความประหยัดประเด็นเดียวครับ รุ่นอื่นไม่ทราบ แต่เท่าที่ใช้แคมรี่มา ชอบในทุกๆด้าน ทั้งการขับ ช่วงล่างกำลังดี นั่งสบายมาก กับออพชั่นที่ได้... ที่สำคัญ แรงมากครับ

ให้เลือกอีกทีวันนี้ ผมก็เลือกไฮบริดนะครับ. (เฉพาะแคมรี่นะครับ เพราะแพงกว่านี้ เช่น Lexus ผมว่าไม่คุ้มละ)

ออฟไลน์ Lucky_suby

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 374
    • อีเมล์
Re: เหตุผลที่ตัดสินใจใช้รถยนต์ Hybrid ของท่าน ?
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2015, 09:00:01 »
เพิ่มเติมอีกนิดนะครับ ไฮบริดพี่โต ผมว่า เสถียรมากนะ เท่าที่อ่านๆดู หากเทียบกับยี่ห้ออื่นครับ

คหสต นะครับ :)

ออฟไลน์ h22a

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 705
    • อีเมล์
Re: เหตุผลที่ตัดสินใจใช้รถยนต์ Hybrid ของท่าน ?
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2015, 09:00:38 »
ผมใช้รุ่นที่กล่าวถึงนี่แหละครับ
เคยลองเติม E20 อยู่สองสามถังก็วิ่งได้แบบหนืดๆครับ
แต่ระยะยาวไม่รู้ว่าจะเป็นไง

ใช้ในเมือง โดยเฉพาะกทม. คุ้มกว่า เมื่อเทียบกับ F30 320i
โดยเฉพาะตามซอย ที่รถวิ่งช้าๆ เพราะเราได้ใช้มอเตอร์

ผมเคยลองวัดดู ที่ความเร็วในซอย ไม่เกิน60 Km./Hr.
รถHybridจะใช้น้ำมัน1.1-1.3 Km. แล้วตัดไปใช้ไฟ 1 Km. สลับกันอย่างนี้
ถือว่าโอเคเลยครับ  ;)

ขับทางไกลถ้าใช้ Cruise Control ที่ความเร็วประมาณ 100-120 Km./Hr.
ถ้าทางมันยาวจริงๆ น่าจะทำได้เกือบ 20 Km./L. เพราะมอเตอร์จะมาช่วยประสานแรง
กับเครื่องยนต์ ลดภาระเครื่อง

ออฟไลน์ rojsak2021

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,196
    • อีเมล์
Re: เหตุผลที่ตัดสินใจใช้รถยนต์ Hybrid ของท่าน ?
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2015, 09:21:58 »
เมื่อก่อนเคยคิดถ้ามีตังค์ซ้ือรถใหม่จะใช้ hybrid แต่เดี่ยวนี้ขอเครื่องธรรมดาดีกว่า กลัวว่าแบต หรือระบบจะมีปัญหา อีกอย่างถ้าราคาน้ำมันไม่โดดไปกว่านี้ ขับ 13-14 โล/ล. ก็น่าจะพอใจแล้ว   แต่ถ้าภาครัฐเห็นความสำคัญเรื่องการลดมลภาวะ  สนับสนุนรถ ev hybrid ให้ราคาถูกลงกว่านี้ (ฝัันไปเถอะ) ก็อยากใช้เหมือนกัน

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,462
Re: เหตุผลที่ตัดสินใจใช้รถยนต์ Hybrid ของท่าน ?
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2015, 09:37:12 »
Hybrid บ้านเรา คงต้องใช้เวลาอีกซักพักใหญ่ๆ คนถึงจะยอมรับ ทั้งเรื่องระบบ ราคาตอนซื้อ และตอนซ่อม

ออฟไลน์ beerrl

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,671
    • อีเมล์
Re: เหตุผลที่ตัดสินใจใช้รถยนต์ Hybrid ของท่าน ?
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2015, 09:47:01 »
ซื้อ technology ความแรง ความประหยัด และ การเปลี่ยนจากระบบสันดาบธรรมดา เป็น กิ่งไฟฟ้า
แต่ สำหรับผม ตอนนี้ถ้าไม่ใช่ Toyota หรือ Honda ผมยังไม่ซื้อ Hybrid ครับ เพราะ ไม่รู้ถึงการซ่อมบำรุงในอนาคตครับ
Volvo 850GLT
Honda odyssey
Toyota Camry hybrid
Suzuki swift eco
Hyundai tucson crdi
Nissan Xtrail 2.0V 4wd
Honda Civic FC 1.8EL

ออฟไลน์ yod artstu

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,156
Re: เหตุผลที่ตัดสินใจใช้รถยนต์ Hybrid ของท่าน ?
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2015, 09:48:48 »
คืดเรื่องประหยัด ก่อนซื้อผมคำนวณแล้วยังไงก็ไม่คุ้ม
เรื่องแรงแบบไม่ต้องรอบูสท์ เป็นเรื่องหลัก (ตัดเรื่องความเร็วปลายออกไปนะครับ)
เรื่องซ่อมบำรุง แพงอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง แต่ไม่ขนาด Premium Compact แบบเข้าศูนย์เมื่อหมดประกัน

ผมรอดู jazz hybrid ว่าอัตราเร่งจะต่ำกว่า 10 วิไหมสำหรับ 0-100
ถ้าอัตราเร่งจิ๊ด อาจจะกลับไปซื้อ hybrid แต่กลัวเครื่อง 1.5 turbo ของ honda จะทำให้ผมเขว
: )

ออฟไลน์ panerai

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,349
Re: เหตุผลที่ตัดสินใจใช้รถยนต์ Hybrid ของท่าน ?
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2015, 10:35:43 »
มั่นใจความเสถียรของแบรนด์ Toyota ครับ
ส่วน Benz เข้าใจว่าทำได้ดี แต่ก็ยังไม่ Perfect เท่าฝั่งญี่ปุ่น
ส่วนถ้าแบตเสีย(Toyota Honda) รับประกัน 10 ปี ค่าใช้จ่ายกรณีหมดประกัน 70k-100k บาท
ผมว่ารับได้น่ะสำหรับคนซื้อรถแบบนี้ตั้งแต่มือ1
ซื้อรถHybrid ผมว่านอกจากจะซื้อความประหยัด(ถึงหลายคนจะว่าไม่คุ้ม) แต่ผมมองว่าเป็นการส่งเสริมผลักดันเทคโนโลยี
เพื่อโลกในอนาคต

ออฟไลน์ BestHuafoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,119
  • เอี๊ยดแอ๊ด
Re: เหตุผลที่ตัดสินใจใช้รถยนต์ Hybrid ของท่าน ?
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2015, 10:41:28 »
ใช้เพราะมันแปลก เท่ ไม่ซำใคร
และประหยัด+แรงในคันเดียวกัน
และเป็นรถที่มักให้อุปกรณ์ดีกว่าชาวบ้านชาวช่องเขา ราคาไม่แพงหากสัมผัสจริง
ค่าบำรุงรักษาทั่วไปพอๆ กับรถขนาดซีซีเท่ากัน
.
.
.
.
.
.
มันบูมมากตอนปี 10-12
จนกระทั่งมีการแชร์พวกอุปกรณ์บางตัวที่นอกเหนือการรับประกัน
เช่นตัวอินเวอร์เตอร์ ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า มอเตอร์ต่างๆ
ซึ่งไม่รวมใน แบตเตอรี่ลูกใหญ่ที่รับ 10 ปี
ราคาซ่อมมันน่ากลัวมากหากเกิดรวนขึ้นมา
หรืออะไหล่บางชิ้นที่แพงสุดขั้วหากเกิดอุบัติเหตุ เช่นไฟหน้า ไฟท้าย แถมต้องรออะไหล่ยาว
แบตเตอรรี่ 12V ซึ่งไม่ค่อยให้ข้อมูลมาว่าเปลี่ยนนอกศูนย์ได้หรือไม่ เปลี่ยนของแท้ 5400 บาท
ข้างนอกก็พยายามหากระทู้กลับไม่ค่อยเจอ

คนเลยเริ่มถอยห่าง
จากที่ไฮบริดจะมาแรงในภูมิภาคเอเซีย
สงสัยจะได้กลายเป็นเครื่องเทอร์โบที่หลายคนไฝ่ฝันแทน

ออฟไลน์ -*PoM*-

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 207
Re: เหตุผลที่ตัดสินใจใช้รถยนต์ Hybrid ของท่าน ?
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2015, 11:00:48 »
คงไม่มีใครโลกสวยเหมือนผม

ส่วนใหญ่มองแต่ค่าเงิน ความคุ้มค่า บลาๆๆๆๆ

แต่จะมีกี่คนที่มองในสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้

มลพิษ ในเมืองหลวง
ถ้าทุกคนมองแต่ความคุ้มค่าแต่ในกระเป๋าของตัวเอง ยังไงก็ไม่มีทางคุ้มแน่นอน
ถ้าชอบลองเทคโนโลยีใหม่ๆ แล้วพร้อมที่จะสละทรัพย์ส่วนตัวเพื่อปริมาณ co น้อยลงนิดหน่อย ก็จัดไป

คันต่อไปก็ยังจะเห็น hybrid นะ ไม่เข็ด

และผมว่า อะไหล่ ยังไงก็ถูกกว่า premium car เช่น แบต 12v ราคาประมาณหกพัน บีเอ็ม 320d หลักหมื่น เปลี่ยนที่ศูนย์

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 11, 2015, 11:06:19 โดย -*PoM*- »

ออฟไลน์ Nikle_pk

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,677
Re: เหตุผลที่ตัดสินใจใช้รถยนต์ Hybrid ของท่าน ?
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2015, 11:09:23 »
ประหยัด ข้อเดียวเท่านั้นที่ตัดสินใจซื้อ
ได้อัตราเร่งที่ดีเป็นของแถมครับ และ
ตัว Top คือ Hybrid เท่านั้นก็เลยซื้อ

แต่

บอกตรงๆผมพลาดครับ
บอกกันตรงๆและต่อไปจะไม่ใช้ Hybrid อีกเด็ดขาด
จนกว่าตลาดเมืองไทยจะยอมรับและอะไหล่ถูกลงมากๆซะก่อน

มีคนบอกผมว่าใช้รถ Hybrid ตอนขายได้ ดีใจกว่าตอนซื้อ
แต่ก่อนไม่เชื่อ ตอนนี้เชื่อแล้วล่ะครับ
My Review !!! New Vellfire 2.5ZG Edition !!!
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=44242.0

ออฟไลน์ bmwmania

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 311
Re: เหตุผลที่ตัดสินใจใช้รถยนต์ Hybrid ของท่าน ?
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2015, 12:45:27 »
Hybrid ยังคงเหมาะตามหัวเมืองใหญ่ๆ เพราะประหยัดมากเวลารถติด
แต่เรื่องราคาขายต่อถ้าใช้แล้วมีความสุข ก็ถือว่าคุ้มแล้ว เพราะเราต้องเจอมันทุกวัน
ส่วนเรื่องอะไหล่ผมยังคงเชื่อว่าถ้าคนใช้กันเยอะๆ เดี๋ยวอะไหล่ก็ถูกลงมาเองครับ
ถ้าตอนนี้ให้ซื้อตระกูล ไฮบริด ผมขอใช้แค่ honda toyota ครับ เพราะดูแล้วยังพอมีปัญญาซ่อม ถ้าเป็นพวกยุโรปผมกลัวต้องขายบ้านมาซ่อมครับ

ออฟไลน์ RL1234

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 124
Re: เหตุผลที่ตัดสินใจใช้รถยนต์ Hybrid ของท่าน ?
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2015, 14:24:46 »
สำหรับผม มันตอบโจทย์เรื่อง
 - ความแรง แรงมากในอัตราที่จะเร่งแซง แต่ไม่ใช่แรงแบบตีนผีครับ เพราะมัน lock ควาทเร็ว
 - ความประหยัดน้ำมัน ผมไม่คิดจะติดแก๊สก็เลยมาทางนี้ ไม่ใช่ว่าไม่มีเงินจ่ายค่าน้ำมันนะครับ แต่ผมแค่ชอบรถที่แรงและ
   ประหยัด ไม่อย่างงั้นแรงไปก็เหยียบไม่ลง มันเป็นเรื่องความรู้สึกน่ะครับ เดี๋ยวก็เติม เดี๋ยวก็เติม ช่วงนี้น้ำมันถูกนี่ ใช้เฉลี่ย
   เดือนละ 2 พันโล วิ่งนอกเมืองกับ ในเมืองรถติดๆ ค่าน้ำมันแค่ 4 พันกว่าบาท
- ตัวท็อประบบความปลอดภัยครบถ้วน
 - เงียบ
 - นุ่ม อาจจะกระด้างนิดๆแต่เปลี่ยนโช้คแล้ว แหล่มเลย

ตอนซื้อ ตัวเลือกผมคือ 2.4 ทั้งหมดครับ เพราะถ้ามี 2.0 เป้นตัวเลือก ผมก็เอา 2.0 อยู่แล้ว แต่ที่ผมไม่เอามาเลือกเลยก็เพราะ เหตุผลหลักๆข้างบนและก็เคยใช้มาก่อนครับ มันแรงแค่ตอนใหม่ๆ พอเกิน 80,000 โลนี่แร่งแซงไม่ไหวเแล้วครับ ยิ่งนั่งกันเต็มรถนี้มีเสียวแน่นอน แถมกินน้ำมันมากอีกตะหาก ระบบความปลอดภัยก็พื้นๆ แต่ถ้าผมมีเงินจ่ายแค่นั้นผมก็เอา 2.0 ครับเพราะมันอยู่ในงบ

ส่วนเรื่องซ่อม ผมใช้รถบริษัทรุ่นใหญ่ๆมาหลายคัน ผมเข้าใจว่าถ้าอะไหล่ตัวหลักๆเสีย มันก็เป็นแสนทั้งนั้นแหละครับ (รถมันเลยราคาเกือบสองล้านไง เพราะมันเอาอะไหล่แพงๆมาประกอบขึ้นมา) ไม่จำเป็นว่าต้องเป็น Hybrid ถึงจะเสียทีเป็นแสนครับ Accord Teana เจอมาหมดแล้วครับ และที่สำคัญมันมีโอกาสเสียหมดทุกแบรนด์นั่นแหละ แต่ไม่ใช่หมายถึง 100% ผมเลยเลิอก Toyota เพราะมันค่อนข้างเสถียรมีระบบการซ่อมบำรุงที่ดี คือถ้าเสียแล้วซ่อมแล้วจบก็โอเคครับ ราคาเท่าไหร่ก็ตามนั้น ซื้อรถระดับนี้ใช้มาเป็นแสนโล ถ้าเกิดเสียมันก็ต้องมีสตางค์ซ่อมครับ ไม่งั้นคุณคิดผิดตั้งแต่ซื้อแล้วที่มาเอารถระดับนี้

แต่เอาเข้าจริงๆ ที่เอามาลงใน Club ก็เป็นส่วนน้อยมากๆ เพราะส่วนใหญ่ก้ไม่ได้เสียหรือครบกำหนดต้องเป็นกันทุกคัน แต่พอพูดกันปากต่อปาก ยิ่งตลาดมือสองก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่าปัจจัยเรื่องราคาเป็นเรื่องหลักสำหรับคนหาซื้อรถที่ใช้งานมาแล้วจากใครก็ไม่รู้ (ซึ่งไม่มีใน 4 ข้อข้างบนผมเลย) ดังนั้นผู้ซื้อกลุ่มนี้ยังไงก็ไม่เอา Hybrid ครับ สรุปเลยต้องยอมรับส่วนนึงครับ ว่าถ้าซื้อก็ต้องใช้กันยาวๆและต้องมีเงินซ่อมเป็นแสนหลังจากที่ใช้ไปเกิน 150,000 หรือ 200,000 โล ชีวิตถึงจะมีความสุขกับการใช้รถแบบนี้ครับ


ออฟไลน์ nin122

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 610
    • อีเมล์
Re: เหตุผลที่ตัดสินใจใช้รถยนต์ Hybrid ของท่าน ?
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2015, 14:50:51 »
คงไม่มีใครโลกสวยเหมือนผม

ส่วนใหญ่มองแต่ค่าเงิน ความคุ้มค่า บลาๆๆๆๆ

แต่จะมีกี่คนที่มองในสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้

มลพิษ ในเมืองหลวง
ถ้าทุกคนมองแต่ความคุ้มค่าแต่ในกระเป๋าของตัวเอง ยังไงก็ไม่มีทางคุ้มแน่นอน
ถ้าชอบลองเทคโนโลยีใหม่ๆ แล้วพร้อมที่จะสละทรัพย์ส่วนตัวเพื่อปริมาณ co น้อยลงนิดหน่อย ก็จัดไป

คันต่อไปก็ยังจะเห็น hybrid นะ ไม่เข็ด

และผมว่า อะไหล่ ยังไงก็ถูกกว่า premium car เช่น แบต 12v ราคาประมาณหกพัน บีเอ็ม 320d หลักหมื่น เปลี่ยนที่ศูนย์

ผมคิดเหมือนคุณนะครับ

ผมใช้ Prius อยู่ ส่วนนึงคือเรื่องความประหยัด แต่ ราคารถที่สูงขึ้น มันไม่คุ้มกับค่าน้ำมันที่ถูกลงซะเท่าไหร่หรอกครับ นอกจากใช้เยอะโคตรๆ 3-5 แสนโล
อีกส่วนนึงผมอยากสนับสนุนรถแบบนี้  เพราะทุกวันนี้ มลพิษในเมือง มันย่ำแย่จริงๆครับ
บางคนอาจจะพูดว่า แค่เรา 1 คัน มันจะช่วยอะไรได้นักหนา แต่ถ้าทุกคนในประเทศพร้อมใจกันคิดแบบนี้ ปัญหามลพิษที่มันย่ำแย่อยู่ มันก็จะยิ่งแย่เข้าไปอีก


ออฟไลน์ ไทบ้าน

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,665
Re: เหตุผลที่ตัดสินใจใช้รถยนต์ Hybrid ของท่าน ?
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2015, 14:52:39 »
ต้องไปถามคนญี่ปุ่นครับ เพราะใช้รถไฮบริดเยอะมากๆๆๆๆ
1990 Yamaha Mate-100
1992 Yamaha Bell-100
2000 Yamaha Tiara-R
2017 Yamaha MT-03

ออฟไลน์ Ji.Cl.

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 677
    • อีเมล์
Re: เหตุผลที่ตัดสินใจใช้รถยนต์ Hybrid ของท่าน ?
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2015, 20:19:16 »
คงไม่มีใครโลกสวยเหมือนผม

ส่วนใหญ่มองแต่ค่าเงิน ความคุ้มค่า บลาๆๆๆๆ

แต่จะมีกี่คนที่มองในสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้

มลพิษ ในเมืองหลวง
ถ้าทุกคนมองแต่ความคุ้มค่าแต่ในกระเป๋าของตัวเอง ยังไงก็ไม่มีทางคุ้มแน่นอน
ถ้าชอบลองเทคโนโลยีใหม่ๆ แล้วพร้อมที่จะสละทรัพย์ส่วนตัวเพื่อปริมาณ co น้อยลงนิดหน่อย ก็จัดไป

คันต่อไปก็ยังจะเห็น hybrid นะ ไม่เข็ด

และผมว่า อะไหล่ ยังไงก็ถูกกว่า premium car เช่น แบต 12v ราคาประมาณหกพัน บีเอ็ม 320d หลักหมื่น เปลี่ยนที่ศูนย์
ผมมีพื้นฐานความคิดโลกสวยเหมือนท่านนะครับ แต่วิธีการนี่ผมค่อนข้างเห็นต่าง ผมมองว่าเชื้อเพลิงเอทานอล และน้ำมันปาล์มดีเซล

คือสิ่งที่ตอบโจทย์ข้อนี้ได้มากกว่า

ถ้ารถที่เติมเอทานอล (แบบไม่ไฮบริด) ถึงแม้จะปล่อยคาร์บอนออกปลายท่อไอเสียมากกว่า

แต่คาร์บอนปลายท่อไอเสียก็มาจากคาร์บอนในตัวน้ำมัน

คาร์บอนในตัวน้ำมันก็มาจากคาร์บอนในตัวอ้อยหรือมันสำปะหลัง

คาร์บอนในตัวมันสำปะหลังหรืออ้อย ต้นไม้ก็ดูดมาจากคาร์บอนในอากาศนั่นเอง

ดังนั้น คาร์บอนที่ปล่อยออกปลายท่อไอเสีย เมื่อหักลบคาร์บอนที่ต้นอ้อยดูดเข้าไป ก็จะต่างจากคาร์บอนของรถยนต์ไฮบริดไม่มากนัก



ตรงข้าม รถยนต์ไฮบริด แม้จะมีประสิทธิภาพสูงกว่า แต่โดยส่วนใหญ่จะเติมไม่เกิน E20 คือใช้น้ำมันปิโตรเลียมซึ่งปล่อยคาร์บอนแบบปล่อยแล้วปล่อยเลย

และยังมีชุดอินเวอร์เตอร์ ชุดมอเตอร์และเจเนอเรเตอร์ ซึ่งก็ปล่อยคาร์บอนในกระบวนการผลิต ในขณะที่รถเอทานอลไม่ต้องใช้

หนำซ้ำการกำจัดซากอุปกรณ์หลังหมดอายุก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าจะถูกวิธี (แบตเตอรี่รถทั่วไปยังถูกนำไปฝังให้น้ำกรดไหลเยิ้มอยู่ใต้ดินในไทย)

ดังนั้น คาร์บอนปลายท่อไอเสียของไฮบริด ต้องบวกรวมกับสิ่งเหล่านี้ก่อนจะเอาไปเปรียบเทียบ



ผมไม่ได้อคติกับระบบไฮบริดนะครับ แต่ผมมองว่า มันจะดีมาก ถ้าไฮบริด รองรับพลังงานเอทานอลได้มากกว่าที่เป็นอยู่

เพราะจะช่วยลดมลพิษประเภทอื่นๆที่ไม่ใช่คาร์บอนลงได้ เพราะคงทราบกันดีว่าเอทานอลปล่อย UHC มากกว่าอยู่นิดหน่อย

แต่ถ้ามองเฉพาะมุมของมลพิษตระกูลคาร์บอน ผมมองว่า ไฮบริด E20 ช่วยคาร์บอนในเมือง แต่รถสันดาป E85-E100 ช่วยลดคาร์บอนของโลก

ไฮบริด E20 ใช้เชื้อเพลิงใต้โลกที่มนุษย์ทำไม่ได้ แต่สันดาป E85-E100 ใช้เชื้อเพลิงที่ทำเองได้บนผืนโลก ซึ่งยั่งยืนกว่า

คนที่ใช้เครื่องสันดาป E85 และยังเติม E85 ในปัจจุบันทั้งๆ ที่ราคาต่อกิโลเมตรแพงกว่า E20 เสียอีก

คือคนที่พร้อมจะสละเงินในกระเป๋าตนเองเพื่อสภาพแวดล้อมไม่น้อยไปหว่าคนที่ใช้รถไฮบริด

ตราบใดก็ตามที่ไฮบริด E85-E100 ยังไม่มาไทย ผมคงจะยังพูดได้ไม่เต็มปากว่าไฮบริดคือรถรักษ์โลกครับ

ออฟไลน์ mothsan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,552
Re: เหตุผลที่ตัดสินใจใช้รถยนต์ Hybrid ของท่าน ?
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2015, 20:31:34 »
ใช้เพราะมันแปลก เท่ ไม่ซำใคร
และประหยัด+แรงในคันเดียวกัน
และเป็นรถที่มักให้อุปกรณ์ดีกว่าชาวบ้านชาวช่องเขา ราคาไม่แพงหากสัมผัสจริง
ค่าบำรุงรักษาทั่วไปพอๆ กับรถขนาดซีซีเท่ากัน
.
.
.
.
.
.
มันบูมมากตอนปี 10-12
จนกระทั่งมีการแชร์พวกอุปกรณ์บางตัวที่นอกเหนือการรับประกัน
เช่นตัวอินเวอร์เตอร์ ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า มอเตอร์ต่างๆ
ซึ่งไม่รวมใน แบตเตอรี่ลูกใหญ่ที่รับ 10 ปี
ราคาซ่อมมันน่ากลัวมากหากเกิดรวนขึ้นมา
หรืออะไหล่บางชิ้นที่แพงสุดขั้วหากเกิดอุบัติเหตุ เช่นไฟหน้า ไฟท้าย แถมต้องรออะไหล่ยาว
แบตเตอรรี่ 12V ซึ่งไม่ค่อยให้ข้อมูลมาว่าเปลี่ยนนอกศูนย์ได้หรือไม่ เปลี่ยนของแท้ 5400 บาท
ข้างนอกก็พยายามหากระทู้กลับไม่ค่อยเจอ

คนเลยเริ่มถอยห่าง
จากที่ไฮบริดจะมาแรงในภูมิภาคเอเซีย
สงสัยจะได้กลายเป็นเครื่องเทอร์โบที่หลายคนไฝ่ฝันแทน
อย่างที่ผมเคยบอกมาตลอดว่าแบตมันไม่น่ากลัวหรอกเพราะรับประกัน 10 ปี แต่ระบบอื่นๆที่ support มันนี้สิ แพงจริงๆ เพราะต้องนำเข้าจากญีปุ่นทั้งนั้น
ผมได้มีโอกาสทำงานเกี่ยวกับพวกนี้ และเห็นราคาแต่ละตัว ช็อคล่ะคร้าบบบ ไม่เอาแน่นอน

ออฟไลน์ Direct

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 43
Re: เหตุผลที่ตัดสินใจใช้รถยนต์ Hybrid ของท่าน ?
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2015, 21:40:07 »
เหตุผลที่เลือก Hybrid สำหรับผม
 -อยากทดลองเทคโนโลยีครับ : เทคโนโลยีที่เพิ่งเกิดใหม่ และได้รับการปรับปรุงในระดับหนึ่ง เพื่อจะดูแนวโน้มว่า
อนาคตมันจะเป็นอย่างไร คล้ายๆกับตอนทดลองใช้มือถือ iOS หรือ Andriod ล่ะครับ อย่างน้อย ก็สามารถไปแนะนำคนอื่นจาก
ประสบการณ์ใช้จริงได้ว่ามันเป็นอย่างไร

 -ผมเป็นคนไม่ค่อยเชื่อเรื่องอะไหล่พังครับ : ผมอาจจะเป็นคนที่ลองรถมาน้อย เมื่อเทียบกับใครหลายๆคน แต่ผมค่อนข้างเชื่อว่า
รถยนต์ไม่ว่าจะออกแบบมายังไง ใช้อะไรขับเคลื่อน วัสดุอะไรทำ ยังไงมันก็ไม่พังหากดูแลรักษามันดีๆ ก่อนจะซื้อ มีหลายคนแย้งผมครับ
บอกว่า "Hybrid ลุยน้ำไม่ได้ ลุยแล้วเกียร์จะพัง แบตจะพัง เสียตังหลายแสนค่าซ่อม ซื้อรถธรรมดาดีกว่า"

1 เดือนหลังจากผมซื้อ ผมไปลุยน้ำเลยครับ เรียกว่าถึงท่อไอเสียกันเลย ผมลุยมาทั้งหมด 6 ครั้งแล้ว ไม่เคยเกิดปัญหาใดๆ และผมใช้ความเร็ว
ค่อนข้างสูงด้วยครับเพื่อทดลองว่ามันพังจริงๆเหมือนที่คนอื่นๆพูดมั๊ย?? สุดท้ายแล้ว จริงๆมันไม่ได้พังเลยครับ มันอยู่ที่การดูแลรักษาของเราเองล้วนๆ
และสุดท้ายก็เห็นด้วยกับเรื่องมลพิษครับ อยากให้สภาพอากาศบ้านเราดีขึ้นมากกว่านี้ ไม่ต้องเท่า ตปท. หรอกครับ ขอแค่ทานข้าวข้างทาง
แล้วไม่ต้องดมกลิ่นควันรถแบบทุกวันนี้เป็นพอครับ

อาการของมันที่ผมเจอเป็นประจำจริงๆเลยนะครับ ตั้งแต่ซื้อมาใช้ คือ "แบตเตอรี่ร้อน" เวลาที่เร่งความเร็วมากๆจนไฟแบตแทบไม่เหลือ
เป็นอาการเดียวจริงๆที่เจอครับ

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,047
Re: เหตุผลที่ตัดสินใจใช้รถยนต์ Hybrid ของท่าน ?
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: มิถุนายน 29, 2015, 14:40:25 »
คงไม่มีใครโลกสวยเหมือนผม

ส่วนใหญ่มองแต่ค่าเงิน ความคุ้มค่า บลาๆๆๆๆ

แต่จะมีกี่คนที่มองในสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้

มลพิษ ในเมืองหลวง
ถ้าทุกคนมองแต่ความคุ้มค่าแต่ในกระเป๋าของตัวเอง ยังไงก็ไม่มีทางคุ้มแน่นอน
ถ้าชอบลองเทคโนโลยีใหม่ๆ แล้วพร้อมที่จะสละทรัพย์ส่วนตัวเพื่อปริมาณ co น้อยลงนิดหน่อย ก็จัดไป

คันต่อไปก็ยังจะเห็น hybrid นะ ไม่เข็ด

และผมว่า อะไหล่ ยังไงก็ถูกกว่า premium car เช่น แบต 12v ราคาประมาณหกพัน บีเอ็ม 320d หลักหมื่น เปลี่ยนที่ศูนย์
ผมมีพื้นฐานความคิดโลกสวยเหมือนท่านนะครับ แต่วิธีการนี่ผมค่อนข้างเห็นต่าง ผมมองว่าเชื้อเพลิงเอทานอล และน้ำมันปาล์มดีเซล

คือสิ่งที่ตอบโจทย์ข้อนี้ได้มากกว่า

ถ้ารถที่เติมเอทานอล (แบบไม่ไฮบริด) ถึงแม้จะปล่อยคาร์บอนออกปลายท่อไอเสียมากกว่า

แต่คาร์บอนปลายท่อไอเสียก็มาจากคาร์บอนในตัวน้ำมัน

คาร์บอนในตัวน้ำมันก็มาจากคาร์บอนในตัวอ้อยหรือมันสำปะหลัง

คาร์บอนในตัวมันสำปะหลังหรืออ้อย ต้นไม้ก็ดูดมาจากคาร์บอนในอากาศนั่นเอง

ดังนั้น คาร์บอนที่ปล่อยออกปลายท่อไอเสีย เมื่อหักลบคาร์บอนที่ต้นอ้อยดูดเข้าไป ก็จะต่างจากคาร์บอนของรถยนต์ไฮบริดไม่มากนัก



ตรงข้าม รถยนต์ไฮบริด แม้จะมีประสิทธิภาพสูงกว่า แต่โดยส่วนใหญ่จะเติมไม่เกิน E20 คือใช้น้ำมันปิโตรเลียมซึ่งปล่อยคาร์บอนแบบปล่อยแล้วปล่อยเลย

และยังมีชุดอินเวอร์เตอร์ ชุดมอเตอร์และเจเนอเรเตอร์ ซึ่งก็ปล่อยคาร์บอนในกระบวนการผลิต ในขณะที่รถเอทานอลไม่ต้องใช้

หนำซ้ำการกำจัดซากอุปกรณ์หลังหมดอายุก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าจะถูกวิธี (แบตเตอรี่รถทั่วไปยังถูกนำไปฝังให้น้ำกรดไหลเยิ้มอยู่ใต้ดินในไทย)

ดังนั้น คาร์บอนปลายท่อไอเสียของไฮบริด ต้องบวกรวมกับสิ่งเหล่านี้ก่อนจะเอาไปเปรียบเทียบ



ผมไม่ได้อคติกับระบบไฮบริดนะครับ แต่ผมมองว่า มันจะดีมาก ถ้าไฮบริด รองรับพลังงานเอทานอลได้มากกว่าที่เป็นอยู่

เพราะจะช่วยลดมลพิษประเภทอื่นๆที่ไม่ใช่คาร์บอนลงได้ เพราะคงทราบกันดีว่าเอทานอลปล่อย UHC มากกว่าอยู่นิดหน่อย

แต่ถ้ามองเฉพาะมุมของมลพิษตระกูลคาร์บอน ผมมองว่า ไฮบริด E20 ช่วยคาร์บอนในเมือง แต่รถสันดาป E85-E100 ช่วยลดคาร์บอนของโลก

ไฮบริด E20 ใช้เชื้อเพลิงใต้โลกที่มนุษย์ทำไม่ได้ แต่สันดาป E85-E100 ใช้เชื้อเพลิงที่ทำเองได้บนผืนโลก ซึ่งยั่งยืนกว่า

คนที่ใช้เครื่องสันดาป E85 และยังเติม E85 ในปัจจุบันทั้งๆ ที่ราคาต่อกิโลเมตรแพงกว่า E20 เสียอีก

คือคนที่พร้อมจะสละเงินในกระเป๋าตนเองเพื่อสภาพแวดล้อมไม่น้อยไปหว่าคนที่ใช้รถไฮบริด

ตราบใดก็ตามที่ไฮบริด E85-E100 ยังไม่มาไทย ผมคงจะยังพูดได้ไม่เต็มปากว่าไฮบริดคือรถรักษ์โลกครับ
เป็นความคิดที่ดีครับ

ถึงว่า S80 ตอนนู้นนน โฆษณาวงจรประมาณนี้แหละ