เมื่อ BR-V มาอาจไม่พรุแตกอย่าง HR-V

mothsan

Re: เมื่อ BR-V มาอาจไม่พรุแตกอย่าง HR-V
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: สิงหาคม 25, 2015, 22:42:39 »
ลองดูเหตุผลในการจอง HRV ของผมนะครับ (รอมา 6 เดือนแล้วยังไม่ได้รถ กำหนดรับเดือนหน้า)
1. หลังคากระจก (ตอนนี้มีข่าวยกเลิก EL ถ้าผมไม่ได้หลังคากระจก ผมจะถอนจองแล้วไปมอง CX3 )
2. ศูนย์ต้องดี เคยขับฟอร์ด ขับดีคุ้มเงิน แต่เสียบ่อย ซ่อมไม่จบ ลางานเอารถไปซ่อมบ่อย เสียงาน เจ้านายด่า เครียด ชีวิตไม่มีความสุขเลยช่วงนั้น - เข็ด ลาขาดกับความคิดฉลาดซื้อรถ
3. เครื่อง 1.8 ถ้ามา 1.5 คงไม่อยู่ในตัวเลือก
4. มุดง่าย ขับคล่องในเมือง คันไม่ใหญ่ เพราะขับคนเดียว
5. ดูราคาแพง คือคนทั่วไปมองแล้วต้องมองว่ารถราคาแพง แม้ผู้หญิงไม่สนใจรถก็ต้องมองว่าแพงแน่ๆ

ปล. อุปกรณ์ความปลอดภัยคือ มีก็ดี ไม่มีก็ได้ (ไม่คิดว่าจะใช้ = ไม่อยากใช้)

อาจเป็นเหตุผลโง่ๆในการซื้อรถ แต่ผมคิดงี้จริงๆ ไม่อยากสร้างภาพว่าซื้อเพราะดี เพราะคุ้มค่า
แค่อยากจะแชร์แง่มุมของผม (อาจมีคนเหตุผลเดียวกะผมเยอะแต่ไม่กล้าพูด ) ทำให้บริษัทรถเลือกที่จะทำรถให้ดูดี ขายแพงๆ แต่ลดอุปกรณ์

ผมก็คิดเห็นตามนี้ครับ ซึ้งส่วนตัวคิดว่า
คนที่ซื้อส่วนใหญ่ก็คิดเห็นแบบนี้ คือตัดสินที่ภาพลักษณ์และลูกเล่นเท่ๆ มากกว่าระบบความปลอดภัย
แม้ส่วนใหญ่คนในบอร์ด Headlightmag จะบอกว่าซื้อรถเพราะความปลอดภัยก็ตาม
แต่อย่าลืมว่าคนในนี้ก็แค่คนกลุ่มน้อยกลุ่มนึงจากจำนวนคนทั้งประเทศครับ
ซึ้ง Honda ตีตลาดแตกมากๆที่ทำรถออกมาให้ดึงดูดต่อมอยากหรูของคนในประเทศไทยได้โดนจริงๆ
และจากการที่ HRV อัดออฟชั่นความ(เกือบ)หรู มาแน่นๆแล้วรุ่งแบบนี้
ผมเชื่อว่า Civic Coupe ปีหน้าจัดเต็มกว่าแน่นอน
แล้วฮอนด้า ไม่อัดระบบความปลอดภัยตรงไหนครับ ผมก็เห็นเค้าครบๆ ดีนี่ครับ



Mizuihisachi

Re: เมื่อ BR-V มาอาจไม่พรุแตกอย่าง HR-V
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: สิงหาคม 25, 2015, 22:54:15 »

ปล. อุปกรณ์ความปลอดภัยคือ มีก็ดี ไม่มีก็ได้ (ไม่คิดว่าจะใช้ = ไม่อยากใช้)

ผมคิดตรงข้ามเลยครับ ผมดูอุปกรณ์ความปลอดภัยก่อนเป็นอันดับ 1 เลย ให้ความสำคัญมากๆ
ผมว่า มีแล้วไม่ได้ใช้ ดีกว่า ตอนจะใช้แล้วไม่มีนะครับ
ด้วยความเป็นห่วง

คันเก่าเป็น volvo ครับ ความปลอดภัยยังกะรถถัง แต่แล้ว เสียง่ายเสียดาย ปล่อยพังไปทีละอย่าง
เพราะเงินเดือนผมออกยังไม่พอจ่ายค่าซ่อมเลยครับ จบ ป.โท เงินเดือนที่ 22,000 บาท ไม่มีปัญญาซ่อมบำรุงรถที่ระบบความปลอดภัยเยอะๆหรอกครับ ถ้าซื้อรถแล้วติดมาก็ถือว่ากำไร แต่ถ้าเสียคงดูเงินในเป๋าก่อนว่าพร้อมจะซ่อมมั้ย. แต่ถ้าวันนึงเงินเดือนผมสักหลักแสน ผมจะซื้อรถโดยเลือกความปลอดภัยมาก่อนครับ



thakoona

Re: เมื่อ BR-V มาอาจไม่พรุแตกอย่าง HR-V
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: สิงหาคม 25, 2015, 23:30:03 »
ผมว่าขายไม่ดี เพราะมันไม่สวยเลย ด้านหน้าพอดูได้ ด้านข้างดูยาวเกินไม่สมส่วน ท้ายนี่ไฟท้าย
ถ้าเอาไปใส่รถคันใหญ่กว่านี่น่าจะสวย
ถ้าสังเกตดูรถฮอนด้าที่ขายดีข้อแรกเลยต้องสวย เช่นแจ้สตอนออกใหม่ ฟรีดก็ขายดีแม้จะแพง
เอชอาร์วีก็เช่นกัน



e:smart Hybrid

Re: เมื่อ BR-V มาอาจไม่พรุแตกอย่าง HR-V
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: สิงหาคม 25, 2015, 23:39:56 »

ปล. อุปกรณ์ความปลอดภัยคือ มีก็ดี ไม่มีก็ได้ (ไม่คิดว่าจะใช้ = ไม่อยากใช้)

ผมคิดตรงข้ามเลยครับ ผมดูอุปกรณ์ความปลอดภัยก่อนเป็นอันดับ 1 เลย ให้ความสำคัญมากๆ
ผมว่า มีแล้วไม่ได้ใช้ ดีกว่า ตอนจะใช้แล้วไม่มีนะครับ
ด้วยความเป็นห่วง

คันเก่าเป็น volvo ครับ ความปลอดภัยยังกะรถถัง แต่แล้ว เสียง่ายเสียดาย ปล่อยพังไปทีละอย่าง
เพราะเงินเดือนผมออกยังไม่พอจ่ายค่าซ่อมเลยครับ จบ ป.โท เงินเดือนที่ 22,000 บาท ไม่มีปัญญาซ่อมบำรุงรถที่ระบบความปลอดภัยเยอะๆหรอกครับ ถ้าซื้อรถแล้วติดมาก็ถือว่ากำไร แต่ถ้าเสียคงดูเงินในเป๋าก่อนว่าพร้อมจะซ่อมมั้ย. แต่ถ้าวันนึงเงินเดือนผมสักหลักแสน ผมจะซื้อรถโดยเลือกความปลอดภัยมาก่อนครับ

เห็นด้วยครับ

ผมว่าอุปกรณ์ความปลอดภัยพอประมาณ มีถุงลมคู่ ABS รถใหญ่หน่อยก็มี ESP ก็พอละ

เยอะมากไป พวกเบรคเอง เสียทีตายพอดีครับ



KAMILIA

Re: เมื่อ BR-V มาอาจไม่พรุแตกอย่าง HR-V
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: สิงหาคม 26, 2015, 05:10:09 »
- H-RV  ขายดีเพราะ  ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนมีเงิน(ไม่สนใจส่วนลด+ของแถม)  ที่มีรถหลายคันแล้ว(รอรถได้) และอยากได้รถให้ภรรยาไปรับส่งลูกที่โรงเรียนที่ดูดี (ลูกค้าผมหลายๆคน)
- B-RV  เป็นตลาดที่รองลงมาจาก H-RV   กลุ่มลูกค้าน่าจะฐานะไม่เท่ากลุ่มของ H-RV (เงื่อนไขการออกรถต้องมีส่วนลด+ของแถม) ยิ่งเศรษฐกิจไม่ดีแบบนี้ (ความไม่แน่นอนของรายได้) มีผลต่อการตัดสินแน่นอน
-  เรื่องภาพลักษณ์ของรถรุ่นนี้น่าไม่มีผลต่อการตัดสินใจ ไม่เหมือน H-RV 



YenChar

Re: เมื่อ BR-V มาอาจไม่พรุแตกอย่าง HR-V
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: สิงหาคม 26, 2015, 07:42:38 »
พื้นฐานบริโอ้ ถ้าราคามาแพงกว่าแจ๊ส 4-5 หมื่น
อยู่ที่ไม่เกิน 7แสน ถึง 7.5 แสน ผมว่าขายดีพลุแตก

ประเด็นคือ มันน่าจะกินกันเอง BRV คงแพงกว่าแจ๊สไม่มาก แต่แจ๊สจะโดน BRV กินแน่นอน
ถ้าคนที่ไม่เน้นการขับขี่ คนส่วนใหญ่คงหันไปมอง BRV มากกว่าแจ๊ส
ในขณะที่ BRV จะไม่ขึ้นไปตีกับ HRV เพราะราคามันแยก Segment กัน

คำถามคือ Line up เยอะไปมั้ยเนี้ย
แต่ก็ดีครับ เพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภค ถ้าเปิดตัวมาขัดขา CX3 นี่คงสนุกเลย



bubball

Re: เมื่อ BR-V มาอาจไม่พรุแตกอย่าง HR-V
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: สิงหาคม 26, 2015, 08:47:17 »
ลองดูเหตุผลในการจอง HRV ของผมนะครับ (รอมา 6 เดือนแล้วยังไม่ได้รถ กำหนดรับเดือนหน้า)
1. หลังคากระจก (ตอนนี้มีข่าวยกเลิก EL ถ้าผมไม่ได้หลังคากระจก ผมจะถอนจองแล้วไปมอง CX3 )
2. ศูนย์ต้องดี เคยขับฟอร์ด ขับดีคุ้มเงิน แต่เสียบ่อย ซ่อมไม่จบ ลางานเอารถไปซ่อมบ่อย เสียงาน เจ้านายด่า เครียด ชีวิตไม่มีความสุขเลยช่วงนั้น - เข็ด ลาขาดกับความคิดฉลาดซื้อรถ
3. เครื่อง 1.8 ถ้ามา 1.5 คงไม่อยู่ในตัวเลือก
4. มุดง่าย ขับคล่องในเมือง คันไม่ใหญ่ เพราะขับคนเดียว
5. ดูราคาแพง คือคนทั่วไปมองแล้วต้องมองว่ารถราคาแพง แม้ผู้หญิงไม่สนใจรถก็ต้องมองว่าแพงแน่ๆ

ปล. อุปกรณ์ความปลอดภัยคือ มีก็ดี ไม่มีก็ได้ (ไม่คิดว่าจะใช้ = ไม่อยากใช้)

อาจเป็นเหตุผลโง่ๆในการซื้อรถ แต่ผมคิดงี้จริงๆ ไม่อยากสร้างภาพว่าซื้อเพราะดี เพราะคุ้มค่า
แค่อยากจะแชร์แง่มุมของผม (อาจมีคนเหตุผลเดียวกะผมเยอะแต่ไม่กล้าพูด ) ทำให้บริษัทรถเลือกที่จะทำรถให้ดูดี ขายแพงๆ แต่ลดอุปกรณ์

ผมก็คิดเห็นตามนี้ครับ ซึ้งส่วนตัวคิดว่า
คนที่ซื้อส่วนใหญ่ก็คิดเห็นแบบนี้ คือตัดสินที่ภาพลักษณ์และลูกเล่นเท่ๆ มากกว่าระบบความปลอดภัย
แม้ส่วนใหญ่คนในบอร์ด Headlightmag จะบอกว่าซื้อรถเพราะความปลอดภัยก็ตาม
แต่อย่าลืมว่าคนในนี้ก็แค่คนกลุ่มน้อยกลุ่มนึงจากจำนวนคนทั้งประเทศครับ
ซึ้ง Honda ตีตลาดแตกมากๆที่ทำรถออกมาให้ดึงดูดต่อมอยากหรูของคนในประเทศไทยได้โดนจริงๆ
และจากการที่ HRV อัดออฟชั่นความ(เกือบ)หรู มาแน่นๆแล้วรุ่งแบบนี้
ผมเชื่อว่า Civic Coupe ปีหน้าจัดเต็มกว่าแน่นอน
แล้วฮอนด้า ไม่อัดระบบความปลอดภัยตรงไหนครับ ผมก็เห็นเค้าครบๆ ดีนี่ครับ

ต้องขออภัยคุณ mothsan หากทำให้เข้าใจผิด
Honda จัดระบบความปลอดภัยมาแน่นทุกรุ่น ตอนที่ออก HR-V มาก็รู้สึกดีที่ให้มาเยอะขนาดนี้
แต่ประเด็นที่ผมเห็นด้วยกับคุณ  Mizuihisachi  ก็คือ
การมองว่าที่ HR-V ขายดีส่วนใหญ่แล้วมาจากรูปร่างหน้าตาและลูกเล่น มากกว่าระบบความปลอดภัยครับ
ซึ้งจะไปเข้ากับเรื่องของ จขกท. ก็คือ BR-V ครับ ว่าจะขายดีหรือไม่อาจขึ้นอยู่กับลูกเล่นและรูปลักษณ์ก็เป็นได้ครับ



SM.

Re: เมื่อ BR-V มาอาจไม่พรุแตกอย่าง HR-V
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: สิงหาคม 26, 2015, 08:54:40 »
ผมว่าขายดีแน่ๆครับ อาจจะไปดึงยอดตัวอื่นจากค่ายตัวเองบ้าง แต่โดยรวมแล้ว ยอด Honda น่าจะดีขึ้นแน่ๆครับ



SaiXaiZai

Re: เมื่อ BR-V มาอาจไม่พรุแตกอย่าง HR-V
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: สิงหาคม 26, 2015, 09:51:44 »
BR-V มุมกล้องภาพทำให้รถดูดี แต่ตัวจริงอาจผิดหวังกันได้ ถ้าคุณรับMobilioได้  BR-V ก็ OK