น้ำยาหล่อเย็น ต่ำกว่า Min สามารถขับต่อได้มากน้อยเเค่ไหน เกิดจากอะไรได้บ้าง

Noncyclopedia

ควรซื้อน้ำยามาเติม เเต่ หากจะฝืนขับโดยไม่ทำอะไรเลย สามารถมั้ย ส่งผลต่ออะไรบ้าง
เเต่ความร้อยไม่ขึ้นนะครับ



MUK

ขออนุญาตนะครับ
สำหรับผม ถ้าเจอเหตุการณ์แบบว่า นานๆ มาดูครั้ง ผมก็เติมน้ำสะอาดนะครับ เดี๋ยวมันก็ไปผสมในระบบเอง
ก็ต้องคอยสังเกตครับ เช่นขับไปสักระยะ 100-200 กม(แบบต่อเนื่องนะ หรือว่า ใช้งานสักวันสองวัน) ต้องดูอีกว่า มันลดลงอีกหรือเปล่าถ้าลดลงทุกครั้ง
น่าจะให้ช่างวิเคราะห์แล้วครับผม แต่เติมแล้วขี่ โดยที่มันไม่ได้ลดจนหายไปผมกว่า ก็ยังไปได้ไม่มีปัญหาครับ ขอให้น้ำไม่ขาดในระบบก็ไม่น่าจะมีปัญหาครับ




Noncyclopedia

ขออนุญาตนะครับ
สำหรับผม ถ้าเจอเหตุการณ์แบบว่า นานๆ มาดูครั้ง ผมก็เติมน้ำสะอาดนะครับ เดี๋ยวมันก็ไปผสมในระบบเอง
ก็ต้องคอยสังเกตครับ เช่นขับไปสักระยะ 100-200 กม(แบบต่อเนื่องนะ หรือว่า ใช้งานสักวันสองวัน) ต้องดูอีกว่า มันลดลงอีกหรือเปล่าถ้าลดลงทุกครั้ง
น่าจะให้ช่างวิเคราะห์แล้วครับผม แต่เติมแล้วขี่ โดยที่มันไม่ได้ลดจนหายไปผมกว่า ก็ยังไปได้ไม่มีปัญหาครับ ขอให้น้ำไม่ขาดในระบบก็ไม่น่าจะมีปัญหาครับ
เอาเข้าศุนย์ละครับ แซงคิวได้ละ  ขอบคุณมากครับ



CNX

เช็คการรั่วด้วยครับ ข้อต่อ ท่อน้ำ ตรงไหนมีหยดน้ำลงพื้น ถ้าสังเกตได้

น้ำหล่อเย็น สำรองติดรถไว้ครับ ลิตรละ 1xxบาท เลือกโทนสีไกล้เคียงของเดิม
วิถีพอเพียง วิถียั่งยืน



Darkart

สามารถเติมน้ำดื่มได้เลย น้ำในระบบหล่อเย็น ต่ำกว่า Min ในระบบหล่อเย็นมีการรั่วซึม ต้องไล่เช็คทุกจุดครับ
ผู้ไม่มีแผลเป็น คือ ผู้ไม่มีประสบการณ์



No Trespassing

วัดตอนไหนครับ เย็น หรือ ร้อน

ถ้าวัดตอนเย็น ระบบมันดูดน้ำเข้าไป เลยอาจดูพร่องกว่าความเป็นจริง

แต่ถ้าวัดตอนร้อน น้ำส่วนเกินจะถูกดันออกมาที่ถังพัก ระดับน้ำจะออกมาเป็นอีกแบบ

โดยปกติผมจะวัดตอนเครื่องร้อนครับ เช่น หลังจากวิ่งมานานๆแล้วจอด เพราะระดับน้ำจะค่อนข้างตรงกับความเป็นจริงครับ



focus2012

วัดตอนไหนครับ เย็น หรือ ร้อน

ถ้าวัดตอนเย็น ระบบมันดูดน้ำเข้าไป เลยอาจดูพร่องกว่าความเป็นจริง

แต่ถ้าวัดตอนร้อน น้ำส่วนเกินจะถูกดันออกมาที่ถังพัก ระดับน้ำจะออกมาเป็นอีกแบบ

โดยปกติผมจะวัดตอนเครื่องร้อนครับ เช่น หลังจากวิ่งมานานๆแล้วจอด เพราะระดับน้ำจะค่อนข้างตรงกับความเป็นจริงครับ

ปกติต้องวัดตอนเย็นไม่ใช่เหรอครับ ไม่ให้ต่ำกว่า Min เพราะว่าเค้าจะเผื่อความร้อนเวลาน้ำเดือดไว้ในหม้อพักอยู่แล้วครับ ยังไงก็ไม่ล้นออกมา



Pegasus7700

เอ๊ะ. ผมเข้าใจว่า ตอนรถร้อนมันน่าจะพร่องนิดนึง
...ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป...

MERCEDES BENZ W212 '12
FORD FOCUS 2.0 Gdi '13
HONDA Civic RS '20
VOLVO XC60 Hybrid Inscription '19
FORD EVEREST 2.0 Bi Turbo '22



focus2012

ลองดูเพิ่มเติมครับ วิธีวัดทั้งน้ำมันเครื่องและน้ำหล่อเย็นครับ

http://phithan-toyota.com/th/article/detail/87/3



palma

ถ้าพร่องมากๆ เบื้องต้นควรเติมน้ำสะอาด ผมใช้น้ำกรองที่ใส่ขวดไว้ท้ายรถครับ (เตรียมไว้เผื่อฉุกเฉินเสมอทุกคัน) น้ำประปาสดๆจากท่อ ไม่จำเป็นผมหลีกเลี่ยงครับ เพราะเคยใส่ขวดมาตั้งทิ้งไว้ยังมีตะกอนได้ โดยเฉพาะการประปาภูมิภาค

และน่าจะตรวจสอบหารอยรั่ว ว่ามีหรือไม่ อาจเข้าศูนย์ให้เช็คให้ครับ

ถ้าพร่องเร็วและบ่อยกว่าปกติ น่าจะมีรอยรั่ว ถ้าหาไม่พบ ก็ต้องคอยระวังครับ อาจจะเป็นอาการเริ่มต้นของการรั่วได้
2023 : SK9 FB20 ES4.0 SAWD
2017 : NSP170R-2NR-FE+CVT
2015 : B17-MR16DDT+CVT-M6
2014 : L33-QR25DE+CVT-8
1995 : SXV10-3S-FE (sold)
1994 : AE101-4AFE+MT (sold)



tarahlm

เอ๊ะ. ผมเข้าใจว่า ตอนรถร้อนมันน่าจะพร่องนิดนึง

การวัดระดับน้ำมันเครื่อง/น้ำหล่อเย็น ที่เครื่องยนต์ร้อนหรือเครื่องเย็นระดับจะต่างกัน พออธิบายดังนี้

น้ำมันเครื่องตอนเครื่องเย็น(เช่น ตอนเช้า) น้ำมันเครื่องจะตกลงมาอยู่ในอ่างที่วัดระดับ
พอสตาร์ทเครื่องจนร้อน น้ำมันเครื่องจะถูกส่งเข้าไปเคลือบติดกับผิวโลหะชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์
ระดับในอ่างจึงวัดได้ต่ำลงกว่าตอนเครื่องเย็น (ส่วนการขยายตัวจากความร้อนมีผลน้อยกว่า)

แต่พอเป็นการวัดน้ำหล่อเย็น น้ำหล่อเย็นอยู่เต็มภายในระบบ(ท่อ)ตลอดเวลาอยู่แล้ว
เมื่อเครื่องร้อนน้ำขยายตัว จึงขยายปริมาตรมายังหม้อพักน้ำหล่อเย็นให้ระดับสูงขึ้น



tarahlm



นอกจากการรั่วที่พบบ่อยๆที่หม้อน้ำรถยนต์(Radiator)

อีกจุดที่ควรระวัง โดยเฉพาะแฟน Ford Fiesta ก็คือ..ปั้มน้ำรถยนต์(Water pump)
ในระยะแรกที่ปั้มน้ำเริ่มเสีย แต่ยังใช้งานได้อยู่ จะมีการระบายน้ำออกทางรูระบายน้ำของตัวปั้ม
(ช่างเคยอธิบายให้ฟัง แต่จำไม่ได้แล้วครับของกลไกนี้) ต้องเปลี่ยนก่อนที่จะสายเกินไป



Pegasus7700

เอ๊ะ. ผมเข้าใจว่า ตอนรถร้อนมันน่าจะพร่องนิดนึง

การวัดระดับน้ำมันเครื่อง/น้ำหล่อเย็น ที่เครื่องยนต์ร้อนหรือเครื่องเย็นระดับจะต่างกัน พออธิบายดังนี้

น้ำมันเครื่องตอนเครื่องเย็น(เช่น ตอนเช้า) น้ำมันเครื่องจะตกลงมาอยู่ในอ่างที่วัดระดับ
พอสตาร์ทเครื่องจนร้อน น้ำมันเครื่องจะถูกส่งเข้าไปเคลือบติดกับผิวโลหะชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์
ระดับในอ่างจึงวัดได้ต่ำลงกว่าตอนเครื่องเย็น (ส่วนการขยายตัวจากความร้อนมีผลน้อยกว่า)

แต่พอเป็นการวัดน้ำหล่อเย็น น้ำหล่อเย็นอยู่เต็มภายในระบบ(ท่อ)ตลอดเวลาอยู่แล้ว
เมื่อเครื่องร้อนน้ำขยายตัว จึงขยายปริมาตรมายังหม้อพักน้ำหล่อเย็นให้ระดับสูงขึ้น
โอเค. ขอบคุณมากครับ
...ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป...

MERCEDES BENZ W212 '12
FORD FOCUS 2.0 Gdi '13
HONDA Civic RS '20
VOLVO XC60 Hybrid Inscription '19
FORD EVEREST 2.0 Bi Turbo '22