// “คลัง” ประกาศลดภาษีสรรพสามิตสำหรับ รถยนต์ Hybrid / Plug-in / EV เสียแค่ 2% //

Dark Overlord

บริษัทขายยิ้มเลยขายราคาเดิมแต่กำไรเพิ่ม  8)

แต่ถ้าไม่ลด คนก็ไม่ซื้อครับ จากสภาพปัจจุบันที่
รถไฮบริดแทบจะตายไปจากสารบบ Prius, Jazz, Civic เน่าไปแล้ว
และไม่มีอีกแล้วในปัจจุบัน

แบบนี้ Jazz Hybrid จะมารึเปล่านะแบบที่มาเลย์



tui

ข้อ4  ผมจับตาดู  MG      ผมคิดว่า MG จะเป็นเจ้าแรก และจะเป็นเบอร์1 รถEVในไทย                         

ผมอาจจะได้ใช้รถ EV  ตามที่เคยแอบหวังเอาไว้ เป็นรถคันสุดท้ายในชีวิต............ขอให้มาไวไวเพราะตอนนี้ก็63ปีแล้วครับ

MGเคยให้ข่าวไว้เรื่อง รถEV จะมาขายเป็นเจ้าแรกๆในราคาที่คนไทยยิ้มออก..เสียบปลั๊กครั้งหนึ่งขอวิ่งได้สัก400กิโลก็โอเคแล้ว



dht_tubes

ภาษีถูก ราคาขายไม่ถูกลงหรอก มันเพิ่มกำไรให้บริษัทรถ ไม่มีบริษัทไหนหรอกที่จะขายของถูกๆดีๆ ให้ มีแต่อยากจะทำกำไรทั้งนั้น ส่วนต่างภาษีที่ลดนะละ คือเงินกำไรเนื้อๆ ไปหาบริษัทรถเต็มๆ ที่เหลือก็บวกราคาเพิ่มเอากับลุกค้าที่ซื้อ เอา คือค่าเทคโนโลยีใหม่ๆ หาออฟชั่นแปลกๆ ใหม่ๆ มาใส่เพิ่มมูลค่าให้ดุดีๆเท่านั้น สรุป คนซื้อไม่ได้อะไรกับรถแบบใหม่ที่ความทนทานน้อยลง จุกจิกระบบไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ราคาขายที่แพงกว่าเดิม 2 เท่าตัว

ถ้าเป็นตามนี้จริงๆ ก็เป็นเรื่องเศร้าของประชาชนอย่างเราหล่ะครับ

กำไรไม่เป็นไปตามเป้า มีคนซับพอร์ทให้ขนาดนี้

ส่วนตัวผมเมื่อก่อนไม่เคยคิดแนวนี้ แต่เวลายิ่งผ่านไป มันก็ยิ่งต้องทำใจจริงๆ



Dark Overlord

ภาษีถูก ราคาขายไม่ถูกลงหรอก มันเพิ่มกำไรให้บริษัทรถ ไม่มีบริษัทไหนหรอกที่จะขายของถูกๆดีๆ ให้ มีแต่อยากจะทำกำไรทั้งนั้น ส่วนต่างภาษีที่ลดนะละ คือเงินกำไรเนื้อๆ ไปหาบริษัทรถเต็มๆ ที่เหลือก็บวกราคาเพิ่มเอากับลุกค้าที่ซื้อ เอา คือค่าเทคโนโลยีใหม่ๆ หาออฟชั่นแปลกๆ ใหม่ๆ มาใส่เพิ่มมูลค่าให้ดุดีๆเท่านั้น สรุป คนซื้อไม่ได้อะไรกับรถแบบใหม่ที่ความทนทานน้อยลง จุกจิกระบบไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ราคาขายที่แพงกว่าเดิม 2 เท่าตัว

ถ้าเป็นตามนี้จริงๆ ก็เป็นเรื่องเศร้าของประชาชนอย่างเราหล่ะครับ

กำไรไม่เป็นไปตามเป้า มีคนซับพอร์ทให้ขนาดนี้

ส่วนตัวผมเมื่อก่อนไม่เคยคิดแนวนี้ แต่เวลายิ่งผ่านไป มันก็ยิ่งต้องทำใจจริงๆ

ขายรถเน้นจำนวนการขายครับ ถ้าขายได้น้อยเท่าเดิม
แต่ได้กำไรเพิ่มขึ้นจากส่วนต่างภาษียังไงๆ ก็เจ๊ง มันคนละบริบทกันครับ
ตย เช่น NGV รัฐลดภาษีให้ ปตท มีกำไร ไม่ขาดทุน อันนี้ใช่

ขายรถ คุณขายตลาด Mass ดังนั้นกำไรต่อหน่วยไม่สำคัญเท่า จำนวนออเดอร์
จำนวนออเดอร์จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับราคาจูงใจ

เราไม่พูดถึงรถอย่าง Yaris Vios City D-max Revo ที่ถ้ารัฐลดภาษีให้
เจ้าของสินค้าอาจจะอยากลดหรือไม่ลดราคาก็ได้ เพราะเป็นสินค้าติดตลาด หรือมี
ยอด back order ปริมาณสูงอยู่แล้ว ดังนั้นเคสของรถ Hybrid ถ้าบริษัทรถ
ไม่อยากฆ่าตัวตาย ตรงนี้คือต้องลดราคาลง เพื่อให้ลูกค้ากล้าร่วมเสี่ยงที่จะใช้มากขึ้น
นี่เป็นกฎทั่วไปในตลาดโลกครับ



mothsan

คิดได้ไง นโยบายแบบนี้
เอื้อประโยชน์ให้บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่บางยี่ห้อเท่านั้น
RIP แด่ผู้บริโภค
 :( :( :(
เค้าวางเกมไว้แบบนั้นตั้งแต่แรกแล้วครับ เค้าวางแผนรถรุ่นใหม่เป็น hybrid อยู่แล้ว แล้วก็ทำการเจรจา ต่อรอง กดดัน ให้ออกกฏหมาย เพื่อเอื้อประโยชน์กับรถ Hybird ขึ้นมา แต่สุดท้ายราคาก็ออกมาแพงอยู่ โดยอ้างว่าเทคโนโลยี่ราคาสูง กำไรเห็นๆ



Arado_kung

ผมอ่านแล้วก็งงนะ ลดภาษีลงก็ด่า ไม่ลดภาษีให้ก็ด่าอีก ตกลงจะเอาแบบไหนถึงจะพอใจกันครับ



Dark Overlord

ผมอ่านแล้ว คนเขียนคอลัมน์บอกราคาคงไม่ลด แต่เป็นการปรับเพิ่มอุปกรณ์
ซึ่งผมไม่เห็นด้วยครับ เพราะการทำแบบนั้นต้องเป็นรถยอดนิยม
แต่ Hybrid นี้เป็นรถที่หลายคนยี้นะครับ
การกังวลว่าจะไปรบกวนราคารถรุ่นที่เป็นเครื่องปกติ คิดว่า กลับกัน
น่าจะเป็นการลด option ของรถ hybrid มากกว่าครับ เฉกเช่น X-trail
ที่ถูดตัด panoramic roof ออก นี่คือวิธีคิดแบบมีเหตุผลนะครับ
แต่เรื่องจริงก็ลองดูกัน

เพิ่มเติม ไม่ก็ต้องมีการตัดรุ่นเครื่องยนต์ปกติออกบางรุ่น
น่าจะรุ่นท็อป รองท็อป ถ้าอยากให้รุ่น Hybrid ยังคงเป็น top option ต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 22, 2017, 14:15:59 โดย Dark Overlord »



Sacrifice

ผมว่าลดยังไงก็ได้แค่ hybrid ราคาลงมาใกล้เคียงกับ เครื่องยนต์ N/A 
ต่อให้ราคาถูกกว่า คนทั่วไปก็ยังเลือกเครื่องยนต์ธรรมดาอยู่ดี  คนไทยส่วนมากใช้รถนาน เขากลัวค่าซ่อมกัน



Dark Overlord

ผมว่าลดยังไงก็ได้แค่ hybrid ราคาลงมาใกล้เคียงกับ เครื่องยนต์ N/A 
ต่อให้ราคาถูกกว่า คนทั่วไปก็ยังเลือกเครื่องยนต์ธรรมดาอยู่ดี  คนไทยส่วนมากใช้รถนาน เขากลัวค่าซ่อมกัน

ถ้าจะบังคับกันจริงๆ option เทพๆ เช่น Honda sensing อยู่กับรุ่น Hybrid
ครับ 555

สรุปผมคิดว่ามีทั้งเพิ่มและลด option แล้วแต่บริษัท
ถ้าเพิ่ม option รุ่นเครื่องปกติน่าจะมีการตัดออก
ถ้าตัด option คือยังคงรุ่นปกติไว้
แต่ทั้งสองวิธี ราคารุ่น Hybrid ต้องลดลงครับ



bahamu

ถ้าใส่ถ่านไม่ลดราคาถูกลงเห็นๆ คงเจ๊งแบบกระอักเลือด
คนไทยไม่จำเป็นต้องซื้อ รถน้ำมันก็มี ภาษีคาร์บอนต่ำเสียมากว่าใส่ถ่านไม่เยอะ
มีหลายยี่ห้อ ราคาไม่แพงกว่า ซ่อมง่ายกว่า ขับได้ไกลกว่า ขายต่อดีกว่า

แค่อะไหล่แพงเท่าเดิมรถก็ขายไม่ออกแล้ว มือสองคงไม่มีใครเอา
อัลพาร์ค ถ้าไม่ลดราคาหลายแสนถึงล้าน ดีเซลคงเดินตลาดได้เรื่อยๆ
ส่วนที่ว่าจะหันมาซื้อ แสดงว่ายังไม่เคยซ่อมแอร์ไฮบริด โดนทีหลักแสน

แท๊กซี่คงไม่ได้อานิสงส์ แล้วจะไปเกิดอะไร แก้ให้รถซีซีต่ำ ใส่ถ่านทำแท๊กซี่ได้ด้วย
พรีอุสจะคงเกิดใหม่ยาก แท้งไปแล้วลงหลุมไปเถอะ คัมรี่ แจ๊สยังไม่ค่อยรอด
หน้าตาทุเรศ ซ่อมแพง อะไหล่แพง ยังจะขายแพงอีก สงสัยต้องส่งไปศรีธัญญาแทน

รถใส่ถ่านจิ๋วเสียภาษีน้อย ถ้าไม่เกินสี่แสน จะมีคนสนใจ แมงไซด์ใส่ถ่านมาถูกๆก็ดี
ส่วนไฮบริดจะดื้อแพ่ง คงเจ๊งตั้งแต่อยู่ในมุ้ง หรือไม่เข็ดจะโดนคนไทยสั่งสอนอีกรอบก็ได้

กะบะ ยกสูงไฮบริด วันไหนหายบ่อย เจอแถวชายแดนค่อยว่ากัน
ดีไม่ดีไม่มีคนกล้าเดินเฉียด กลัวเสียแล้วเจ้าของโวย ต้องเข้าศูนย์อย่างเดียวใครจะซื้อ

ไม่เอารถตู้ไฮบริด บังคับให้วินต้องใช้เลยล่ะ ปลอดภัยกว่าติดแก๊ส ราคารถพอกัน
แต่งสำเร็จจากโรงงานเลย 1.5ล้าน ผ่อน0% 4ปี 15ที่นั่ง ขายได้แน่ หมดประกันถอดเครื่องทิ้งติดแก๊สแทน
แท็กซี่อัสติส หมดประกัน ถอดเครื่องทิ้งเยอะมาก เปราะ อะไหล่แพง ต้องเข้าศูนย์
ถ้าบีบมากๆ คนก็เลิกซื้อ หรือแปลงรถกันสนุกสนาน เดี๋ยวนี้รถติดจนเดินเร็วกว่าบางเวลา
ขนส่งอย่างอื่นก็มี แทนที่จะให้คนยังขับรถ กลับบีบให้คนเลิกซื้อ เจ๊งสนิทคงแก้ตัวยาก
ดีเหมือนกันยี่ห้ออื่นจะได้เกิดแทนเสียที ขายรถตรงใจคนซื้อ ใส่ถ่านจีนแดง ยุ่นถูกๆดีๆคงพอได้เห็น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 22, 2017, 14:54:20 โดย bahamu »



Sacrifice

พอคำนวณ เป็นตัวเลขจริงๆ  Hybrid ลดภาษีลงเท่าตัว  5% ก็ไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่นะ
Accord Hybrid ตัว top 1.849 ล้าน  ลด 92,450 บาท เหลือ 1.75 ล้าน ขณะที่ รุ่น TOP 2.4EL แค่ 1.635 ล้าน
ยิ่งถ้าเป็นรถตลาด แบบ jazz city vios 6-7 แสน  ส่วนลดก็จะน้อยลงไปอีก

ไม่ต้องคิดว่าค่ายรถจะได้กำไรมากขึ้นหรอก  มาห่วง hybrid ดีกว่า ต่อให้ฟรีภาษียังล่อแล่เลย

ส่วน BEV ก็คงเป็นของเล่นคนรวยไปก่อน ถ้าดีจริง ซัก 5 ปี คงขายได้ราคาถูกจนค่อยๆ กลบรถเครื่องสันดาปไปเอง



Dark Overlord

พอคำนวณ เป็นตัวเลขจริงๆ  Hybrid ลดภาษีลงเท่าตัว  5% ก็ไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่นะ
Accord Hybrid ตัว top 1.849 ล้าน  ลด 92,450 บาท เหลือ 1.75 ล้าน ขณะที่ รุ่น TOP 2.4EL แค่ 1.635 ล้าน
ยิ่งถ้าเป็นรถตลาด แบบ jazz city vios 6-7 แสน  ส่วนลดก็จะน้อยลงไปอีก

ไม่ต้องคิดว่าค่ายรถจะได้กำไรมากขึ้นหรอก  มาห่วง hybrid ดีกว่า ต่อให้ฟรีภาษียังล่อแล่เลย

ส่วน BEV ก็คงเป็นของเล่นคนรวยไปก่อน ถ้าดีจริง ซัก 5 ปี คงขายได้ราคาถูกจนค่อยๆ กลบรถเครื่องสันดาปไปเอง

รอดูลงทุนโรงงานแบ็ตครับ ต้นทุน part ถูกลงจะสร้างความแตกต่างได้มั้ย

ผมว่าถ้ามากันหมดทุกแบรนด์เลย ก็จะทำให้ดูน่าสนใจขึ้นนะครับ
เหมือนเพื่อนร่วมชะตากรรมเยอะ 555




locomotive

ภาษีถูก ราคาขายไม่ถูกลงหรอก มันเพิ่มกำไรให้บริษัทรถ ไม่มีบริษัทไหนหรอกที่จะขายของถูกๆดีๆ ให้ มีแต่อยากจะทำกำไรทั้งนั้น ส่วนต่างภาษีที่ลดนะละ คือเงินกำไรเนื้อๆ ไปหาบริษัทรถเต็มๆ ที่เหลือก็บวกราคาเพิ่มเอากับลุกค้าที่ซื้อ เอา คือค่าเทคโนโลยีใหม่ๆ หาออฟชั่นแปลกๆ ใหม่ๆ มาใส่เพิ่มมูลค่าให้ดุดีๆเท่านั้น สรุป คนซื้อไม่ได้อะไรกับรถแบบใหม่ที่ความทนทานน้อยลง จุกจิกระบบไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ราคาขายที่แพงกว่าเดิม 2 เท่าตัว

ถ้าเป็นตามนี้จริงๆ ก็เป็นเรื่องเศร้าของประชาชนอย่างเราหล่ะครับ

กำไรไม่เป็นไปตามเป้า มีคนซับพอร์ทให้ขนาดนี้

ส่วนตัวผมเมื่อก่อนไม่เคยคิดแนวนี้ แต่เวลายิ่งผ่านไป มันก็ยิ่งต้องทำใจจริงๆ

ขายรถเน้นจำนวนการขายครับ ถ้าขายได้น้อยเท่าเดิม
แต่ได้กำไรเพิ่มขึ้นจากส่วนต่างภาษียังไงๆ ก็เจ๊ง มันคนละบริบทกันครับ
ตย เช่น NGV รัฐลดภาษีให้ ปตท มีกำไร ไม่ขาดทุน อันนี้ใช่

ขายรถ คุณขายตลาด Mass ดังนั้นกำไรต่อหน่วยไม่สำคัญเท่า จำนวนออเดอร์
จำนวนออเดอร์จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับราคาจูงใจ

เราไม่พูดถึงรถอย่าง Yaris Vios City D-max Revo ที่ถ้ารัฐลดภาษีให้
เจ้าของสินค้าอาจจะอยากลดหรือไม่ลดราคาก็ได้ เพราะเป็นสินค้าติดตลาด หรือมี
ยอด back order ปริมาณสูงอยู่แล้ว ดังนั้นเคสของรถ Hybrid ถ้าบริษัทรถ
ไม่อยากฆ่าตัวตาย ตรงนี้คือต้องลดราคาลง เพื่อให้ลูกค้ากล้าร่วมเสี่ยงที่จะใช้มากขึ้น
นี่เป็นกฎทั่วไปในตลาดโลกครับ

ประธานโทษนะครับ ผมไม่สนใจ ความคิดคุณหรอก มันดูเลื่อนลอย เพื้อฝัน จิตนาการ มโน ไปคนละจักรวาล เอาความรุ้สึกตัวเองมาบรรยาย หาความเป็นจริงไม่เจอ ผมมองความจริงมากกว่า ผมถือว่า ความจริงเป็นสิ่งอมตะ ก็เห็นอยู่ว่าเป็นไง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 22, 2017, 17:06:03 โดย locomotive »



Sacrifice

อ้างถึง
ประธานโทษนะครับ ผมไม่สนใจ ความคิดคุณหรอก มันดูเลื่อนลอย เพื้อฝัน จิตนาการ มโน ไปคนละจักรวาล เอาความรุ้สึกตัวเองมาบรรยาย หาความเป็นจริงไม่เจอ ผมมองความจริงมากกว่า ผมถือว่า ความจริงเป็นสิ่งอมตะ ก็เห็นอยู่ว่าเป็นไง

งง จะมาชวนทะเลาะกันเพื่อ???  ที่มาพูดๆ กันมันก็เป็นความเห็นส่วนตัวที่คาดการณ์อนาคตกันทั้งนั้น



locomotive

อ้างถึง
ประธานโทษนะครับ ผมไม่สนใจ ความคิดคุณหรอก มันดูเลื่อนลอย เพื้อฝัน จิตนาการ มโน ไปคนละจักรวาล เอาความรุ้สึกตัวเองมาบรรยาย หาความเป็นจริงไม่เจอ ผมมองความจริงมากกว่า ผมถือว่า ความจริงเป็นสิ่งอมตะ ก็เห็นอยู่ว่าเป็นไง

งง จะมาชวนทะเลาะกันเพื่อ???  ที่มาพูดๆ กันมันก็เป็นความเห็นส่วนตัวที่คาดการณ์อนาคตกันทั้งนั้น

ใครชาวทะเลาะ ครับ  ผมมีสิทธิที่จะคิดได้????? ผมมีสิทธิที่จะไม่เชื่อใครก็ได้ใช่มะ????? คนอื่นก็เหมือนกัน  คุณนะเจตนาไรปล่าว



Dark Overlord

ภาษีถูก ราคาขายไม่ถูกลงหรอก มันเพิ่มกำไรให้บริษัทรถ ไม่มีบริษัทไหนหรอกที่จะขายของถูกๆดีๆ ให้ มีแต่อยากจะทำกำไรทั้งนั้น ส่วนต่างภาษีที่ลดนะละ คือเงินกำไรเนื้อๆ ไปหาบริษัทรถเต็มๆ ที่เหลือก็บวกราคาเพิ่มเอากับลุกค้าที่ซื้อ เอา คือค่าเทคโนโลยีใหม่ๆ หาออฟชั่นแปลกๆ ใหม่ๆ มาใส่เพิ่มมูลค่าให้ดุดีๆเท่านั้น สรุป คนซื้อไม่ได้อะไรกับรถแบบใหม่ที่ความทนทานน้อยลง จุกจิกระบบไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ราคาขายที่แพงกว่าเดิม 2 เท่าตัว

ถ้าเป็นตามนี้จริงๆ ก็เป็นเรื่องเศร้าของประชาชนอย่างเราหล่ะครับ

กำไรไม่เป็นไปตามเป้า มีคนซับพอร์ทให้ขนาดนี้

ส่วนตัวผมเมื่อก่อนไม่เคยคิดแนวนี้ แต่เวลายิ่งผ่านไป มันก็ยิ่งต้องทำใจจริงๆ

ขายรถเน้นจำนวนการขายครับ ถ้าขายได้น้อยเท่าเดิม
แต่ได้กำไรเพิ่มขึ้นจากส่วนต่างภาษียังไงๆ ก็เจ๊ง มันคนละบริบทกันครับ
ตย เช่น NGV รัฐลดภาษีให้ ปตท มีกำไร ไม่ขาดทุน อันนี้ใช่

ขายรถ คุณขายตลาด Mass ดังนั้นกำไรต่อหน่วยไม่สำคัญเท่า จำนวนออเดอร์
จำนวนออเดอร์จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับราคาจูงใจ

เราไม่พูดถึงรถอย่าง Yaris Vios City D-max Revo ที่ถ้ารัฐลดภาษีให้
เจ้าของสินค้าอาจจะอยากลดหรือไม่ลดราคาก็ได้ เพราะเป็นสินค้าติดตลาด หรือมี
ยอด back order ปริมาณสูงอยู่แล้ว ดังนั้นเคสของรถ Hybrid ถ้าบริษัทรถ
ไม่อยากฆ่าตัวตาย ตรงนี้คือต้องลดราคาลง เพื่อให้ลูกค้ากล้าร่วมเสี่ยงที่จะใช้มากขึ้น
นี่เป็นกฎทั่วไปในตลาดโลกครับ

ประธานโทษนะครับ ผมไม่สนใจ ความคิดคุณหรอก มันดูเลื่อนลอย เพื้อฝัน จิตนาการ มโน ไปคนละจักรวาล เอาความรุ้สึกตัวเองมาบรรยาย หาความเป็นจริงไม่เจอ ผมมองความจริงมากกว่า ผมถือว่า ความจริงเป็นสิ่งอมตะ ก็เห็นอยู่ว่าเป็นไง

โอเคครับ



mamaman



ภาษี ถูก รถก้ถูกตามครับ
มันมี ราคา ไม่รวม VAT TAX อยู่แล้ว

อย่า อคติ กับ OEM มากไป



NINENOI

Re: // “คลัง” ประกาศลดภาษีสรรพสามิต Hybrid / Plug-in / EV เสียแค่ 2% //
« ตอบกลับ #47 เมื่อ: มิถุนายน 22, 2017, 19:11:50 »
เดี๋ยวลองไปหาหุ้นที่เกี่ยวกับแบตพวกนี้ดูซะหน่อยละ เผื่อจะดี
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น



Jo_Jungko

จะมีหวังพอที่จะเอาระบบมาใส่ในดีแมกไหมน้อ



Krongbun

อ้างถึง
ประธานโทษนะครับ ผมไม่สนใจ ความคิดคุณหรอก มันดูเลื่อนลอย เพื้อฝัน จิตนาการ มโน ไปคนละจักรวาล เอาความรุ้สึกตัวเองมาบรรยาย หาความเป็นจริงไม่เจอ ผมมองความจริงมากกว่า ผมถือว่า ความจริงเป็นสิ่งอมตะ ก็เห็นอยู่ว่าเป็นไง

งง จะมาชวนทะเลาะกันเพื่อ???  ที่มาพูดๆ กันมันก็เป็นความเห็นส่วนตัวที่คาดการณ์อนาคตกันทั้งนั้น

ใครชาวทะเลาะ ครับ  ผมมีสิทธิที่จะคิดได้????? ผมมีสิทธิที่จะไม่เชื่อใครก็ได้ใช่มะ????? คนอื่นก็เหมือนกัน  คุณนะเจตนาไรปล่าว

;) แต่ผมก็เห็นอุปกรณ์ที่ เราๆ ใช้กันในปัจจุบันนี้ มันก็มาจากความเพ้อฝัน มโน และจินตนาการทั้งนั้น เลยน้ะครับ
มือถือ tablet GPS เครื่องแปลภาษา Laser 3Dprinter CG เครื่องเร่งอนุภาค SDcard 1T เยอะแยะมากมาย ยังมีอีกเยอะแต่เค้ายังไม่เอามาขายเรา
ผมมีคำคำนึงจากอาจารย์ที่ทำให้ผมจบมาได้คือ "ฝันให้ไกลไปให้ถึง"

ถ้าดูการ์ตูนโดราเอม่อนบ่อยๆ หรือ Future GPX Cyber Formula หรือ Star war หรือสารคดีวิทยาศาสตร์
เมื่อก่อนมันคือฝันคือจินตนาการ ทุกวันนี้มันเป็นเรื่องจริงแล้วน้ะครับ  ;)

Future GPX Cyber Formula เรื่องนี้ผมแนะนำ มันผ่านมา 20 ปีแล้ว แต่ทุกวันนี้เทคโนโลยีที่มีในการ์ตูนเรื่องนี้
มีหมดทุกอย่างในรถแข่ง F1 ทุกวันนี้ครับ  ;)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 23, 2017, 06:20:41 โดย Krongbun »



whoami

ภาษีลดลง มันก็ลดไปไม่กี่หมื่นซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับรถไฮบริดที่ราคาเป็นล้านทั้งนัน

ถ้าบริษัทรถอยากขายไฮบริดให้ได้ยอดเยอะๆจริงๆ ทำไมไม่จัดตัว low option หั่นราคาลงมาขายบ้าง

เน้นประหยัด รักษ์โลก แต่ไปกองอยู่แต่ในตัวท็อปๆ อัดออฟชั่นเยอะๆ

และที่หลายคนหวังว่าแบตจะถูกลงเพราะมีการตั้งโรงงานในไทย

ผมว่า ใช่ แต่คงไม่ใช่เวลาอันใกล้ เพราะอย่าลืมว่า บริษัทก็ต้องลงทุนหนัก ในการตั้งโรงงาน จ้างงานเพิ่ม

เขาก็ต้องคำนวนหาจุดคุ้มทุน เพราะฉะนั้น ราคาแบตถูกลงแน่ แต่ยังไม่ใช่ระยะเวลาอันใกล้ภายในปีสองปีนี้หรอกครับ