รู้สึกตัวเองขับรถเร็วเกินไป ทำยังไงให้เลิกขับรถเร็วครับ

Jay s.

     ส่วนตัวตอนวัยรุ่นกว่านี้ ก็ขับรถเร็วครับ 140 ยืนพื้นเลย ให้ใครแซงไม่ได้ ถ้าโดนตบไฟใส่ ขับจี้ จะเหยียบหนี พอมานึกย้อนหลังก็งงตัวเอง ว่าทำไปทำไม 555+
     ปัจจุบันวัยรุ่นตอนปลาย ก็เบาลงเยอะครับ ไม่เกิน 120 ยอมรับว่ากลัวครับ ชีวิตยังอีกยาวไกล ใช้วิธีดูแถบประหยัดน้ำมันในหน้าปัทม์ ตัวเลขเฉลี่ยอัตราการกินน้ำมัน ยุคนี้ข้าวยากหมากแพง ประหยัดดีกว่าครับ ถึงที่หมายช้าลงหน่อย แต่ก็ลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุได้น่าจะดีกว่านะครับ

ปล.บางคนก็เปลี่ยนนิสัยการขับไม่ได้จริงๆครับ พ่อผมปีนี้จะเกษียณละ ขับรถอย่างกับเด็กวัยรุ่นไม่มีผิด ปาดซ้ายปาดขวา ออกตัวเหยียบมิด โดนสะกิดนิดหน่อย หัวร้อนเลยครับ ตอนนี้ที่บ้านถ้าพ่อขับ ไม่มีใครไปด้วยเลย
My garage :Mercedes-AMG GLC43 Coupe’ 4MATIC ,
Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD,
Benz E 300e AMG Dynamic (w213),
Toyota Alphard 2.5S C-package
and Tesla model ....???



Alcatraz

เอาแบบผมไปใช้ก็ได้ ได้ผลดีเชียวละ ...........แค่..........ขยับเบาะออกให้เท้าห่างจากคันเร่งเยอะหน่อย เอาให้พอตึงๆเท้าพอเบรคได้ พอเท้าไม่ค่อยถึงมันก็เหยียบได้ไม่จมคันเร่ง  ได้ผลดีนะ ::) พอเหยียดมากๆขักเริ่มเมื่อยมันก็จะแค่แตะๆคันเร่งไปเนิบๆ :-X

อันตรายมาก ใครสั่งสอนให้นั่งแบบนี้ เกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมาต้องเหยียบเบรคได้เต็มเท้า ไม่ใช่แค่ตึงๆ และการนั่งห่างออกมามันไม่ได้กระทบแค่เท้า มันกระทบไปถึงแขนด้วย ทำให้ไม่สามารถหมุนพวงมาลัยได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมถึงการโดนชนท้ายท่านั่งแบบนี้มีโอกาส whiplash effect สูงมาก

ปรับเปลี่ยนด่วนนะครับ ถ้าปรับไม่ได้ก็อย่าชักจูงให้คนอื่นทำตาม มันเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี



ynot9x

ผมก็ขับเร็วแต่หลังๆเบาลงได้เยอะ ไม่ค่อยเกิน 120

ส่วนใหญ่ที่ขับเร็วมักจะมีจังหวะที่เริ่มหงุดหงิดรถคันอื่น ทำให้แซงๆให้พ้นๆแล้วมันจะเร็วไปเองยาวๆ วิธีแก้คือลดหงุดหงิดให้ได้สำหรับผม

ผมว่าอันนี้สาเหตุหลักเลยครับ เจอทุกวัน แต่ก็ทำใจไม่ได้ครับ
- ขับช้าแช่ขวา
- หยุดให้รถเลี้ยวออกซอยทุกคัน
- อยู่ lane เลี้ยวดันตรง
2013 - Honda Accord G9
-=4cycle Turbo Collection=- <RWD FWD AWD>
2015 Dec - BMW F30 N20 M Sport [BMC + BM3 Stage 2+ BILSTEIN B12 + EBC Brakes + Muffler Design]
2018 - Ford Focus MK3.5 Ecoboot [BMC + DTE-PowerControl-X + GFB VTA + Brembo + EBC Break]
2022 - Audi TT MK3 APR Tune +BMC +ECS +CTS



InBkk

ส่วนตัวผม พออายุมากขึ้น มันก็ค่อยๆ ช้าลงเอง ตอนเรียน ป ตรี ขับ 140-180 ทุกวัน เส้นอุดรรัตยา แต่เดี๋ยวนี้ ยืนพื้น 110-120 เต็มที่ไม่เกิน 130 มีบ้างที่จะกระทืบคันเร่งแรงๆ หมดไมล์ แต่น้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นตอนหลังเที่ยงคืน

ผมไปอยู่อังกฤษมา 1 ปี ได้ขับรถทั้งในอังกฤษ และในประเทศแถบยุโรป จึงคิดได้ว่า เอ้อ บ้านเขานี่ขับรถเป็นระเบียบดีแฮะ ไม่ค่อยมีคนขับปาด ให้ทางก่อนเสมอ ขับในเมืองไม่เร็ว และแน่นอนว่าไม่มีคนขับช้าแช่ขวา/ซ้าย (ต่อให้ขับเท่า หรือเกิน Speed Limit แล้ว ถ้ารถหลังจี้มา เขาจะหลบให้ทันที) พอเห็นเขาขับรถใจเย็น ก็เลยเกิดแรงบันดาลใจว่า อยากจะขับใจเย็นแบบเขาบ้าง



Ao_Chosi

ผมเล่าเคสผมให้ฟังล่ะกันครับ ที่เลิกขับรถเร็ว(แต่ตอนนั้นก็ไม่คิดว่ามันเร็วอะไรน่ะครับ ไม่เคยเกิน 140 แต่จะยืนพื้นที่100-120 ตลอด
จริงๆผมก็ไม่อยากคิดถึงมันอีกเลยน่ะให้ตายสิ 555
3 ปีก่อน ผมเกิดอุบัติเหตุคับ รถหลุดโค้ง  ผมจำได้แม่นผมขับ 90 (รถกระบะ+ฝนตก) โดยปกติผมจะขับสลับเก๋ง กับ กระบะ ตอนนั้นผมคงลืม
คิดถึงลิมิตของรถกระบะไปมั่ง อันนี้ช่างมัน! จุดที่เกิดเหตุผมใช้เส้นทางนี้แทบทุกวัน ซึ่งคนทั่วไปถ้าใช้เส้นทางเดิมๆมันต้องชำนาญเส้นทาง ถูกต้องไหมฮ่ะ (ซึ่งผมก็คิดแบบนั้น)
แต่เหตุมันเกิดครับ รถหลุดโค้ง ไปฟาดกับมอไซย์ รถผมหงายอยู่กลางถนน ส่วนคนขับมอไซย์ขาไปสีกับแผงกั้นเหล็กข้างทาง ชิ้นเนื้อหลุดจำนวนหนึ่ง เส้นเอ็นขาขาด ไม่สามารถรักษาใดๆได้ คู่กรณีโดนตัดขาครับ!!!
พอถึงตรงๆนี้ พี่ๆสมาชิกหลายคน คงเดาเหตุการณ์ในชีวิตของผมต่อจากนี้ได้ไม่ยากใช่ไหมครับ ว่ามันต้องเจออะไรบ้าง
อุบัติเหตุครั้งนี้ของผมมันเหมือนฝันร้ายครับ แต่เป็นฝันที่ไม่มีวันตื่น ซึ่งผมไม่อยากให้ใครในนี้ต้องเจอแบบผม
ผมเป็นคนชอบขับรถครับ มีความสุขทุกครั้งที่ได้ขับแล้วพาครอบครัวไปเที่ยว
แต่บางที หากเกิดอุบัติเหตุแค่ครั้งเดียว มันจะพลากทุกอย่างไปจากเราได้เลยน่ะครับ
ทุกวันนี้เวลาขับรถไปไหน เจอคนที่ขับรถเร็วๆ ก็คิดในใจทุกครั้งว่าขอให้เขาโชคดี อย่าโชคร้ายแบบผมเลย มันไม่สนุกเหมือนตอนอยู่หลังพวงมาลัยเลยน่ะจะบอกให้!!



earrt

ผมว่านะตอนวัยรุ่น ก็ขับเร็วกันทุกคนแหละ
ผมนี่ชนเละ'ทุกคัน' มาวันนี้บอกเลย เสียดายมาก รถเก่าๆสวยงาม ไม่น่าทำร้ายมันเลย

การโตขึ้นความรับผิดชอบต่อตัวเอง และครอบครัวมันเพิ่มขึ้น
รักรถ ชอบรถเหมือนเดิม มีแต่จะมากขึ้นด้วยซ้ำ

กลายเป็นคนกลัวรถชน กลัวรถมีรอย กลัวค่าซ่อมบำรุง 555 อัดรถหนักๆ ก็ต้องดูแลหนักตาม
ถ้ารักรถ ชอบรถ ดูแลมันดีๆดีกว่าครับ

ขับเร็วมันก็มันส์จริงๆแหละ แต่เกิดอะไรขึ้นมาที ชีวิตเปลี่ยนเลย

ผมไม่โอเค
ผมจึงเลิกขับเร็ว



Diogo

ผมเล่าเคสผมให้ฟังล่ะกันครับ ที่เลิกขับรถเร็ว(แต่ตอนนั้นก็ไม่คิดว่ามันเร็วอะไรน่ะครับ ไม่เคยเกิน 140 แต่จะยืนพื้นที่100-120 ตลอด
จริงๆผมก็ไม่อยากคิดถึงมันอีกเลยน่ะให้ตายสิ 555
3 ปีก่อน ผมเกิดอุบัติเหตุคับ รถหลุดโค้ง  ผมจำได้แม่นผมขับ 90 (รถกระบะ+ฝนตก) โดยปกติผมจะขับสลับเก๋ง กับ กระบะ ตอนนั้นผมคงลืม
คิดถึงลิมิตของรถกระบะไปมั่ง อันนี้ช่างมัน! จุดที่เกิดเหตุผมใช้เส้นทางนี้แทบทุกวัน ซึ่งคนทั่วไปถ้าใช้เส้นทางเดิมๆมันต้องชำนาญเส้นทาง ถูกต้องไหมฮ่ะ (ซึ่งผมก็คิดแบบนั้น)
แต่เหตุมันเกิดครับ รถหลุดโค้ง ไปฟาดกับมอไซย์ รถผมหงายอยู่กลางถนน ส่วนคนขับมอไซย์ขาไปสีกับแผงกั้นเหล็กข้างทาง ชิ้นเนื้อหลุดจำนวนหนึ่ง เส้นเอ็นขาขาด ไม่สามารถรักษาใดๆได้ คู่กรณีโดนตัดขาครับ!!!
พอถึงตรงๆนี้ พี่ๆสมาชิกหลายคน คงเดาเหตุการณ์ในชีวิตของผมต่อจากนี้ได้ไม่ยากใช่ไหมครับ ว่ามันต้องเจออะไรบ้าง
อุบัติเหตุครั้งนี้ของผมมันเหมือนฝันร้ายครับ แต่เป็นฝันที่ไม่มีวันตื่น ซึ่งผมไม่อยากให้ใครในนี้ต้องเจอแบบผม
ผมเป็นคนชอบขับรถครับ มีความสุขทุกครั้งที่ได้ขับแล้วพาครอบครัวไปเที่ยว
แต่บางที หากเกิดอุบัติเหตุแค่ครั้งเดียว มันจะพลากทุกอย่างไปจากเราได้เลยน่ะครับ
ทุกวันนี้เวลาขับรถไปไหน เจอคนที่ขับรถเร็วๆ ก็คิดในใจทุกครั้งว่าขอให้เขาโชคดี อย่าโชคร้ายแบบผมเลย มันไม่สนุกเหมือนตอนอยู่หลังพวงมาลัยเลยน่ะจะบอกให้!!

อ่านแล้วรู้สึกวว่าช่วยดึงสติได้มากจริงๆ ขอบคุณที่แชร์บนเรียนในครั้งนี้ให้นะครับ



dht_tubes

ผมว่าถ้าเริ่มรู้สึกได้แบบนี้ ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีก็แล้วกันครับ

ลองวิธีที่ผมเคยใช้ดูละกันนะครับเผื่อเป็นประโยชน์นะครับ ถือว่าแชร์กัน

---ก่อนออกถนน ตั้งใจไว้ครับว่า จะพยายามเปลี่ยนเลนให้น้อยครั้งที่่สุด ทำเท่าที่จำเป็น และจะพยายามไม่ปาด ไม่เบียดให้ได้มากที่สุด ยอมได้ยอม

---ก่อนออกถนน คิดและตั้งสติ บอกกับตัวเองว่า เราเป็นจุดเล็กๆบนโลกนี้ ทุกอย่างไม่ได้หมุนรอบตัวเรา

---ก่อนออกถนน วางแผน และกะเวลาให้เหมาะสม เผื่อเหลือไว้ อย่าเผื่อขาด แล้วลองเปรียบเทียบเส้นทาง และช่วงเวลาเดียวกัน แต่ขับแบบเดิมเหมือน
    ก่อนหน้าที่เคยขับ แล้วเปรียบเทียบดูครับว่า เวลาที่ใช้น้อยลง ซึ่งเราอยากได้มาก จนยอมทำทุกอย่างแย่ๆบนถนน เพื่อให้ได้มาอาจจะ 10-20 นาที
    บางครั้ง 1-2 นาที ซึ่งหลายครั้งมันไม่สร้างความต่างอะไร ที่เป็นประโยชน์กับเราเลยด้วยซ้ำ ............แต่ เราต้องแลกมันมากับ อารมณ์ที่ขุ่นมัว
    การทะเลาะ เบาะเเว้ง ต้องเอาเปรียบผู้อืนอีกมากมายบนถนน เพื่อให้ได้สิ่งที่เราต้องการจากอารมณ์ล้วนๆดู   ว่ามันคุ้มกันมั๊ย เรามีความสุขสมหวัง
    โดยได้สิ่งเหล่านั้นมาจากการเบียดเบียน เรามีความสุขกับมันจริงหรือ???


ผมก็เคยเป็นครับ คันอื่นบนถนน ขับผิดหมด แท๊กซี่ 3 ล้อ มอไซ รถเมล์.............เราถูกอยู่คนเดียว

ถึงวันนี้ ก็ยังต้องพยายามอยู่นะครับ ทำมานานจนชินชา ผมพบว่า ถ้าเราตั้งใจตั้งแต่ก่อนจะขับ มันจะช่วยได้มาก เตือนสติตัวเองไว้

ลองดูครับ คนอื่นไม่ทำ เพราะเค้าอาจจะยังคิดไม่ได้ ไหนๆเราคิดได้แล้ว พบทางที่สว่างกว่าแล้ว จะมัวไปติดอยู่ในหลุมดำของอารมณ์โกรธเหล่านั้นบนท้องถนน ไปอีกทำไมครับ

ลองดูนะครับ อยากให้ทำได้กันเยอะๆ จะพบครับว่า คนอื่นขับรถแย่ หรือไม่ดี เราก็อยู่กับมันได้ ถ้าใจเราโอเคนะครับ



redsun

ไม่ยากไม่ง่าย
ถ้ารู้ว่าทำแล้วไม่มีประโยชน์ก็อย่าไปทำครับ



KTJAJA00

ของผม ตัว 1.3G ตั้งเป๋า ไว้ 20km/l (E20) ก็ช่วยได้ ครับเพราะประหยัดเงินในกระเป๋าได้พอสมควร 100-120  ส่วน ตัว D คงได้ 25km/l แหละ



SM.

มีสติตลอดเวลา ระลึกไว้เสมอว่าจะไม่ขับเร็วครับ ไม่งั้นใช้วิธีไหนก็ไม่ได้ผล

เมื่อถึงเวลาได้เปลี่ยนรถ ก็เอารถที่อืดกว่าเดิม ช่วงล่างแย่กว่าเดิม



h0661036

ซื้อ GPS ของ garmin ติดรถไว้สิครับ  พอความเร็วเกินมันจะส่งสัญญาณเตือน  เพราะรถสมัยใหม่ เครื่องแรง ห้องโดยสารเก็บเสียงดี บางทีก็ความเร็วเกินโดยไม่ตั้งใจ



MC Stradale

ขออภัยนะครับถ้าภาษาไม่สวย

คุณมีลูกมีเมียรึยังครับ?? หรือยังเด็กอยู่

มีลูกมีเมียเมื่อไหร่ หลายๆคนเปลี่ยนนะ

อย่างผมคนนึงละ ต้องคิดเสมอว่าลูกอยู่ในรถ

สุดท้ายกลายเป็นคนกลัวการขับรถเร็วไปเลย

ตอนนี้ขับอยู่ไม่เกิน 120 เกินบ้างถ้าจำเป็น



yumenowinds

ผมจะบอกว่า ตัวเองขับเร็วขึ้น ขณะที่ความรู้สึกว่ามันเร็วเท่าเดิม

สาเหตุเพราะรถสมัยนี้เทคโนโลยีไปไกลมาก

เช่น การสั่นสะเทือน การเก็บเสียง กำลังเครื่องยนต์(สมัยนี้ B-seg กระบะ Commonrail ถ้าปลดล๊อค ผมว่ามีแตะ 200 กันได้สบายๆ)

มันทำให้รถนิ่งขึ้น ตอบสนองดีขึ้น เลยรู้สึกว่ามันไม่ค่อยเร็ว มันยังไปได้อีก

ขณะที่ มังกรทองผม วิ่ง 100 รอบเครื่องปาไปเกือบ 3000 ร้องครางปานใจจะขาด

นี่คือความต่าง รถสมัยนี้ 120-140 นี่ไหลๆ เดินทางสบายๆ




เนื้อน่องไม่หนัง

ผมใช้ วิธี เปิดเพลงครับ แต่ต้องหาเพลงช้าๆ หรือเพลงที่เน้นเสียงร้องนะ ช่วยให้ใจเย็นได้เยอะเลย
หรือไม่ก็ลองเปิดหน้าต่างขับ พอเร็วแล้วเสียงจะดัง จนอยากขับช้าลง