2.0 อ่างน้ำมันเครื่องคงไม่เกิน5ลิตร
ค่าบำรุงรักษาน่าจะต่ำกว่านะ
เครื่องยนต์ เกียร์ เขาวิ่งทดสอบหลายแสนโล เขาก็คงคำนวนแล้วหละการสึกหลอ
ยกเว้นเราแต่งเพิ่ม การสึกหรอจึงไม่เป็นไปตามวิจัยมา ฟอร์ดมีศักยภาพนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาแข่งขันตลาดตลอดเป็นการดีออก ฝั่งญีปุ่นที่ทนถึกใช้แต่เทคโนโลยีเก่าๆโบราญอยู่นั้นแหละ ญี่ปุ่นค่อนข้างจะ อนุรักษ์นิยมอยู่ด้วยแล้ว ไม่กล้าเปลี่ยนแปลง กลัวเทคโนโลยีใหม่จะไม่เป็นที่ยอมรับกลัวปัญหาที่รับไม่ได้ ถ้าเกิดผิดพลาดหละเสียลูกค้า แบนด์อื่นจะแย่งส่วนแบ่งตลาดไป
พอมายุคนี้เรนเจอรมันประสบความสำเร็จเกินคาดจึงเกิดการลอกเลียนแบบ เกิดการตื่นตัว เท่าที่ทำได้ อย่างเช่นไมเนอร์เชนจ์ฟอร์ดมี ศักยภาพนำเทคโนยีใหม่ๆมาให้ใช้ตลอด เกิดปรากฎการณ์ใหม่ๆ ที่คนไทยเจอแต่หน้าทาปากเปลี่ยนสีใหม่เท่านั้นเมื่อไมเนอร์เชนจ์ทุกครััง ยุคนี้ยุคเทคโนโลยีใครใครไม่ขยับก็มีโอกาสดับ อย่างแบรนด์จีนจะเป็นผู้นำรถไฟฟ้าอยู่แล้ว รถเด็กของเด็กเล่นชองจีนทั้งนั้น
ในมุมของผู้บริโภค ก็มี 2 แนวเหมือนกันครับ
แนวนึง ก็ไม่ค่อยจะไว้ใจ ไม่กล้าใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ย้อนไปเมื่อครั้ง
-เปลี่ยนจากคาบูเรเตอร์ มาใช้หัวฉีด แรกๆ บางคนก็ไม่กล้าใช้ ยิ่งถ้าได้ไปขอความเห็นจากช่างหัวโบราณ บางคนไม่กล้าใช้หัวฉีด
-เปลี่ยนจากกันชนเหล็ก มาเป็นไฟเบอร์ บางคนที่เกลียดญี่ปุ่นสมัยสงครามโลก ถึงกับพูดว่า ญี่ปุ่นไม่หวังดีกับคนไทย
-แม้แต่ ทีวี จากยุคปุ่มกด มาใช้รีโมท บางคนก็บอกว่า อย่าซื้อแบบรีโมท ไม่ทน ซ่อมแพง
ผู้บริโภคอีกแนว ก็จะชอบเทคโนโลยีใหม่ๆ
- กล้าเสี่ยงกับปัญหาที่จะเกิดขึ้น ซึ่งบางครั้งก็เจอกับปัญหาที่แก้ยาก แก้ไม่จบก็มีครับ