เรื่องฝุ่นละอองมลพิษต่างๆ มีมานานหลาย 10 ปี แล้วละครับ พึ่งจะมีข่าวดังและตื่นตัวก็ช่วงนีั้
ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าหน่วยงานต่างๆ ทำไมพึ่งมาใส่ใจ สนใจกันช่วงนี้
จริงครับ
แต่ก่อนเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ผมมองเข้ามาในเมือง ท้องฟ้าเป็นสีเทาแนวยาวเลย เหมือนมุ้งครอบ
แม้จำนวนประชากรไม่เยอะเหมือนปัจจุบัน แต่รถก็ติด+ควันดำ
ที่ตื่นตัว เพราะคงเป็นยุคดิจิตอลมั้งครับ + คนห่วงสุขภาพตัวเองมากขึ้น
เลยตื่นตัว โพสนู้นนั่นนี่ ต่าง ๆ นา ๆ บางคนเสพข่าวก็เกิดอาการวิตกจริต
ซึ่งการประโคมข่าวต่าง ๆ ทำให้จิตฟุ้งซ่านไปกันใหญ่ครับ
แต่ มองในแง่ดีคือ จะได้ปฏิรูป บำบัด ไปเลยก็ดีครับ
เหมือนคนป่วย พอสาหัสถึงเข้า รพ. และกลับมารักษา ดูแลตนครับ
1. เรื่องผลกระทบจากการสูบบุหรี่ ขอข้ามไปก่อน เพราะยังไม่ได้อ่านรายละเอียดอะไรเลย
แต่...ไม่ค่อยแปลกใจอะไรเท่าไหร่ ... เพราะบุหรี่ มันมีแต่ผลเสีย ข้อเสีย อยู่แล้ว ไม่เห็นจะมีข้อดีอะไรเลยซักนิดนึง
2. แต่เรื่องฝุ่นพิษจากดีเซล ... คิดว่า คงเป็นผลมาจาก ในต่างประเทศเค้าก็แอนตี้กันแล้ว
ถึงขนาดว่า ประกาศล่วงหน้า 10 ปีกว่าๆ ว่า จะเลิกใช้อย่างถาวร แล้วพอมาดูสถานการณ์ในประเทศไทย
ถึงได้สะดุ้งเฮือก ว่า อากาศบ้านเรา เลวร้ายขนาดนี้กันแล้ว จะทำไง เอาไงต่อดี ... ?
สิ่งที่สำคัญมากเลยคือ
- ประเทศไทย ใช้น้ำมันดีเซล สิ้นเปลืองระดับ 64 ล้านลิตร/วัน มากเป็น 2 เท่าของ เบนซิน (31 ล้านลิตร/วัน)
- แล้ว...การหาเชื้อเพลิงชนิดอื่น มาใช้แทนน้ำมันดีเซล ... มันหายากมาก ยากกว่าเบนซินเยอะ
ทีเบนซิน ยังมี เอทานอล , แก๊ส LPG , แก๊ส NGV มาใช้แทนกันได้เลย แค่ดัดแปลงระบบเชื้อเพลิงของเครื่อง ไม่มากนัก
แต่ดีเซล หาเชื้อเพลิงชนิดอื่นมาใช้แทน ยากมาก ในขณะที่...ประเทศไทยเราใช้น้ำมันดีเซล สูงขนาดนี้ โดยหลักๆ คือ การขนส่งสินค้าและทุกอย่างๆ
ฉนั้น ... จะเปลี่ยน / จะเลิกใช้ดีเซลกันทั้งประเทศไทย หรือทั้งโลก ... ยากมาก ถึงยากที่สุด
หมายเหตุ : ลืม.. ที่มาของข้อมูล
http://www.eppo.go.th/index.php/th/energy-information/situation-oil-electric?orders[publishUp]=publishUp&issearch=1