[DiKiBoyZ]

ตอนนี้จะเห็นว่า รถ BEV จากจีน เริ่มเข้ามาเรื่อยๆ

หลายท่านน่าจะรู้อยู่แล้วว่า ส่วนใหญ่ หรือ จุดใหญ่ๆ เลยคือ เรื่องภาษี FTA

ซึ่งทำให้หลายๆ แบรนด์จีน ได้ราคาที่ถูกกว่า นำเข้าแบบ CBU จากประเทศอื่นๆ

TESLA เอง ก็มีโรงงานที่จีน และ ถ้านำเข้าแบบแบรนด์จีน เต็มๆ ไปเลย เอามาแบบ FTA รถจีนเลย ผมไม่แน่ใจว่าเข้าเงื่อนไขหรือป่าวนะ

มันจะทำให้ TESLA เอง ถูกลงกว่านี้ปัจจุบันพอสมควรไหม

แล้วได้ข่าวว่า TESLA จะทำ Model 2 ที่เป็นตัวเริ่มต้น และ ถูกสุด ของ TESLA ที่ผลิตในจีน มาพร้อม Battery แบบใหม่ (เป็นของ TESLA พัฒนาเอง)

พี่ๆ เพื่อนๆ สมช. มีความเห็นว่ายังไงครับ

[I-PULSE]

tesla ต้องออกฟอร์มให้ผู้นำเข้าไทยมาเดือนเรื่องกับศุลกากรครับ ซึ่ง tesla ไม่ออกเอกสารให้แน่นอน เพราะแค่ขายในจีนก็ผลิตเองไม่ทันแล้ว
ถ้าจะขายที่ไทยด้วย เขามาขายเองฟันกำไรเองเต็มๆไปดีกว่า ซึ่งในวันที่เขาจะมา วันนั้น รถไฟฟ้าจากญี่ปุ่นและเกาหลีก็คงได้ภาษี0% เช่นกันครับ

[Superpong]

เท่าที่ทราบ Tesla ไม่ออก Form E ให้ผู้นำเข้าอิสระที่ไหนเลย ดังนั้นก็ต้องเสียภาษีเต็มตามกติกา
คงต้องรอให้ Tesla เข้ามาทำตลาดในบ้านเรานั่นแหละครับ

[polwath]

ส่วนผม รอดูว่าคุณภาพการผลิตว่าจะแก้ไขและดีขึ้นกว่าที่ผลิตในสหรัฐฯ หรือเปล่า กับเรื่องการซ่อม ที่ดูแล้วต้องเข้าศูนย์ Tesla สถานเดียว ซ่อมเองไม่ค่อยได้ แล้วก็มีผลิตพวงมาลัยซ้ายมาขายไหมด้วย (คิดว่ามี เพราะ Tesla มีขายในฮ่องกงและญี่ปุ่นอยู่)

อีกส่วนก็คือ Tesla น่าจะทำทุกอย่างเองมากกว่าออกสิทธิ์ให้ตัวแทนจำหน่ายนำเข้าด้วยซ้ำไป ซึ่งก็ไม่มีใครรู้ว่า Tesla จะเข้าทำตลาดในไทยเมื่อไหร่

หากยังนำเข้าผ่าน Grey ก็ยังโดนภาษีเต็มหน่วยเหมือนเดิมนะ

[Staples]

พวงมาลัยซ้ายรึเปล่า

[ToryJung]

ตลาดไทยยังเล็กอยู่ คงไม่จำเป็นต้องรีบเข้ามาเองเพราะต้องลงทุนสถานีsuperchartระดับ 200kwให้สมกับรถตัวเอง ซึ่งอาจคืนทุนนานมาก ปล่อยให้เกรย์นำเข้ามาเองดีกว่าteslaได้เงินเหมือนกัน ไม่ต้องรับผิดชอบลงทุนอะไรเลย ที่ผลิตทุกวันนี้ก็ไม่พอขายแล้วครับ

[flybigbear]

ตามท่านบนๆๆๆบอกเลยครับ

นอกเสียจากว่าเขาจะเข้ามาทำตลาดเองที่ไทย โดยผ่านบริษัทประจำภูมิภาค ที่สิงคโปร์


ส่วนตัว ก็อยากให้เทสล่า มาทำตลาดที่ไทยเหมือนกัน ถึงแม้นModel3 STD+ ราคาจะไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาทก็เห๊อะ

[Sazabi]

มันจะมาได้เหรอครับ อย่าลืมว่า FTA จีน-อาเซียนคือข้อตกลงทางการค้าเพื่อประโยชน์ของจีนและอาเซียนเป็นหลัก การส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าของจีนมาขายในอาเซียนก็เพื่อผลประโยชน์ของชาวจีน แล้ว TESLA ในจีนมีบริษัทจีนถือหุ้นหรือเป็น Partner อยู่กี่ % ครับ หากภาครัฐจีนไม่ออกเอกสารอนุมัติให้ใช้อัตราภาษี 0% ให้แล้ว  TESLA จะส่งมาขายในอัตรานั้นได้ไงครับ

อีกอย่างคืออาเซียนเป็นเป้าหมายในการตีตลาดรถญี่ปุ่นของรถจีนโดยใช้ BEV เป็นหัวหอก แล้วจีนจะปล่อยให้ TESLA มาใช้สิทธิ์ FTA ของจีนส่งรถ BEV มาขายในอาเซียนเป็นคู่แข่งรถจีนเพื่อหากำไรกลับอเมริกาเหรอครับ

[U9WS]

เค้าไม่ออก Form E ให้
เค้าคงมีแผนมาทำตลาดอาเซียนอยู่ในใจ
เค้างานล้นมืออยู่ เลยกักช่องไว้ก่อน

ตลอดจนงานวิจัยตลาด(ที่ส่วนใหญ่ทำโดยค่ายญี่ปุ่น)​ ออกมาว่าตลาดไทยยังไม่พร้อมสำหรับรถ BEV

เดี๋ยวค่ายจีนไหลมา สถานีชาจน์​เกิดเอง เค้าคงประเมินใหม่ว่าไทยพร้อม เค้าก็คงไม่พลาดเข้าชิงเค้กก้อนใหญ่

[Sazabi]

"งานล้นมือเลยกักช่องไว้ก่อน"
"ขายในจีนก็ผลิตไม่ทันแล้ว"

แต่ในความเป็นจริง TESLA ส่งออกรถพวงมาลัยขวาที่ผลิตในจีนไปขายในออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์ และ UK มาเกือบปีแล้ว

[Winnie_The_Poom]

อะไรที่ยังไม่เป็นทางการก็อย่าไปคาดหวังกับมันมากครับ อยู่กับปัจจุบัน ดีที่สุด เห็นหลายคนพูดแบบนี้ตลอดว่า เทสล่าจะมาทำตลาดที่ไทย ราคาจะถูกลง คือเมื่อมันยังไม่เกิด ก็อย่าไปคิดถึงมัน

[locomotive]

Elon นางมอง อินเดีย อินโด ตอนนี้ น่าลงทุนมาก ไทยไม่อยู่ในสมองเขา จ๊ะ!!!!

[Sazabi]

Elon นางมอง อินเดีย อินโด ตอนนี้ น่าลงทุนมาก ไทยไม่อยู่ในสมองเขา จ๊ะ!!!!

อันนั้นสาวกเดาเอาเองครับ ในความเป็นจริงการตั้งโรงงานผลิตรถยนต์สิ่งที่ต้องพิจารณาคือ มี มี Supplier ที่มี R&D ภายในประเทศนั้นมากขนาดไหน เทคโนโลยีการผลิต ความพร้อมของห่วงโซ่อุปทานชิ้นส่วน ตลาดส่งออกรวมจากการผลิตในประเทศนั้นๆ ไม่ใช่ค่าแรงถูกหรือไม่หรือว่ามีวัตถุดิบหรือไม่ เพราะสองอย่างนั้นมันมีความสำคัญน้อยมากในการตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ ข่าวการตั้งโรงงานแบตเตอรี่ใน Canada เป็นตัวอย่างให้เห็นชัดเจนอยู่แล้ว

อินเดีย เป็นไปได้ที่จะเป็นเป้าหมายของ TESLA เพราะ มี R&D ทั้งจากบริษัทข้ามชาติและอินเดียเองเพียบ เทคโนโลยีการผลิตพอไหว ความพร้อมของห่วงโซ่อุปทานสูงมากเพราะมี Volume ขนาดใหญ่ ตลาดส่งออกอาจไม่เยอะแต่ทดแทนด้วยตลาดในประเทศขนาดใหญ่แทน

ส่วนอินโดนีเซียอันนั้นคนไปมโนกันเองครับ R&D ของ Supplier น้อยกว่าไทยมาก เทคโนโลยีการผลิตต่ำกว่าไทยเอาแค่ HEV ในอินโดยังไม่เริ่มผลิตกันเลย โรงงานรถหรือโรงงานชิ้นส่วนก็มีโรงงานจากไทยเป็น Lead plant เกือบทั้งหมด ความพร้อมของห่วงโซ่อุปทานน้อยกว่าไทยเพราะอินโดผลิตแค่ใช้ในประเทศ ส่วนไทยผลิตส่งออกครึ่งต่อครึ่งความหลากหลายและ Volume ของชิ้นส่วนอยู่ที่ไทย ตลาดส่งออกยิ่งแล้วใหญ่อินโดมีประสบการณ์ส่งออกน้อยมากยิ่งไปนอก ASEAN ยิ่งแทบไม่มีซึ่งมันก็สะท้อนมาที่คุณภาพด้วย ตลาดในประเทศอินโดก็พอๆกับไทยใหญ่กว่าแค่นิดเดียวเท่านั้น แต่สรุปแล้วไม่ว่าจะไทยหรืออินโดก็ไม่อยู่ในสายตาตอนนี้หรอกเพราะรถที่ผลิตจาก ASEAN ส่งไปขาย ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์นั้นมีดรงงานจีนรองรับอยู่แล้ว เอเชียใต้ก็ยังไม่พร้อมนอกจากอินเดียซึ่งถ้าจะขายอินเดียก็ไปตั้งโรงงานที่นั่นเลยคุ้มกว่าเยอะ ตะวันออกกลาง แอฟริกา อเมริกาใต้ แคริบเบียน ยิ่งล้าหลังเรื่อง BEV ไม่มี Demand หนักเข้าไปอีก

[MacH1]

เข้ามาใน SEA เริ่มต้นที่ Singa แล้วนะคับ เริ่มเปิดรับตำแหน่งงานเยอะอยู่ มี Apac ด้วยบางตำแหน่ง ไทยแลนด์รอหน่อย คงหลังมาเลย์

รถขายใน Singa ก็นำเข้ามาจาก Giga Shanghai   

Tesla มาเองราคาเบียดหนักแน่นวลคับ คือตอนนี้รถจากโรงงาน USA และ จีน (ไม่มี form E) มันโดนภาษีนำเข้า 80% (ของราคา CIF) ทำให้ภาษีก้อนสรรพสามิต มหาดไทย และ VAT มันบวมๆไปด้วย  ลองคิดดูเอาว่า ก้อนภาษีนำเข้ามันหายไป มันจะทำให้ภาษีก้อนอื่นๆหดลงไปด้วย ได้เห็น model 3, Y standard ต่ำกว่าสองล้าน

ไทยแลนด์แดนฮับๆ ไม่มีทั้ง human capital เกี่ยวกับ EV และ Raw mat ก็พึ่งของนำเข้าต่อไปยาวๆๆๆ คับ

ใครไม่ซีเรียสต้อง Tesla อย่างเดียว เล่นแบรนด์อื่นไปก่อน fta 0% เหมือนกัล Volvo XC40 EV/C40, Bimmer iX3, MG Marvel R etc...

[Sazabi]

สิงก้าๆๆๆๆ ท่องเป็นคัมภีร์กันเลย

รู้หรือยังว่าสิงคโปร์นำเข้าด้วยอัตราภาษีเท่าไหร่

China-build Model 3
ขายในจีนประมาณ 4 หมื่นเหรียญ
ขายในออสเตรเลียประมาณ 6 หมื่นเหรียญ (ภาษี 0%)
ขายในสิงคโปร์ประมาณ 9.5 หมื่นเหรียญ ด้วยภาษี 0% เหรอ? ทั้งๆที่สิงคโปร์ค่าขนส่งถูกกว่าเพราะใกล้กว่าเยอะ สายเรือก็มากกว่า เทื่ยวเรือมากกว่า

และพอรวมค่าใช้จ่ายที่เหลือทั้งภาษีสรรพสามิต, COE, Road tax เข้าไปแล้ว Model 3 ในสิงคโปร์ที่นำเข้าจากจีนมีราคาถึงราว 150,000 เหรียญ แต่ก็ยังขายได้ดี แสดงว่าการนำเข้าสิงคโปร์ของ TESLA ไม่ได้สนใจ Import duty เลยเนื่องจากความพร้อมในการซื้อของลูกค้าสิงคโปร์ต่างจากประเทศอื่นในอาเซียนเยอะ

[Winnie_The_Poom]

สิงก้าๆๆๆๆ ท่องเป็นคัมภีร์กันเลย

รู้หรือยังว่าสิงคโปร์นำเข้าด้วยอัตราภาษีเท่าไหร่

China-build Model 3
ขายในจีนประมาณ 4 หมื่นเหรียญ
ขายในออสเตรเลียประมาณ 6 หมื่นเหรียญ (ภาษี 0%)
ขายในสิงคโปร์ประมาณ 9.5 หมื่นเหรียญ ด้วยภาษี 0% เหรอ? ทั้งๆที่สิงคโปร์ค่าขนส่งถูกกว่าเพราะใกล้กว่าเยอะ สายเรือก็มากกว่า เทื่ยวเรือมากกว่า

และพอรวมค่าใช้จ่ายที่เหลือทั้งภาษีสรรพสามิต, COE, Road tax เข้าไปแล้ว Model 3 ในสิงคโปร์ที่นำเข้าจากจีนมีราคาถึงราว 150,000 เหรียญ แต่ก็ยังขายได้ดี แสดงว่าการนำเข้าสิงคโปร์ของ TESLA ไม่ได้สนใจ Import duty เลยเนื่องจากความพร้อมในการซื้อของลูกค้าสิงคโปร์ต่างจากประเทศอื่นในอาเซียนเยอะ

+100

[MacH1]

สิงก้าๆๆๆๆ ท่องเป็นคัมภีร์กันเลย

รู้หรือยังว่าสิงคโปร์นำเข้าด้วยอัตราภาษีเท่าไหร่

China-build Model 3
ขายในจีนประมาณ 4 หมื่นเหรียญ
ขายในออสเตรเลียประมาณ 6 หมื่นเหรียญ (ภาษี 0%)
ขายในสิงคโปร์ประมาณ 9.5 หมื่นเหรียญ ด้วยภาษี 0% เหรอ? ทั้งๆที่สิงคโปร์ค่าขนส่งถูกกว่าเพราะใกล้กว่าเยอะ สายเรือก็มากกว่า เทื่ยวเรือมากกว่า

และพอรวมค่าใช้จ่ายที่เหลือทั้งภาษีสรรพสามิต, COE, Road tax เข้าไปแล้ว Model 3 ในสิงคโปร์ที่นำเข้าจากจีนมีราคาถึงราว 150,000 เหรียญ แต่ก็ยังขายได้ดี แสดงว่าการนำเข้าสิงคโปร์ของ TESLA ไม่ได้สนใจ Import duty เลยเนื่องจากความพร้อมในการซื้อของลูกค้าสิงคโปร์ต่างจากประเทศอื่นในอาเซียนเยอะ

ผมถามตอนไหนนะเรื่องภาษีนำเข้าเรท ACFTA สำหรับ BEV นำเข้าจากจีนไปสิงค์โปร์

"รู้หรือยังว่าสิงคโปร์นำเข้าด้วยอัตราภาษีเท่าไหร่"
ง่ายมากกกก เปิด เอกสาร ACFTA ในเว็บ Asean อ่านได้เลยคับ จะรู้ว่าแต่ละประเทศคิดเรทนำเข้ายังไงบ้าง มีไทย ลาว กัมพูชาที่ ภาษีนำเข้า 0% สำหรับไทยต้องแท็งยูไอ้พวกกลุ่มเอกชนบางกลุ่มที่ไปให้ความเห็นกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศตอนช่วงเกือบยี่สิบปีก่อน เป็นความผิดพลาดของกลุ่มเอกชนนั่นหรือยังไงแแล้วแต่ ยังงัยคนไทยถึงได้โชคดีที่มี fta 0%

คุณเดาถูกที่ปัจจัยภาษีนำเข้าไม่ใช่เรื่องสำคัญของคน sin  มีความบังเอิญที่ model 3 ราคาพอๆ กับ Civic FE ที่นั่น

"สิงก้าๆๆๆๆ ท่องเป็นคัมภีร์กันเลย"

เป็นศัพท์ที่พวกลูกเรือเค้าเรียกกัน ผมก็ชินมาจากพวกที่ผมคบ

ปอลิง ดูโทนแล้ว คุณไม่ค่อยอยากให้ Tesla เข้ามาแบบ official เลยนะ

[DiKiBoyZ]

จริงๆ ผมคิดว่า TESLA เอง ตอนนี้กำลังขยายกำลังการผลิต และ สร้าง platform ใหม่ ที่ผลิต chassis ที่เป็นชิ้นเดียว แบบหลอมอลูมีเนียมเป็นในโม(แบบฉีด) จากเดิมรถปกติ ที่จะต้องเอาเหล็กหลายๆ ชิ้นมาเชื่อมต่อกัน

ซึ่งกำลังการผลิตที่ TESLA บอกนี่เร็วกว่าการผลิตแบบเชื่อมเหล็กหลายๆ ชิ้น เยอะมาก

และ TESLA เอง ก็กำลังพัฒนาแบตเตอรี่เอง เพราะบอกว่า Panasonic ผลิตให้ TESLA ไม่ทัน

แต่พอฟัง สมช. หลายๆ ท่าน คิดเหมือนกันว่า น่าจะติดเรื่องการได้รับความร่วมมือจากจีน ถ้าจะใช้จีนเป็นฐานผลิตและส่งมาขายในไทย เพื่อเข้าเงื่อนไข FTA 0%

พวงมาลัยซ้ายรึเปล่า

เรื่องพวกมาลัย ซ้าย หรือ ขวา ผมว่ามันจิ๊บๆ มาก เขาเสกให้ได้หมดแหละครับ ถ้าเขาจะขายของ

[Sazabi]

จริงๆ ผมคิดว่า TESLA เอง ตอนนี้กำลังขยายกำลังการผลิต และ สร้าง platform ใหม่ ที่ผลิต chassis ที่เป็นชิ้นเดียว แบบหลอมอลูมีเนียมเป็นในโม(แบบฉีด) จากเดิมรถปกติ ที่จะต้องเอาเหล็กหลายๆ ชิ้นมาเชื่อมต่อกัน

ซึ่งกำลังการผลิตที่ TESLA บอกนี่เร็วกว่าการผลิตแบบเชื่อมเหล็กหลายๆ ชิ้น เยอะมาก

และ TESLA เอง ก็กำลังพัฒนาแบตเตอรี่เอง เพราะบอกว่า Panasonic ผลิตให้ TESLA ไม่ทัน

แต่พอฟัง สมช. หลายๆ ท่าน คิดเหมือนกันว่า น่าจะติดเรื่องการได้รับความร่วมมือจากจีน ถ้าจะใช้จีนเป็นฐานผลิตและส่งมาขายในไทย เพื่อเข้าเงื่อนไข FTA 0%

Gigapress ที่ฉีดโลหะออกมาเป็นโครงรถชิ้นเดียวนั้นมันมีจุดอ่อนใหญ่หลวงอยู่ นั่นก็คือมันไม่สามารถสามารถผลิตและส่งเป็นชิ้นส่วน KD ไปประกอบในโรงงานอื่นๆได้

ยกตัวอย่างหาก TOYOTA พม่าอยากจะประกอบ Vigo ขายแต่ที่พม่าไม่มีเครื่องจักรในการขึ้นรูปโลหะแผ่นเลย แต่ TOYOTA สามารถผลิตงาน Body เป็นชิ้นๆจากดรงงานในไทยแล้วส่งเป็นชิ้นส่วน KD ไปเชื่อมประกอบเป็นตัวถังที่พม่าได้ และไม่ใช่แค่พม่าจะส่งไปเชื่อมประกอบที่ประเทศไหนก็ได้ ถ้าคุณเคยเห็นงาน KD ที่แพ็คส่งออกจะทราบว่ามันสามารถส่งได้จำนวนมากโดยที่ใช้เนื้อที่ในตู้ Container ได้คุ้มค่าสุดๆ

ในขณะที่ Gigapress นั้นสิ้นเปลือง Volume mass ในการขนส่งอย่างมาก ไม่มีทางที่จะคุ้มค่าในการส่งโครงรถมาประกอบในโรงงานอื่นที่ไม่มีเครื่องนี้ เพราะฉะนั้น TESLA จึงผลิตและประกอบเป็นรถ CBU ได้ที่โรงงานที่มีเครื่อง Gigapress และส่งออกในรูปแบบ CBU เท่านั้น ยังไม่สามารถใช้กลยุทธผลิตชิ้นส่วนประเทศนึงแล้วส่งออกไปประกอบหลายๆประเทศเหมือนที่รถยนต์ยี่ห้ออื่นใช้อยู่ได้ เมื่อต้องส่งออกในรูปแบบ CBU อย่างเดียวมันก็ติดปัญหาเดิมๆของการนำเข้ารถยนต์ทั่วโลกนั่นแหละ

บอกว่าผลิตเร็วกว่าแต่ดีกว่าในเชิงยุทธศาสตร์การผลิตขายทั่วโลกหรือเปล่า อันนี้คงต้องแล้วแต่มุมมองครับ

[Night_Angel]

จริงๆ ผมคิดว่า TESLA เอง ตอนนี้กำลังขยายกำลังการผลิต และ สร้าง platform ใหม่ ที่ผลิต chassis ที่เป็นชิ้นเดียว แบบหลอมอลูมีเนียมเป็นในโม(แบบฉีด) จากเดิมรถปกติ ที่จะต้องเอาเหล็กหลายๆ ชิ้นมาเชื่อมต่อกัน

ซึ่งกำลังการผลิตที่ TESLA บอกนี่เร็วกว่าการผลิตแบบเชื่อมเหล็กหลายๆ ชิ้น เยอะมาก

และ TESLA เอง ก็กำลังพัฒนาแบตเตอรี่เอง เพราะบอกว่า Panasonic ผลิตให้ TESLA ไม่ทัน

แต่พอฟัง สมช. หลายๆ ท่าน คิดเหมือนกันว่า น่าจะติดเรื่องการได้รับความร่วมมือจากจีน ถ้าจะใช้จีนเป็นฐานผลิตและส่งมาขายในไทย เพื่อเข้าเงื่อนไข FTA 0%

Gigapress ที่ฉีดโลหะออกมาเป็นโครงรถชิ้นเดียวนั้นมันมีจุดอ่อนใหญ่หลวงอยู่ นั่นก็คือมันไม่สามารถสามารถผลิตและส่งเป็นชิ้นส่วน KD ไปประกอบในโรงงานอื่นๆได้

ยกตัวอย่างหาก TOYOTA พม่าอยากจะประกอบ Vigo ขายแต่ที่พม่าไม่มีเครื่องจักรในการขึ้นรูปโลหะแผ่นเลย แต่ TOYOTA สามารถผลิตงาน Body เป็นชิ้นๆจากดรงงานในไทยแล้วส่งเป็นชิ้นส่วน KD ไปเชื่อมประกอบเป็นตัวถังที่พม่าได้ และไม่ใช่แค่พม่าจะส่งไปเชื่อมประกอบที่ประเทศไหนก็ได้ ถ้าคุณเคยเห็นงาน KD ที่แพ็คส่งออกจะทราบว่ามันสามารถส่งได้จำนวนมากโดยที่ใช้เนื้อที่ในตู้ Container ได้คุ้มค่าสุดๆ

ในขณะที่ Gigapress นั้นสิ้นเปลือง Volume mass ในการขนส่งอย่างมาก ไม่มีทางที่จะคุ้มค่าในการส่งโครงรถมาประกอบในโรงงานอื่นที่ไม่มีเครื่องนี้ เพราะฉะนั้น TESLA จึงผลิตและประกอบเป็นรถ CBU ได้ที่โรงงานที่มีเครื่อง Gigapress และส่งออกในรูปแบบ CBU เท่านั้น ยังไม่สามารถใช้กลยุทธผลิตชิ้นส่วนประเทศนึงแล้วส่งออกไปประกอบหลายๆประเทศเหมือนที่รถยนต์ยี่ห้ออื่นใช้อยู่ได้ เมื่อต้องส่งออกในรูปแบบ CBU อย่างเดียวมันก็ติดปัญหาเดิมๆของการนำเข้ารถยนต์ทั่วโลกนั่นแหละ

บอกว่าผลิตเร็วกว่าแต่ดีกว่าในเชิงยุทธศาสตร์การผลิตขายทั่วโลกหรือเปล่า อันนี้คงต้องแล้วแต่มุมมองครับ

จากชิ้นส่วนเกือบ 1000 ชิ้น  เหลือแค่ 3ชิ้น  ถ้าตามที่เขาบอกนะสำหรับโครงสร้างตัวถัง  เปลือกนอก ทั้งหมดยังใช้แบบเดิมอยู่ มันไม่ต่างอะไรกับการขนส่งแซสซีระกระบะเลย  เคยเห็นที่เขายังไม่ประกอบไหม  ไม่มี

[Symphonic]

จริงๆ ผมคิดว่า TESLA เอง ตอนนี้กำลังขยายกำลังการผลิต และ สร้าง platform ใหม่ ที่ผลิต chassis ที่เป็นชิ้นเดียว แบบหลอมอลูมีเนียมเป็นในโม(แบบฉีด) จากเดิมรถปกติ ที่จะต้องเอาเหล็กหลายๆ ชิ้นมาเชื่อมต่อกัน

ซึ่งกำลังการผลิตที่ TESLA บอกนี่เร็วกว่าการผลิตแบบเชื่อมเหล็กหลายๆ ชิ้น เยอะมาก

และ TESLA เอง ก็กำลังพัฒนาแบตเตอรี่เอง เพราะบอกว่า Panasonic ผลิตให้ TESLA ไม่ทัน

แต่พอฟัง สมช. หลายๆ ท่าน คิดเหมือนกันว่า น่าจะติดเรื่องการได้รับความร่วมมือจากจีน ถ้าจะใช้จีนเป็นฐานผลิตและส่งมาขายในไทย เพื่อเข้าเงื่อนไข FTA 0%

Gigapress ที่ฉีดโลหะออกมาเป็นโครงรถชิ้นเดียวนั้นมันมีจุดอ่อนใหญ่หลวงอยู่ นั่นก็คือมันไม่สามารถสามารถผลิตและส่งเป็นชิ้นส่วน KD ไปประกอบในโรงงานอื่นๆได้

ยกตัวอย่างหาก TOYOTA พม่าอยากจะประกอบ Vigo ขายแต่ที่พม่าไม่มีเครื่องจักรในการขึ้นรูปโลหะแผ่นเลย แต่ TOYOTA สามารถผลิตงาน Body เป็นชิ้นๆจากดรงงานในไทยแล้วส่งเป็นชิ้นส่วน KD ไปเชื่อมประกอบเป็นตัวถังที่พม่าได้ และไม่ใช่แค่พม่าจะส่งไปเชื่อมประกอบที่ประเทศไหนก็ได้ ถ้าคุณเคยเห็นงาน KD ที่แพ็คส่งออกจะทราบว่ามันสามารถส่งได้จำนวนมากโดยที่ใช้เนื้อที่ในตู้ Container ได้คุ้มค่าสุดๆ

ในขณะที่ Gigapress นั้นสิ้นเปลือง Volume mass ในการขนส่งอย่างมาก ไม่มีทางที่จะคุ้มค่าในการส่งโครงรถมาประกอบในโรงงานอื่นที่ไม่มีเครื่องนี้ เพราะฉะนั้น TESLA จึงผลิตและประกอบเป็นรถ CBU ได้ที่โรงงานที่มีเครื่อง Gigapress และส่งออกในรูปแบบ CBU เท่านั้น ยังไม่สามารถใช้กลยุทธผลิตชิ้นส่วนประเทศนึงแล้วส่งออกไปประกอบหลายๆประเทศเหมือนที่รถยนต์ยี่ห้ออื่นใช้อยู่ได้ เมื่อต้องส่งออกในรูปแบบ CBU อย่างเดียวมันก็ติดปัญหาเดิมๆของการนำเข้ารถยนต์ทั่วโลกนั่นแหละ

บอกว่าผลิตเร็วกว่าแต่ดีกว่าในเชิงยุทธศาสตร์การผลิตขายทั่วโลกหรือเปล่า อันนี้คงต้องแล้วแต่มุมมองครับ

จากชิ้นส่วนเกือบ 1000 ชิ้น  เหลือแค่ 3ชิ้น  ถ้าตามที่เขาบอกนะสำหรับโครงสร้างตัวถัง  เปลือกนอก ทั้งหมดยังใช้แบบเดิมอยู่ มันไม่ต่างอะไรกับการขนส่งแซสซีระกระบะเลย  เคยเห็นที่เขายังไม่ประกอบไหม  ไม่มี

อย่าเอาไปเทียบกับแชสซีส์รถกระบะเลยครับ พวกนั้น require accuracy ต่ำมาก
ค่า tolerance dimensions +/- กันมโหฬาร
พวกรถ body แบบ monocoque require ต่ำกว่านั้นมาก ถ้าทำแบบเทสล่า การขนส่งต้องปราณีตและมี
ค่าใช้จ่ายมากกว่ากันเยอะครับ 

แต่ก็ไม่รู้สินะ ที่เราเห็นลูกค่้าต่อว่าเรื่องกระจกหลุด หลังคาเปิดเปิง มาจากปัญหา body accuracy นี่รึเปล่า

[Gunther]

ถ้า Tesla นำเข้าจากจีน จะถูกลงกว่ารุ่นนำเข้าจาก UK ถึง 1 ล้านบาท

เท่ากับว่า ถ้า Tesla นำเข้าจากจีน ราคาที่จำหน่ายในไทยจะถึง 1.9 ล้านบาท สำหรับรุ่น Model 3 Standard Range

[Forty Five]

Tesla นำเข้าจากอินโดนีเซีย (ผลิตใน ASEAN) มาไทย ราคาถูกพอๆกับนำเข้าจากจีน

[deertesla]

จริงๆ ผมคิดว่า TESLA เอง ตอนนี้กำลังขยายกำลังการผลิต และ สร้าง platform ใหม่ ที่ผลิต chassis ที่เป็นชิ้นเดียว แบบหลอมอลูมีเนียมเป็นในโม(แบบฉีด) จากเดิมรถปกติ ที่จะต้องเอาเหล็กหลายๆ ชิ้นมาเชื่อมต่อกัน

ซึ่งกำลังการผลิตที่ TESLA บอกนี่เร็วกว่าการผลิตแบบเชื่อมเหล็กหลายๆ ชิ้น เยอะมาก

และ TESLA เอง ก็กำลังพัฒนาแบตเตอรี่เอง เพราะบอกว่า Panasonic ผลิตให้ TESLA ไม่ทัน

แต่พอฟัง สมช. หลายๆ ท่าน คิดเหมือนกันว่า น่าจะติดเรื่องการได้รับความร่วมมือจากจีน ถ้าจะใช้จีนเป็นฐานผลิตและส่งมาขายในไทย เพื่อเข้าเงื่อนไข FTA 0%

Gigapress ที่ฉีดโลหะออกมาเป็นโครงรถชิ้นเดียวนั้นมันมีจุดอ่อนใหญ่หลวงอยู่ นั่นก็คือมันไม่สามารถสามารถผลิตและส่งเป็นชิ้นส่วน KD ไปประกอบในโรงงานอื่นๆได้

ยกตัวอย่างหาก TOYOTA พม่าอยากจะประกอบ Vigo ขายแต่ที่พม่าไม่มีเครื่องจักรในการขึ้นรูปโลหะแผ่นเลย แต่ TOYOTA สามารถผลิตงาน Body เป็นชิ้นๆจากดรงงานในไทยแล้วส่งเป็นชิ้นส่วน KD ไปเชื่อมประกอบเป็นตัวถังที่พม่าได้ และไม่ใช่แค่พม่าจะส่งไปเชื่อมประกอบที่ประเทศไหนก็ได้ ถ้าคุณเคยเห็นงาน KD ที่แพ็คส่งออกจะทราบว่ามันสามารถส่งได้จำนวนมากโดยที่ใช้เนื้อที่ในตู้ Container ได้คุ้มค่าสุดๆ

ในขณะที่ Gigapress นั้นสิ้นเปลือง Volume mass ในการขนส่งอย่างมาก ไม่มีทางที่จะคุ้มค่าในการส่งโครงรถมาประกอบในโรงงานอื่นที่ไม่มีเครื่องนี้ เพราะฉะนั้น TESLA จึงผลิตและประกอบเป็นรถ CBU ได้ที่โรงงานที่มีเครื่อง Gigapress และส่งออกในรูปแบบ CBU เท่านั้น ยังไม่สามารถใช้กลยุทธผลิตชิ้นส่วนประเทศนึงแล้วส่งออกไปประกอบหลายๆประเทศเหมือนที่รถยนต์ยี่ห้ออื่นใช้อยู่ได้ เมื่อต้องส่งออกในรูปแบบ CBU อย่างเดียวมันก็ติดปัญหาเดิมๆของการนำเข้ารถยนต์ทั่วโลกนั่นแหละ

บอกว่าผลิตเร็วกว่าแต่ดีกว่าในเชิงยุทธศาสตร์การผลิตขายทั่วโลกหรือเปล่า อันนี้คงต้องแล้วแต่มุมมองครับ

จากชิ้นส่วนเกือบ 1000 ชิ้น  เหลือแค่ 3ชิ้น  ถ้าตามที่เขาบอกนะสำหรับโครงสร้างตัวถัง  เปลือกนอก ทั้งหมดยังใช้แบบเดิมอยู่ มันไม่ต่างอะไรกับการขนส่งแซสซีระกระบะเลย  เคยเห็นที่เขายังไม่ประกอบไหม  ไม่มี

อย่าเอาไปเทียบกับแชสซีส์รถกระบะเลยครับ พวกนั้น require accuracy ต่ำมาก
ค่า tolerance dimensions +/- กันมโหฬาร
พวกรถ body แบบ monocoque require ต่ำกว่านั้นมาก ถ้าทำแบบเทสล่า การขนส่งต้องปราณีตและมี
ค่าใช้จ่ายมากกว่ากันเยอะครับ 

แต่ก็ไม่รู้สินะ ที่เราเห็นลูกค่้าต่อว่าเรื่องกระจกหลุด หลังคาเปิดเปิง มาจากปัญหา body accuracy นี่รึเปล่า

กระจกหลุดนี่น่ากลัวมากแล้วนะครับ  ยื่งแชสซีชิ้นใหญ่ขึ้นรูปด้วยกลัวจะมีปัญหาหลายอย่างทั้งการเชื่อมตัวถัง  ความแข็งแรงทั้งหลายมันจะดีมั้ยกลัวแตกร้าวภายหลังครับ

[delete]

อย่าเอาราคา สิงคโปร์มาเทียบเลยจะดีกว่า
เพราะถ้าเอาราคาสิงคโปร์มาเทียบ เทสล่า โมเดล 3 ขายที่สิงคโปร์ ถูกกว่า civic ซะอีก