เรียกว่าเป็นรุ่นพี่ หรือเซนไป จะตรงกว่า
เซนจูรี่ สร้างเพื่อฉลองชาตกาลร้อยปี โตโยดะ ซาคิจิ ผู้ก่อตั้งกลุ่มอุตสาหกรรมโตโยดะ
เป็นคนคิดค้นเครื่องทอผ้าไม้และเหล็ก โดยกู้เงินจากน้องเขยที่บ้านทำธนาคาร คงเป็นมิตซุย
ลูกชายเมื่อสร้างรถสำเร็จ ก็ขับรถที่สร้างโดยคนญี่ปุ่นไปไหว้ฮวงซุ้ยพ่อ
พออายุเตี่ยครบร้อยปีก็สร้างรถเซนจูรี่เพื่อระลึกถึงพ่อ ถือเป็นรถรุ่นกตัญญูก็ได้
ระบบไฟฟ้า บานหูช้างพับได้ ยกมากจากคราวน์แปด
และเครื่อง ตัวถัง เขื่องกว่า
ทำให้คราวน์เดิมเป็นรถพระที่นั่ง เปลี่ยนเป็นเซนจูรี่จนถึงทุกวันนี้
และใส่ตรานกโฮโอมาจากกลุ่มดาวกระจิบแดงพิทักษ์บูรพาทิศ
ตามความเชื่อดั้งเดิมของจีนโบราณ
และมีลายประแจจีนรูปเหรียญแคว้นฉิน เป็นเหรียญกลมมีรูสี่เหลี่ยม หมายถึง สวรรค์กับพิภพ
แต่เดิมเป็นสิ่งเดียวกัน มาแยกจากกันเพราะผานกู่แบกฟ้า แยกสวรรค์กับพิภพออกจากกันถาวร
เซนจูรี่ ไม่มีการใช้สัญลักษณ์จากตำนานอิซานามิ อิซานาอิมาจากนิฮงโชกิ หรือ บันทึกญี่ปุ่น กับโคจิกิ หรือบันทึกเก่าแก่ ใส่ในรถ
http://nihonkojiki.blogspot.com/2013/06/blog-post_9.html?m=1 มีผู้รู้แยกความต่างจาก นิฮงโชกิกับโคจิกิไว้ ต่างกันฟ้ากับเหว เป็นนิทานแต่งชั้นหลังเพื่ออ้างความชอบธรรมของคนเกาหลีอพยพมาเป็นใหญ่ในญี่ปุ่น
โดยใช้อาวุธเหล็กเอาชนะอาวุธสำริด
เช่นเดียวกับขื่อภูฟูจิ
ภาษาไอนุ คามุย ฟูจิ แปลว่า เทพไฟ(คามุย แผลงเป็น คามิ)
ภาษายามาไต ฟูจิมาจาก 藤 เติ้ง เถาวัลย์
น่าจะมาจากตีนภูเป็นป่าดงดิบ
นิทานคนตัดไผ่ หรือเจ้าหญิงคางุยะ(เชื่อว่าเป็นมนุษย์ต่างดาวจนสร้างเป็นหนังญี่ปุ่น)
นิทานเรื่องนี้เป็นนิทานเก่าสุดของญี่ปุ่น เนื้อเกี่ยวพันกับเทพีฉางเอ๋ออยู่ที่พระจันทร์มาเก่าก่อน คางุยะเป็นลูกหลานสืบมา
จักรวาลวิทยาจีนโบราณ
จากภาพเขียนในสุสานท่านหญิงซินจุย ต้าฮั่น
อาทิตย์ คือ กาสามขา(ยาตะ)
จันทร์ คือ กบ(เทพเผ่าไต)
นกหัวคน หรือนกซิเมิรก์ เทพควบคุมอายุขัย ในตำนานเปอร์เซียโบราณ นกซิเมิร์กอยู่นานจนเห็นการเกิดดับของจักรวาลสามครั้ง หรือเป็นสิ่งมีชีวิตที่อายุยืนนานที่สุดเท่าที่ปรากฏในบันทึกโบราณ
นิทานคนตัดไผ่กล่าวถึง ฟูจิ ว่าแผลงมาจาก 不死 ปู้สือ แปลว่า อมตะ
ฟูจิซัง ซังหรือ ซาน สำเนียงจีน
ยามะ สำเนียงญี่ปุ่น
จีนแดงเรียก ฟูซึซาน
โยมิ หรือนรก ตรงกับคติของกรีก และหลายอารยธรรม
เชื่อว่าอยู่ใต้โลกหรือใต้ดิน เต็มไปด้วยความร้อน ลาวา เปลวไฟ
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าคนโบราณเคยเห็นแผ่นดินยุบตัว เกิดไฟจากก๊าซ ธารลาวา ติดไฟเป็นวงกว้าง นับพันนับหมื่นปียังไม่มอด ปรากฏหลักฐานภูไฟศักดิ์สิทธิ์ที่อาเซอไบจัน ต้นกำเนิดศาสนาโซโลอัสเตอร์ พราหมณ์ ที่อารยันนำไปเผยแผ่ทั่วยูเรเชีย
จนนำไม้ไปจุดไฟทำอาหารปรุงสุกโดยง่าย ทำให้อาหารอ่อนนุ่ม
หรือกินเนื้อสัตว์ ที่สุกในบ่อน้ำพุร้อน เคี้ยวง่าย ย่อยง่าย ใช้เวลากินอาหารจนอิ่มน้อยกว่าสัตว์พันธุ์อื่น ทำให้เกลือแร่ สารอาหารไปเลี้ยงสมอง ซึ่งสมองต้องการสารอาหาร25-30%ในหนึ่งมื้อ
จึงมีตำนานว่าเทพนำไฟมาให้และสอนให้คนใช้ไฟเป็น เช่น โพเมดิอุส ฝูซี น่าแปลกคือเทพดึกดำบรรพ์มักมีตัวเป็นงู หัวเป็นคน หรือหัวเป็นสัตว์ตัวเป็นงู
คนเผ่าโฮโม อิเลกตัส โคมันยอง เซเบียนเซเบียน ฯลฯ จึงมีสมองใหญ่อย่างรวดเร็วหลายเท่าภายในสองล้านปี
จากนั้นคนแต่ละเผ่าทยอยสูญพันธุ์ไปเรื่อยๆ จนเหลือแต่เซเปียนเซเปียนเผ่าเดียว จนกลายเป็นคนในปัจจุบัน
