FIAT 131 1600/TC รุ่นที่เคยติดท๊อปเทนรถขายดีเมื่อปี 78 หรือ 79 นี่แหละ แต่คััีนนี้ จดทะเบียนปี 81 เป็นตัวไมเนอร์
ความผูกพันธ์คงไม่ต้องพูดถึง เพราะเกิดมาพร้อมกัน ว่าแต่คันนี้เครื่องพันหก แต่กินน้ำมันเท่าพี่บีเอ็มพันแปดข้างบนเลยอ่ะ อิๆ
ขอยืมพื้นที่เล่าประสบการณ์วงการรถสมัยเด็กๆที่รับรู้ให้ฟังกันละกันนะครับ
เรื่องของเรื่องคันนี้เกือบได้ไปปลูกสาระแหน่พงหญ้าข้างทางแล้วนะครับ เพราะผมเรียนจบ ทำงานมีรายได้ ที่บ้านเลยจะทิ้งคันนี้ซะ ซึ่งใช้งานมายี่สิบกว่าปี ยี่สิบกว่าปีที่มันรับใช้ครอบครัวผมมา (มีคันเดียว วิ่งไปทำงานทุกวัน) บอกตรงๆว่า คุณพ่อผมก็ทนใช้ กับเกียร์ธรรมดา และครัชที่แข็งยังกะลากเกวียน ท่านก็ต้องทนใช้ เนื่องจากที่บ้านคุณพ่อทำงานคนเดียว มีภาระต้องเลี้ยงลูกหลายคน เงินน่ะมีใช้แต่จะเอาเงินเก็บมาซื้อรถคันใหม่ๆ ใช้ได้สบายๆ นั้นถือว่าเสี่ยงมากๆ คุณพ่อเลยต้องทนใช้ ซ่อมไป ใช้ไป แต่มันก็ใช้ได้มาเรื่อยๆ จะมีปัญหารวนก็ระบบไฟ (ปรกติของรุ่นนี้) และคาร์บู (ชิ้นส่วนภายในเสื่อม หาอะไหล่ยาก) โชคดีที่ช่วงล่างเป็นแค่คานแข็ง และระบบไม่มีอะไรซับซ้อนมากเลยซ่อมจบซะส่วนใหญ่
ตอนแรกพ่อผมจะขายคันนี้ให้สัปเหร่อที่วัดอัมพวาด้วยราคา 1 หมื่นบาท แล้วให้ผมไปซื้อซิตี้ดาร์กเวเดอร์รุ่นที่แล้ว เพื่อใช้ไปทำงาน...แต่ผมปฎิเสธ ผมทิ้งมันไม่ได้ครับ ผมเอามันมาบูรณะใหม่อย่างที่เห็น
คันนี้สีขาวแต่ดั้งเดิมเลยนะครับ ทำสีมาสองครั้งแต่ไม่เคยเปลี่ยนสี เมื่อก่อนสีขาวนี่มันคือรถเกรดล่างน่ะครับ (ราคาูถูกสุด) อย่างคันนี้ก็เริ่มแรกเป็นรถประจำตำแหน่งของ ผู้จัดการสาขาธนาคารกรุงเทพ (เมื่อก่อนเค้าใช้แต่รถยุโรปนา บีเอ็มงี้ เปอร์โยต์ เฟียต) แล้วพ่อผมไปประมูลมาได้เพราะทำงานอยู่ สนง.สีลม
สมัยมือหนึ่งจำได้ว่าราคาประมาณสี่ถึงห้าแสน แต่ใช้ไม่ถึงห้าปี ประมูลมาได้แสนห้า (555) ตอนนั้นจำได้ว่าเรายังเป็นเด็กไปวิ่งดูเค้ายกมือประมูลกัน นอกจากนั้นยังมี peugeot 505, BMW 520i E12 ที่ทางธนาคารเอามาประมูลพร้อมกัน
คันนี้ประกอบในประเทศนะครับ จากโรงงานของกรรณสูต ซึ่งคือโรงงานแรกในประเทศไทยที่ประกอบรถยนต์ (คนชอบเข้าใจผิดนึกว่าเป็นธนบุรีประกอบยนต์) แต่ในที่สุดหลังจากได้มันมาไม่กี่ปี บริษัทกรรณสูตก็เจ๊ง จากความละโมบและไม่ซื่อสัตย์ของเจ้าของเอง
อย่างคันนี้ถ้าเีทียบกับรถรุ่นเดียวกันที่นำเข้ามา จะพบว่า วัสดุบุแดชบอร์ดมันคือไม้อัดห่วยๆ เคาะแล้วดังโป๊งๆ รวมทั้งวัสดุบุในห้องโดยสารอื่นๆ และตัดพวงมาลัยเพาเวอร์ออก แล้วเอามาขายถูกๆ ให้ธนาคารกรุงเทพ ซึ่งถ้าได้เข้าไปดูตัวนำเข้าจะพบว่ามันไม่ได้ห่วยแบบนี้ ซึ่งเป็นวิธีการหากำไรของกรรณสูต สับอะไหล่ลูกค้าไปขาย แกล้งซ่อมไม่หาย และอีกหลายรายการ ยิ่งกว่ายนตรกิจสมัยนี้อีก
เครื่อง 1600 ซีซี ของเฟียตในสมัยนั้นถือว่าแรงพอดูเลยทีเดียว เนื่องจากอัดแคมคู่เข้าไป แต่ยังคงมีแค่ 2 วาลว์ต่อสูบ อัดแรงม้าได้ 97 แรงม้า แรงบิด เกือบๆ 1.3 Nm เทียบกับบีเอ็มเครื่องพันหกสมัยนั้นซึ่งยังใช้แคมเดี่ยว ปั่นแรงม้าได้แค่ประมาณ 70 แรง จึงถือว่าได้เ ลยถ้าเทียบกับรถสมัยนั้น แต่ก็ยังคงต้องสิโรราบให้กับ Alfa Romeo Giulietta เครื่อง 1800 ทวินแคม คาร์บูเวเบอร์คู่ 110 กว่าแรงม้าไม่ได้ แ ถมช่วงล่างยังเป็น De-Dion อีก
ความแรงในส่วนของการใช้งานในปัจจุบันหลังจาก overhaul โดยช่างเก่าเฟียตที่กรรณสูต ถือว่าใช้งาน วิ่งแซงไล่กวด ในเมืองได้สบายๆ เคยลองอัตราเร่ง 0-100 ได้ เกือบ 13 วิ แต่ต้องปิดแอร์ กินน้ำมันตามการเหยียบ ในเมืองเฉลี่ย 7-8 โลลิตร นอกเมือง 11.5 โลลิตร (ทดสอบแบบคุณจิมมี่ ) ข้อเสียคืออัตราทดเกียร์ในช่วงออกตัวเกียร์ 1-2 แคบไป มันเหมาะกับเมื่อ 20 กว่าปีก่อนมากกว่า.
ณ.วันนี้บางทีผมวิ่งเีทียวไปเทียวมามีคนมาขอซื้ออยู่บ้าง แต่คำตอบที่ผมจะให้ก็คือ "ไม่ขายครับ"
ปล.คุณจิมมี่น่าจะรู้นะว่าผมไปถ่ายภาพที่ไหนมา