การประหยัดเชื้อเพลิงมหาศาล/ลดฝุ่นสำหรับ ICE ด้วยเทคนิคการเติมลมยางสูง

nobody123

ท่านสมาชิกลองเติมลมเต็มประสิทธิภาพยาง ด้วยไนโตร เวลาวิ่งในเมืองดูครับ
เช่น BM E90 ผม คำแนะนำติดขอบประตูรถคือ เติมลมยาง ประมาณสามสิบ ผมก็เคยเติมน้อยตามนั้น กินน้ำมัน ตีเลขกลม ๆ 6.75 km/l ขับในกทม. มีเข้าห้างกลางเมืองเป็นระยะ
ตอนนี้ ผมมาเติม ห้าสิบ รถกินน้ำมันน้อยลง  ได้ 9 km/l
(แต่ผมก็ปรับพฤติกรรมช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกลางเมืองด้วยการใช้รถไฟฟ้าเข้าเมืองมากขึ้นด้วย ดังนั้น ตัวเลขด้านบน มันเทียบกันไม่ได้เป๊ะ ๆ)
ที่สะกิดใจตอนเข้าป็มเพื่อเติมน้ำมัน อย่างแน่นอนเลย คือ การบริโภคน้ำมัน ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ เหมือนรถคนละคัน
อย่างนี้ คนรัก ICE ช่วยลดฝุ่นได้เลย
ปล. 1. ไม่ใช่รถทุกคันที่เติมลม 50 แล้วขับ 120 ไม่ร่อน ดังนั้น ระวังการขับความเร็วสูงกันด้วยครับ
2. ระวังระยะเบรกเพิ่ม
3. ระวังลูกปืนล้อไป



Gunners-headlight

ขึ้นอยู่กับประเภทรถ ด้วยครับ
ส่วนตัวผมมองว่า รถยนต์นั่งส่วนบุคคล มีผลน้อยมาก
รถเก๋งช่วยกัน 10 คัน เจอ กระบะแต่งซิ่ง วิ่งควันท่วม ไปคันนึง อาจจะชดเชยกันไม่ได้ ด้วยซ้ำ
อยู่ที่ จิตสำนึกเลยครับ .. แต่การเริ่มต้น ช่วยกันลด มลภาวะ เป็นสิ่งที่ดีครับ
เพราะ ทางรัฐเอง ก็ไม่มีแนวทางที่ชัดเจนเลย ทำได้แค่ ให้คน งดออกนอกบ้าน หยุดโรงเรียน
ซึ่ง ระยะยาว ไม่ได้แก้ไขอะไรเลย ...
กรณี ลมยาง ผมว่า ช่วยได้ น้อยมาก (แบบต้องเดินทางนอกเมือง)
ถ้ารถติดในเมือง ไอเสีย ก็เท่าเดิมครับ
ทุกวันนี้ส่วนตัวผมเอง ใช้รถหลายคัน พยายาม เอารถเล็กเข้าเมือง
ถ้าไปไหนคนเดียว ก็เอาคันเล็ก ไปใช้มากขึ้น อาจจะพอช่วยได้ ไม่มากก็ น้อย ครับ



เนื้อน่องไม่หนัง

ผมคิดว่าเติมลมเยอะไปมันอันตรายนะครับ
หน้ายางจะไม่แบนแนบพื้น ส่วนตรงกลางอาจจะนูนขึ้นมา อาจทำให้ยางเสียรูป และอาจเป็นอันตรายต่อการขับขี่ได้ เพราะหน้ายางจับถนนได้ไม่เท่าที่ควรจะเป็น
ยางจะให้ตัวได้น้อยลง ไม่ซับแรงจากพื้น รถกระด้างขึ้น ภาระไปลงกับช่วงล่างมากขึ้น รถเกาะถนนแย่ลงแน่นอน
และในระยะยาวอาจทำให้หน้ายางสึกหรอไม่เท่ากันอีก

จะมีเติมเยอะในกรณีรถกระบะบรรทุก เพื่อให้แก้มยางคงรูปไว้ได้ ป้องกันยางแตก เวลาเจอหลุม ทางไม่เรียบ แต่กลุ่มของกระบะ มันมีน้ำหนักบรรทุกกดไว้อีกทีนึง
กับกลุ่ม ล้อวงใหญ่ ยางขอบบางๆ ที่ต้องช่วยให้แก้มยางคงตัวได้อยู่เวลากระแทกครับ ป้องกันยางแตก แม๊กดุ้ง

ตัวผมเองไม่ค่อยเชื่อใน ลม Nitrogen เท่าไร่ มองว่า อากาศปรกติมันมี Nitrogen เป็นส่วนใหญ่อยู่แล้ว การเติม Pure Nitrogen ไม่น่าจะสร้างความแตกต่างได้ขนาดนั้น สำหรับการขับขี่ธรรมดา
และเราก็ไมไ่ด้อยู่ในเมืองหนาว อุณภูมิของล้อขณะวิ่งกับภายนอกไม่ได้ต่างกันขนาดนั้นครี่บ
ถ้าไมไ่ด้ Sensitive ขนาดที่สัมผัสได้ว่าลมยางต่างกัน 1-2 psi มองว่าไม่ได้จำเป็นครับ
แต่ ถ้าสมัครบริการเติมลมยางไนโตรเจน แบบขับเทียบแล้วมีคนเติมให้ ไม่ต้องลงไปเติมเองให้มื้อเปื้อน ผมว่าแบบนี้น่าสนใจครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 22, 2025, 13:22:17 โดย เนื้อน่องไม่หนัง »



DiKiBoyZ

ขึ้นอยู่กับประเภทรถ ประเภทยาง รุ่น ยี่ห้อ ยางนั้นๆ ด้วยครับ

หลายคนยางเดิมบอกแข็ง เขาก็ลด

หลายคนบอกอ่อน เขาก็เติมกันแข็งขึ้น

ข้างประตูเขียนไว้ สำหรับยางเดิม แต่พอเปลี่ยนยาง เปลี่ยนซีรีย์ยาง หรือ ประเภทยาง ก็ใช้กันไม่ได้อีก ก็ต้องดูเป็นชุดๆ ไป

บางคันเติมแค่ 30 ก็แข็งเป็นเกวียนแล้ว จะเติม 40 50 ไงไหว

ผมเติม 40-42 ตอนเปลี่ยนยาง ตอนนี้ ยังเติม 35 เลย (ขอบประตูบอก 32) ล้อขอบ 20 นิ้ว

ปล.เติมลมแข็งๆ ยาวจะหมดกลางก่อนขอบ บางคนเรียกว่ายางโล้น ด้วย



nobody123

ผมจขกท.นะครับ
เห็นด้วยครับ BM คันที่ว่า ผมขับในเมืองอย่างเดียวเลย คือ ลดฝุ่นในเมือง ไม่เอาวิ่งความเร็วสูงตจว. ยอมล้อสึก (มันไม่สึกเท่าไหร่เพราะผมขับเป็นหลักสองคัน)
ส่วนอีกคัน ขอบประตูเขียน 48-… !ถ้านั่งเต็มคันและบรรทุก (ผมพาแม่และภรรยาออกตจว.ประจำ) และใช้ความเร็วสูง ดังนั้น ผมเติม 50 วิ่งไม่ร่อน ครับ



sk-non

ผม +2 , +3 psiจากสติ้กเกอร์ ทำมาจะ 20 ปีแล้ว
ช่วงทางลาดลงทางด่วน หรือ เห็นระยะที่ต้องเบรค
จะใช้วิธียกคันเร่งปล่อยไหล
แต่เติมลมธรรมดา ไนโตรเคยลองไม่ชอบ
ที่ผมทดสอบ
เครื่องยนต์ฉีดตรงรุ่นใหม่ๆ จะประหยัดกว่า
อีกตัวแปรนึงคือน้ำหนักรถครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 22, 2025, 13:49:24 โดย sk-non »



kiwiwi

คัน Mazda CX-30 ที่ขนาดยางใกล้ๆกับ Mini Countryman f60 และ Innova Zenix สติ๊กเกอร์​บอกให้เติม 36

คืออย่างแข็งเลยครับ ตึงๆตังๆมาก ผมเลยเติมให้เท่ากับคัน Mini f60 นี่แหละคือ 33

ส่วน Zenix เองผมยัดไป 36 เลยครับทั้งๆที่สติ๊กเกอร์​ให้เติม 33 ผลคือ ขับได้ 20km/l++ บ่อยๆเลย

ก่อนหน้านี้รถคันอื่นๆที่ผ่านมา ผมใช้เทคนิคลดหน้ายาง+ใช้ยางประหยัดน้ำมัน ก็ช่วยได้พอควร



Weetting

ผมสังเกต หลายทีล่ะครับ

การไม่เล่นโทรศัพท์ขับรถนี่ช่วยได้มากนะครับ  มีสมาธิ  ไม่เกะกะเพื่อนร่วมทาง 

กับการขับบนทางด่วนถ้าเป็นไปได้  ลดความเร็วปกติตัวเองลงมาซัก 10km/h  (เช่น90 ขับเหลือ 80 ) นี่ประหยัดเพิ่มขึ้นอย่างรู้สึกได้เลยครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมยังสนับสนุนว่าในระยะ 1KM ถ้าเดินได้ให้เดิน หรือใช้ พาหนะเช่นจักรยาน  สกูตเตอร์ขาไถ   

ส่วนการลดฝุ่น ยังยากอยู่ในขณะที่รอบบ้านเรา เผากระหน่ำเช่นนี้
THE Manual Gearbox Preservation Society
Drive diesel until last day



REX

ของผม ดับเครื่องตอนติดไฟแดงเลยครับ
ลดฝุ่น PM2.5  และประหยัดน้ำมัน เห็นๆ
ยิ่งมีสัญญานไฟนับถอยหลัง  นี่ชอบเลย
ส่วนแรงดันลมยาง น่าจะช่วยบ้าง
เพราะ ใครเคยปั่นจักรยาน จะรู้ดี  ลมแข็งจะปั่นใช้แรงน้อยกว่า ลมอ่อนมาก



apinui

ผมเติมลม 37 ทั้ง 4 ล้อเลย ทั้ง CX3 และ mazda3

เหตุผลคือฟิลลิ่งล้วนๆเลยครับ ชอบอาการตึงตังกับเวลาเทโค้งแรงๆมันไม่ย้วยดี ไม่ได้สนเรื่องประหยัดน้ำมันหรือลดฝุ่นเลย  ::)



Floppy-T

เป็นแนวทางที่ดี ช่วยกันคนละเล็กคนละน้อยก็ยังดี

สุดท้ายจบที่รถบัสรับพนักงานเก่าๆ กับรถกระบะส่งของอยู่ดีครับ  :'(



marvel

ขอเข้ามาศึกษาหาความรู้เรื่องผลการเติมลมแข็งอ่อนของรถเพื่อนๆสมาชิกครับ

ผมขอเสริมนิดเดียวว่า ให้เพื่อนๆสมาชิกดูค่า max psi สำหรับยางของเพื่อนๆสมาชิกประกอบด้วยครับ
แต่ละรุ่น แต่ละ size ค่า max psi ไม่เท่ากัน , ยางหลายรุ่นอาจมีค่า max psi มากกว่ายางรุ่นที่ผมใช้ครับ

รถผมคันนึงใช้ยาง Yokohama Advan Sport V105 245/35ZR19 (93Y)
แก้มยางระบุว่า “never inflate beyond 40 psi”

อีกคันนึงใช้ยาง GOODYEAR EAGLE F1 ASYMMETRIC 3 265/35R18 97Y
ฉลากที่หน้ายางระบุว่า “อัตราการสูบลมสูงสุด 41 ปอนด์/ตร.นิ้ว“









nobody123

ขอบคุณมากครับ เป็นข้อมูลจำเป็นเลยทีเดียว
ผมเลือกตอนซื้อเลยครับ ว่า เอา max 50 / ส่วนที่ได้รับติดรถมาอีกคัน max 51
ผู้อ่านควรมีประสบการณ์ขับรถร่อนมาก่อน จะรู้ว่า ร่อน เป็นยังไง ไม่งั้น อาจได้ลงข้างทาง
ผมเคยขับรถลมยาง (น่าจะ) เยอะมากความเร็ว 150 km/h* ตอนเช่า Chev Full-size ที่สหรัฐ โดยคาดว่า Hertz (ร้านเช่ารถ) เติมลมซะปลิ้นเลย (ไม่รู้ทำไม ผมว่า Chev โดยปกติไม่น่าร่อนที่ตั้งแต่ 100 km/h ผมเดามานานแล้วว่า เพราะ ลมยาง)
*ประมาณ 100 mile/h เหนือป้ายกำหนด/แนะนำความเร็ว ทางหลวงข้ามรัฐ ซึ่งแทบไม่มีใครสนใจ เกือบทุกคัน ขับเกิน ครับ หยั่งกะหนัง Matrix ภาคสอง คือ แม้แต่รถบรรทุกคันโต ๆ ก็วิ่งแซงกับรถเก๋งผม
สเปครถ E90 M per ผมคือ ถ้าบรรจุเยอะ (ซึ่งผมบรรจุเยอะ และ มีคนนั่งสามคนประจำ) ถ้าว่ากันตามสติ๊กเกอร์ หน้าจะ 33.36 psi หลัง 40.61 psi แต่คันผมไม่ตรงสติ๊กเกอร์ เพราะเป็นชุดแต่ง M ดังนั้น ล้อหน้าผมต้องเติมลมมากกว่า 33.36 เอาให้ง่ายคือ ตามสเปค 40 เท่ากันทุกล้อ (ที่ผมบอกประมาณ 30 ด้านบน เป็นกรณีผมไม่ขนของครับ ซึ่งแทบไม่เคยไม่ขน ครับ)
นั่นเท่ากับ ผมเติมเกิน 10 psi และจำกัดการขับเน้นที่ประมาณ 90 km/h เร่งแซงก็ไม่เกิน 120 ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 23, 2025, 08:29:23 โดย nobody123 »



palma

ผมสังเกต หลายทีล่ะครับ

การไม่เล่นโทรศัพท์ขับรถนี่ช่วยได้มากนะครับ  มีสมาธิ  ไม่เกะกะเพื่อนร่วมทาง 

กับการขับบนทางด่วนถ้าเป็นไปได้  ลดความเร็วปกติตัวเองลงมาซัก 10km/h  (เช่น90 ขับเหลือ 80 ) นี่ประหยัดเพิ่มขึ้นอย่างรู้สึกได้เลยครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมยังสนับสนุนว่าในระยะ 1KM ถ้าเดินได้ให้เดิน หรือใช้ พาหนะเช่นจักรยาน  สกูตเตอร์ขาไถ   

ส่วนการลดฝุ่น ยังยากอยู่ในขณะที่รอบบ้านเรา เผากระหน่ำเช่นนี้

เห็นด้วยกับการลดความเร็วเดินทางลงเล็กน้อย เช่น จาก 100 เหลือ 90 กม/ชม  ประหยัดลงได้ราว 10%
ส่วนจะเสียเวลาไหม ถ้าระยะวิ่ง 100 กม ถึงช้ากว่าแค่ 5-6 นาทีครับ  บางทีถ้ามีไฟแดงก่อนถึงที่หมาย ไปเจอกันไฟแดง สุดท้ายถึงพร้อมกันครับ

ถ้าเราใช้รถ 100,000 กม. ขับช้าแบบข้างบน ประหยัดได้ 10% ถ้าสมมุติว่ารถกินน้ำมัน 15 กม/ลิตร วิ่ง 1 แสน กม ใช้น้ำมัน 6,667 ลิตร
เราขับประหยัด 10% เท่ากับลดน้ำมันที่เผาไหม้ลงได้ 667 ลิตร น่าจะลดฝุ่น, CO2 ได้มากทีเดียวตลอดการใช้งาน 1 แสน กม.

ถ้ารถ 100 คน ยิ่งลดได้มาก สรุปการขับรถช้าลงน่าจะช่วยลดฝุ่นที่ปล่อยออกมาได้มาก ถ้าช่วยๆกันครับ
2023 : SK9 FB20 ES4.0 SAWD
2017 : NSP170R-2NR-FE+CVT
2015 : B17-MR16DDT+CVT-M6
2014 : L33-QR25DE+CVT-8
1995 : SXV10-3S-FE (sold)
1994 : AE101-4AFE+MT (sold)



nobody123

ผมจขกท.นะครับ
วันนี้ ผมไปทำตามคำแนะนำท่านที่บอก ขับช้าลงหน่อย เรียบร้อย
คือ ปกติผมขับทางด่วนต่าง ๆ เลนกลาง / ขวาสุด
วันนี้ ผมขับเลนซ้ายสุด < 90 km/h
เกจวัด l/km ลดลง
ครับ ช่วยกันครับ ขอบคุณครับ



neung23

ผมก็ใช้วิธีนี้เหมือนกัน แต่ ผมไม่เติมเยอะขนาด 50

ยกตัวอย่าง camry ผมล้อขอบ17 แก้ม 55 สเป็คให้เติม 29 ผมจะเติม 36 แต่ยางที่แก้มนิ่มผมจะเพิ่มอีกประมาน 2ปอนด์

แต่ถ้าคันอื่นที่แก้มยางแข็งๆหรือบางยางซิ่งทั้งหลาย บวกจากสเป็ค 2-4 ปอนด์ เพราะแก้มมันคงรูปได้มากกว่ายางนิ่ม

อย่าเติมเยอะเกินคับ อันตราย

2013 W204 C250 AMG Plus
2011 Prius
2010 X5 xDrive 4.8i
2003 E39 523i Sport



nobody123

ใช่ครับ ยิ่งถ้าพวงมาลัยเบา อันตรายมาก
ขอบคุณมากครับ ที่เข้ามาเตือนสติ เดี๋ยวเพื่อนสมาชิกบางคนจะเติมเยอะตาม
รถผม พวงมาลัยไฮดรอลิก และ ล้อ (ค่อนข้าง) กว้าง ผลกระทบเลยน้อย แล้วผมขับย้ำอีกรอบนะครับ ด้วยลมนี้ ผมขับแค่ในเมือง (ไม่เอาออกต่างจังหวัดด้วยความเร็วปริ่ม ๆ)