มีใครที่เปลี่ยนรถทุก4-5ปี เพราะยังพอขายได้ราคาเพื่อไปดาวน์คันใหม่บ้างครับ?

thanawanch

สวัสดีครับ

ผมใช้รถยุโรปแบรนด์รอง  ออกป้ายแดง 3.49 ล้าน อายุรถตอนนี้ก็3.5ปีแล้วครับ
รถของผมไม่ค่อยได้วิ่งไปไหนเลย เฉลี่ยใช้รถปีละ 8,500 กิโลเมตรได้
แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่า รถยุโรป ยิ่งถ้าเป็นแบรนด์รอง ราคาจะร่วงหนักมาก
(จริงๆเดี๋ยวนี้เบนซ์ก็ร่วงหนักพอกัน แถมตอนป้ายแดงส่วนลดก็น้อยกว่าแบรนด์รองอีก)

ใจผมอยากจะเก็บรถคันนี้ไว้สัก 7-8 ปี ให้ใกล้ๆหมดประกันระบบแบตเตอรรี่ค่อยขาย เพราะรถดีมาก เดิมมาก และรักมาก
ถ้าให้ขายก็ไม่รู้จะขายไปซื้อคันไหนที่จะดีได้เท่านี้ และโฉมนี้ก็น่าจะลากขายไปอีกนานแน่ๆ

แต่คิดว่าถ้าเก็บไว้ถึงวันนั้น ราคาขายคงอยู่ที่ 6-7แสนไม่เกินนั้นแน่นอน
เลยชั่งใจว่า จะขายตอนที่รถอายุสัก 4 ปี ขณะที่ยังมี Warranty เหลือ น่าจะพอได้สัก 1.5 ล้าน
คงเพียงพอสำหรับการเอาไปดาวน์คันใหม่ ใน segment เดียวกันหรือใกล้เคียง

แต่อีกใจก็คิดว่า ถ้าเป็นแบบนี้ ชีวิตคงไม่มี "ช่วงปลอดหนี้" เป็นแน่แท้
ผ่อนรถต่อเนื่องอยู่ร่ำไป
คือคิดแล้วมันก็เหนื่อยครับ

ในขณะเดียวกัน ถ้าเลือกจะเก็บไว้ใช้ต่อ แค่เปลี่ยนยาง พี่ก็ล่อไป 4 เส้น 50,000
ยังไม่รวมพวกเช็คระยะรายปี ซึ่งสืบคร่าวๆว่ากันว่า ยืนพื้นที่ 10,000 ปลายๆ
ก็น่าจะเข้าเนื้อ ช้ำเลือดช้ำหนองกันไป

เป็นจุดที่ตัดสินใจยากอยู่ครับ



axister

ผมทำแบบนั้นครับ ทุกๆ 3-5 ปี มองเป็นการเช่าอ่ะครับ แต่เวลาทำ leasing แล้วจำกัดด้วยเวลา เลยใช้วิธีซื้อละขายเอาไปดาวคันใหม่แทน คล่องกว่า ตรงนี้ผมว่าแล้วแต่แนวคิดการใช้เงินครับ

ผมเองชอบเทคโนโลยีใหม่ๆ บางทีซื้อปีนี้ ปีหน้าค่ายอื่นออกอะไรน่าสนใจมาผมขายเลยก็มีครับ ราคาขายต่อไม่ต้องพูดถึง เพราะชอบเล่นแบรนด์หลุดกระแส โมเดลแปลกแบบพวก lexus หายฮ่วบๆครับ
แนวคิดผมก็คือกันเงินให้รถเดือนละเท่านี้ เช่าไปเรื่อยๆ ปลอดหนี้คงไม่มีจริง แต่มีลงทุนให้ดอกเบี้ยมันมาจ่ายค่ารถให้ได้มากขึ้น ปัจจุบันก็ใช้รถแค่ปีละ 4-5พัน ถ้าไม่นับรถตู้ที่แชร์หลายๆคนครับ

ภาพรวมเปลี่ยนคันใหม่บ่อย ค่าใช้จ่ายเยอะกว่า ค่าเปลี่ยนล้อรถเก่าแน่นอนครับ ยิ่งวิ่งน้อยๆ ล้อก็สึกช้า ประกันก็ถูกลงตามอายุรถ หรือคิดว่าไม่ได้เสี่ยงมาก ก็เอาทุนน้อยๆ เลย

ถ้าไม่ได้เรื่องเทคโนโลยีมาก ผมว่าใช้คันเดิมยาวๆ ดีกว่าครับ ถ้าตั้งใจเล่นแบรนด์รองแล้ว ยังไงราคามือสองก็ต้องทำใจ ถ้าคิดเป็น % มันน้อยกว่าแบรนด์หลักแบบ เบนซ์ บีเอม แน่ๆครับ ถ้าให้ผมเดาคงใช้ volvo มันราคาตกอยู่แล้วถ้าจะเทียบตอนนี้ phev ยังถือว่าใหม่ในวงการมือสอง เก็บไว้อีก เดี๋ยวคนก็จะชินแล้วราคา phev ก็จะมาเป็นพื้นฐานแทน ice แล้ว bev จะมาเป็นแพะในวงการมือสองแทน ตลาดจะบีบให้คนต้องยอมรับเทคโนโลยีเองตามยุคครับ ถึงวันนั้นลุงๆ สาวก ice เท่านั้นก็อาจจะไม่ใช่กลุ่มผู้ใช้เงินที่จะมาคุมตลาดเหมือนทุกวันนี้ได้แล้ว



เนื้อน่องไม่หนัง

ผมเองใช้รถที่ไม่ได้แพงมากครับ ไม่เกิน 2ล่้าน แต่ใช้ยาวจนมันถึงจุดที่ซ่อมเยอะหรือเริ่มเสียจนไม่อยากเอาไปใช้งานครับ

ผมยังทำใจไม่ได้กับค่าใช้จ่ายของรถยุโรปครับ สมรรถณะที่สูงขึ้น ความสบายที่ได้รับมา มันก็แลกกับค่าตัวกับค่าบำรุงรักษา ค่าประกันที่สูงขึ้นครับ
แบรนรองราคาตกเยอะกว่ามากครับ และเป็น Hybrid อีก ถ้าเสียดายเรื่องราคาชายค่อ อาจต้องดูรุ่นน้ำมันล้วน อาจทำให้ราคาขายต่อดีกว่าได้ครับ แต่ก็แลกกับ option ที่อาจหายไป

ในจุดที่มีรถอยู่แล้ว ผมอาจเลือก service เท่าที่จำเป็นครับ ยางอาจใช้ตัวรองลงมา แต่เอาจริงๆก็ประหยัดได้ไม่มากเท่าไร่ครับ
ถ้ามีรถที่ถูกใจ ผมอาจเปลี่ยนรถเลยครับ

อาจต้องหาจุดที่ balance กับตัวเราครับ อาจปรับลงมาเป้น ญี่ปุ่นตัวบน ค่าบำรุงรักษาก็ต่ำลง แต่สมรรถณะกับความสบาย ก็ตามราคาที่จ่ายครับ



sk-non

รถคันแรกผมปี vios03
จนถึงปัจจุบันผ่อนไป 11 คัน
ขับไปรวม 7แสนกว่า กม
มีอยู่ 3 คันใช้แค่ 1ปี 6 เดือน เอง
ขาดทุนหนักสุด cx8= 1 ล้านนิดๆ
เป็นรุ่นที่ซื้อแพงสุด

ตามที่คุณว่าแหละ
ไม่มีเวลาปลอดหนี้เลย
คิดแล้วก็เสียดายเงิน 555
ช่วงนี้จะเน้นใช้นานขึ้น ครับ



apinui

รถแบรนด์รอง ไม่ว่าจะยุโรป ญี่ปุ่น ยิ่งใช้ยาวยิ่งคุ้มครับ (คุ้มสำหรับตัวเค้าเอง)

และถ้ายิ่งเป็นยุโรปแบรนด์รองอย่างวอลโว่ ถ้ารถสภาพดีอยู่ เราดูแลดีไม่มีจุกจิก และถ้าเราผ่อนหมดแล้ว ที่เหลือคือกำไรแล้ว

ถ้าจะมองแค่ค่าบำรุงรักษา มันไม่ได้มาทุกเดือนแบบค่างวดนะ ยางชุดนึงกี่ปีเปลี่ยนล่ะ 2-3 ปี ยางชุดนึง 5 หมื่น แต่ 2 ปีเปลี่ยนที กับ ขายเอารถใหม่ ผ่อนเดือนละ 3หมื่น อันนี้มาทุกเดือนนะ คิดดีๆ 

ผมใช้มาสด้า ใครๆที่ว่าราคาตก มันก็ตกจริงแหละ แต่ผมไม่ซีเรียสเพราะเฉลี่ยผมใช้รถ 9-10 ปีอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อมันถึงอายุขนาดนี้ เชื่อไหม แบรนด์หลักแบรนด์รอง ราคาต่างกันไม่มากแล้ว จะต่างเพียงแค่ขายยากหรือง่ายกว่ากันแค่นั้นเอง

ดังนั้นแบรนด์รอง ผ่อนหมด ลากใช้ต่อไปอีกสัก 4-5 ปีถ้าสภาพไหว ขายเมื่อคิดว่าค่าซ่อมบำรุงมันเริ่มจะเท่าค่างวด แล้วค่อยคิดซื้อใหม่ครับ 



Tien.W

สมัยเด็กๆ พ่อผม จะเป็นแบบนี้แหละ 3 - 5 ปี พอเบื่อ ก็เปลี่ยน ทั้งๆที่ รถวิ่งน้อยมาก หลักหมื่น ทั้งนั้น

พอมารุ่นพวกผม คันนึง ก็ 10 ปี บวกลบ คือ มองว่า ใช้มันจนคุ้ม ใช้มันหาเงินจนเกินค่าตัวที่หายไปแล้ว เลยไม่สนราคาขายต่อสักเท่าไหร่



marvel

ผมลองคิดคร่าวๆจากข้อมูลที่บอกมาในกระทู้นะครับ เอาเฉพาะค่าเสื่อมราคา + ค่าบำรุงรักษา ฯลฯ

กรณีแรก ใช้รถ 4 ปี ขาย
ค่าเสื่อมต่อปี = (3.49m-1.5m)/4 = 497,500 บาทต่อปี

กรณีที่สอง ใช้รถ 7 ปี ขาย
( 7 ปี กับ 8 ปี เลือก 7 ปี , ราคา 6 แสน กับ 7 แสน เลือก 6 แสน เพื่อให้ค่าเสื่อมต่อปี ดูเยอะขึ้น)
ค่าเสื่อมราคา + ค่าบำรุงรักษา = (3,490,000-600,000)
ค่ายาง 50,000
เช็คระยะปีที่ 6 กับ 7 20,000 + 20,000 = 40,000
สมมติค่าซ่อมปีละ 50,000 สองปีก็ 100,000 (หรือจะสมมติค่าซ่อมต่างจากนี้เพื่อลองคำนวณก็ได้ครับ)
รวม 3,080,000 / 7 ‎ = 440,000 บาทต่อปี

เป็นข้อมูลคร่าวๆประกอบการตัดสินใจครับ
ถ้าจะคิดละเอียดขึ้นก็อาจใส่ค่าต่างๆเพิ่ม (ซึ่งผมไม่รู้ข้อมูล เลยใส่แค่ประมาณนี้ก่อน)
ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับการให้น้ำหนักในเรื่องอื่นๆด้วย มาประกอบว่าจะเปลี่ยนรถเมื่อไหร่
ซึ่งแต่ละคนก็ให้น้ำหนักในเรื่องอื่นๆต่างกันไปครับ



thanawanch

โหหห คิดได้เป็นสูตรเลยครับ

รถคันนี้ของผม ราคาป้ายแดง 3.49 ครับ
ได้ส่วนลด 2.8 แสน ผ่อน 60 งวด ดอกเบี้ย 0%
ตั้งใจจะปิดจบที่งวดที่ 48 แล้วลองขายเองดูก่อนครับ
ราคาในใจที่รับได้คือ 1.8 - 1.5 ถ้าต่ำกว่า 1.5 คือไม่ขาย 100%
ยางรถยนต์ยังเป็นยางติดรถ ซึ่งถ้าต้องเปลี่ยน ตั้งใจจะใช้รุ่นเดิม P Zero 235/55 R19 ราคาชุดละ 50,000
ประกันชั้น 1 เบี้ยต่อปีอยู่ที่ 35,000 บาทครับ
ค่าบำรุงรักษา ฟรีถึงปีที่5 แต่ที่แน่ๆต้องมีเปลี่ยนแบตลูกเล็ก 12,000 บาท + ยางปัดน้ำฝน1600-2000บาท
ปีที่6เป็นต้นไปจ่ายเองทั้งหมด

คือประเด็นหลักๆที่คิดว่าจะเปลี่ยนตอนปีที่4 (ถ้าราคาได้) คือ กลัวว่าถ้าเก็บไว้ถึงปีที่ 7 จะมีเงินไม่พอดาวน์คันใหม่ครับ
ตั้งใจจะซื้อรถในช่วงราคา 3.5-3.9 เนี่ยแหละครับ
เจ้าคันนี้พ่อดาวน์ให้ แถมค่าผ่อนต่อเดือน ราวๆ 34,500 บาท ผมออก 20,000 ที่เหลือพ่อจ่าย แหะๆ
แต่พ่อประกาศแล้วว่า " พอ - กัน - ที " จะไม่ขอยุ่งเรื่องรถอีก เก็บตังค์เอง ดาวน์เอง ผ่อนเอง โตแล้ว  :'(

ถ้าขายตอนปีที่7 สมมติว่าได้ 1 ล้านถ้วนๆ ผมต้องเก็บเงิน เดือนละ 20,000 บาท = 240,000 บาท/ปี ต่อไปอีก 2 ปี (นับจากวันที่ผมผ่อนหมดงวดที่60)
เพื่อให้ได้เงินดาวน์ที่ 1,480,000 บาท
สำหรับดาวน์รถคันใหม่ที่ราคา 3.5 ล้านบาท แล้วผ่อน60งวด ที่งวดละประมาณ 34,000 บาท เท่ากับรถคันเดิม 
ยังไม่รวมค่าซ่อมจิปาถะที่อาจเกิดในช่วงปีที่6 และ 7


ถ้าขายตอนปีที่4 สมมติว่าได้ 1.5 ล้าน ก็สามารถเอาเงินนี้ไปดาวน์คันใหม่ได้เลย บวกกับพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง อาจเพิ่มดาวน์เพื่อให้ภาระต่อเดือนน้อยลงมาหน่อย
และปลอดภาระเรื่องค่าซ่อมบำรุง

คิดยังไงก็คิดไม่ตกครับ มันเหมือนกับว่า จะยกเอาเหตุไหนมาอ้างแล้วหาเหตุผลซัพพอตความต้องการของตัวเอง
ปมปัญหาก็ประการฉะนี้แล


ผมลองคิดคร่าวๆจากข้อมูลที่บอกมาในกระทู้นะครับ เอาเฉพาะค่าเสื่อมราคา + ค่าบำรุงรักษา ฯลฯ

กรณีแรก ใช้รถ 4 ปี ขาย
ค่าเสื่อมต่อปี = (3.49m-1.5m)/4 = 497,500 บาทต่อปี

กรณีที่สอง ใช้รถ 7 ปี ขาย
( 7 ปี กับ 8 ปี เลือก 7 ปี , ราคา 6 แสน กับ 7 แสน เลือก 6 แสน เพื่อให้ค่าเสื่อมต่อปี ดูเยอะขึ้น)
ค่าเสื่อมราคา + ค่าบำรุงรักษา = (3,490,000-600,000)
ค่ายาง 50,000
เช็คระยะปีที่ 6 กับ 7 20,000 + 20,000 = 40,000
สมมติค่าซ่อมปีละ 50,000 สองปีก็ 100,000 (หรือจะสมมติค่าซ่อมต่างจากนี้เพื่อลองคำนวณก็ได้ครับ)
รวม 3,080,000 / 7 ‎ = 440,000 บาทต่อปี

เป็นข้อมูลคร่าวๆประกอบการตัดสินใจครับ
ถ้าจะคิดละเอียดขึ้นก็อาจใส่ค่าต่างๆเพิ่ม (ซึ่งผมไม่รู้ข้อมูล เลยใส่แค่ประมาณนี้ก่อน)
ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับการให้น้ำหนักในเรื่องอื่นๆด้วย มาประกอบว่าจะเปลี่ยนรถเมื่อไหร่
ซึ่งแต่ละคนก็ให้น้ำหนักในเรื่องอื่นๆต่างกันไปครับ



CHANOM

Mazda 2 1.5 Diesel: 11/2016 - 04/2019

Honda HRV 1.8: 05/2019 - 11/2021

Subaru Forester SK: 12/2021 - 11/2023

Civic e-hev FE: 12/2023 - now

ส่วนตัวเปลี่ยนรถบ่อยเหมือนกันค่ะ แต่น่าจะเปลี่ยนเร็วไปหน่อย ทำให้ ยังไม่ถึงจุด ”คุ้ม“ ขนาดนั้น

คิดว่าจุดคุ้มจริงๆ น่าจะประมาณ 5-7 ปีค่ะ ^^

In My Garage
2007 MB C220 CDI W203
2021 Mazda CX3 Comfort
2023 Honda Civic E-Hev RS
2024 Toyota Corolla Cross E-Hev Premium Luxury



V221

โหหห คิดได้เป็นสูตรเลยครับ

รถคันนี้ของผม ราคาป้ายแดง 3.49 ครับ
ได้ส่วนลด 2.8 แสน ผ่อน 60 งวด ดอกเบี้ย 0%
ตั้งใจจะปิดจบที่งวดที่ 48 แล้วลองขายเองดูก่อนครับ
ราคาในใจที่รับได้คือ 1.8 - 1.5 ถ้าต่ำกว่า 1.5 คือไม่ขาย 100%
ยางรถยนต์ยังเป็นยางติดรถ ซึ่งถ้าต้องเปลี่ยน ตั้งใจจะใช้รุ่นเดิม P Zero 235/55 R19 ราคาชุดละ 50,000
ประกันชั้น 1 เบี้ยต่อปีอยู่ที่ 35,000 บาทครับ
ค่าบำรุงรักษา ฟรีถึงปีที่5 แต่ที่แน่ๆต้องมีเปลี่ยนแบตลูกเล็ก 12,000 บาท + ยางปัดน้ำฝน1600-2000บาท
ปีที่6เป็นต้นไปจ่ายเองทั้งหมด

คือประเด็นหลักๆที่คิดว่าจะเปลี่ยนตอนปีที่4 (ถ้าราคาได้) คือ กลัวว่าถ้าเก็บไว้ถึงปีที่ 7 จะมีเงินไม่พอดาวน์คันใหม่ครับ
ตั้งใจจะซื้อรถในช่วงราคา 3.5-3.9 เนี่ยแหละครับ
เจ้าคันนี้พ่อดาวน์ให้ แถมค่าผ่อนต่อเดือน ราวๆ 34,500 บาท ผมออก 20,000 ที่เหลือพ่อจ่าย แหะๆ
แต่พ่อประกาศแล้วว่า " พอ - กัน - ที " จะไม่ขอยุ่งเรื่องรถอีก เก็บตังค์เอง ดาวน์เอง ผ่อนเอง โตแล้ว  :'(

ถ้าขายตอนปีที่7 สมมติว่าได้ 1 ล้านถ้วนๆ ผมต้องเก็บเงิน เดือนละ 20,000 บาท = 240,000 บาท/ปี ต่อไปอีก 2 ปี (นับจากวันที่ผมผ่อนหมดงวดที่60)
เพื่อให้ได้เงินดาวน์ที่ 1,480,000 บาท
สำหรับดาวน์รถคันใหม่ที่ราคา 3.5 ล้านบาท แล้วผ่อน60งวด ที่งวดละประมาณ 34,000 บาท เท่ากับรถคันเดิม 
ยังไม่รวมค่าซ่อมจิปาถะที่อาจเกิดในช่วงปีที่6 และ 7


ถ้าขายตอนปีที่4 สมมติว่าได้ 1.5 ล้าน ก็สามารถเอาเงินนี้ไปดาวน์คันใหม่ได้เลย บวกกับพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง อาจเพิ่มดาวน์เพื่อให้ภาระต่อเดือนน้อยลงมาหน่อย
และปลอดภาระเรื่องค่าซ่อมบำรุง

คิดยังไงก็คิดไม่ตกครับ มันเหมือนกับว่า จะยกเอาเหตุไหนมาอ้างแล้วหาเหตุผลซัพพอตความต้องการของตัวเอง
ปมปัญหาก็ประการฉะนี้แล


ผมลองคิดคร่าวๆจากข้อมูลที่บอกมาในกระทู้นะครับ เอาเฉพาะค่าเสื่อมราคา + ค่าบำรุงรักษา ฯลฯ

กรณีแรก ใช้รถ 4 ปี ขาย
ค่าเสื่อมต่อปี = (3.49m-1.5m)/4 = 497,500 บาทต่อปี

กรณีที่สอง ใช้รถ 7 ปี ขาย
( 7 ปี กับ 8 ปี เลือก 7 ปี , ราคา 6 แสน กับ 7 แสน เลือก 6 แสน เพื่อให้ค่าเสื่อมต่อปี ดูเยอะขึ้น)
ค่าเสื่อมราคา + ค่าบำรุงรักษา = (3,490,000-600,000)
ค่ายาง 50,000
เช็คระยะปีที่ 6 กับ 7 20,000 + 20,000 = 40,000
สมมติค่าซ่อมปีละ 50,000 สองปีก็ 100,000 (หรือจะสมมติค่าซ่อมต่างจากนี้เพื่อลองคำนวณก็ได้ครับ)
รวม 3,080,000 / 7 ‎ = 440,000 บาทต่อปี

เป็นข้อมูลคร่าวๆประกอบการตัดสินใจครับ
ถ้าจะคิดละเอียดขึ้นก็อาจใส่ค่าต่างๆเพิ่ม (ซึ่งผมไม่รู้ข้อมูล เลยใส่แค่ประมาณนี้ก่อน)
ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับการให้น้ำหนักในเรื่องอื่นๆด้วย มาประกอบว่าจะเปลี่ยนรถเมื่อไหร่
ซึ่งแต่ละคนก็ให้น้ำหนักในเรื่องอื่นๆต่างกันไปครับ
น่าจะยากนะครับเพราะ Volvo XC60 modelนี้ออกมานานพอสมควรแล้ว เห็นลงขาย1.65ล้านบาท ไมล์หมื่นกว่าโล รถเดือน10ปี2021 ถ้ารอเวลาผ่านไปอีก ราคาคงลงไปเรื่อยๆ น่าจะเหลือไม่เกินล้านนิดๆสำหรับรถอายุ4ปี เก็บไว้ดีกว่าครับ
BMW 750E M SPORT



bobsan

“แต่คิดว่าถ้าเก็บไว้ถึงวันนั้น ราคาขายคงอยู่ที่ 6-7แสนไม่เกินนั้นแน่นอน“

“Volvo XC60 modelนี้ออกมานานพอสมควรแล้ว เห็นลงขาย1.65ล้านบาท ไมล์หมื่นกว่าโล รถเดือน10ปี2021 ถ้ารอเวลาผ่านไปอีก ราคาคงลงไปเรื่อยๆ น่าจะเหลือไม่เกินล้านนิดๆสำหรับรถอายุ4ปี เก็บไว้ดีกว่าครับ”

เก็บต่อไปไม่ต้องคิดมากและใช้ให้คุ้มครับ ถึงเวลาซ่อมหนักซ่อมใหญ่ไม่ต้องซ่อมครับเหลือไม่กี่แสนก็ช่างมันขายทิ้งเลย
ถ้าซ่อมจะติดกับดักครับ








Isomars

ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เหมือนติดกับดักยานพาหนะ เลยครับ รถที่บ้านใช้ 15 ปีขึ้นทุกคันครับ มากสุดคือ 23 ปี คนที่ซื้อไปก็ยังใช้อยู่ รถคันนั้น 32 ปี แล้ว ที่บ้านมองรถว่าเป็นยานพาหนะใช้งาน หลัง ๆ เลยซื้อแต่มือสองปีไม่ลึกมาก เน้นรถตลาดญี่ปุ่นรุ่นสูงหน่อย เช่น Camry CR-V Accord หรือยอมหน่อยก็ Harrier



Edwardsella

ส่วนตัวคิดว่ายิ่งใช้นาน นั่นคือยิ่งใช้คุ้มครับ ถ้าไม่ได้ถวิลหารถใหม่เพื่อตอบสนองความตั้งการส่วนตัว หรือเก่าจนหาซ่อมไม่ไหวจนเป็นภาระ ก็ยังใช้ต่อไป
สำหรับผมเมื่อผ่อนหมดแล้ว ก็ยังใช้วิธีกันเงินที่เคยผ่อนไว้เก็บต่อไป เผื่อเอามาเปลี่ยนใจเอารถมาขาย +ดาวน์คันใหม่ หรือเป็นเงินเผื่อต้องซ่อมรถ พอเห็นเงินมันเริ่มเยอะ รถยังไม่เสีย ก็ไม่อยากจ่ายกับรถใหม่ไปเอง
ยิ่งพอต้องจัดการค่ารถเอง ไม่เหมือนสมัยที่พ่อแม่ช่วย ยิ่งเสียดายตัง



Devil13

ผมเหนื่อยกับการทำงานครับ
เลยจะไม่อยากใช้เงินเยอะ
รถที่บ้านคันที่นานสุดคือ อายุ 30 ปี
แต่ละคันซื้อป้ายแดง และใช้ยาวๆแบบซ่อมถึง
แน่นอนว่าเป็นรถญี่ปุ่น ราคาไม่แพง ซ่อมก็ถูก

ใครอยากเปลี่ยนก็แล้วแต่สะดวก แล้วแต่ความชอบ
แต่ผมไม่ไหวครับ เหนื่อย....
คันที่ขับอยู่ตอนนี้ขับฟรีมา 2 ปีแล้ว
น่าจะใช้ไปอีกหลายปี เก็บเงินไว้กินตอนแก่ครับ



AgentMolder

ผมใช้ camry acv70 โฉมก่อน 5 ปีละ ไมล์ แสนสอง ปีนี้ ตอนแรกจะเปลี่ยนไป E class เปลี่ยนเพราะสนอง need เฉยๆ อยากได้รถใหม่ แต่ Camry ก็ดันขับดีมากๆๆๆ แสนโล 5 ปี ยังกะรถใหม่ ผมให้สภาพ 90% เลยด้วยซ้ำ เลยตัดใจขายไม่ลง แถมซื้อรถใหม่ ก็มีภาระค่าผ่อน ค่าประกันอีก เลยยกเลิกการซื้อรถใหม่ ใช้ Camry ไปก่อนครับ สบายใจ
2005 Toyota Vios 1st Gen
2012 Honda Civic FD
2018 Toyota Camry ACV70
2023 Toyota Yaris Cross
2024 Porsche 718 Cayman Style Edition



FyGI

ผมว่าคำตอบ จขกท อยู่ในย่อหน้าที่สอง

ใช้คันนี้ต่อไป เพราะยังรักมาก ถ้าวันไหนรถคันนี้ทำตัวไม่น่ารักแล้วค่อยขายครับ

เปลี่ยนรถใหม่ทุก 3-5 ปี ดีตรงที่ ได้ใช้เทคโนโลยีใหม่อยู่ตลอด
ไม่ต้องกังวลเรื่องการซ่อม เพราะอยู่ในการรับประกัน

ผมเห็น X3 G45 ใหม่ก็เกิดกิเลส อยากเอา G01 LCI ไปเปลี่ยน
ขายตอนนี้ก็ยับอยู่ ถ้าหมด BSI คงยับกว่านี้ แต่ก็ยังรักคันนี้ เป็นรถไม่กี่คันที่เห็นแว้บแรกคือใช่เลย
แต่พอได้คุยกับ ChatGPT แล้ว สรุปขอใช้ G01 ต่อไปจนกว่าจะหมด BRI ดีกว่าครับ



Kanarath

ถ้าอยากได้ของใหม่ ยังไงก็ไม่จบครับ
ตามกำลังทรัพย์อย่างเดียว
รถ 3.5ล
ใช้ไป 4ปี ขายไป 1.5ล

ซื้อคันใหม่ป้ายแดง
1.5ล ได้ญป
เพิ่ม 2ล ได้ ยุโรป ก็เข้า loop เดิม
ถ้า 4ปี ก็ตกปีละ 500,000

เสมือนคนงบ 1.5ล แล้วซื้อยุโรปมือสอง
ก็เตรียมงบซ่อม
แต่นี่รถเราเอง รู้สภาพ ก็ใช้ไปได้สบายใจกว่าอีกครับ
เรื่องซ่อมมันมีตามอายุและสภาพอยู่แล้วครับ
ซ่อมถึงจุดที่ซ่อมถี่ ซ่อมหนักหลักแสน ก็มาว่ากันเรื่องขายครับ
แต่ยังไงก็ไม่น่าจะเกินปีละ 500,000 เท่ากับการซื้อใหม่คร้บ



nmd

ขึ้นกับกำลังทรัพย์ล้วนๆ เลยครับ



XMSL

รถใช้น้อยยิ่งดูแลดี สภาพก็น่าจะยังขับดีอยู่นะครับ ส่วนตัวเป็นคนชอบขับรถนะ..แต่ให้นึกว่ารถใหม่มันจะมีอะไรให้เราได้ว้าวขนาดเปลี่ยนรถที่ยังใช้ดีอยู่ไปหา (ยกตัวอย่างเครื่องเสียง BW คันเดิมนี้) อันนี้ก็ยังนึกภาพไม่ออก เป็นผมจะเก็บตังค์ไว้รอจนเจอคันที่ใช่(กว่า)จริงๆค่อยคิดอีกทีครับ



helloweentz

ต้องดูทุนอีกที ดูจังหวะ ชีวิต  :-[
BRV 2016
Mileage :  173,583
รายการซ่อม :
เกียร์
แอร์
โช๊คหลัง
ลูกยางยึดท่อ
เพลาขับ



DiKiBoyZ

รถ 4-5 ปี เท่ากับ รถหมดประกันแล้วขาย?

วงจรนี้ ผมว่า น่าจะเป็นกลุ่มที่ใช้รถยุโรป ที่เขาทำกันนะครับ

เพราะคนธรรมดาทั่วไป 4-5 บางคนยังผ่อนไม่ไหมดเลย หรือ แบบว่า ผ่อนหมดพอดี แล้วขายเลย แบบนั้นเหรอ?

อายุรถ 4-5 ปี ผ่านไป ราคาหายไป 50% ต้องมี

ถ้าลงเงิน 2 ล้าน 4-5 หายไป 1 ล้าน สำหรับบางคน ที่มีกำลังทรัยพ์ อาจจะไม่เท่าไหร่

แต่ถ้าสำหรับคนทั่วไป เงินหายไป 1 ล้าน มันไม่น้อยนะครับ ขอใช้ประโยชน์จากรถต่ออีกสัก 5 ปี (รวมเป็น 10 ปี) ยังดีซะกว่า

รถอายุ 10 ปี มันไม่ได้เก่า หรือ ล้าหลังอะไรมากเลยนะครับ อาจจะแค่ 1 gen เท่านั้นละ

เก็บเงินไปทำอย่างอื่นเถอะครับ



spn

ไม่เคยเลยครับ
ปีก่อนคิดจะขาย march 2011 ไมล์ 400,000 ติดแก๊ส เพราะมันจุกจิก ตอนนี้ไมล์ 500,000 เปลี่ยนยาง % ซ่อมตามอาการ ประกันชั้น 1 ยังต่อได้ ค่าซ่อม รวมประกันแล้วจ่ายไม่เกินปีละ 50,000 ติดแก๊สประหยัด 1.5 บ/กม x 500,000 กม = 750,000 บาท ยกเครื่อง 2 รอบ + ติดแก๊สไม่เกิน  150,000 ก็ยังประหยัดไป 600,000 เหมือนได้รถฟรี
มีคนมาขอซื้อ 60,000 ยังไม่ขาย มันใช้ไปเรื่อยๆ

Camry HVP 50 ซื้อมือสอง 7 แสน ไมล์ 96,000 รถ 6 ปี ตามสภาพ ซ่อมใหญ่ (ช่วงล่าง เบรก แบตลูกเล็ก oxygen senser) รวมๆ ไม่เกิน 100,000 นอกนั้นไม่มีอะไรจุกจิก
ขายตอนนี้คงได้สัก 300,000 เปลี่ยนแบตลูกใหญ่ก็ยังคุ้ม เห็นคนรู้จักใช้ ตัว 40 ปี 2010 ยังอยู่ดีหลายคัน สบายใจไปเยอะ คงใช้ไปอีกยาว

พอมีช่วงที่ไม่ได้ผ่อนรถตลอด จะไป ตปท ซื้อหุ้นปันผลยาวๆ มันรู้สึกเบาใจกว่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 08, 2025, 18:20:55 โดย spn »
Revo 2.8 J B-cab 4x4
Kia Jumbo K2700 1JZ GE + LPG
Camry 2.5 HV Premium
E220d w213



EVA01

ผมกลับคิดอีกแบบนะครับ คือเล่นรถยุโรปมือสองอายุ 2-4 ปี พวกนี้ราคาหายไป 30-50% แล้ว  ใช้ไปอีก 4-5 ปี ค่อยขาย ก็ยังขาดทุนน้อยกว่าซื้อมือ 1 แล้วใช้ประมาณ 4-5 ปี ครับ