วันนี้ วันอาทิตน์ที่ 6 กพ เวลา 2.20 เกือบจะเป็นวันสุดท้ายของผม ผมกำลังขับรถกลับบ้าน อยู่เส้นบางนา ตราดขาเข้า เลนขวาสุด ประมาณ กมที่ 10
ที่ความเร็ว 120 กม ต่อ ชม
ทันใดนั้น แสงไฟหน้ารถแบบฮาโลเจน ก็ส่องเข้ามากระทบตาผม
อีก 1 วินาทีต่อมา หลังจากสมองผมได้ประมวลผลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็สรุปความได้ว่า
มีรถไม่ใช่ซีตี้ ตัวปัจจุบัน ก็ ซีวิคตัวปัจจุบัน ขับรถสวนเลน อยู่ในเลนขวาของผม !!!
ถ้าใครเคยวิ่งบางนา ตราด คงจะนึกภาพออกว่า พื้นที่ ระหว่างเลนขวาและ ขอบปูนนั้น มีขนาดแค่ให้มอเตอร์ไซ วิ่งได้เท่านั้นเอง
แปลว่า รถที่วิ่งสวนเลนคันนั้น กินเลนขวาผมมาทั้งเลน !!!
ทันใดนั้น ผมก็ ดริฟไฟ 3 ที ตามสัญชาตญาณ มองกระจกซ้าย และ เบนรถ ออกไปทางเลนกลาง อย่างทันท่วงที
เมื่อรถไม่เสียอาการจากการเปลี่ยนเลนแล้ว ผมก็บีบแตร ด่าพ่อล่อแม่มมันไปทีนึง ก่อนที่รถคันนั้นจะสวนผ่านรถของผมไป โดยเสมือนว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ไม่มีการเปิดไฟฉุกเฉิน กระพริบไฟ หรืออะไรทั้งสิ้น !!!
เหตุการณ์ทั้งหมด กินเวลาแค่ 2 วินาทีกว่าๆเท่านั้น หลังจากผ่านพ้นเหตุการณ์นั้นไป ในใจผมมีทั้ง อาการงงงวย อารมโกรธ ซึ่งอย่างแรกดูจะมากกว่า
ผมไม่เคยคาดคิดว่าจะมีรถยนต์คันไหน วิ่งสวนเลน อยู่ในเลนขวาของผม ในถนนบางนาตราด ซึ่งก็ไม่รู้ว่า รถคันนั้น มาอยู่ที่เลนขวาของผมได้อย่างไร
เข้ามาจากทางไหน ก็สุดจะคิด
ซึ่งไม่อาจทราบได้ว่า เกิดจากอาการมึนเมาเหล้า หรือ ยาเสพติดใดๆ อกหักรักคุ๊ด อยากตาย เพื่อนท้าให้ลองเพื่อนพิสูจน์ความกล้า หรืออะไรก็แล้วแต่
ถ้าอยากตายนัก ก็ ไปตายคนเดียวเถอะครับ อย่าทำให้ความประสงค์ของคุณ ต้องทำให้ผู้บริสุทธิบนท้องถนนคนอื่นๆ ต้องมารับความเสี่ยง และ
รับเคราะห์จากการกระทำบ้าๆของคุณอันนี้
ถ้าในวินาทีนั้น ผมหลบไม่ทัน หรือหลบแล้วรถเสียอาการ หรือ วินาทีนั้น มีรถอยู่ทางเลนด้านซ้ายของผม หรือเป็นช่วงที่ผมกำลังขึ้นคอสะพาน
ผมคงไม่ได้ว่านั่งพิมพ์เรื่องราว ให้เพื่อนๆในบอร์ดได้รับรู้หรอกครับ
จึงอยากจะยกเหตุการณนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจเพื่อนๆ ว่ามีพวกสติไม่ปกติ บ้า ปัญญาอ่อน เมายา อยากลากคนอื่นไปตายกับมันด้วย
ใช้ถนนร่วมกับเรามากมาย
ใครจะคิดว่ามีเหตุการณ์รถยนต์สวนเลน และอยู่เลนขวา ที่ถนนบางนาตราดเกิดขึ้นได้วะ
คิดว่า มันคงไม่อยู่รอดปลอดภัยไปถึงชลบุรีหรอกครับ คงโดนเสยเข้าชัวร์ และหวังว่า เพื่อนร่วมถนนที่ขับมาถูกต้องตามกม จะไม่ซวย
ขอให้มันไปบี้กับ สิบแปดล้อ สาธุ ถ้าใครทราบข่าวการตายของมันแล้ว มาโพสให้ผมรับทราบก็จะเป็นพระคุณอย่างสูง
เมื่อใดที่เท้าอยู่ที่คันเร่ง และ มืออยู่หลังพวงมาลัย จงมีสติ และอย่าได้ประมาทเด็ดขาดครับ