ผู้เขียน หัวข้อ: ขอสอบถามเกี่ยวกับแนวโน้มรถยนต์อีก 5 ปีข้างหน้าครับ  (อ่าน 7680 ครั้ง)

ออฟไลน์ tangaoi

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 19
กำลังมองรถใหม่อยู่ครับ แต่ช่วงนี้น้ำมันแพงเหลือเกิน
และอุตสาหกรรมรถยนต์กำลังมี trend เปลี่ยนจาก น้ำมันเป็น hybrid หรือ ไฟฟ้า ด้วย
ไม่แน่ใจว่าอีก 5 ปี พวก hybrid หรือ ไฟฟ้าจะถูกลงเยอะหรือเปล่าครับ

ถ้าถูกลงเยอะผมว่าจะซื้อพวก nissan march หรือ l02b ขับไปก่อนประหยัดน้ำมันดี
อีก 5 ปีค่อยเปลี่ยน  ;D

เพื่อนๆมีความเห็นว่ายังไงกันบ้างครับ

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
Re: ขอสอบถามเกี่ยวกับแนวโน้มรถยนต์อีก 5 ปีข้างหน้าครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2011, 18:00:40 »
สำหรับข้อมูลแนวโน้มตลาดรถไทยในอนาคต JIMMY เขียนไว้แล้วที่นี่ครับ
http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=2201:new-cars-in-thailand-2011-2014-2554-2557&catid=54:special-report&Itemid=55

ส่วนความเห็นส่วนตัวผม Hybrid จะมีส่วนร่วมในตลาดมากขึ้นโดยผู้เล่นหลัก
จะยังคงเป็น Honda กับ Toyota

ฝั่งยุโรป ดีเซลเทอร์โบมลภาวะต่ำจะเข้ามาเป็นตัวเล่นหลักในตลาดมากขึ้น
แต่ในหมู่รถระดับราคาล้านป้วนเปี้ยน ฝั่งญี่ปุ่นยังไม่เห็นความสนใจในด้าน
ดีเซล ดังนั้น Ford จะยังยืนนมตระหง่านในตลาดดีเซล C-Segment ได้ต่อไป

นี่คือสิ่งที่ผมเดา แต่สิ่งที่อยากให้เห็นคือการพัฒนาเอาเครื่อง 4 สูบเทอร์โบเบนซิน
มาใช้กับรถบ้านทั่วไปมากขึ้น แทนที่จะขยับขนาดความจุให้เยอะ ก็ลดความจุลง
เสริมแรงด้วยเทอร์โบกำลังอัดต่ำที่ปล่อยมลภาวะในขณะเดินเบาน้อยกว่าเครื่องโตๆ
- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ chakapun

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 28
    • อีเมล์
Re: ขอสอบถามเกี่ยวกับแนวโน้มรถยนต์อีก 5 ปีข้างหน้าครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2011, 18:20:25 »
ผมว่าเรื่องอนาคตของรถยนต์เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน(จริงๆอนาคตก็ไม่แน่นนอนทุกเรื่อง)
อย่างสมัยก่อนเคยมีเรื่อง fuel cell ขึ้นมาหรือ รถยนต์ใช้ Hydrogen สันดาปเลย และอื่นๆอีกมากมาย
มันคงจะเป็นไปได้ในอนาคตถ้าน้ำมันแพงขึ้นจนคำนวณแล้วพลังงานทดแทนอย่างอื่นมันคุ้มกว่าแต่ในอนาคตอันใกล้นี้(5 ปี)
ผมคิดว่ายังไงน้ำมันก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดแต่อาจจะถูกลดอัตราส่วนลงเป็น E85 หรือ E หรือ B อะไรก็แล้วแต่

สำหรับรถ HYBRID ผมคิดว่าในอนาคตไม่น่าจะถูกลงกว่านี้เพราะตอนนี้ที่ Toyota เอามาขายก็ประกอบในประเทศแล้ว
ซึ่งเป็นการลดต้นทุนที่สุดแล้ว ถ้าจะลดกว่านี้ก็ต้องหั่น option ออกไปเหมือน Altis  
และอีกอย่างที่ทำให้ราคาลดลงได้คือ ลดภาษีรถยนต์ประเภทนี้ลง(น่าจะยาก)

ผมจึงคิดว่าถ้าอยากซื้อรถ HYBRID ตอนนี้ก็เหมาะแล้ว
เพราะ prius นั้นมีมาหลาย Gen แล้วน่าจะมีการแก้ไขข้อบกพร่องเรียบร้อยแล้ว
แต่ถ้าไม่สนใจเทคโนโลยีพวกนี้ ผมคิดว่า เทอร์โบดีเซล น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะที่สุดเพราะมีข้อดีเยอะมาก
(ยกเว้นน้ำมันดีเซลประเทศไทย อันนี้ไม่มั่นใจ)
แต่ผมเห็นด้วยกับ commander cheng กับเทอร์โบเบนซิน+ความจุน้อยๆ น่าสนใจมาก
แต่กับรถญี่ปุ่นคงเป็นไปได้ยากอยู่เพราะพื้นฐานเครื่องมันไม่เหมือนกับ Mercedes ที่ใส่เทอร์โบไปมันก็รับไหว
ถ้าจะทำจริงๆก็คงต้องรื้อพื้นฐานเครื่องมาออกแบบใหม่ซึ่งต้นทุนสูงมากแน่ๆ ญี่ปุ่นเค้าคงไม่เอา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 14, 2011, 18:23:18 โดย chakapun »
ใครสนใจเล่นหุ้นลองเข้ามาอ่านใน Blog ของผมนะครับ
          http://chakapun.blogspot.com/

ออฟไลน์ prai

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,154
Re: ขอสอบถามเกี่ยวกับแนวโน้มรถยนต์อีก 5 ปีข้างหน้าครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2011, 19:44:50 »
เทคโนโลยีถูกลงตามกาลเวลาครับ
เมื่อมีผู้เล่นมากราย ลูกค้ามีสิทธิ์เลือก สินค้านั้นก็จะถูกลงครับ
อันนี้คือหลักเศษรฐกิจง่ายๆ เลยครับ

แต่ส่วนตัวคาดว่าอีก 5 ปีไม่น่าจะถูกมากนัก
ถ้าอีกเท่านึงของ 5 ปีมีสิทธิ์ถูกลงมากครับ

ออฟไลน์ tangaoi

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 19
Re: ขอสอบถามเกี่ยวกับแนวโน้มรถยนต์อีก 5 ปีข้างหน้าครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2011, 20:00:41 »
ตัว nissan L02B น่าสนใจมั้ยครับ เห็นสวยดี

คิดว่า ราคามันจะสูงกว่า march เยอะมั้ยครับ

ออฟไลน์ Valkilrey

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 646
    • อีเมล์
Re: ขอสอบถามเกี่ยวกับแนวโน้มรถยนต์อีก 5 ปีข้างหน้าครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2011, 21:01:31 »
เทอร์โบเบนซิน cc น้อย ใกล้จะมีให้เห็นแล้วนี่ครับ กับ Focus ประกอบในไทย แว่วๆข่าววงในมาว่าจะเป็น 1.6 Ecoboost 150 ม้า

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
Re: ขอสอบถามเกี่ยวกับแนวโน้มรถยนต์อีก 5 ปีข้างหน้าครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2011, 23:41:46 »
Focus มีเครื่อง Ecoboost ที่น่าสนใจ รวมถึงตัวดีเซล ที่คราวนี้มีม้า 161 ตัวในสเป็คอังกฤษ
ผมว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากเมื่อเราดูการพัฒนาของเครื่องเทอร์โบปี 1990 และเทอร์โบในปี 2010
ลองดูอย่าง C-Class W204 เป็นตัวอย่างได้ระหว่าง C230 7AT กับ C250CGI 5AT
นี่เป็นตัวอย่างที่ชัดที่สุดแล้วเพราะตัวรถเหมือนกัน ต่างกันที่ขุมพลังและระบบขับเคลื่อน
มันพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าด้วยพลังเทอร์โบ เราไม่เสียตีนต้น ไม่เสียอัตราเร่งแซง ไม่ได้สิ้นเปลือง
น้ำมันขึ้น

เพียงแต่มันไม่มีเสียงหวานๆของ 6 สูบเท่านั้น ซึ่งในอนาคตที่น้ำมันใกล้หมดโลกและ
เทคโนโลยี fuel cell ราคาถูกยังมาไม่ถึง เราก็ต้องยอมสละบางสิ่งที่เราเคยหลงใหลไปบ้าง
ถ้ายังคิดจะซิ่งด้วยน้ำมันต่อไปบนโลกใบนี้

ฉะนั้น ถ้า Ford คิดจะนำ Ecoboost มาขายในไทย ใครจะด่าก็ช่าง ผมจะขอยกนิ้วโป้งเยี่ยม
ให้ก่อนลองขับเสียอีก
- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ BOYGOOD

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 33
    • อีเมล์
Re: ขอสอบถามเกี่ยวกับแนวโน้มรถยนต์อีก 5 ปีข้างหน้าครับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2011, 00:26:12 »
     
            ผมเห็นด้วยกับทุกท่านนะ ขอเสริมว่า โตโยต้ามีข่าวว่าในอนาคตจะมี เครื่องเบนซิน เทอร์โบ
 
            ด้วยนะครับ ถ้าจริงค่ายญี่ปุน อื่นๆ อาจตามกระแส  ส่วนตัวผมมองว่าเครื่องเทอร์โบ ไม่ว่าจะเบนซิน
     
            ดีเซล ต้นทุนยังสูงอยู่ เเต่ถ้าผลิตจำนวนมากๆๆ จนถึงจุดคุ้มทุนได้ ผมว่าคนไทยได้ใช้แน่ แต่อีกกี่ปี

            ไม่รู้เหมือนกัน  แต่ขอลุ้น FORD ก่อนดีกว่า ^^

ออฟไลน์ chakapun

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 28
    • อีเมล์
Re: ขอสอบถามเกี่ยวกับแนวโน้มรถยนต์อีก 5 ปีข้างหน้าครับ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2011, 09:43:24 »
EcoBoost มาจริงก็น่าสนใจมากกก
 ถ้า Ford ปรับปรุงบริการหลังการขายให้ดีกว่านี้
และเพิ่มจำนวนศูนย์บริการให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ได้
ถึงแม้จะใช้เงินลงทุนเยอะก็ตาม แต่ผมว่าผลตอบรับน่าจะคุ้มมาก

ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ผมจะถอย Focus มาขับแน่ๆ  ;D
ใครสนใจเล่นหุ้นลองเข้ามาอ่านใน Blog ของผมนะครับ
          http://chakapun.blogspot.com/

ออฟไลน์ novic

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 112
    • อีเมล์
Re: ขอสอบถามเกี่ยวกับแนวโน้มรถยนต์อีก 5 ปีข้างหน้าครับ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2011, 12:10:05 »
ford ไม่ต้องคิดไรมากเลยมุ่งเน้นเครื่อง ดีเซล2.0 ในเครือลงทั้ง new focus  mondeo  Kuga + C-Max
แค่นี้ก็สุดทางแล้ว อีก5ปีหลังก็ ดีเซล + ไฮบริด ขอซัก 50km/l  ; :D