Eco Car

Naow27

Eco Car
« เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2009, 11:41:18 »
ผมอยากทราบว่าโครงการEco Carนั้น จะเริ่มขายเมื่อไรครับ
My Facebook: http://www.facebook.com/naow27
My twitter: http://www.twitter.com/Naow27
The New Generetion of Automobile Car ! http://www.carside.in.th



J!MMY

Re: Eco Car
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2009, 11:48:42 »
มีนาคม 2010 เป็นต้นไป ครับ



HOMY_DEMIO

Re: Eco Car
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2009, 11:56:12 »
มีนาคม ปีหน้า
เจอกับน้องมีนาคมครับ



P_Wut

Re: Eco Car
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2009, 12:42:34 »
ตามข้อกำหนดของโครงการ ที่รัฐตั้งไว้
ต้องออกขายหลัง 1 ต.ค. 52 (จึงจะใช้พิกัดภาษี 17% ได้)

แต่สุดท้ายแล้ว ก็ไม่มีรถรุ่นไหน เปิดตัวได้เร็วกว่านั้น
รุ่นแรกก็ New Nissan March มี.ค. 53



wahahaman

Re: Eco Car
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2009, 13:17:53 »
แล้วมันจะประหยัดได้ถึง 20 กม./ลิตรจริงรึปล่าวครับ ไอ้ March เนี่ย



P_Wut

Re: Eco Car
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2009, 15:38:49 »
แล้วมันจะประหยัดได้ถึง 20 กม./ลิตรจริงรึปล่าวครับ ไอ้ March เนี่ย

ขอโทษนะ

Civic Dimension โฉมแรก ผมเคยเห็นโฆษณาที่ Honda เอามาอ้างไว้ว่า
" ประหยัดน้ำมัน 24 กม/ลิตร ที่ความเร็วระดับ 60 กม/ชม ทดสอบที่สนามทดสอบ... ประเทศญี่ปุ่น "

รุ่นนั้น เครื่อง 1.7 VTEC นะครับ  March เครื่องแค่ 1200cc 3 สูบเอง  ได้แหงๆ



AnubisTT

Re: Eco Car
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2009, 16:35:19 »
เมื่อวานเห็น Toyota Aygo สีขาวที่นครปฐมด้วยแหละ  ;D ;D



wahahaman

Re: Eco Car
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2009, 17:23:02 »

[/quote]

ขอโทษนะ

Civic Dimension โฉมแรก ผมเคยเห็นโฆษณาที่ Honda เอามาอ้างไว้ว่า
" ประหยัดน้ำมัน 24 กม/ลิตร ที่ความเร็วระดับ 60 กม/ชม ทดสอบที่สนามทดสอบ... ประเทศญี่ปุ่น "

รุ่นนั้น เครื่อง 1.7 VTEC นะครับ  March เครื่องแค่ 1200cc 3 สูบเอง  ได้แหงๆ
[/quote]

ประหยัดแบบมีข้อแม้นี่เอง แล้วถ้าใช้งานทั่วไปจริงๆจะประหยัดได้ประมาณเท่าไหร่ครับ




P_Wut

Re: Eco Car
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2009, 17:37:07 »

ประหยัดแบบมีข้อแม้นี่เอง แล้วถ้าใช้งานทั่วไปจริงๆ จะประหยัดได้ประมาณเท่าไหร่ครับ


ที่จริงแล้ว เหตุผลหลัก มันไม่ได้อยู่ที่ ใครกินมาก กินน้อยกว่า แต่มันอยู่ที่ วิธีการทดสอบน่ะครับ
ที่รัฐบาลประกาศไว้ว่า ต้องประหยัด 20 กม/ลิตร ขึ้นไป ไม่รู้ว่า ระบุมาตรฐานการวัดประกบไว้ด้วยหรือเปล่า เช่น
- ขับความเร็วคงที่ 60 หรือ 80 หรือ 90 หรือ 100 กม/ชม ??
- ขับในเมือง (ซึ่งไม่มีมาตรฐานที่แน่นอนในการวัดเลย เห็นในญี่ปุ่น มีการใช้คำว่า มาตรฐาน 10-15 ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่า รายละเอียดมันเป็นยังไง ??)
- แล้ววัดด้วยการใช้เชื้อเพลิงแบบไหน เบนซิน 91 / โซฮอล 91 หรือจะให้วัดด้วย E20 ??

ถ้าให้เดาไปก่อน ผมว่า น่าจะประหยัดกว่า Vios / City / Jazz / Yaris ปัจจุบัน แต่ไม่มากนักครับ



OrNaI

Re: Eco Car
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2009, 18:21:52 »
เรื่องมาตรฐารการวัดมลพิษ กับ การวัดอัตราประหยัดน้ำมันนั้น ขึ้นอยู่กับประเทศนั้นๆจะเหมาะที่สุดครับ
เพราะแต่ละประเทศ องค์ประกอบจะไม่เหมือนกันแตกต่างกันออกไป

ยกตัวอย่างที่อเมริกา 

รัฐแคลิฟอร์เนีย  ก็จะมีแพทเทิร์นในการวิ่งแบบนึง
ที่  นิวยอร์ก        ก็จะมีวิ่งอีกแบบโดยจะเน้นรูปแบบการวิ่งในเมืองเป็นหลักไม่เน้นความเร็วสูง

ส่วนยุโรป  ก็จะ ตามรูปแบบของทางเค้า

ส่วนพี่ไทย เรา นั้น ไปลอกเค้ามา ผมว่าเหมือนไม่ได้คิดอะไรเลย

เพราะ มันอาจจะดีกับทางยุโรป แต่ถ้ามันไม่สอดคล้องกับรูปแบบการใช้รถของเรา

หรือไม่กำหนดชัดๆอย่าง ที่ พี่วุฒ บอก อย่างนี้ก็สบายคนผลิตครับ เสกตัวเลขได้สบายๆมาก

ไม่มีมาตรฐาน ตายตัว สุดท้าย เป็นแค่ตัวเลข เอาไว้ โม้ กับ เพิ่มยอดขายครับ



Re: Eco Car
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2009, 20:30:26 »
อีกไม่ถึง1ปีได้เห็นeco carแล้ว



รอNANO

Re: Eco Car
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: พฤษภาคม 27, 2009, 18:31:43 »
หยอดกระปุกรออยู่ครับ.



Cool Runner

Re: Eco Car
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: พฤษภาคม 28, 2009, 08:27:06 »
Nissan March มาก่อนแล้วเจ้าอื่นที่เหลือล่ะครับ
ทั้ง Suzuki, Tata, Honda, Mitsu จะทันปีหน้าหรือเปล่า



HOMY_DEMIO

Re: Eco Car
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: พฤษภาคม 28, 2009, 08:42:56 »
Nissan March มาก่อนแล้วเจ้าอื่นที่เหลือล่ะครับ
ทั้ง Suzuki, Tata, Honda, Mitsu จะทันปีหน้าหรือเปล่า

ไม่ทันครับ
และไม่รู้ว่าจะได้ขายในปี 2012 ด้วยหรือเปล่าเลยสำหรับ Suzuki หรือแม้แต่ Honda



P_Wut

Re: Eco Car
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: พฤษภาคม 28, 2009, 09:11:00 »
Nissan March มาก่อนแล้วเจ้าอื่นที่เหลือล่ะครับ
ทั้ง Suzuki, Tata, Honda, Mitsu จะทันปีหน้าหรือเปล่า

ไม่ทันครับ
และไม่รู้ว่าจะได้ขายในปี 2012 ด้วยหรือเปล่าเลยสำหรับ Suzuki หรือแม้แต่ Honda

ภาวะเศรษฐกิจโลกเป็นแบบนี้ แผนการณ์อะไรทุกอย่าง ก็ต้องรีวิวใหม่หมดล่ะ

กรณี Nissan เค้าคงเดินหน้ามาไกลมาก จะหยุดก็ใช่ที่ แล้วก็มองมุมกลับว่า ถือเป็นโอกาสทอง
โอกาสที่ เจ้าอื่นๆ ที่เริ่มช้ากว่า ลังเล ขอดูสถานการณ์ เลื่อนแผนออกไปก่อน
คู่แข่ง/คู่ชน เลยหายไปโดยปริยาย  แต่ไปต่อสู้กับ สภาวะแวดล้อม/ปัจจัยอื่นๆ แทน