เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวันเสาร์ 26 กุมภา นี้เองผมจัดงานเลี้ยงแต่งงานขอบคุณเพื่อนๆที่ทำงาน ถ่ายรูปไว้เพียบเลย วันถัดมา (เมื่อวานนี้เอง) ก็พากันไปกินเลี้ยงแผนกเสร็จตอนบ่ายโมง ก็ชวนพี่ที่โรงงานกันไปเที่ยวกัน 4 คน ผม แฟน พี่+แฟนพี่ ไปสวนเสือศรีราชาเพราะแฟนพี่เค้าอยากเที่ยวก่อนกลับไปทำงานที่อุบลมาเดือนล่ะครั้ง หลังจากซื้อตั๋วเสร็จก็เข้าห้องน้ำแต่ด้วยอารามรีบร้อนก็เลยลืมกล้องทิ้งไว้ในห้องน้ำ ผมล่ะวิ่งตามหาวุ่นเลย ก็เลยไปแจ้งเจ้าหน้าที่ของทางสวนเสือ เค้าบริการดีมากเลยประกาศทางลำโพงให้ด้วย แล้วแฟนผมก็มาบอกว่าเห็นนักท่องเที่ยวคนนึงถือกล้องคล้ายของผมออกมาจากห้องน้ำ หันซ้ายหันขวาแล้วเก็บเข้ากระเป๋าตัวเองเลย ก็เลยไปคุยกับไกด์ที่ดูแลทัวร์นี้อยู่ เป็นกร๊ปทัวร์จากเวียตนามชี้ว่าคนนี้เอากล้องผมไป ขอดูหน่อย ป้าแกนิสัยแย่มากมายเลย พาเราไปดูกล้องของคนอื่น 3 - 4 คนที่ไม่ใช่คนที่เราชี้ตัว แล้วก็ไล่เราไป บอกว่าคนอื่นมั้ง ผมก็ไม่ยอม จะขอยดูกระเป๋าของคนที่แฟนผมเห็นว่าเอากล้องผมไป ป้าแกก็บอกว่าไม่ใช่คนนี้หรอก เค้าไม่ใช่คนเวียตนามเป็นคนออสเตรเลีย คนออสเตรเลียไม่ทำอย่างนี้หรอก เถียงกันตั้งนาน ผมก็ไม่ยอมเพราะผมก็มีเชื้อสายวียตนามแต่พูดภาษาเวียตนามไม่เป็นหรอก แล้วก็คนออสซี่ไม่มีคนเลวหรือไง เราก็ไม่ได้กล่าวหาว่าเค้าเอาไป แค่ถามว่าเห็นกล้องของเราหรือเปล่า ป้าแกก็โวยวายใหญ่ว่าจะมาไม่สุภาพกับคนที่แกดูแลไม่ได้ แล้วก็เค้าเป็นคนออสซี่รู้ดีว่าอันไหนดีไม่ดี เรื่องอย่างนี้คนออสซี่ไม่ทำหรอก ผมก็เลยไปคุยกับเจ้าหน้าที่สวนเสือว่าเจอคนที่สงสัยว่าเอากล้องผมไปแล้วแต่ไกด์เค้าไม่ให้ความร่วมมือ เจ้าหน้าที่เค้าก็ไปคุยกับป้านิสัยแย่คนนั้น โดนป้าเค้าด่าซะเละเลย น่าสงสารน้องเค้ามากเหมือนจะร้องให้ แต่ก็พยายามต่อไปเพราะแฟนผมบอกว่าในกล้องมีแต่รูปแต่งงาน แต่ป้าเค้าไม่กล้าพูดกล้ามองหน้าผมน๊ะ มีไกด์อีกคนเป็นผู้ชาย จะเข้ามาพูดด้วย โดนผมจ้องหน้าเอาเรื่อง ก็เลยถอยฉากไป ให้ป้าแย่คุยคนเดียวถ้าเป็นผู้ชายผมคงซัดไปแล้ว ผมก็ตัดบทว่าเอาอย่างนี้แล้วกัน เดี๋ยวคุยกันกับตำรวจ ถ้ากล้องนั่นไมใช่ของผม ผมยินดีและเต็มใจที่จะขอโทษ ป้าแย่ก็เลยไปถามคนนี้นว่าเห็นกล้องในห้องน้ำมั๊ย เค้าก็หยิบกล้องออกมา ปรากฏว่าเป็นของผมจริงๆ รูปในกล้องมีแต่รูปแต่งงาน แต่เค้าก็บอกว่าเก็บได้ในห้องน้ำไม่รู้ของใครกะว่าจะเอาไปฝากไว้ที่ด้านหน้า แต่ป้าแย่ยังด้านอยู่ ไปด่าเจ้าหน้าที่สวนเสืออีกว่าทำยังงี้ได้ไงปล่อยให้คนอื่นจะมาค้นของๆลูกค้าเค้าได้ไง ผมจะเอาเรื่องป้าล่ะ แต่แฟนผมดึงไว้ว่าเรามาเที่ยวกันน๊ะ แล้วกล้องก็ได้คืนแล้ว ผมก็เลยบอกว่าแล้วกันไปก็แล้วกัน น้องเค้าเพียงทำตามหน้าที่ ป้าแย่เค้าก็เลยเดินออกไปอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขอบคุณน้องคนนั้นมากจริงๆลืมถามชื่อ พี่หนุ่ยแล้วแล้วก็พี่เอแฟนเค้าด้วย ไม่งั้นก็คงจะไม่ได้กล้องคืนแน่เลย จากนั้นก็ไปเที่ยวดูภายในสวนเสือ
สรุป
เจ้าหน้าที่สวนเสือ ให้บริการดีมาก มีน้ำใจสูงมาก
ป้าแย่ เป็นคนไทยแท้ๆ กลับไม่ให้เกียรติเราคนไทยด้วยกัน ออสซี่ไม่มีคนเลวรึไงว่ะ ที่นี่เมืองไทย และคนไทยถูกกระทำเพิ่งเคยเห็นคนหน้าด้านสุดๆ คนเวียตนามล่ะค้นให้เรา แต่ออสซี่ที่เราชี้ตัวไม่ค้น
ออสซี่ ไม่ได้คิดต่อว่าอะไรเค้าเลย เค้าอาจจะเอาไปคืนเจ้าหน้าที่จริงๆก็ได้ ถึงรูปการณ์จะไม่ให้ก็ตาม รึเป็นเพียงปุถุชนธรรมดาที่เกิดความโลภขึ้นมาเป็นปกติ แต่ออสซี่ไรว่ะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้
สวนเสือ ทำไมไม่เห็น รปภ รึตำรวจเลยล่ะ พอเกิดเรื่องก็ไปหนักกับลูกค้า(ในที่นี้คือผมเอง) แล้วก็เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ซึ่งถ้าเค้ายืนยันไมได้เอาไปก็ต้องแจ้งความกับตำรวจข้างนอกซึ่งต้องใช้เวลานาน และก็อาจไม่ทันท่วงที
ผมซึ้งน้ำใจน้องเค้ามากมายเลยไม่ว่าจะโดนด่ายังไงก็ไม่ล่ะความพยายามทีจะเจรจาให้ได้มีติดใจเรื่องป้าแย่อยู่บ้างแต่ก็ไม่มากเท่ากับซึ้งน้ำใจหรอกครับ เพราะผมมักจะเลยจำสิ่งที่ดีๆมากกว่าสิ่งแย่ๆ สิ่งแย่ๆเป็นเพียงเครื่องเตือนสติกับบทเรียนเท่านั้น
ป.ล. เพื่อนคนไหนที่ไปเที่ยวไกลๆ ก็ระมัดระวังทรัพย์สินส่วนตัวกันหน่อยน๊ะครับ ปกติผมจะไม่ลืมแต่ครั้งนี้ไปโดยไม่ได้นัดหมาย ข้าวของเลยเยอะ พะรุงพะรังเลยดูแลไม่ทั่วถึง เกือบงานกร่อยซะแล้ว
