ก็ให้มาสร้างเลย หน้าบ้านผมก็ได้ ไม่กลัวหรอก เพราะโอกาสเกิดอะไรแบบนั้นมันน้อย คาดว่านี่เป็นแค่โรงที่ 2 โลกที่เสียหาย
แต่ที่ฟูกูชิม่า ยังไม่ถึงขนาดเชอโนบิล ด้วยซ้ำ มันเป็นรังสีระดับต่ำด้วย แต่เพื่อความปลอดภัยเค้าก็ไม่ให้คนกิน
ลองดูในข่าวก็ได้รังสีที่กระจายออกมา ยังไม่เท่ากับที่คนเรานั่งเครื่องบินแล้วได้รับรังสีจากธรรมชาติด้วยซ้ำ
นั่งเครื่องบินได้รับรังสีเท่าไหร่ผมก็ไม่ทราบนะครับ
แต่ข่าวตอนเย็นๆ ก็มีการประกาศเขตห้ามบินเหนือพื้นที่เกิดเหตุแล้ว เพราะระดับกัมมันตรังสีสูงมาก
การรั่วไหลของกัมมันตภาพรังสีขึ้นไปพีกที่ราวๆ8,000ไมโครซีเวิร์ตเมื่อช่วงบ่ายๆ เกินมาตรฐานIAEAไปแล้ว
และมีข่าวล่าสุดที่ระบุว่ารังสีอาจจะพุ่งไปถึง400มิลลิซีเวิร์ต(400,000ไมโครซีเวิร์ต)
และแม้ต่อมาทางรัฐบาลญี่ปุ่นจะแถลงเพิ่มเติมว่าการแผ่รังสีลดระดับลงแล้ว แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ส่งผลต่อสุขภาพมนุษย์ได้อยู่
ผู้คนในประเทศญี่ปุ่นตอนนี้ก็หนีตายออกจากโตเกียวกันแล้ว เพราะไม่มีใครมั่นใจกับสิ่งที่ประสบด้วยตัวเอง
พูดง่ายๆก็คือเริ่มตื่นตระหนก และมีบางส่วนสงสัยในขีดความสามารถในการรับมือปัญหาของรัฐบาล
เคสที่ญี่ปุ่นนี้รุนแรงในเรตติ้งระดับ4 เป็นเคสใหญ่ๆเคสที่3ที่เคยเกิดขึ้นบนโลกครับ ก่อนหน้านี้คือที่เชอร์โนบิล(ระดับ7) และที่เกาะทรีไมล์,อเมริกา(ระดับ5)
พูดง่ายๆก็คือสถานการณ์ในญี่ปุ่นร้ายแรงพอที่จะทำให้รัฐบาลทั่วโลกต้องทบทวนนโยบายพลังงานของตนเอง
ชาติที่เจริญแล้วอย่างเยอรมันยังต้องปรับแผนการใช้งานโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่มีอยู่ในประเทศ
สวิตเซอร์แลนด์สั่งระงับโครงการไปแล้ว และยังมีอีกหลายประเทศที่ชะลอการดำเนินการไป
ที่จะยังคงยืนกรานเดินหน้าต่อ เห็นจะมีแต่ในกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออกเท่านั้น
และเหตุผลหลักๆก็ค่อนข้างจะอิงการเมืองอยู่มาก นั่นคือประเทศอดีตสหภาพโซเวียตกล่มนี้ไม่ต้องการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียมากจนเกินไป
เหตุการณ์ที่ไล่ตั้งแต่แผ่นดินไหวที่นิวซีแลนด์ จีน และลามมาจนเป็นนิวเคลียร์นามิ(นุ๊ก+สึนามิ)ล่าสุดนี้
แน่นอนครับ มันเป็นเหตุการณ์ที่แทบจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และไม่มีใครคาดคิดว่าสักวันหนึ่งมันจะมา..
ภัยธรรมชาติในยุคสมัยช่วงชีวิตของพวกเรา มันเกินกว่าการพยากรณ์หรือหลักสถิติใดๆจะคาดเการณ์ไว้ได้แล้วครับ
ทั่วโลกเค้าเต้นกันขนาดนี้แล้ว คุณยังจะอยากให้มาสร้างหน้าบ้านคุณอยู่อีกเหรอครับ?
อยากให้ลองทบทวนดูดีๆนะครับ
.-_-.