ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อคืนผมโดนรถมอเตอร์ไซค์เมาชน ควรทำยังไงบ้างครับ  (อ่าน 20349 ครั้ง)

ออฟไลน์ Satanic za'

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,073
สวัสดีครับ ตอนนี้ผมนอนอยู่ที่ รพ ครับ แต่ไม่เป็นอะไรมากครับ

เมื่อคืนนี้ช่วง๓ทุ่ม กินข้ามเสร็จกำลังข้ามถนนกลับหอพัก ถนนเป็นถนน๔เลน ไม่มีเกาะกลาง ถนนค่อนข้างโล่ง ตอนที่ผมข้ามไป
ผมก็ได้ไปยืนอยู่ที่เส้นแบ่งเลน แล้วมีมอเตอร์ไซคันนึงขับมาเร็วเหมือนกัน ผมก็เลยยังไม่่่่่ข้้้าม
จากนั้น มอเตอไซคันนั้น จากที่มันขับอยุ่เลนซ้าย มันก็ส่ายไปส่ายมา แล้วก็ขับพุ่งเข้ามาชนผมที่เส้นแบ่งเลนแถวๆเลนขวา
จากยนั้นผมสลบไปไม่รู้เรื่องเลยครับ

เห็นแฟนผมบอกว่าอาการเหมือนคนเมา ชนเสดรถล้มพยายามจะหนี คนแถวนั้นมาช่วยจับตัวกันไว้
ผมก็นั่งรถมูลนิธิมา รพ เอกชล๒ แฟนผมจดป้ายทะเบียนมาแล้วครับ

วันนี้ก็จะออกจาก รพ ละครับ แสกนสมองแล้วปกติดี บาดเจ็บไม่มาก
 ค่าใช้จ่ายเกือบ๔หมื่น ประกัน aia จ่าย แต่ยังไม่ทราบว่าเต็มจำนวนไหม

อยากถามพี่ๆหน่อยครับว่า ผมควรทำอะไร ยังไงต่อดีอะคับ

ปล ช่วงนี้ พี่ๆน้องๆระวังกันด้วยนะครับ เมากันทุกหัวระแหงจริงๆ

methus zaa

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าจำทะเบียนไม่ได้ หรือแฟนพี่ไม่ได้จดทะเบียนคู่กรณีไว้ ก็ต้องถือว่าฟาดเคราะห์แล้วล่ะครับ เพราะตำรวจจะทำเรื่องนานเลยครับ

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,041
มันยังโดนจับอยู่ใช่ไหมครับ เล่นงานมันทุกวิถีทางให้ได้

methus zaa

  • บุคคลทั่วไป
อ้าว กรรม อ่านไม่หมด ถ้าเค้าโดนจับไว้อย่างนี้ ก็เล่นงานให้ถึงที่สุดครับ

ออฟไลน์ 007

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 127
  • ชีวิตติดน้อง2
    • อีเมล์
หายเร็ว ๆ ครับ จัดการตัวคนที่ชนให้หนัก ๆ เลยครับ

ออฟไลน์ Satanic za'

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,073
ขอบคุณทุกท่านมากครับ

เดี๋ยวรอดูอีกทีครับ ว่าเมาหรือเปล่า

ถ้าไม่เมาก็คงไม่เอาเรื่องครับ

ออฟไลน์ YIM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,015
  • ไม่น่ารัก เราไม่มอง!!
    • อีเมล์
สมควรจะเอาเรื่อง ไม่ว่าจะเมาหรือไม่

"เพราะเขาพยายามหนี"

เพราะแสดงว่าเขาไม่คิดจะรับผิดชอบต่อชีวิตคุณตั้งแต่แรกแล้ว คนประเภทนี้อย่าไปไว้หน้าครับ
JDM เท่านั้น จะครองโลก!

ออฟไลน์ TTL

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,277
Re: เมื่อคืนผมโดนรถมอเตอร์ไซค์เมาชน ควรทū
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: เมษายน 11, 2011, 12:01:08 »
สมควรจะเอาเรื่อง ไม่ว่าจะเมาหรือไม่

"เพราะเขาพยายามหนี"

เพราะแสดงว่าเขาไม่คิดจะรับผิดชอบต่อชีวิตคุณตั้งแต่แรกแล้ว คนประเภทนี้อย่าไปไว้หน้าครับ
ใช่ครับจะเมาหรือไม่เมา แต่เขาพยายามหนีคนยังงี้มันใช่ได้ที่ไหนกันหละครับ อย่าไปไว้หน้าจริงๆครับ ชนแล้วหนีอย่างนี้ไม่ไว้ครับ
ยังไงก็โชคดีนะครับที่บาดเจ็บไม่มากนะครับ ยังไงก็ขอให้หายปกติไวไวนะครับ :D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 11, 2011, 13:08:05 โดย toon_thanarit »

methus zaa

  • บุคคลทั่วไป
เมาไม่เมาไม่รู้แต่ถึงยังไงก็ต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุดครับ เพราะชนแล้วจะหนีเนี่ย ถ้าพี่เป็นไรไปมากกว่านี้ล่ะครับ ไม่แย่เลยเหรอ

ออฟไลน์ Armo

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 296
เห็นด้วยเลยครับว่าต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะเค้าพยายามหนีเนี่ยแหละ ไม่รับไม่ได้จริงๆ >:(
ปล.หายเร็วๆ นะครับคุณ gdhsatanic ;D

ออฟไลน์ Skyforce

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,202
แนะนำให้ดำเนินคดีครับเพราะ เค้าพยายามหนี นั่นเท่ากับว่าเค้าไม่ได้ใส่ใจชีวิตของคุณเลย แล้วคุณจะใส่ใจเค้าทำไม ถ้าเค้าชนแล้วไม่หนีลงมาดูแลคุณอย่างดีอันนี้ผมเห็นด้วยที่คุณจะไม่เอาเรื่อง แต่อย่างนี้ไม่ไหวครับเค้าไม่รับผิดชอบเลย และอีกอย่างหากคุณเป็นอะไรมากกว่านี้ครอบครัวคุณที่อยู่ข้างหลังจะเป็นอย่างไร

หายเร็วๆ นะครับ ชนแล้วหนีไม่ต้องคุยแล้วครับปล่อยเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายเหอะ  8)
- Toyota Collora GL
- Mitsubishi Cedia
- Honda City
- Toyota Altis
- Mazda 2

ออฟไลน์ BigBlahBlah

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 200
    • อีเมล์
ไม่ทราบว่าทำประกันอุบัติเหตุ ประกันชีวิตหรือเปล่าครับ

ถ้าทำน่าจะเรียกประกันมา แล้วปล่อยให้ประกันเอาความเอาเรื่องไป


*** พึ่งอ่านจบ โอเค ผมว่ารอคุยเรื่องค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลก่อนดีกว่าครับ ถ้าเคลียร์ได้โดยไม่มีส่วนต่าง ตรงนี่คุณจะเอาเรื่องต่อ เพื่อให้เค้าสำนึก

หรือเรียกค่าทำขวัญอันสุดแท้แต่ครับ

แต่ถ้ามีส่วนต่าง ควรเรียกเจรจา หรือจะเอาเรื่องก็ตามสบายครับ เพราะท่าทีเค้าส่อเจตนา เราก็ไม่ควรเสียเปรียบเพราะเราไม่ได้ผิดนะครับ

อีกเรื่องที่จะเจอ คือเรื่องประกัน ทีนี่แหละครับคุณจะรู้ว่าเค้าดีจริงสมชื่อบริษัทหรือสมกับที่เราทำเปล่า เจอประกันงี่เง่า หรือดีก็ดูตอนนี้แหละครับ

เพื่อสุขภาพ ความปลอดภัย อยากให้หมอทำอะไรทำเลยครับ แล้วเคลมกับประกัน เพราะบางทีรอประกัน ประกันให้ทำตรวจแค่นี้พอแค่นั้นพอ ถึงเวลาจริง เราเป็นหนักกว่าคิด มันจะสายไป

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 11, 2011, 13:13:52 โดย BigBlahBlah »
Gadgets ?????????????????????

ออฟไลน์ Terng

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,762
อย่าปราณีในเมื่อเขาไม่แยแสชีวิตคุณแม้แต่น้อย ชนแล้วพยายามจะหนี เมื่อเราไม่ตาย ก็ต้องให้บทเรียนแก่เขาครับ จะได้มีสำนึกมากขึ้น ไม่ไปทำกับคนอื่นอีก
=====================
รถที่ใช้เป็นประจำ
2013 Toyota Camry Extremo 2.0
2015 Ford Ranger T6 XLT Open Cab 2.2 MT
2018 Toyota CHR HV Mid
=====================

ออฟไลน์ MJunior

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 343
    • อีเมล์
โชคดีนะครับที่ไม่เป็นอะไร
ก็ควรว่ากันไปตามกฎหมาย คนทำผิดก็ต้องรับผิดครับ

ออฟไลน์ Zardus

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 293
ไอ้พวกเมาแล้วยังขับมอเตอไซ ที่ชีวิตมันเองไร้ค่าอยู่แล้วน่ะ (ไร้ค่าเพราะ เมาแล้วขับมอเตอไซ ตายง่ายกว่านะน่ะ แถมสร้างความเสียหายมากกว่า)
แล้วยังมาทำยังกับว่าชีวิตคนอื่นไร้ค่าเหมือนของมันแล้ว

แนะนำว่า ฆ่ามันซะเลยดีกว่าครับ เคี้ยกๆๆๆๆๆ

ในเมื่อมันขับรถไม่ดี ผมแนะนำว่างี้ต้องตั้งข้อหา
"พยายามฆ่า"
จึงจะเหมาะสมครับ อย่างพวกนี้ต้องติดคุกครับ
เพราะพวกมันไม่มาจ่ายค่าเสียหายให้คุณหรอก
ผมเจอะมาเยอะพวกมอเตอไซ อีกอย่าง
มันควรติดคุก เพราะมันไม่ไหวจะมาสู้คดีหรอกครับ ;)

PS. แก้ให้แล้วนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 11, 2011, 17:27:02 โดย Zardus »
บุหรี่ เป็นภัยต่อสังคม

เราจะเป็นฮีโร่

ดูด ให้มันหมดโลกไปซะ

ออฟไลน์ Skyforce

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,202
ไอ้พวกขับมอเตอไซที่ชีวิตมันเองไร้ค่าอยู่แล้วน่ะ
แล้วยังมาทำยังกับว่าชีวิตคนอื่นไร้ค่าเหมือนของมันแล้ว

แนะนำว่า ฆ่ามันซะเลยดีกว่าครับ เคี้ยกๆๆๆๆๆ

ในเมื่อมันขับรถไม่ดี ผมแนะนำว่างี้ต้องตั้งข้อหา
"พยายามฆ่า"
จึงจะเหมาะสมครับ อย่างพวกนี้ต้องติดคุกครับ
เพราะพวกมันไม่มีปัญญาจ่ายค่าเสียหายให้คุณหรอก
ผมเจอะมาเยอะพวกมอเตอไซ อีกอย่าง
มันควรติดคุก เพราะมันไม่มีปัญญามาสู้คดีหรอกครับ ;)


ขับมอเตอร์ไซด์แล้วชีวิตไร้ค่ายังไงครับ พูดให้เคลียร์ด้วย คนขับมอเตอร์ไซด์หลายๆ คนเป็นเถ้าแก่ เป็นเศรษฐี รวยกว่าคุณมีออกเยอะ อย่างมองคนแต่ภายนอก และทุกคนมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน  คิดดีๆ ก่อนที่จะโพสด้วย

มันหลายครั้งแล้วนะครับที่คุณโพสข้อความลักษณะนี้
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php?action=profile;u=2066;sa=showPosts
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 11, 2011, 14:20:05 โดย Skyforce »
- Toyota Collora GL
- Mitsubishi Cedia
- Honda City
- Toyota Altis
- Mazda 2

ออฟไลน์ loading

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 90
เวนและกรรม

ออฟไลน์ Zardus

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 293
ไอ้พวกขับมอเตอไซที่ชีวิตมันเองไร้ค่าอยู่แล้วน่ะ
แล้วยังมาทำยังกับว่าชีวิตคนอื่นไร้ค่าเหมือนของมันแล้ว

แนะนำว่า ฆ่ามันซะเลยดีกว่าครับ เคี้ยกๆๆๆๆๆ

ในเมื่อมันขับรถไม่ดี ผมแนะนำว่างี้ต้องตั้งข้อหา
"พยายามฆ่า"
จึงจะเหมาะสมครับ อย่างพวกนี้ต้องติดคุกครับ
เพราะพวกมันไม่มีปัญญาจ่ายค่าเสียหายให้คุณหรอก
ผมเจอะมาเยอะพวกมอเตอไซ อีกอย่าง
มันควรติดคุก เพราะมันไม่มีปัญญามาสู้คดีหรอกครับ ;)


ขับมอเตอร์ไซด์แล้วชีวิตไร้ค่ายังไงครับ พูดให้เคลียร์ด้วย คนขับมอเตอร์ไซด์หลายๆ คนเป็นเถ้าแก่ เป็นเศรษฐี รวยกว่าคุณมีออกเยอะ อย่างมองคนแต่ภายนอก และทุกคนมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน  คิดดีๆ ก่อนที่จะโพสด้วย

มันหลายครั้งแล้วนะครับที่คุณโพสข้อความลักษณะนี้
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php?action=profile;u=2066;sa=showPosts

โอวเช ตกไปตรงที่ เมาแล้วขับละกัน

แต่

เคยมีคำพูดนึงผมได้ยินมา เอ หรืออ่านมา เขาพูดว่า
A: "มอเตอไซบีเอมนี่สวยเนอะ มันสวยจริงๆ สุดยอดไปเลย"
B: "อยากลองขับดูบ้างไหมล่ะ"
A: "เฮอะ Only stupid people ride on it"

อันนี้แชร์ให้ฟังนะ ไม่ได้ว่าใคร
ยังไงจะอยู่บนถนนก็ Safety First นะ
บุหรี่ เป็นภัยต่อสังคม

เราจะเป็นฮีโร่

ดูด ให้มันหมดโลกไปซะ

ออฟไลน์ Nioka

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,038
ปลอดภัยก็ดีแล้วครับ อยู่ชลบุรีแถวไหนครับ เนี้ย ถ้า เจอ mz2 สีแดง หรือ Jazz สีดำก็ทักทายบ้างนะครับ ผมอยู่แถวบางแสน ^^

ส่วนบางความเห็น ผมก็ไม่อยากจะพูดไรมากนะ คือ อ่านความเห็นของท่านหลายครั้งมันก็ปวดตับป่าวๆ

แต่ผมเจอประเภทนี้มาเยอะแล้ว สมัย อยู่ Pramool ดังๆนู้นๆ วิธีรับมือกับ บางความเห็นที่เราอ่านแล้วปวดตับ(ช่วงกำเนิด ฮิลแพะ กับ สุดยิด)

คือ อย่าไปใส่ใจมันครับ อ่านแต่สิ่งดีๆ หรือความเห็นดีๆพอ อันไหนอ่านแล้วจิตรตกก็ข้ามๆไป มันทำให้เรามีความสุขขึ้น

จะสุขจะทุกข์มันอยู่ที่ใจ อย่าเครียดไปเลยครับ ^^ คนประเภทนี้ถ้าผ่านไปสักพักเค้าก็จะปรับตัวให้เข้ากับสังคมเองครับ

เพราะถ้าเค้าไม่ปรับตัวเค้าก็เหมือนอยู่คนเดียวคุยไรก็ไม่มีใครตอบ

สำหรับคนที่อ่านแล้ว อารมณ์บ่จอย สำหรับผมนะ เลิกตอบเลิกโพสนั่งอ่านอย่างเดียวสัก 1-2 เดือนค่อยเริ่มโต้ตอบคุยในบอร์ดใหม่^^

ลองดูนะครับเพื่อช่วยท่านได้

ออฟไลน์ bowin

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 17
    • อีเมล์
ถึงคุณ Zardus
ขอไห้คุณคิดสักนิดก่อนโพสน่ะครับ
 
คิดก่อนทำ  จำไว้ในสมองน่ะครับ

ออฟไลน์ keng.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,551
  • ฅ.ฅนรักรถ
ก่อนอื่นเลยขอให้หายเป็นปกติไวๆนะครับ
ส่วนเรื่องคดีความก็คงต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุดครับ
เพราะว่าหลังจากชนยังจะพยายามหนี ไม่รับผิดชอบอีกด้วย
:(

ออฟไลน์ MiT!PlErN

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 99
ผมว่า คนขี่มอเตอร์ไซค์ หลายล้านคน

สมองดีกว่าคุณ zardus นะครับ

สมองคิดในแง่ดีหนะครับ...

IQ ถ้าคิดว่าตัวเองสูงแล้ว

ผมแนะนำให้ไปฝึก EQ เพิ่มอีกเยอะๆ นะครับ...

ไม่อยากจะให้เป็นกระทู้ดราม่า

แต่ คุณ zardus นี่ หลายทีแล้วนะครับ

เลิกดูถูกคนอื่นได้แล้ว

หัดพิจารณา พื้นฐานจิตใจ ของตัวคุณเองซะบ้าง

ออฟไลน์ MiT!PlErN

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 99
ถึงพี่ gdhsatanic

ขอให้หายไวๆ และขอให้เรื่องจบลงด้วยดีนะครับ...

เอาเรื่องให้ถึงที่สุด แต่ก็อยู่บนพื้นฐานของการประนีประนอมนะครับ

สงสารเค้าเบาๆ ก็ดีครับ แหะๆๆ

สงสารเรื่องฐานะ นะครับ ไม่ได้สงสารเรื่องเค้าเมา...

คนเมา นี่ถ้าเรามองให้รอบด้าน เค้าก็คงมีปัญหาชีวิตหละครับ ถึงทำให้เค้าเป็นแบบนั้น

นี่ยังมาสร้างปัญหาชีวิตให้ตัวเองเพิ่มอีก

ยังไงๆ ก็หายไวๆ นะครับ

ออฟไลน์ IncarRus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,519
    • อีเมล์
น้าโป้ง,,,
หวังว่านิ้วคงไม่ขาดนะครับ คงจะอยู่ครบ 11 นิ้วเหมือนเดิมนะครับ
ขอให้กลับมาพริ้วเหมือนเดิมไวๆ เป็น "โป้ง 11 นิ้ว" เหมือมนะครับ
ขอให้น้าโป้ง หายไวๆ นะครับ เฮ้อ

ทานที่เป็นกุศลที่สุดในโลก คือ อภัยทานครับ
ถ้าดูแล้ว คู่กรณี เค้าได้รับโทษที่เหมาะสมแล้ว
แล้วเค้าก็สำนึกในความผิดที่เค้าได้กระทำแล้ว
ถ้าอะไรที่ อโหสิ ได้ ก็ปล่อยเค้าไปเถอะครับ

กรรมที่ไม่ดี ไม่ควรผูกไว้กับใครทั้งสิ้นครับ
กรรมที่ควรจะผูก คือ กรรมดี ครับ

ปล. ถึงท่าน Zardus ประวัติ ไม่เบาเลยนะครับท่าน

ออฟไลน์ Zardus

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 293
โอเค ก่อนจะออกทะเลอีกรอบ
เรื่องที่ผ่านมา ผมเข้าใจนะว่าคิดกันยังไง ก็เอ้อ ช่างมัน กระทู้ตกไปนานละ

แต่ผมถามทุกๆคนแล้วกัน คือผมไม่เข้าใจน่ะ ถามหน่อยนะ ไม่ได้ว่านะ
(ไม่ได้ว่าอะไรจริงๆนะ)

อย่างเรื่องที่เจ้าของกระทู้โดนมาเนี่ย

คือผมไม่เค้าใจว่า ทำไมเราควรจะเห็นใจพวกขับมอเตอไซที่ กินเหล้า แล้วยังขับ
พวกมอเตอไซที่ขับสะเพร่าแล้วชอบบอกหว่า "ถ้าชนรถใหญ่ผิด" แล้วก็ไม่ระวัง
พวกมอเตอไซที่ซอกแซกไปมา แล้วก็พลอยเกี่ยวกระจกข้างเราบ้าง เฉี่ยวรถเราบ้าง แถมบางทียังพยายามหนี ถึงไม่หนี แต่เราก็ต้องเสียเวลาเอาไปซ่อม เพราะความที่มันชอบขับซอกแซก
พวกมอเตอไซที่ ชอบขับขึ้นมา หรือตอดรถบนทางเท้าทั้งที่ไม่ใช่ที่เลย
พวกมอเตอไซที่ เป็นแก๊งแว้น แล้วก็ระรานคนอื่นไปทั่ว
พวกมอเตอไซที่ ทำเสียงดังๆ หนวกหูชาวบ้าน
พวกมอเตอไซที่ ชอบขับปาดหน้ารถคันอื่นๆ แซงซ้ายแซงขวา
ฯลฯ

คิดดูเวลาPorsche ขับชน มีแต่คนพากันมาว่า พากันลงข่าวใหญ่ เพราะขับชนคน
แล้วก็มีแต่คนด่า "ลูกคนรวยเดี๋ยวก็รอด" "ลูกคนรวยก็เงี้ย" "พวกขับซิ่ง" "พวกนี้ต้องเอาให้หนัก" "ฯลฯ"

แต่


พอเป็นมอเตอไซแล้ว "สงสารเค้าหน่อย" "เห็นใจเค้าหน่อย" "คิดว่าฟาดเคราะห์แล้วกัน"

เคยคิดกันไหม๊ ว่า ในปีๆนึง มีเยอะแค่ไหนที่มอเตอไซชนรถแล้วหนี
เคยคิดกันไหม๊ ว่า ในปีๆนึง มีเยอะแค่ไหนที่มอเตอไซชนคนแล้วหนี
เคยคิดกันไหม๊ ว่า ในปีๆนึง มีเยอะแค่ไหนที่มอเตอไซชนคนตายแล้วหนี
เคยคิดกันไหม๊ ว่า ในปีๆนึง จำนวนมอเตอไซเยอะแค่ไหน เป็นแว้นแล้วขับกวนเมือง
เคยคิดกันไหม๊ ว่า ในปีๆนึง มีเยอะแค่ไหนที่มอเตอ เฉี่ยวรถแล้วไม่รับผิดชอบ
ฯลฯ

เหตุการณ์ผม
ผมไปทานอาหาร จอดรถไว้ มอเตอไซมาชน เสียหายเกือบแสน (ไฟหน้าอย่างเดียว ต้องสั่งเป็นคู่ ก็ข้างละ 7800แล้ว)
ทั้งไฟหน้า + ประตูรถ + แก้มข้าง + แม็ก + คิ้ว + ไฟเลี้ยว + กระจกมองข้าง + Skirt ข้าง
แล้ว คนขับมอเตอไซ ก็ทำท่าเฉยๆ มันก็ยอมรับผิด แต่บอกว่า ไงก็ไม่มีเงินซ่อม จะทำอะไรก็ทำ

นี่ยังไม่นับ ไอ้พวกที่ เฉี่ยวชนส่วนอื่นๆ ของรถคันอื่นๆ ของผม อีกหลายครั้ง

ถามจริงๆ จะให้เห็นใจพวกนี้เหรอครับ เห็นใจพวกที่ทำกับเราแบบนี้เหรอครับ
เห็นใจให้ได้อะไรขึ้นมา ให้ได้ดีตรงไหน
หรือแค่จะบ้ายอให้เค้าเรียกว่าเป็นคนดี แล้วต้องยอมให้พวกนี้เอาเปรียบ แล้วก็ไม่รู้สึกอะไรกับพวกมันเลย
ผมไม่ใช่พระอิฐพระปูนนะ

เท่านี้ละครับ เอาซะยาว คืออยากมีโอกาสอธิบายน่ะ ไม่ใช่จะมาว่าผมแล้วเราจะไม่อธิบายอะไรให้ใครฟัง

ขอโทษนะครับที่ออกทะเล แต่ผมว่าครั้งนี้ยังพออยู่ในเรื่องเดียวกัน แหะๆ :D

อันนี้แล้วแต่แต่ละคนจะแสดงความเห็นนะครับ ผมคงไม่บอกว่าใครคิดผิดหรือถูกอะไร
บุหรี่ เป็นภัยต่อสังคม

เราจะเป็นฮีโร่

ดูด ให้มันหมดโลกไปซะ

ออฟไลน์ MiT!PlErN

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 99
ถึง Zardus

ใช่ครับ แล้วแต่คนจะแสดงความคิดเห็น...

ความคิดของผมและอีกหลายๆ คน ก็คงต่างจากคุณ

ผมหมายถึง มีความคิดที่ดีกว่าคุณ

คนขี่มอเตอร์ไซค์ ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นแบบที่คุณว่านี่ครับ

ผมไม่ทราบจริงๆ ว่าคนจน มันไปทำอะไรให้คุณนักหรือ คุณถึงดูถูก ดูแคลนอยู่ได้

ผมว่า คุณมีบุญเยอะที่เกิดมารวย แต่คุณมีบุญน้อย ที่ความคิดของคุณ ไม่เจริญหูเจริญตาคนอื่นสักเท่าไหร่

พี่จิมมี่ ก็เคยเตือนคุณ ให้หันกลับไปมองตัวเองบ้าง

คุณก็เหมือนจะเข้าใจนะ ... หลายๆ ความคิดเห็นที่คุณตอบๆ มา ก็เหมือนจะสำนึก แต่ก็มักจะต่อด้วยการแกว่งเท้าหาเสี้ยนต่อไปไม่รู้จบ

ผมบอกแล้วไงครับว่า ให้มองคนให้รอบด้าน

ยกตัวอย่างเช่น...

คนจน กินเหล้าเมา คนทั่วไปอย่างคุณ จะมองว่า มันเลว เมาแล้วยังมาขับ

แต่ลึกๆ หละครับ

เค้าอาจมีปัญหาครอบครัวที่แก้ไม่ตก ไม่มีเงิน เค้าจน เค้าไม่มีความรู้อย่างคุณ

เค้าไม่มีวิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้อง เค้าเลยไปกินเหล้า แล้วก็เมา

แล้วก็ขับรถชนคนอื่นไปทั่ว

แต่เค้าก็ไม่ได้ตั้งใจนี่ครับ...

แล้วผมก็ไม่ได้บอกให้พี่ จขกท. ไม่เอาเรื่องนี่ครับ

ผมบอกให้เอาเรื่องให้ถึงที่สุด บนพื้นฐานของความประนีประนอม

ผมหมายถึงว่า ให้เค้ารับผิดชอบ แต่ไม่ใช่ว่า ไปเรียกค่าสินไหม เค้า แสนนึง อะไรอย่างเนี้ยอะครับ

หมายถึงว่า แค่แสดงความรับผิดชอบ มาขอโทษขอโพย รับผิดชอบค่าใช้จ่าย รับผิดชอบสิ่งที่เค้ากระทำ ก็แค่นั้น

อ้อ...แล้วก็เรื่องมอไซค์ มาขับรถชนรถสุดหรูของคุณ

ถ้ารวยจริง เงินค่าซ่อมแค่นั้น มันสะเทือนมากหรอครับ ถึงขนาดพาลให้คุณเกลียดคนขี่มอเตอร์ไซค์ ทุกคน...?

สุดท้ายนี้ ผมขอฝากให้คุณ ไป search  Google ว่า "ธีระ ทองสง"

อาจารย์เป็นอาจารย์ผมเอง

เป็นหมอสูติฯ ที่พอมีพอกิน ไม่ร่ำรวยอะไร ไม่เปิดคลินิก ไม่ทำเอกชน

ทั้งชีวิตอาจารย์ ทุ่มเทให้คนไข้ และลูกศิษย์

ผมอยากจะบอกว่า อาจารย์ธีระ ทั้งชีวิตแก มีแต่มอเตอร์ไซค์ คันเก่าๆ คันนึงแค่นั้นแหละครับ...

นี่แหละ คือ คนที่รวยทางจิตใจ

ไปหาประวัติอาจารย์อ่านซะนะครับ

ออฟไลน์ Zardus

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 293
เอ้า น้อมรับความคิดเห็นครับ

ปล.
"ถ้ารวยจริง เงินค่าซ่อมแค่นั้น มันสะเทือนมากหรอครับ ถึงขนาดพาลให้คุณเกลียดคนขี่มอเตอร์ไซค์ ทุกคน...?"
อันนี้ไม่เกี่ยวนะครับ คือไม่ว่าผมมีเท่าไหร่ ก็ไม่ได้แปลว่า ผมควรจะต้องจ่ายในสิ่งที่คนอื่นทำพังนะ
ถูกไหม๊ครับ?
บุหรี่ เป็นภัยต่อสังคม

เราจะเป็นฮีโร่

ดูด ให้มันหมดโลกไปซะ

ออฟไลน์ MiT!PlErN

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 99
เฮ้อออ...ผมไม่เถียงแล้วครับ ยอมแพ้จริงๆ

ขอโทษพี่จิมมี่ พี่ จขกท. และพี่ๆ น้องๆ ทุกคนในบอร์ดนะครับ

ที่โพสต์ของผม อาจไปยั่วยุอารมณ์ หรือทำให้คนอื่นไม่สบายใจ

ผมขออณุญาต เอาประวัติอาจารย์ของผมมาให้ทุกคนอ่านดีกว่า ผมกลับไปอ่านอีกที แล้วรู้สึกหัวใจมันเบิกบาน

ดีกว่ามานั่ง เครียด กับอะไรก็ไม่รู้

ขออณุญาต เอามาแปะนะครับ ยาวหน่อย แต่อยากให้ได้อ่านกันครับ ...

ศ.นพ. ธีระ ทองสง แบบอย่างของอาจารย์และแพทย์ผู้ให้

คงไม่มีคำกล่าวใดที่จะชัดแจ้งไปกว่านี้อีกแล้ว สำหรับอาจารย์แพทย์ผู้ทรงภูมิท่านนี้ ว่าเป็น “แบบอย่างของอาจารย์และแพทย์ผู้ให้” แท้จริง

ด้วยมิใช่เพราะโล่เกียรติคุณอาจารย์แพทย์ดีเด่นที่เป็นแบบอย่างในเชิงจริยธรรมคุณธรรมจากแพทยสภา เมื่อปี ๒๕๔๗

หรือรางวัลอาจารย์ดีเด่นแห่งชาติจากที่ประชุมประธานสภาอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ปี ๒๕๔๖

หากแต่เป็นเพราะเนื้อนาบุญในจิตใจที่สั่งสมด้วยการทำงานทั้งแพทย์ผู้รักษาคนไข้และอาจารย์ผู้ให้แก่ลูกศิษย์มาตลอดหลาย ๑๐ ปี

“ผมคิดว่าการประสบความสำเร็จในชีวิตไม่ได้อยู่ที่มีอะไรมากมายในชีวิต แต่อยู่ที่ว่ายืน เดิน นั่ง นอนอย่างสงบใจ จริงอยู่ ความสุขคือเป้าหมายของทุกคน แต่สำหรับผมไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย ความสุขสำหรับผมสร้างได้ไม่ยาก ผมคิดว่าคนที่ให้มากกว่า ย่อมมีความสุขมากกว่า”

ปัจจุบัน ศาสตราจารย์ นายแพทย์ธีระ ทองสง อายุ ๔๘ ปี เริ่มต้นชีวิตการเป็นอาจารย์แพทย์ตั้งแต่ปี๒๕๒๘ มาอย่างต่อเนื่อง และมีความสุขอยู่กับการให้มาโดยตลอดชีวิตการทำงาน

“ผมอาจจะใช้ชีวิตแปลกหน่อยนะครับ คือผมไม่ได้เปิดคลินิกนอกเวลางาน จริง ๆ ผมก็น่าจะทำนะ เพราะว่ามาจากตระ-ูลยากจน แต่ก็เป็นความภาคภูมิใจหนึ่งในความเป็นครูที่มีเวลาสอน ได้ทำวิจัยต่าง ๆ และนอกเวลางาน ผมก็สอนแพทย์เฉพาะทางด้วย

ผมเลือกที่จะเป็นอย่างนี้ เพราะว่าความสุขในชีวิตคนเรา คงไม่ได้ขึ้นอยู่กับเงินทองอย่างเดียว คนที่มีเงินในบัญชีมากที่สุด ก็ไม่ได้แปลว่ามีความสุขที่สุด ยังมีความสุขอีกหลายอย่างที่คนเราสามารถเก็บเกี่ยวได้ ซึ่งไม่ใช่เงินทอง

ทุกวันนี้ ผมอยู่ในฐานะของหมอหรือครู ก็ไม่ควรจะคิดว่าเราจะได้อะไรจากอาชีพนี้ แต่น่าจะคิดว่าเราจะให้อะไรกับลูกศิษย์มากกว่า”

ศาสตราจารย์ นายแพทย์ธีระ ทองสง พื้นเพเดิมเกิดที่จังหวัดพัทลุง เป็นลูกชาวนาโดยกำเนิด การศึกษาในช่วงประถมศึกษาตอนต้น เรียนที่โรงเรียนบ้านทุ่งยางเปล ซึ่งห่างไกลจากตัวเมืองพัทลุงมาก จากนั้นจบประถมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนปรางค์หมู่ศรีวิทย์ศึกษา จังหวัดพัทลุง มาเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนพัทลุง ก่อนจะเข้ามาศึกษาระดับมัธยมปลายที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาในกรุงเทพฯ

จบแพทยศาสตร์บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จบแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางสูติ-นรีเวช เคยผ่านการฝึกอบรมด้านเอ็นโดครีนทางสูติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น และฝึกอบรมเวชศาสตร์มารดาและทารก (อุลตร้าซาวน์ด์) ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี

เคยได้รับทุนอานันทมหิดล (ส่งเสริมบัณฑิต) จากมูลนิธิอานันทมหิดลถึง ๓ สมัย ปัจจุบันเป็นศาสตราจารย์ ระดับ ๑๐ แห่งภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นอกจากนั้น ยังเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสูติ-นรีเวช ประจำโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ (โรงพยาบาลสวนดอก) จังหวัดเชียงใหม่

ศาสตราจารย์ นายแพทย์ธีระ เล่าว่าเมื่อสมัยเด็กๆนั้นยังไม่ค่อยมีความรู้มากว่าสาขาการเรียนด้านใดที่จะเหมาะกับตนเอง แต่เป็นเพราะค่านิยมในสมัยนั้น ที่ส่วนใหญ่มักจะเลือกเรียนในคณะวิศวกรรมศาสตร์กับคณะแพทยศาสตร์กันมาก

“ผมเป็นเด็กชนบทแท้ๆเลยครับ ...พอสอบเข้าคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ ตั้งแต่ปี ๒๕๑๘ จนถึงปีนี้ รวม ๓๐ ปีพอดี ผมก็ตั้งรกรากอยู่ที่นี่เลย ตอนสมัยเป็นนักเรียนแพทย์ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผมก็เรียนด้วยทุนมูลนิธิช่วยเหลือนักเรียนขาดแคลน

บรรยากาศการเรียนสมัยนั้นก็เหมือนนักเรียนแพทย์ทั่วไป คือเรียนไปด้วยทำกิจกรรมควบคู่กันไปด้วย ผมเองก็ชอบทำกิจกรรม ส่วนใหญ่ก็จะอยู่กับชมรมพุทธครับ

อีกด้านหนึ่งเราก็นึกภาพออกว่า วันหนึ่งเราจะเป็นอะไร อยากจะเป็นแพทย์แบบไหน เริ่มต้นจริง ๆ ก็ตั้งแต่ย่างเท้าก้าวแรกเข้ามหาวิทยาลัย คิดว่าอยากเป็นหมอ เพื่อกลับไปดูแลรักษาญาติพี่น้องรวมทั้งคนในชุมชนของเรา รู้สึกหลาย ๆ คนก็คิดอย่างนี้ ผมเองก็ตั้งใจอย่างนั้นอยู่หลายปี แต่ต่อมาเมื่อเรียนมากขึ้น ได้รู้อะไรมากขึ้น ถึงแม้ตอนนั้นจะเรียนแพทย์จบแล้ว ก็ยังรู้สึกว่าไม่ค่อยพอ ยังอยากจะเรียนต่อด้านเฉพาะทางมากขึ้น จึงได้เลือกเรียนทางด้านสูติ-นรีเวชต่อ

พอเรียนจบก็คิดว่าผมอาจจะทำประโยชน์ได้มากกว่าที่เคยคิด ถ้าเป็นอาจารย์สอนนักศึกษาแพทย์ได้คงดี เลยเปลี่ยนแนวคิดตั้งแต่นั้นมา ทางบ้านก็เห็นด้วย”

ในที่สุด เมื่อศึกษาจบแพทย์เฉพาะทางแล้ว คุณหมอธีระได้รับคัดเลือกให้เป็นอาจารย์แพทย์ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ตั้งแต่นั้นมา

ศาสตราจารย์ นายแพทย์ธีระ ทองสง กล่าวมาถึงตรงนี้ว่า

“แน่นอนครับ หน้าที่ของอาจารย์ หน้าที่หลักประการแรกก็ต้องสอน โดยทั่วไปผมสอนทั้ง 3 ระดับ คือสอนนักศึกษาแพทย์ แพทย์เฉพาะทาง และก็แพทย์ต่อยอดทางด้านเวชศาสตร์มารดาและทารก

งานเป็นครูหรืองานสอนนี่แหละครับ ที่ผมภาคภูมิใจที่สุด ผมสอนมา ๒๐ ปีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราก็ต้องตามความรู้ให้ทันสมัยอยู่เสมอด้วย ยามว่างจากงานแพทย์ งานสอน และงานวิจัย ผมก็จะใช้เวลาอยู่ในโลกอินเทอร์เนตเพื่อแสวงหาความรู้ใหม่ ๆ อยู่เรื่อย ๆ ลูกศิษย์ที่จบไปเป็นแพทย์แล้ว ก็ยังสามารถโทรศัพท์มาปรึกษาได้ตลอดเวลา หรือถ้ามีเวลาว่าง ผมมักจะทำสื่อการสอนประเภทมัลติมีเดียต่าง ๆ”

และที่น่าทึ่งยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด เมื่อคุณหมอเปิดเผยถึงการเดินทางจากบ้านมาที่โรงพยาบาลสวนดอกหรือที่ทำงาน

“ผมมาทำงานด้วยมอเตอร์ไซค์ครับ ผมไม่มีรถยนต์ ไม่ใช้โทรศัพท์มือถือ” (และก็เป็นแพทย์ที่ตามตัวได้ไม่ยากอีกด้วย)

ความจริงอีกประการหนึ่ง ที่ทุกคนทราบดีว่างานในเวลาราชการ ครั้นถึงเวลาสี่โมงเย็นก็สามารถกลับบ้านไปพักผ่อนได้ แต่คุณหมอธีระมิใช่เช่นนั้น ท่านยังทำงานต่อไปจนเวลาสี่ถึงห้าทุ่ม ซึ่งคุณหมอบอกว่าเป็นงานสอนบ้าง หรือไม่ก็อยู่ในห้องวิจัย ไม่เว้นแม้แต่เสาร์-อาทิตย์ ก็ยังมาทำงาน

“ผมมีความสุขนะครับ เพราะผมคิดว่าในฐานะที่เป็นอาจารย์ เราควรต้องทำแบบอย่างให้ลูกศิษย์เห็น

ตอนเช้า ผมต้องมาก่อนลูกศิษย์ ไม่ได้คิดว่าวันนี้จะมาเอาอะไรแต่จะถามตัวเองว่า เราจะให้อะไรใครได้บ้างมากกว่า

ทุกเช้าที่ตื่นขึ้นอยากจะถามหาสิ่งสวยงามในชีวิต ด้วยคำถามว่าเราให้อะไรใครได้บ้าง ลูกศิษย์กับคนไข้เป็นหลักเลยที่ผมจะคิดถึง”

ฟังดังนี้แล้ว คำถามหนึ่งที่ “สกุลไทย” อดจะถามต่อไปมิได้ก็คือว่า เมื่อคุณหมอเรียนมาขนาดนี้ ทำงานมากขนาดนี้ ไม่คิดว่าตนเองน่าจะได้รับสิ่งตอบแทนที่มากกว่าที่เป็นอยู่หรือ คุณหมอธีระท่านก็ตอบอย่างใจเย็นว่า...

“เราต้องคิดอย่างนี้ ไม่มีความดีใดที่มนุษย์ทำแล้วไม่มีความสุข เพราะฉะนั้น หลายคนอาจจะอยากทำอย่างนี้ แต่ไม่มีโอกาส ถ้าเราคิดที่จะรับ โอกาสคิดที่จะให้ มันก็จะลดลง และถ้าอยากได้อยู่เรื่อย เท่าไหร่จะพอ ถ้าผมมีเงิน ๑๐๐-๒๐๐ ล้าน ผมก็ยังยากจนอยู่ดี ในเมื่อผมต้องการถึง ๘๐๐ ล้าน

ผมรู้สึกโชคดีมากที่ได้มายืนอยู่ตรงจุดนี้ มหาวิทยาลัยแห่งนี้ให้โอกาสผมได้มีศักยภาพในการให้ได้สูง เมื่อผมมีโอกาสในการให้แล้ว ผมก็ไม่อยากสูญเสียตรงนี้ไป

และผมคิดว่า ‘แบบอย่าง’ นี่สำคัญมากนะครับ ผมมักจะสอนให้ลูกศิษย์ขยัน ตรงเวลาต่อคนไข้ ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย รับให้น้อยแต่ให้ให้มาก การสอนที่แท้จริงของผม ผมสอนด้วยการกระทำมากกว่า คิดอยู่เสมอว่าถ้าอยากให้ลูกศิษย์ดี เราต้องทำดีให้เขาดู”

นอกเหนือจากความเป็นอาจารย์แพทย์ การสอน การเขียนตำราวิชาการแพทย์ต่าง ๆ มากมายซึ่งมีทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ รวมทั้งผลงานวิจัยที่ปรากฏในวารสารมาตรฐานสากลนานาชาติมากกว่า ๑๐๐ เรื่อง ส่วนในบทบาทของแพทย์ ศาสตราจารย์ นายแพทย์ธีระ ทองสง ประสบความสำเร็จในด้านการวิจัยอันเกี่ยวโยงไปถึงงานวินิจฉัยโรคทารกในครรภ์ก่อนคลอด

“งานด้านการแพทย์และวิจัยเด่นๆของผมส่วนใหญ่จะเน้นด้านอุลตร้าซาวด์น์ เราบุกเบิกด้านอุลตร้าซาวด์น์เป็นหลัก โดยมีคณาจารย์แพทย์ช่วยกันทำเป็นทีม เช่น โรคธาลัสซีเมียในเด็ก เราวินิจฉัยได้หมดตั้งแต่อายุครรภ์ยังน้อย คุณแม่ไม่ต้องรอให้เด็กคลอดออกมาแล้วบวมน้ำจนเสียชีวิต จากงานวิจัยเราก็นำมาประยุกต์ใช้ในการบริการการรักษาแก่คนไข้ รวมไปถึงดูแลสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะแทรกซ้อนสูง

เมื่อก่อนเราวินิจฉัยก่อนคลอดได้น้อยมาก แต่ทุกวันนี้ เรารู้ภาวะของเด็กในครรภ์ก่อนคลอดเป็นส่วนใหญ่แล้ว โรคบางอย่างถ้าเรารู้ล่วงหน้า ก็ช่วยในการรักษาได้ คือถ้าอยู่ในครรภ์ต่อไป อาจจะเป็นอันตราย เพราะฉะนั้น ทำคลอดก่อนดีกว่า เพื่อนำเด็กมารักษาข้างนอก หรือโรคน้ำในปอดเด็ก ถ้าไม่มีปัญหาอย่างอื่นร่วมด้วย เราก็อาจจะเจาะดูดเอาน้ำออกตั้งแต่เด็กยังอยู่ในครรภ์ได้ ซึ่งแล้วแต่กรณีไป หรือเด็กบางคนซีด เป็นโรคเลือดอยู่ในครรภ์ แต่ไม่ใช่ธาลัสซีเมียนะครับ เราก็จะเติมเลือดให้เขาตั้งแต่อยู่ในครรภ์ โดยการให้เลือดผ่านทางสายสะดือ เพราะทุกวันนี้ การเจาะเลือดทารกในครรภ์เพื่อตรวจธาลัสซีเมีย เราก็เจาะทางสายสะดือ

แพทย์บางท่านเก่งมาก ทำวินิจฉัยก่อนตั้งครรภ์ โดยการตรวจโครโมโซมของทั้งพ่อและแม่ หรือเช็คว่าเด็กจะมีโอกาสเป็นโรคธาลัสซีเมียหรือไม่ ซึ่งการวินิจฉัยเรื่องนี้ เราได้ทำเป็นรายแรกของประเทศด้วย นอกจากนี้ เรายังพัฒนาห้องแล็บในการวิเคราะห์เรื่องของการตรวจระดับดีเอ็นเอ หรือเด็กที่เป็นดาวน์ซินโดรม เดี๋ยวนี้เราก็สามารถวินิจฉัยได้เร็ว ตั้งแต่เด็กยังอยู่ในครรภ์”

โดยเฉพาะโรคธาลัสซีเมียหรืออีกนัยหนึ่งก็คือโรคโลหิตจาง อันเนื่องมาจากเม็ดเลือดแดงไม่ทำงาน เมื่ออดีตนั้นภาคเหนือจะพบมากที่สุดในประเทศไทย สาเหตุหลักเกิดจากยีนพันธุกรรมจากแม่ที่ถ่ายทอดไปยังลูก

“แต่ปัจจุบันโรคธาลัสซีเมียในเชียงใหม่ ลดลงไปมากแล้วนะครับ ด้วยอิทธิพลของการวินิจฉัยทางการแพทย์ก่อนคลอด ซึ่งถึงอย่างไร ก็อาจจะมีข้อโต้แย้งทางจริยธรรมอยู่บ้าง กฎหมายไทยไม่ได้เอื้ออำนวยให้ยุติการตั้งครรภ์ได้ หากพบว่าทารกในครรภ์เป็นธาลัสซีเมียชนิดรุนแรง แต่เราก็มีนโยบายระดับกระทรวงสาธารณสุข ที่อนุญาตให้คนไข้เลือกที่จะยุติการตั้งครรภ์ได้ ถ้าพบว่าทารกในครรภ์นั้นเป็นธาลัสซีเมียชนิดรุนแรง ถ้าเป็นชนิดรุนแรงที่สุด เด็กจะเสียชีวิตในครรภ์เลย ถ้าชนิดที่รองลงมา เด็กมีชีวิตรอด แต่ก็ต้องมาเติมเลือดอยู่เป็นประจำ”

งานด้านการแพทย์ต่างๆของ ศาสตราจารย์ นายแพทย์ธีระ ทองสง คงไม่หมดลงเพียงเท่านี้แน่นอน ตราบใดที่จิตวิญญาณของท่าน ยังคงไว้ซึ่งความเป็นอาจารย์ และแพทย์ผู้ให้โดยไม่มีวันหยุดหรือจบสิ้นไปอย่างง่าย ๆ เพราะท่านบอกไว้แล้วว่า

“คนที่ให้มากกว่า ย่อมมีความสุขมากกว่า”

ออฟไลน์ IncarRus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,519
    • อีเมล์
ใช่ครับ ผมว่าท่าน MiT!PlErN ก็พอสมควรแล้ว
พอเถอะครับ คุยกับคนแบบนี้ไป ก็เสียดายน้ำลายครับ

methus zaa

  • บุคคลทั่วไป
ใช่ผมก็ไม่อยากคุยแล้วเหมือนกัน  >:(