รถยุโรปเก่าๆสิบกว่าปีแล้ว ถึงเทคโนโลยีจะล้าหลัง
แต่สมรรถนะด้านการขับขี่มันก็เหนือกว่ารถญี่ปุ่นรุ่นใหม่ๆหลายรุ่น..
..แต่ช้าแต่..
ต่อให้พูดว่าซ่อมดี ซ่อมจบแล้วจะหลงรักใช้ยาว ถ้ารถยุโรปขับดีๆมันไปเสียกลางทาง
หาอู่ซ่อมไม่ได้ ก็เล่นเอาหมดสนุกกันไปหลายทริปแล้วก็มีครับ
พ่อผมไปเชียงราย แต่ไดชาร์จเสียที่แม่จัน ต้องประคองรถเข้าเมืองไปนอนรออะไหล่ส่งจากอู่ในกทม.สองคืนก็เคยมาแล้ว
ช่างท้องที่ที่ซ่อมให้ยังบอกเลย"ที่ซ่อมให้น่ะเพราะเห็นว่าคนแก่ขับ กลัวเป็นอะไรกลางทางอีก ไม่งั้นไม่ซ่อมหรอกรถยี่ห้อเนี๊ย".. -.-"
การใช้งานทั่วๆไป กว่าจะหาอู่ที่เซอร์วิสกันแบบไว้ใจได้ก็เจ็บตัวไปหลายที เสียค่าโง่ก็หลายหน
รุ่นไหนเริ่มเก่ามากๆชนิดที่ว่าหัวตัด ตัดศอกมีค่ายิ่งกว่าทอง ใครประกาศขายซากก็ต้องรีบไปรุมทึ้งอะไหล่ตัวถังยังกะแร้งลง..
แถมอู่ดีๆมีน้อย คนก็แย่งกันไปทำ นานๆเข้าอู่ก็เริ่มห่วยเพราะงานเยอะเกิน คุมมาตรฐานการซ่อมไม่ได้
แล้วก็ค่อยล้มหายตายจากไป คนก็หนีไปอู่ที่มันตายไปก่อนหน้านี้แล้วเจ้าของสำนึกได้กลับมาทำใหม่..
..วนเวียนเป็นวัฏฏะอย่างนี้ไม่จบสิ้น
รถเก่าๆขับดีๆมันก็ควรจะจดจำครับ แต่ก็ต้องระลึกอยุ่เสมอว่ามันอยู่กับเราได้ไม่ตลอดไปหรอก
เก่าไปใหม่มา อะไรที่มันดีมันเหมาะสมกับเวลา ก็ควรจะก้าวไปต่อ อย่าไปยึดติดกับอะไรมากนักเลย
พูดในฐานะคนๆหนึ่ง ที่ยังใช้รถยุโรปเก่าๆมือเดียวอายุจะ20ปีแล้วครับ
.-_-.