ผู้เขียน หัวข้อ: มีข้อสงสัยครับ อยากถามท่านผู้รู้ เรื่องสมรรถนะ รถยุโรป กับ รถ ญี่ปุ่น  (อ่าน 9968 ครั้ง)

ออฟไลน์ nakul18

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 111
    • อีเมล์
ทำไม รถยุโรป ถึงดีกว่า ปลอดภัยกว่า ระบบต่าง ๆ ดีกว่า ทั้ง ๆ ที่ ถ้าเทียบราคา ก่อนนำเข้าแล้ว ราคาไม่แตกต่างจาก รถ ญี่ปุ่นมากนักครับ ขอความรู้หน่อย แล้ว ระหว่างรถ ยุโรป มือสอง เก่า ๆ 10กว่าปี กับ รถ ญี่ปุ่น ใหม่ ๆ มือหนึ่ง ควรเลือกซื้ออันไหนครับ

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,051
อย่างนี้ต้องดู Mythbuster เพื่อขจัด myth กับตัวอย่าง Kick racism out of football ครับ

ออฟไลน์ H.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,896
    • อีเมล์
มันเป็นเรื่องออพชั้นของบ้านเรามากกว่าครับ โดนแทงกั้ก - -"


เพราะถ้าไปนอกก็จะจัดเต็มๆเหมือนเจ้าถิ่นเขาแหละ
H.

ออฟไลน์ PREM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,198
เดี๋ยวนี้รถญี่ปุ่นใหม่ๆ ก็ปลอดภัยเท่าๆ รถยุโรปแล้วครับ ไม่เชื่อลองหาผลทดสอบ EuroNCAP ดูได้
ถ้ารถยุโรปจะดีกว่า คิดว่าคงเพราะการลงทุนด้าน R&D สูงกว่า กับประสบการณ์ของยี่ห้อนั้นๆ มั้งครับ

ถ้าให้ผมเลือกรถญี่ปุ่นป้ายแดงกับรถยุโรป 10 ปี ยังไงก็เอาอย่างแรกครับ
รถเก่าเป็นสิบปีคงมีอะไรให้ซ่อมเยอะแยะ
2014 Mazda CX-5 2.5 S
2016 Volvo XC60 D4 
2019 Honda Jazz RS+
2020 Volvo V60 T8 Inscription
2022 Mazda CX-30 SP

ออฟไลน์ TJA

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 644
รถยุโรปเก่าๆสิบกว่าปีแล้ว ถึงเทคโนโลยีจะล้าหลัง
แต่สมรรถนะด้านการขับขี่มันก็เหนือกว่ารถญี่ปุ่นรุ่นใหม่ๆหลายรุ่น..

..แต่ช้าแต่..

ต่อให้พูดว่าซ่อมดี ซ่อมจบแล้วจะหลงรักใช้ยาว ถ้ารถยุโรปขับดีๆมันไปเสียกลางทาง
หาอู่ซ่อมไม่ได้ ก็เล่นเอาหมดสนุกกันไปหลายทริปแล้วก็มีครับ
พ่อผมไปเชียงราย แต่ไดชาร์จเสียที่แม่จัน ต้องประคองรถเข้าเมืองไปนอนรออะไหล่ส่งจากอู่ในกทม.สองคืนก็เคยมาแล้ว
ช่างท้องที่ที่ซ่อมให้ยังบอกเลย"ที่ซ่อมให้น่ะเพราะเห็นว่าคนแก่ขับ กลัวเป็นอะไรกลางทางอีก ไม่งั้นไม่ซ่อมหรอกรถยี่ห้อเนี๊ย"..  -.-"
การใช้งานทั่วๆไป กว่าจะหาอู่ที่เซอร์วิสกันแบบไว้ใจได้ก็เจ็บตัวไปหลายที เสียค่าโง่ก็หลายหน
รุ่นไหนเริ่มเก่ามากๆชนิดที่ว่าหัวตัด ตัดศอกมีค่ายิ่งกว่าทอง ใครประกาศขายซากก็ต้องรีบไปรุมทึ้งอะไหล่ตัวถังยังกะแร้งลง..
แถมอู่ดีๆมีน้อย คนก็แย่งกันไปทำ นานๆเข้าอู่ก็เริ่มห่วยเพราะงานเยอะเกิน คุมมาตรฐานการซ่อมไม่ได้
แล้วก็ค่อยล้มหายตายจากไป คนก็หนีไปอู่ที่มันตายไปก่อนหน้านี้แล้วเจ้าของสำนึกได้กลับมาทำใหม่..
..วนเวียนเป็นวัฏฏะอย่างนี้ไม่จบสิ้น

รถเก่าๆขับดีๆมันก็ควรจะจดจำครับ แต่ก็ต้องระลึกอยุ่เสมอว่ามันอยู่กับเราได้ไม่ตลอดไปหรอก
เก่าไปใหม่มา อะไรที่มันดีมันเหมาะสมกับเวลา ก็ควรจะก้าวไปต่อ อย่าไปยึดติดกับอะไรมากนักเลย

พูดในฐานะคนๆหนึ่ง ที่ยังใช้รถยุโรปเก่าๆมือเดียวอายุจะ20ปีแล้วครับ    ;)

.-_-.

ออฟไลน์ Vento

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 41
รถยุโรปเก่าๆสิบกว่าปีแล้ว ถึงเทคโนโลยีจะล้าหลัง
แต่สมรรถนะด้านการขับขี่มันก็เหนือกว่ารถญี่ปุ่นรุ่นใหม่ๆหลายรุ่น..

..แต่ช้าแต่..

ต่อให้พูดว่าซ่อมดี ซ่อมจบแล้วจะหลงรักใช้ยาว ถ้ารถยุโรปขับดีๆมันไปเสียกลางทาง
หาอู่ซ่อมไม่ได้ ก็เล่นเอาหมดสนุกกันไปหลายทริปแล้วก็มีครับ
พ่อผมไปเชียงราย แต่ไดชาร์จเสียที่แม่จัน ต้องประคองรถเข้าเมืองไปนอนรออะไหล่ส่งจากอู่ในกทม.สองคืนก็เคยมาแล้ว
ช่างท้องที่ที่ซ่อมให้ยังบอกเลย"ที่ซ่อมให้น่ะเพราะเห็นว่าคนแก่ขับ กลัวเป็นอะไรกลางทางอีก ไม่งั้นไม่ซ่อมหรอกรถยี่ห้อเนี๊ย"..  -.-"
การใช้งานทั่วๆไป กว่าจะหาอู่ที่เซอร์วิสกันแบบไว้ใจได้ก็เจ็บตัวไปหลายที เสียค่าโง่ก็หลายหน
รุ่นไหนเริ่มเก่ามากๆชนิดที่ว่าหัวตัด ตัดศอกมีค่ายิ่งกว่าทอง ใครประกาศขายซากก็ต้องรีบไปรุมทึ้งอะไหล่ตัวถังยังกะแร้งลง..
แถมอู่ดีๆมีน้อย คนก็แย่งกันไปทำ นานๆเข้าอู่ก็เริ่มห่วยเพราะงานเยอะเกิน คุมมาตรฐานการซ่อมไม่ได้
แล้วก็ค่อยล้มหายตายจากไป คนก็หนีไปอู่ที่มันตายไปก่อนหน้านี้แล้วเจ้าของสำนึกได้กลับมาทำใหม่..
..วนเวียนเป็นวัฏฏะอย่างนี้ไม่จบสิ้น

รถเก่าๆขับดีๆมันก็ควรจะจดจำครับ แต่ก็ต้องระลึกอยุ่เสมอว่ามันอยู่กับเราได้ไม่ตลอดไปหรอก
เก่าไปใหม่มา อะไรที่มันดีมันเหมาะสมกับเวลา ก็ควรจะก้าวไปต่อ อย่าไปยึดติดกับอะไรมากนักเลย

พูดในฐานะคนๆหนึ่ง ที่ยังใช้รถยุโรปเก่าๆมือเดียวอายุจะ20ปีแล้วครับ    ;)

.-_-.
เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับ เพราะที่บ้านใช้เวนโต้อยู่ถึงตัวรถจะให้ความมั่นใจในการขับขี่ได้เพียงไรก็ตาม แต่ถ้าความทนทานไม่ ความง่ายในการซ่อมบำรุงไม่ไปด้วยแล้วหละก็....เศร้าาาาาาาาาาาา

ออฟไลน์ champxxx

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 6
เอิ่ม ในฐานะคนนึงที่เคยใช้รถยุโรป อายุ จากห้าปี จนถึงสิบสี่ปีครับ
รถก็ดีครับ ช่วงล่างเยี่ยม อัตราเร่งทันใจ
คิดว่า สมรรถนะ ก็สูสีกับพวก city หรือ vios ได้แหละครับ

แต่พอไปเจอพวกcamry accord teana ก็แทบจะตามไม่ทันอยู่แล้ว
ส่วนกะบะบ้าพลังนี่ สูสีครับ กินได้แค่โค้ง ทางตรงแพ้เห็น ๆ

มีปัญหาที่ค่อนข้างมากพอสมควร คือ น้ำมัน ต้องใช้ เบนซิน 95 ครับ เจอค่าน้ำมันแต่ละที อ่วม
เรื่องต่อมาเป็นเรื่องจุกจิกครับ เดี๋ยวนั่นเสีย นี่เสีย เล็ก ๆ น้อย ๆ พอให้รำคาญใจ จนไปถึง
ความร้อนขึ้น ไปเช็คเจอท่อที่ต่อจากหม้อน้ำละลายครับ โชคดี ที่เป็นแถวบ้าน และอู่สนิทก็อยู่ไม่ไกลมาก
แต่เจอค่ารถยกอ่ะครับ เพราะขับหลัง เราก็ไม่กล้าลาก เดี๋ยวพัง

ปีหลัง ๆ ค่า maintainance สูงครับ บางปี ห้าหมื่นบาท และแอบเสียวทุกครั้งเวลาไปต่างจังหวัด
ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันที่หายาก รวมไปถึง ถ้ามีอะไรกลางทางเนี่ย ไม่รู้จะทำยังไง
จะไปเข้าศูนย์ก็เคยครับ ตอนนั้นวิ่งไปอุดร กระจกข้างคนขับ เอาลงแล้วขึ้นไม่ได้ครับ ตกราง แถวปากช่อง
แวะเข้าไปแถวนั้น ช่างกระจกบอก ทำรุ่นนี้ไม่เป็น ต้องวิ่งแบบเปิดกระจกกลาง ๆ ไปจนถึงขอนแก่น แล้วเข้าศูนย์ที่นั่นครับ
โดนไปหลักพัน ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกจะสามพัน เฉพาะค่ารางกระจกข้างเดียว

แต่ถ้า ไม่ค่อยได้ไปไหน มีอู่นอกที่ไว้ใจได้ ผมว่า ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าคิดครับ
ส่วนความเห็นเรื่องมือหนึ่ง คิดว่า น่าจะคิดออกอยู่แล้วครับ

ออฟไลน์ V221

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,818
จากประสบการณ์ที่ใช้มา รถยุโรปออกแบบได้แข็งแรงกว่าแน่นอนครับ ลองไปดูการออกแบบตัวถังและจุดรับแรงต่างๆจะพบว่าแข็งแรงและมีหลายชั้นมากครับ
BMW 750E M SPORT

ออฟไลน์ nakul18

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 111
    • อีเมล์
ขอบคุณครับ ทุกท่าน

ออฟไลน์ 2k

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,755
ตัดเรื่องของการบำรุงรักษาออกไปมาดูเฉพาะคุณภาพเท่านั้น ผมว่ารถยุโรปยังไงก็มีคุณภาพที่ดีกว่า ยกตัวอย่างเช่นเอาวอลโว่มาเทียบกับรถญี่ปุ่นที่อยู่ในระดับเท่าเทียมกันให้จำนวนแอร์แบกมาเท่าๆกันเหมือนที่ขายในต่างประเทศ ส่วนผสมเหล็กที่ช้ประกอบตัวรถของวอลโว่ก็จะมีการผสมโลหะอื่นๆลงไปเพิ่มความเหนียวและคุณภาพในการกระจายแรงปะทะ โครงสร้างที่ออกแบบมากระจายแรงปะทะได้ดีกว่า แม้กระทั่งในเบาะของเค้ายังมีระบบ whip lash มาให้เพื่อป้องกันการบาดเจ็บที่หลังจากการโดนชนท้าย ถ้าหากไม่ใช่รุ่นที่สร้างออกมาเพื่อตีกับรถยุโรปโดยเฉพาะอย่างเล็กซัสมันก็ยากที่จะเทียบชั้นคุณภาพรถยุโรปนะครับ


เป็นไปได้ว่าปรัชญาการออกแบบรถมันแตกต่างกันรึเปล่า? รถญี่ปุ่นเน้นใช้งานทางไม่ไกลภายในเมืองหรือระหว่างเมืองแต่รถยุโรปต้องทำให้มันสามารถแล่นข้ามประทศเป็นระยะทางไกลๆที่ความเร็วสูงได้โดยที่ไม่เกะกะคันอื่นและสะดวกสบายเวลาแล่นเร็วมากๆ เคยเห็นภาพที่เค้าถ่ายมาให้ดูข้างในรถเบนซ์เค้ามีวัสดุเก็บเสียงเยอะแยะมาก บุแล้วบุอีกแต่รถบ้านๆทั่วไปถอดออกมาแล้วเจอโครงรถเลยวัสดุเก็บเสียงน้อยและด้อยกว่าเค้าเยอะทั้งๆที่ในประเทศอื่นขายแพงกว่ารถบ้านไม่กี่แสนเอง แม้กระทั่งรถบุโรปรุ่นล่างๆในบ้านเราวัสดุที่ใช้รับแรงปะทะอย่างคานกันกระแทกภายในประตู แผ่นอลูมิเนียมกักเสียงในประตู คานกันชนหลังนี่เค้ายังใส่มาให้ครบครันกว่ารถญี่ปุ่นรุ่นที่แพงที่สุดในระดับเดียวกันเสียอีก :P


ต้องยอมรับอีกอย่างว่าเทคโนโลยีอะไรทั้งหลายอย่างเช่น VSA เครื่องแบบฉีดตรง เทอร์โบรถบ้านๆจากโรงงาน โครงสร้างกระจายแรงปะทะ คุณภาพวัสดุที่ใช้ การเก็บเสียงที่เงียบ ออดี้ BMW เบนซ์เค้ามีมากันค่อนข้างนานก่อนที่รถญี่ปุ่นใส่ให้มาให้บ้าง
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com


ออฟไลน์ nonp

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 948
    • อีเมล์
จขกท รู้สึกจะไม่ค่อยเข้าใจเรื่องโครงสร้างของราคารถยนต์เท่าไหร่นะครับ

ก่อนอื่นขอบอกว่า ที่คิดจะเทียบราคาก่อนนำเข้าของรถยุโรปกับรถญี่ปุ่นที่ผลิตในประเทศ
ต้องเข้าใจก่อนว่ารถที่ผลิตในประเทศ ต้องเสียภาษีสรรพสามิต 25%-30% (ยกเว้นรถกระบะ)

แต่ประเทศอื่นเค้าอาจจะไม่ได้คิดตรงนี้เท่ากับประเทศเรา
ดังนั้น คิดคร่าวๆ ให้เอาราคารถในประเทศถอดภาษีออก ด้วยการคูณ 100 แล้วหารด้วย 125-130 ก็จะได้ราคารถ
หน้าโีรงงาน

เช่น Jazz ตัว Top ก็จะเหลือประมาณ 570K ตรงนี้คือต้นทุน + กำไร แบบคร่าวๆ เอามากๆ

นอกจากนี้ จริงๆ แล้ว เวลาบริษัทรถเค้าคำนวณกำไร เค้าจะดูหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล
ซึ่งอัตราของไทยคือ 30% ของกำไร ซึ่งสูงกว่าประทศอื่นๆ มากทีเดียว

ดังนั้น ในการกำหนดราคาขายเพื่อให้ได้กำไรตามที่ตนเองต้องการ  ต้นทุนของรถจึงอาจต้องบวกตรงนี้เข้าไปอีก
ซึ่งประเทศอื่นๆ เค้าก็ไม่ได้มีต้นทุนทางภาษีสูงขนาดเรานะครับ

และที่สำคัญคือลองดูรถยุโรปที่ผลิตในประเทศ เช่น BMW , Benz ราคามันโดดจากรถญี่ปุ่นไปไกลเลยนะครับ
ถ้ารถญี่ปุ่นราคาเท่าๆกัน กับรถยุโรป คิดว่าจะทำได้ไม่ดีเท่า หรือดีกว่าเหรอครับ


ลองดู Lexus เป็นตัวอย่าง นั่นคือรถญี่ปุ่น ที่ใช้ราคารถยุโรป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 19, 2011, 08:44:31 โดย nonp »

ออฟไลน์ nakul18

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 111
    • อีเมล์
จขกท รู้สึกจะไม่ค่อยเข้าใจเรื่องโครงสร้างของราคารถยนต์เท่าไหร่นะครับ

ก่อนอื่นขอบอกว่า ที่คิดจะเทียบราคาก่อนนำเข้าของรถยุโรปกับรถญี่ปุ่นที่ผลิตในประเทศ
ต้องเข้าใจก่อนว่ารถที่ผลิตในประเทศ ต้องเสียภาษีสรรพสามิต 25%-30% (ยกเว้นรถกระบะ)

แต่ประเทศอื่นเค้าอาจจะไม่ได้คิดตรงนี้เท่ากับประเทศเรา
ดังนั้น คิดคร่าวๆ ให้เอาราคารถในประเทศถอดภาษีออก ด้วยการคูณ 100 แล้วหารด้วย 125-130 ก็จะได้ราคารถ
หน้าโีรงงาน

เช่น Jazz ตัว Top ก็จะเหลือประมาณ 570K ตรงนี้คือต้นทุน + กำไร แบบคร่าวๆ เอามากๆ

นอกจากนี้ จริงๆ แล้ว เวลาบริษัทรถเค้าคำนวณกำไร เค้าจะดูหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล
ซึ่งอัตราของไทยคือ 30% ของกำไร ซึ่งสูงกว่าประทศอื่นๆ มากทีเดียว

ดังนั้น ในการกำหนดราคาขายเพื่อให้ได้กำไรตามที่ตนเองต้องการ  ต้นทุนของรถจึงอาจต้องบวกตรงนี้เข้าไปอีก
ซึ่งประเทศอื่นๆ เค้าก็ไม่ได้มีต้นทุนทางภาษีสูงขนาดเรานะครับ

และที่สำคัญคือลองดูรถยุโรปที่ผลิตในประเทศ เช่น BMW , Benz ราคามันโดดจากรถญี่ปุ่นไปไกลเลยนะครับ
ถ้ารถญี่ปุ่นราคาเท่าๆกัน กับรถยุโรป คิดว่าจะทำได้ไม่ดีเท่า หรือดีกว่าเหรอครับ


ลองดู Lexus เป็นตัวอย่าง นั่นคือรถญี่ปุ่น ที่ใช้ราคารถยุโรป

ขอบคุณมากครับ ผมไม่ค่อยรู้ เรื่อง นึกแค่ว่า ญี่ปุ่น ผลิตมาถูก ๆ คุณภาพไม่ดีเหล็ก ไม่หนา เพื่อ เอามาขายไทย ถูก แค่ เกรด B  เกรด C  แต่ว่า ถ้า รถญี่ปุ่นดีจริง ทำไมคนไทย หรือคนชาติอื่น ถึงยัง ซื้อรถยุโรปมากกว่า ล่ะครับ


ออฟไลน์ nonp

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 948
    • อีเมล์

ขอบคุณมากครับ ผมไม่ค่อยรู้ เรื่อง นึกแค่ว่า ญี่ปุ่น ผลิตมาถูก ๆ คุณภาพไม่ดีเหล็ก ไม่หนา เพื่อ เอามาขายไทย ถูก แค่ เกรด B  เกรด C  แต่ว่า ถ้า รถญี่ปุ่นดีจริง ทำไมคนไทย หรือคนชาติอื่น ถึงยัง ซื้อรถยุโรปมากกว่า ล่ะครับ



รถยุโรปน่ะดีครับ ผมไม่ได้ว่าไม่ดี แต่พยายามจะบอกว่า ไอ้ที่มันดีน่ะ เพราะราคามันแพงมันเลยทำของดีๆ ออกมาได้
ก็เท่านั้นครับ

รถญี่ปุ่นที่เราบอกว่ามันดีสู้รถยุโรปไม่ได้ เพราะราคามันถูกกว่า มันก็ต้องดีสู้ไม่ได้ เป็นของธรรมดาครับ
เค้าเน้นขายตลาด Mass ต้นทุนถูกๆ กำไรต่อหน่วยน้อยๆ  แต่เน้นขายเยอะ ๆ ครับ

ถึงบอกไง ว่าถ้าอยากรู้ว่าถ้าญี่ปุ่น ทำของแพงๆ แบบยุโรป มันจะดีมั้ย ก็ลองไปดู Lexus ครับ
หรือพวกรถสปอร์ตแพงๆ ค่ายญี่ปุ่น แบบ 370Z , MX5 , EVO X มันดีหรือเปล่าล่ะครับ
ก็เท่านั้นหละ

ถ้าผมมีเงิน ผมก็ยังอยากได้ Lexus มากกว่า BMW นะ แม้จะแพงกว่าหน่อยๆ
แต่มันก็ทนกว่า เพราะผมยังไม่เคยเห็นใครบอกว่า Lexus จุกจิก หรือเสียง่ายๆ เลยซักคน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 19, 2011, 10:46:19 โดย nonp »

ออฟไลน์ nakul18

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 111
    • อีเมล์

ขอบคุณมากครับ ผมไม่ค่อยรู้ เรื่อง นึกแค่ว่า ญี่ปุ่น ผลิตมาถูก ๆ คุณภาพไม่ดีเหล็ก ไม่หนา เพื่อ เอามาขายไทย ถูก แค่ เกรด B  เกรด C  แต่ว่า ถ้า รถญี่ปุ่นดีจริง ทำไมคนไทย หรือคนชาติอื่น ถึงยัง ซื้อรถยุโรปมากกว่า ล่ะครับ



รถยุโรปน่ะดีครับ ผมไม่ได้ว่าไม่ดี แต่พยายามจะบอกว่า ไอ้ที่มันดีน่ะ เพราะราคามันแพงมันเลยทำของดีๆ ออกมาได้
ก็เท่านั้นครับ

รถญี่ปุ่นที่เราบอกว่ามันดีสู้รถยุโรปไม่ได้ เพราะราคามันถูกกว่า มันก็ต้องดีสู้ไม่ได้ เป็นของธรรมดาครับ
เค้าเน้นขายตลาด Mass ต้นทุนถูกๆ กำไรต่อหน่วยน้อยๆ  แต่เน้นขายเยอะ ๆ ครับ

ถึงบอกไง ว่าถ้าอยากรู้ว่าถ้าญี่ปุ่น ทำของแพงๆ แบบยุโรป มันจะดีมั้ย ก็ลองไปดู Lexus ครับ
หรือพวกรถสปอร์ตแพงๆ ค่ายญี่ปุ่น แบบ 370Z , MX5 , EVO X มันดีหรือเปล่าล่ะครับ
ก็เท่านั้นหละ

ถ้าผมมีเงิน ผมก็ยังอยากได้ Lexus มากกว่า BMW นะ แม้จะแพงกว่าหน่อยๆ
แต่มันก็ทนกว่า เพราะผมยังไม่เคยเห็นใครบอกว่า Lexus จุกจิก หรือเสียง่ายๆ เลยซักคน

เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณมาก

ออฟไลน์ Zardus

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 293
ต้องถามว่าอยากได้อะไรครับ

ถ้าอยากได้ของถูก รถมือ2ยุโรปบางยี่ห้อ บางรุ่นถูกกว่าญี่ปุ่นอีกนะ
(ใช้ Passat อยู่ ราคาขายตอนนี้ 2-3แสนเอง :'( )

แต่ถ้าอยากได้ของดี ผมถามตรงๆ พวกที่ว่ารถญี่ปุ่นดีเนี่ย
เวลาไปลองนั่น ลองจับ ลองขับแล้ว มันดีเท่าจริงๆเหรอครับ
เอาแบบไซส์เท่าๆกันเลยนะ Golf GTI - City รุ่นตัวโตครท็อป มันจะดีพอๆกันจริงเหรอครับ
หรือ E-Class - Accord รุ่นโคตรท็อป เครื่อง 3พัน มันจะสู้กันได้จริงๆเหรอ
อันนี้เรื่องความปลอดภัยนะ

ส่วนเรื่องเครื่องยนต์ ไม่นับ Super Car นะครับ
รถยุโรปน่ะสู่พี่ยุ่นไม่ได้อยู่แล้ว อันเนื่องมาจากน้ำหนักตัวรถด้วยครับ

ผมเองมีแลนเซอร์ ซึ่งผมเชื่อว่าไม่มีรถญี่ปุ่นยี่ห้อไหนในขนาดเดียวกันจะสู้ชช่วงล่างมิตซูได้อีกแล้ว
ซึ่งตอนขับก็ช่วยชีวิตผมไว้มาก
แต่พอมาขับ E-Class - Passat แล้ว ผมถึงเข้าใจ ว่ามันเทียบกันไม่ติดจริงๆ

สรุปว่า เอา2ข้อมารวมกัน เชียร์รถยุโรปมือ1ครับ
อิอิอิ
บุหรี่ เป็นภัยต่อสังคม

เราจะเป็นฮีโร่

ดูด ให้มันหมดโลกไปซะ

ออฟไลน์ nakul18

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 111
    • อีเมล์
ต้องถามว่าอยากได้อะไรครับ

ถ้าอยากได้ของถูก รถมือ2ยุโรปบางยี่ห้อ บางรุ่นถูกกว่าญี่ปุ่นอีกนะ
(ใช้ Passat อยู่ ราคาขายตอนนี้ 2-3แสนเอง :'( )

แต่ถ้าอยากได้ของดี ผมถามตรงๆ พวกที่ว่ารถญี่ปุ่นดีเนี่ย
เวลาไปลองนั่น ลองจับ ลองขับแล้ว มันดีเท่าจริงๆเหรอครับ
เอาแบบไซส์เท่าๆกันเลยนะ Golf GTI - City รุ่นตัวโตครท็อป มันจะดีพอๆกันจริงเหรอครับ
หรือ E-Class - Accord รุ่นโคตรท็อป เครื่อง 3พัน มันจะสู้กันได้จริงๆเหรอ
อันนี้เรื่องความปลอดภัยนะ

ส่วนเรื่องเครื่องยนต์ ไม่นับ Super Car นะครับ
รถยุโรปน่ะสู่พี่ยุ่นไม่ได้อยู่แล้ว อันเนื่องมาจากน้ำหนักตัวรถด้วยครับ

ผมเองมีแลนเซอร์ ซึ่งผมเชื่อว่าไม่มีรถญี่ปุ่นยี่ห้อไหนในขนาดเดียวกันจะสู้ชช่วงล่างมิตซูได้อีกแล้ว
ซึ่งตอนขับก็ช่วยชีวิตผมไว้มาก
แต่พอมาขับ E-Class - Passat แล้ว ผมถึงเข้าใจ ว่ามันเทียบกันไม่ติดจริงๆ

สรุปว่า เอา2ข้อมารวมกัน เชียร์รถยุโรปมือ1ครับ
อิอิอิ

ขอบคุณนะครับ แต่ว่า ผม ยังไม่มีปัญญา ซื้อ ยุโรป มือหนึ่ง จะซื้อรถญี่ปุ่น มือหนึ่งให้แฟนใช้คันนึง ส่วนตัวเองจะ ออกยุโรป มือสอง มาขับบ้าง นานๆ ครั้ง ครับ

ออฟไลน์ nonp

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 948
    • อีเมล์
ต้องถามว่าอยากได้อะไรครับ

ถ้าอยากได้ของถูก รถมือ2ยุโรปบางยี่ห้อ บางรุ่นถูกกว่าญี่ปุ่นอีกนะ
(ใช้ Passat อยู่ ราคาขายตอนนี้ 2-3แสนเอง :'( )

แต่ถ้าอยากได้ของดี ผมถามตรงๆ พวกที่ว่ารถญี่ปุ่นดีเนี่ย
เวลาไปลองนั่น ลองจับ ลองขับแล้ว มันดีเท่าจริงๆเหรอครับ
เอาแบบไซส์เท่าๆกันเลยนะ Golf GTI - City รุ่นตัวโตครท็อป มันจะดีพอๆกันจริงเหรอครับ
หรือ E-Class - Accord รุ่นโคตรท็อป เครื่อง 3พัน มันจะสู้กันได้จริงๆเหรอ
อันนี้เรื่องความปลอดภัยนะ

ส่วนเรื่องเครื่องยนต์ ไม่นับ Super Car นะครับ
รถยุโรปน่ะสู่พี่ยุ่นไม่ได้อยู่แล้ว อันเนื่องมาจากน้ำหนักตัวรถด้วยครับ

ผมเองมีแลนเซอร์ ซึ่งผมเชื่อว่าไม่มีรถญี่ปุ่นยี่ห้อไหนในขนาดเดียวกันจะสู้ชช่วงล่างมิตซูได้อีกแล้ว
ซึ่งตอนขับก็ช่วยชีวิตผมไว้มาก
แต่พอมาขับ E-Class - Passat แล้ว ผมถึงเข้าใจ ว่ามันเทียบกันไม่ติดจริงๆ

สรุปว่า เอา2ข้อมารวมกัน เชียร์รถยุโรปมือ1ครับ
อิอิอิ

GTI ซื้อ City ได้ 4-5 คันเลยนะ
ถ้า City ดีกว่าก็เกินไปแล้วล่ะ

ออฟไลน์ Zardus

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 293
ต้องถามว่าอยากได้อะไรครับ

ถ้าอยากได้ของถูก รถมือ2ยุโรปบางยี่ห้อ บางรุ่นถูกกว่าญี่ปุ่นอีกนะ
(ใช้ Passat อยู่ ราคาขายตอนนี้ 2-3แสนเอง :'( )

แต่ถ้าอยากได้ของดี ผมถามตรงๆ พวกที่ว่ารถญี่ปุ่นดีเนี่ย
เวลาไปลองนั่น ลองจับ ลองขับแล้ว มันดีเท่าจริงๆเหรอครับ
เอาแบบไซส์เท่าๆกันเลยนะ Golf GTI - City รุ่นตัวโตครท็อป มันจะดีพอๆกันจริงเหรอครับ
หรือ E-Class - Accord รุ่นโคตรท็อป เครื่อง 3พัน มันจะสู้กันได้จริงๆเหรอ
อันนี้เรื่องความปลอดภัยนะ

ส่วนเรื่องเครื่องยนต์ ไม่นับ Super Car นะครับ
รถยุโรปน่ะสู่พี่ยุ่นไม่ได้อยู่แล้ว อันเนื่องมาจากน้ำหนักตัวรถด้วยครับ

ผมเองมีแลนเซอร์ ซึ่งผมเชื่อว่าไม่มีรถญี่ปุ่นยี่ห้อไหนในขนาดเดียวกันจะสู้ชช่วงล่างมิตซูได้อีกแล้ว
ซึ่งตอนขับก็ช่วยชีวิตผมไว้มาก
แต่พอมาขับ E-Class - Passat แล้ว ผมถึงเข้าใจ ว่ามันเทียบกันไม่ติดจริงๆ

สรุปว่า เอา2ข้อมารวมกัน เชียร์รถยุโรปมือ1ครับ
อิอิอิ

GTI ซื้อ City ได้ 4-5 คันเลยนะ
ถ้า City ดีกว่าก็เกินไปแล้วล่ะ

แปลว่าเห็นด้วยใช่ไหม๊ครับว่าญี่ปุ่้นน่ะ สู้รถยุโรปไม่ได้หรอก
อันนี้ผมถามเพราะเห็นชอบบอกผมกันจังว่า เดี๋ยวนี้รถญี่ปุ่นดีไม่แพ้รถยุโรปน่ะ
ก็เลยถามครับ ไม่ได้ว่าคุณนะครับ

ส่วนเรื่องรถยุโรป จิงๆแล้ว ถ้าไม่เอาเข้าศูนย์ ค่าซ่อมก็ไม่แพงขนาดนั้นนะครับ
แอร์ผมซ่อมไป 2.4 หมื่น
อู่ดีราคาให้ 4.2 พัน
555555555555+

เรื่องอื่นๆอีก ถ้า ไม่นับ เรื่องซ่อมศูนย์แล้ว ใช้ยุโรปเถอะครับ ไม่เกินไปหรอก แต่รู้จักหาอู่หน่อย หรือไม่ก็เข้าศูนย์มันเลย
แต่ลองคิดดูนะครับ
สมมุติ Psaast ปี 2002 ราคา 300,000 จะไปเทียบ
Jazz ที่ 700,000 บาท เท่ากับคุณมรค่าซ่อมเป็นส่วนต่างอีก 4แสนเลยนะ
ยังไงผมก็ว่าซ่อมไม่ขนาดนั้นหรอกครับ
ยุโรป เต๊อะ

เอ้อ แล้วงบประมาณเท่าไหร่ครับ แล้วใช้กี่คน ผมอาจพอแนะนำได้บ้างครับ
บุหรี่ เป็นภัยต่อสังคม

เราจะเป็นฮีโร่

ดูด ให้มันหมดโลกไปซะ

ออฟไลน์ littlebit

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 37
    • อีเมล์
พ่อผมใช้ Ls400 มาสิบกว่าปีแล้ว เคยซ่อมจริงๆครั้งเดียวเองครับ  เพราะว่าเอาน้ำไปฉีดเครื่องน้ำเลยเข้าหัวเทียน  ;D ;D

ออฟไลน์ golf32

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 681
สำหรับผมนะครับจากที่ใช้มาหมดทั้งคู่ ช่วงล่าง ยุโรปกินขาดครับอันนี้เอาเฉพาะรถธรรมดานะครับสปอร์ตไม่นับ อาจเพราะตัวรถน้ำหนักเยอะกว่าเลยเกาะกว่า
ส่วนที่รถญี่ปุ่นจุกจิกน้อยกว่าเพราะอุปกรณ์ไฟฟ้าน้อยกว่านะครับ
ส่วนญี่ปุ่นที่ราคาสูงๆพวก Lexus ผมรู้สึกว่าภายในมันไม่ค่อยสมราคารถสักเท่าไหร่
ที่สำคัญอย่าลืมนะครับว่าราคาคือปัจจับสำคัญเลย จริงๆญี่ปุ่นจะทำรถเหมือนยุโรปก็ได้ในความคิดผมแต่ราคาก็จะไม่หยุดอยู่เท่านี้นะครับ

ตอนผมเรียนที่ออสแล้วมีโอกาสได้คุยกับพวกที่เล่นรถ ฝรั่งยังพูดเลยครับว่าญี่ปุ่นสร้างรถแบบนึง ยุโรปสร้างรถอีกแบบที่พูดแบบนี้พราะที่ญี่ปุ่นการจราจรเหมือนบ้านเราครับเมืองเล็กรถเยอะการจราจรในเมืองเป็นส่วนใหญ่เพราะฉะนั้นเค้าถึงสร้างรถที่มีตีนต้นดีแล้วก็ไม่ค่อยใส่ใจเรื่องความเร็วสูงมากนัก ส่วนรถยุโรปทวีปเค้าใหญ่มีหลายประเทศติดกัน ฝรั่งนิยมขับรถเที่ยวเค้าจึงสร้างรถที่เดินทางไกลได้ดีวิ่งด้วยความเร็วสูงได้ดี ทรงตัวดี สบายขับแล้วไม่เครียด

ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวครับต้องขออภัยถ้าใครอ่านแล้วไม่ถูกใจครับ  :-[