« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤษภาคม 06, 2011, 23:55:17 »
แน่นอนครับ
ในฐานะ ของผู้ที่ติดตามดูอยู่ตลอด
และต้องคอยรับโทรศัพท์ของตาหลุยส์ กันตลอด...ทุกวัน
(ขอย้ำว่า ทุกวัน และยิ่งวันไหน ความเคลื่อนไหวมีต่อเนื่อง วันนั้น ผมอาจจะต้องรับสายตาหลุยส์ มากถึง 3 รอบ
รอบนึง ก็ไม่ใช่สั้นๆ อย่างต่ำ มีครึ่งชั่วโมง อย่างมาก มีชั่วโมงกว่าๆ ดังนั้น ถ้ารีวิวช่วงนี้จะออกช้า อย่าโทษใคร
แต่โปรดโทษตาหลุยส์ คนเดียวนะครับ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เอิ๊กส์!)
ต่อจากนี้ คือความในใจ ซึ่งจะขอพูดเพียงครั้งเดียว
เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น เราก็คงต้องมา "สรุป" ทุกอย่าง ก่อนจะจบเรื่องราวกันตามธรรมเนียม
ก็ต้องขอบอกว่า ขอขอบคุณ Thank you very much, Khun Whitney Foard Small, For your kindness help.
จะบอกว่า ก่อนหน้านี้ ผมหมดสิ้นความรู้สึกดีๆ กับ Ford ไปแล้ว และไม่กล้าแนะนำให้ใครซื้อ Ford มาใช้อีก
แต่ ด้วยสิ่งที่คุณ Whitney พยายามจะแก้ปัญหา ทุกอย่าง ทำให้ผมกลับมารู้สึกดี กับ Ford อีกครั้ง
I'm very appreciated in what you do to solve this problem. และผมเชื่อว่า ถ้าตราบใดที่ Ford
ยังมีผู้บริหารที่ดีแบบนี้ มีนโยบายที่ดี ผู้รักษานโยบายจากต่างประเทศ ดีขนาดนี้ ขอเพียงแค่ทำงานร่วมกัน
เป็นทีม One Ford อย่างแท้จริง อย่าหมกเม็ดปัญหา เพียงเพราะกลัวความผิด หรือกลัวเดือดร้อน เหมือนเช่น
ที่เคยเกิดขึ้นกับเคสนี้ และเคสอื่นๆ ที่เราอาจไม่รู้ เพียงเท่านี้ Ford ก็จะดีขึ้นได้ในสายตาของคนไทย
อาจต้องใช้เวลา แต่ขอให้ทุกคนทำอย่างจริงใจและจริงจัง
ไม่ใช่เพียงแค่ พยายามช่วยกัน cheer up รถของบริษัทตน
แต่จงพยายามช่วยกัน Cheer up กระตุ้นกันในที่ทำงาน ช่วยกัน
แก้ไขปัญหา และ อย่ามองลูกค้าว่า เป็นตัวก่อปัญหา เพราะว่า
ถ้าไม่มีลูกค้าที่รักแบรนด์คุณมากขนาดนี้ บอกเลยว่า ป่านนี้
พวกคุณคงต้องหางานอื่นทำกันไปหมดแล้ว และ Ford thailand
ก็คงจะไม่มีวันนี้ได้
ขอให้ทุกคนที่เกี่ยวข้อง จดจำบทเรียนครั้งนี้ไป และอย่าหมกเม็ด
อย่าปกปิด อย่ากลัวลูกค้า อย่ากลัวโดนด่า จงทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ถูกต้อง
ตาม protocal แต่แรก แล้วทุกอย่างจะดีเอง
ผมรู้ว่า ตอนนี้ บางคนในระดับปฏิบัติการณ์ที่ Ford คงเกลียดผมไปแล้ว
และนั่นช่วยไม่ได้จริงๆ ที่มันจะเป็นอย่างนั้น
แต่ทุกสิ่งที่ผมพยายามจะทำกับเคสนี้ คือ พยายามเป็นกลางที่สุด
ทั้งเตือนสติ หลุยส์ โทรหาตาโป่ง พีอาร์ โทรไปด่า Ford กับพี่สิงห์ สุดรักของผม
ซึ่งพูดกันตรงๆคือ ทั้ง โป่ง และพี่สิงห์ ก็เป็น 2 คนที่ผมแฮปปี้ที่จะคุยด้วยมากที่สุด
อีก คู่หนึ่ง ในวงการรถยนต์บ้านเรา เพราะทั้งคู่ ลึกๆก็เป็นคนดี
เพียงแต่ perception การมองลูกค้าเป็นปัญหาครั้งนี้ ข้าพเจ้า รับไม่ได้จริงๆหวะ!
การต้องมานั่งรับฟังปัญหาของแบรนด์พวกคุณ ตอน 5 ทุ่มกว่าๆ
ถึงเที่ยงคืน การต้องมานั่งอ่าน Facebook ของทั้ง 2 ฝ่ายที่ตอบโต้กันไปมา
ช่วง ตี 2 ของแต่ละวัน บอกตรงๆว่า ผมโคตรจะทรมาณใจ
เพราะทั้ง 2 ฝ่าย ก้้เป็นเพื่อนผมทั้งสิ้น หลุยส์ ก็เป็นเพื่อนผม และ Ford ผมก็ถือว่าเป็นเพื่อนผมด้วยกันทั้งสิ้น
หวังว่า เพื่อน ทั้ง 2 จะช่วยกันทำให้ แบรนด์ของ Ford ในเมืองไทย แข็งแกร่ง อย่างมั่นคงและยั่งยืน
นับจากนี้ และต่อไป
ผมจะได้ เอาเวลาช่วงกลางคืน มานั่งทำรีวิวอื่นๆ ให้คุณอ่านกันต่อ
ก่อนจะนอนหลับฝันดีในช่วงรุ่งสาง ได้ตามเดิมเสียที....
ขอบคุณครับ
ปิดคดี!
ปล. ฝากถึงไอ้คนที่จะแปลให้คุณ Whitney เขาอ่านด้วยนะครับ
กรุณา แปลให้มันถูกๆ ตรงๆ อย่าแปลบิดเบี้ยวๆ ผิดเพี้ยนไปจากนี้อีกละ!
เพราะการแปลอันห่วยแตกแบบที่คุณทำกันมานั่นแหละ คือต้นเหตุของ
ปัญหาทั้งหมด!!!
^
^
^
For Translation who take responsibility for translating in English language
to Khun Whitney, Please do it all in the truth, without changing the meaning al of my words !,