ผมอ่าน
และคิดว่าหลายอย่างที่คุณเติ้งอัลติสบอกมานั้น ฉุกประเด็นให้เราคิดได้มากครับ ผู้อ่านท่านอื่นก็เช่นกันที่มีไอเดีย
และกำลังใจให้มา
ผมจะยกตัวอย่างเคสหนึ่งในกรณีที่คิดว่าในบอร์ดนี้ ใครไม่เห็นด้วยกับจิมมี่แล้วอยู่บอร์ดนี้ไม่ได้ จริงๆน่ะมันอยู่ได้ครับ
แต่มันอยู่ตรงที่ว่า เราจะเลือกมองตรงที่เราขัดแย้งกันหรือเปล่า และถึงแม้มีอะไรต้องติกัน มันก็ทำกันได้นะ
ในข้อความของคุณเติ้ง ก็สามารถวิจารณ์ทีมคุมบอร์ดได้ แต่คุณเติ้งเขียนแบบใจเขาใจเรา ตรงนี้สำคัญ
นี่คือหัวใจของการเห็นต่างแบบไม่ขัดขากัน
ผมคิดว่าสิ่งที่อยากทำก็มีอยู่ โดยเฉพาะในเรื่องการแต่งตั้ง Moderator คุมบอร์ดเพิ่มเติม
เพราะถ้ามีสองคน รับไม่ไหว สองคนในที่นี้ คือคนที่ปั่นรีวิวหัวจะเป็นกระเทียม กับอีกคนที่ทำงาน Full time 1 งาน
และ Part time อีก 2 งานไปพร้อมๆกัน มันก็คงต้องถึงเวลาที่จะไว้ใจให้ใครสักคนเข้ามาช่วยกันดูแลตรงนี้
อย่างไรก็ตาม ผมกับทีมจะหารือกันเพิ่มเติม เพราะคิดว่าผ่านมา 2 ปี บางอย่างก็ควรจะลองมาทบทวนกันดูบ้าง
ไม่มีกฏไหนห้ามไม่ให้เราเปลี่ยน หรืออยู่กับที่ ถ้ามันจะทำให้พวกคุณรู้สึกดีกับที่นี่มากขึ้น ภายใต้ขอบเขต
ของกฏหมายบ้านเมือง และภายใต้การอยู่ร่วมกันแบบใจเขาใจเรา
เห็นด้วยว่า
1. กฏเยอะ จำยาก ขยับตัวทีต้องกลัวเป็นบ้าเป็นหลัง
2. คนที่ไม่อ่าน ก็คงไม่รู้เรื่องอยู่ดี และต้องใช้วิธีประณีประนอม จากหนักเป็นเบา
เริ่มจากสุภาพ ไปหาความหนัก และเอาจริงจังยิ่งขึ้น หากมีกรณีซ้ำซาก ก็ต้องแบน และไม่ต้องประจาน
ว่าวันนี้ฉันแบนใครไปนะ ให้ไปแบบเงียบๆ บอร์ดดูสงบดีกว่าการมาประจานกัน
เสริมจากข้างบนนิดเดียวครับคุณแพน บังเอิญอ่านคุณจิมมี่ข้างล่างแล้วฉุกคิดนิดหน่อย คือเราแบนใครเราจะบอกเหตุผลที่แบนก็ได้ครับ ไม่ใช่ว่าให้เงียบไปเลยแบบพันทิพ(ที่เกิดเหตุการณ์สังหารหมู่อมยิ้ม 2011 เมื่อไม่นานนี้
) แค่การแจ้งสาเหตุที่แบนนั้นถ้าทำบนข้อเท็จจริง มันก็ไม่ได้ดูว่าเป็นการประจานน่ะครับ ในมุมมองผม ผมว่าเลือกทำได้สองแบบ
1. แจ้งเจ้าตัวเองโดยตรงคนเดียว อันนี้จะด่าจะแรงจะอะไร แล้วแต่ดุลพินิจ และความเหมาะสมของทาง admin เองครับ แค่ระัวังข้อกฎหมายนิดหน่อยก็พอ
2. ประกาศผ่านกระทู้ที่เจ้าตัวกระทำผิดล่าสุด ด้วยเหตุและผลที่ต้องแบน ชี้แจงคร่าวๆพอครับ หรือถ้าให้ดีแปะลิงค์ความผิดครั้งเก่าๆที่เคยทำไว้แล้วไม่หัดจำ คนมาอ่านเค้าก็จะเห็นว่า เออ เราแบนเพราะมีเหตุผล ไม่ใช่เพราะเหตุส่วนตัวหรือเอาตามอารมณ์เรา เสร็จแล้วล็อกกระทู้ ป้องกันคนที่อาจจะเข้ามาซ้ำเติมให้มันยิ่งดูแย่ครับ
-------------------------------------------------------------
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมมองเห็นความตั้งใจจริงครั้งนี้ของทีมงานเอง และความเป็นห่วงเป็นใยของสมาชิกทุกคนในบ้านหลังนี้แล้ว น่าชื่นใจจริงๆครับ ส่วนที่ทะเลาะกันหน้าที่ 4 นั้น ผมอยากให้ทั้งสองฝ่ายให้อภัยกันนะครับ ฝ่ายที่เป็นผู้ใหญ่กว่าก็ควรคุมอารมณ์ให้ได้ในฐานะที่วุฒิภาวะเราสูงกว่าครับ และไม่ไปตอบโต้เด็กแบบนั้น (หมายถึงควรเลือกวิธีการสอนน้องหรือตอบโต้ด้วยการตักเตือนที่เหมาะสมกว่าการดูถูกคนอื่นครับ ใจเขาใจเรา) ฝ่ายที่เด็กกว่านั้นเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองพูดแรงเกินไป และใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสมต่อผู้ใหญ่ ตามวัฒนธรรมอันดีของบ้านเรา น้องควรขอโทษเขาที่ประพฤติไม่เหมาะสมครับ เพราะจริงๆแล้วผมนั่งอ่านดู ผมเข้าใจในประเด็นที่เขาเขียนนะ แต่วิธีการของเขามันไม่เป็นที่พึงประสงค์ในวัฒนธรรมบ้านเราก็เท่านั้น รับได้ก็ไม่ได้มีอะไร แต่ถ้ารับไม่ได้ ก็จะกลายเป็นอารมณ์ว่า เฮ๊ย ทำไมต้องพูดแรงจัง หรือจะตรงไปมั้ย? แล้วสุดท้ายก็ดราม่าจงเจริญ ซึ่งก็ไม่ได้เป็นผลดีครับ
-------------------------------------------------------------
สังคมออนไลน์มันก็เหมือนบ้านที่ทำจากแก้วใสๆน่ะครับ คนที่อยู่ในบ้านก็คิดว่านี่คือบ้านของเราเลยเผลอคิดว่า ฉันทำอะไรตามใจฉันก็ได้ แต่หลงลืมไปว่า คนที่เดินผ่านรั้วบ้านเราข้างนอกเขาเห็นหมดเลยครับ เราทะเลาะกัน หรือเราพูดกันแรงๆ คนที่เขามาด้อมๆมองๆ กะว่าจะลองเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้สักหน่อย เขาก็พาลไม่เข้ากันครับ
ึส่วนคนที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ ถ้าเราไม่เข้าใจกัน แล้วทะเลาะกันรุนแรงไม่มีใครยอมใคร มันเหมือนกับเราอาละวาดขว้างปาข้าวของในบ้านใส่กัน แล้วเมื่อบ้านหลังนี้มันทำจากแก้วใสๆบางๆเท่านั้น มันก็จะมีแต่แตกร้าวเสียหาย ถ้ายังลุกลามไปไม่หยุด บ้านก็พังครับ ทุกคนไม่อยากเห็นเหตุการณ์แบบนี้อยู่แล้วใช่ไหม?
บ้านจะน่าอยู่ เริ่มจากคนอาศัยครับ แล้วคนข้างนอก เพื่อนบ้าน คนผ่านไปมา เค้าก็อยากเข้ามานั่งพูดคุยทำความรู้จักกับเราทั้งนั้นแหละครับ