ผู้เขียน หัวข้อ: เซงมากๆ โดนจับความเร็วที่ 102 กม./ชม. โดย สภ.ธัญบุรี  (อ่าน 22943 ครั้ง)

ออฟไลน์ swan

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 901
ผมว่าผิดก็คือผิดนะครับ

คนไทยติดคำว่าหยวนมากเกินไปครับ

โดนจับบอกว่าไม่มีมาตรฐาน ทำไมไม่จับตลอดเวลา  --> แล้วใครจะมาเฝ้าได้ตลอดเวลาละครับ

โดนจับคงต้องบอกตัวเองว่า ซวยจะดีกว่านะครับ หรือไม่ก็คือ ขับรถตามกฏครับ

ผมมาเรียนอยู่ออสเตรเลียได้ 3 ปีกว่าครับ  โดนปรับความเร็วไป 3 รอบครับ โดนข้อหาฝ่าแยกโดยไม่หยุดรถอีก 1 ครั้ง

ตำรวจที่ออสก็เหมือนตำรวจที่ไทยอย่างนึงนะครับ คือ ซุ่มจับครับ หลังพุ่มไม้บ้าง หลังเสา หลังป้าย ห้าทุ่มเที่ยงคืนยังออกมาดักจับก็มีครับ ที่ผมโดนข้อหาฝ่าป้ายห้ามหยุดรถก็เกือบจะเที่ยงคืนแล้วครับ รถโดนเป็นสิบ

สิ่งนึงที่จะป้องกันตัวเองก็คือ ทำตามกฏครับ  ไม่ใช่ว่ากฏมีไว้แหก   ผมไม่เห็นคนไทยหน้าไหนที่นี่จะกล้าหือตำรวจเลยครับ ผิดมันก็คือผิด

ค่าปรับที่นี่ก็แพงมากนะครับ (แล้วแต่รัฐ) ขอยกตัวอย่างเล็กน้อยครับ
- เพื่อนผมลืมคาดเข็มขัด $520
- ถ้าแยกมีป้าย stop ให้หยุดรถให้สนิท แล้วค่อยผ่าน ผมโดนข้อหานี้เพราะหยุดรถไม่สนิท $150
- ขับรถความเร็วเกินกำหนด 0-9km/h  เช่น กำหนด 60 คุณขับ 61-69km/h โดนปรับ $75, ....., > 40km/h $1000 + ยึดใบขับขี่ 6 เดือน
- เพื่อนผมโดนข้อหาขับฝ่าไฟเหลือง $100  ตำรวจถามว่า คุณรู้มั้ยไฟเหลืองคืออะไร เพื่อนผมตอบว่าเตรียมตัวให้่หยุด  ตำรวจบอกว่าคุณตอบผิด  ที่จริงคือหยุด
- กล้องตามแยกจับภาพทันที ถ้ารถคุณกำลังข้ามเส้นในขณะที่ไฟแดง
- ค่าปรับ 2 เท่า ช่วงวันหยุดยาว 

ขับรถที่นี่ขับง่ายครับ ไม่ค่อยมีพวกเบียดเสียด ปาดไปปาดมา  เป็นระเบียบมาก

ถ้าคุณอยากเปรี้ยว ก็เชิญครับ ถ้าเจอตำรวจก็ตัวใครตัวมัน  ตำรวจเค้าก็กวนตีนใช้ได้

เพื่อนผมคนนึงขับอยู่บนฟรีเวย์ที่ความเร็วประมาณ 100 มีรถตำรวจนอกเครื่องแบบขับมาจี้ท้าย  เพื่อนผมเกิดอาหารหมั้นไส้ อยากขับหนี พอขับได้ความเร็ว 120 กว่าๆ รถตำรวจที่จี้ท้ายเปิดไฟทันที  สรุป คือโดนปรับ $300

ผมก็เคยโดนแบบนี้เหมือนกัน แต่ผมไม่ได้ขับเพราะรู้ว่าแอลกอฮอล์เกิน เลยให้แฟนขับให้  หลังจากปาตี้ที่บ้านเพื่อน ก็ขับรถออกมาประมาณตี 1-2 ออกมาแป๊บเดียว มีรถกะบะมาจี้ท้าย ผมก็บอกแฟนว่าไม่ต้องขับหนี ให้ขับปกติไปเรื่อยๆ ถ้าเค้าอยากแซงให้เค้าแซงไป  พอขับไปซัก 500 เมตร รถกะบะด้านหลังเปิดไฟไซเรน  ตำรวจลงมาขอดูใบขับบี่  ถ้าผมขับนี่ซวยเลยนะเนี่ย  คิดถูกแล้วละที่ให้แฟนเป็นคนขับ ไม่งั้นโดนตรวจแอลกอฮอล์แน่นอน

กรณีที่ตำรวจอนุโลมก็มีครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วแต่โอกาส จังหวะ แล้วก็ดวงครับ
- เพื่อนผมคนสวิสเซอร์แลนด์ขับรถไปเที่ยวนอกเมือง ไม่มีรถซักคันผ่านมาเลยในช่วงเวลา 2 ชั่วโมง ข้างทางไม่มีชุมชนหรือคนเลย ความเร็วที่ใช้ได้คือ 110 เพื่อนผมขับประมาณ 150  รถคันแรกที่สวนมาในรอบ 2 ชั่วโมงคือรถตำรวจ  พอสวนกันเท่านั้นแหละ รถตำรวจเบรคแล้วกลับรถอย่างเร็ว ควันคลุ้งไปทั่ว แล้วก็มาจับเพื่อนผม  แต่โชคดีตำรวจแค่มาเตือน
- อีกครั้งนึง  พี่คนไทยขับรถที่ความ 120 ในเขต 60  ตำรวจเรียกแน่ๆ แล้วถามว่าคุณมาจากไหน  เพื่อนผมบอกเท่านั้นแหละครับ  คุณตำรวจขอให้เพื่อนผมแบมือ ตำรวจก็ตีมือ แล้วบอกว่ามันหลังอย่าทำอีก ที่นี่ไม่ใช่เมืองไทย  โคตรโชคดีเลย ถ้าปรับเสีย $1000 แน่ๆ

ความเร็วมาตรฐานในเขตชุมชน-ย่านธุรกิจ 50, บริเวณโรงเรียน 40, ทั่วไป 60, สูงสุดนอกเมืองไม่เกิน 110   


ที่เล่ามาทั้งหมดก็อยากจะแชร์ประสบการณ์ให้ฟังนะครับ  ผมก็เข้าใจครับว่าคนไทยนิสัยขับรถเป็นยังไง  ก็อยากจะให้คิดถึงความปลอดภัยของผู้ร่วมเดินทางมากขึ้นนะครับ

ถนนเมืองไทยมันก็ไม่เหมาะกับการใช้ความเร็วเท่าไหร่อยู่แล้วครับ ไม่มีการควบคุมโซน ถนนไม่ดี มีหลุมบ่อมากมาย ระวังกันนิดนึงครับ

+10

อันนี้ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งเลยครับ เท่าที่ตระเวนใช้ชีวิตในต่างประเทศมากว่า 10 ประเทศ ยกตัวอย่าง ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ดูไบ โอมาน ประเทศเหล่านี้ล้วนมีกฎหมายที่เข้มงวด รวมถึงกฎจราจรด้วย ผมชอบมากๆเวลาต้องใช้รถใช้ถนในบ้านเขา รู้สึกว่ามันปลอดภัยทั้งจากอุบัติเหตุและความดันโลหตสูง การปาดซ้าย ปาดขวา จี้ตูด มีให้เจอน้อยมากๆ ทุกคนขับรถอย่างมีระเบียบ มีน้ำใจ แต่มาดูบ้านเราซิครับ แทบไม่มีใครเคารพกฎกันเลยใช่ไหม โดยเฉพาะการขับรถเร็ว ผมก็เคยโดนจับความเร็วมาสองครั้งเหมือนกัน แต่ก็เต็มใจจ่ายครับ ในเมื่อเราผิดจริง ถึงจะเกินไปแค่ 1 กม/ชม ก็ตาม

อันที่จริงผมว่าน่าจะมีความเข้มงวดด้านกฎจราจรให้มากกว่านี้อีกในบ้านเรา แบบที่ทำกันอย่างจริงจัง สม่ำเสมอแล้วคุณจะรู้ว่าหากทุกคนขับรถอย่างมีวินัย มันน่าขับขนาดไหน เริ่มที่ตัวเรากันก่อนแหละครับ

ออฟไลน์ pongrsu

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 101
เห็นด้วยกับหลายความเห็นเลยครับ
กฎหมายมันมีไว้ เราจะมาอ้างว่าไม่รู้กฎหมายมันไม่ได้หรอก
กฎว่าอย่างไรก็ทำตามกฎเถอะครับ
เป็นคนถูกอยู่ดีๆ อย่าทำตัวเองให้เป็นคนผิดเลย

ความคิดส่วนตัว
หลายคนเวลามีกระทู้เรื่องขับรถเร็ว
ก็จะบอกประมาณว่า ่่ถนนมันว่างๆ เช้าๆไม่ค่อยมีรถ
จะมาให้ขับ 100-110 ผมขับไม่ได้หรอก ผมรีบ ต้องไปพบคนนู้น
คนนี้ บลา บลา บลา ่่
(ถ้ามันรีบขนาดนั้นไปตั้งแต่เมื่อวานดีมั้ย...)
ผมว่า เลิกซักทีความคิดอย่างงี้
อุบัติเหตุตามหน้าหนังสือพิมพ์ก็มีให้เห็นออกบ่อย
เวลาสูญเสีย บางทีไม่ใช่แค่คุณ เพื่อนร่วมทาง บ้านเรือนประชาชน
ข้างถนน พอเกิดอุบัติเหตุ ก็ออกมา ขออภัยไม่ได้ตั้งใจ อยากให้เกิด
เป็นเหตุสุดวิสัย

ได้ขับรถทั้งที ก็มีน้ำใจกลับเพื่อนร่วมทางบ้างครับ
คิดซะว่าเป็นพ่อ แม่ พี่น้องเรา
นี่ก็ใกล้เปิดเทอม ยังไงก็ระวังกันด้วยนะครับ

ออฟไลน์ baeyongcai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 438
ผมว่า ถ้าขับเกิน 120 km/h ก็ต้องมีสัญาณเตือนบนไมล์รถ เอาทั้งไฟกระพริบ และ เสียงเตือนไปเลย  เหมือนบางประเทศที่บังคับใช้ ซึ่งเป็นการช่วยเตือนสติคนขับ ได้ระดับหนึ่ง

ออฟไลน์ Arado_kung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,070
    • อีเมล์
เอ่อ ผมโดนตรงคลอง 12 ไม่ก็คลอง 13 อ่ะ พ้นเขตนครนายกมาปุ๊บโดนเลย ถ้าด่านมันตั้งแถวคลอง 6 คลอง 7 จะไม่บ่นซักคำตรงนั้นรถเยอะคนเยอะของจริง ขับ 100 นึงอาจเป็นอันตรายพอทำใจรับได้ ย้ำนะครับถ้าผมมา 140 หรือด่านตำรวจมันอยู่แถวคลอง 6 คลอง 7 ผมจะไม่ด่าตำรวจ แต่นี่เล่นตั้งด่านกันตรงรอยต่อระหว่างจังหวัดจะได้ผมคิดยังไงครับ นอกจากตำรวจใช้กฏหมายเพื่อหาเงิน เงินค่าปรับเนี่ยส่งหลวงแค่ส่วนเดียว ที่เหลือ จนท.เอามาแบ่งกันนะครับ

ออฟไลน์ dsเด็กป้อมsc

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 28
เห็นด้วยกับหลายๆ คห. นะครับ แต่ส่วนตัวแล้ว ผมว่าควรจะเริ่มจาก จนท.ตำรวจ ก่อนครับ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เคยทำมาให้ ปชช. หลายๆคนรวมถึงผมมีทรรศนะคติที่เปลี่ยนไป

อย่างเชียงราย ผมไปเรียนที่นูุ่น เจอตำรวจตั้งด่าน ต้นเดือน-กลางเดือน-ปลายเดือน แถมจับก็จับแต่มอเตอร์ไซค์ พรบ.มี ขับขี่มี สวมหมวก แต่ก็ยังเรียก พยายามจะยัดให้ได้สักอย่าง ผมละเซงมาก แล้วบรรทุก รถยนต์บางคันมันก็ทำผิดจราจร แต่ก็ไม่เรียก

มีครั้งหนึ่งกระบะ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย แต่กระบะคันนั้นดันซวย ติดไฟแดงตรงหน้าตำรวจพอดี ก็เลยเดินเข้าไปหา จริงๆผมว่ามันต้องปรับนะ ต้องเรียกนะ แต่ตำรวจไม่เรียก แค่บอกว่าให้คาด เอ๊ะ! ทำไมทำแบบนี้อ่ะ :-X

หลังๆผมเลยนิสัยเสีย(อันนี้ยอมรับ) เจอด่านฝ่าแหลก ไม่จอด ไม่สน เพราะ เรียกแต่ จยย. ผิดไม่ผิดไม่รู้เรียกไว้ก่อน

ส่วนกรุงเทพฯ สองวันก่อน 28 เม.ษ. เจริญนคร สาธร บางรัก พร้อมใจกันมากตั้งด่านรับสิ้นเดือนก่อนโรงเรียนเปิดเทอม ดีนะวันนั้นผมขับรถไปไม่งั้นโดนเรียกแน่ๆ ถ้าขับ จยย. เพราะ ผมก็เห็นแต่เรียก จยย.

หรืออย่างตรงเส้นราชพฤกษ์ ที่จะไปจรัญฯ 13 จะมีทางตัดสี่แยก ตอนเช้าๆ ก็ขับมาตามปกติ แล้วทีนี้ตำรวจเห็นมอเตอร์ไซค์ ก็จะออกมาหยุด แต่มอเตอร์ไซค์ไม่หยุด ก็เฉี่ยวโดนตำรวจ ทีนี้ก็วอบอกข้างหน้าเลยครับ

เสร็จแล้วก็มาบอกว่าเราอย่างนู่น อย่างนี้ แต่ตัวเองมาขวางเองแบบไม่กลัวรถชน มันก็ไม่ใช่นะ :(

ส่วนตัวผมยอมรับว่าอคติ และ เกลียดตำรวจครับ ตำรวจดีๆก็เหมือนกับผี รู้ว่ามี แต่ไม่เจอและได้สัมผัส

ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,089
เห็นด้วยกับคุณ gorilla มากๆเลยครับ คนไทยติดคำว่าหยวนมากไปจริงๆ

อีกเรื่องที่ผมไม่เข้าใจเมื่ออ่านหลายๆความเห็นคือ  สำหรับคนไทยเนี่ย  การขับช้ามันยากมากเลยเหรอครับ? ต้องขับกัน120-160 ตลอด

เมื่อวานผมขับกลับจากฝึกงานที่ระยอง มากทม. ผมก็ขับมา80เอง(น้ำมันจะหมด) ก็ไม่เห็นจะง่วง อะไรนะครับ ยกเว้นตอนอากาศร้อนก็อีกเรื่องนึง *-*

ออฟไลน์ pongrsu

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 101
เอ่อ ผมโดนตรงคลอง 12 ไม่ก็คลอง 13 อ่ะ พ้นเขตนครนายกมาปุ๊บโดนเลย ถ้าด่านมันตั้งแถวคลอง 6 คลอง 7 จะไม่บ่นซักคำตรงนั้นรถเยอะคนเยอะของจริง ขับ 100 นึงอาจเป็นอันตรายพอทำใจรับได้ ย้ำนะครับถ้าผมมา 140 หรือด่านตำรวจมันอยู่แถวคลอง 6 คลอง 7 ผมจะไม่ด่าตำรวจ แต่นี่เล่นตั้งด่านกันตรงรอยต่อระหว่างจังหวัดจะได้ผมคิดยังไงครับ นอกจากตำรวจใช้กฏหมายเพื่อหาเงิน เงินค่าปรับเนี่ยส่งหลวงแค่ส่วนเดียว ที่เหลือ จนท.เอามาแบ่งกันนะครับ

ถนนเส้นนี้เขาตั้งด่านตรงนี้อยู่แล้วครับ
บ้านผมอยู่ นครนายก พ่อทำงาน กทม ขับไปกลับทุกวัน
เวลาขับเส้นนี้ ห้ามเกิน100 และอย่าอยู่เลนส์ขวา
ถ้าเขตนครนายก จะเป็น 4 เลนส์ ขับขวาได้แต่อย่าเกิน100
พอถึงเขตปทุม เป็น6 เลนส์ อยู่เลนส์กลางดีสุดและ

ใครจะไปเที่ยวนครนายกก็ระวังกันหน่อยครับ
ถ้าจาก กทมไปนครนายก ก็จะมีด่านตอนเลยวัดคลอง29(ที่มีพระใหญ่)
 แต่!!! ขับถูกกฎดีที่สุด ครับ

ออฟไลน์ Arado_kung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,070
    • อีเมล์
เอ่อ ผมโดนตรงคลอง 12 ไม่ก็คลอง 13 อ่ะ พ้นเขตนครนายกมาปุ๊บโดนเลย ถ้าด่านมันตั้งแถวคลอง 6 คลอง 7 จะไม่บ่นซักคำตรงนั้นรถเยอะคนเยอะของจริง ขับ 100 นึงอาจเป็นอันตรายพอทำใจรับได้ ย้ำนะครับถ้าผมมา 140 หรือด่านตำรวจมันอยู่แถวคลอง 6 คลอง 7 ผมจะไม่ด่าตำรวจ แต่นี่เล่นตั้งด่านกันตรงรอยต่อระหว่างจังหวัดจะได้ผมคิดยังไงครับ นอกจากตำรวจใช้กฏหมายเพื่อหาเงิน เงินค่าปรับเนี่ยส่งหลวงแค่ส่วนเดียว ที่เหลือ จนท.เอามาแบ่งกันนะครับ

ถนนเส้นนี้เขาตั้งด่านตรงนี้อยู่แล้วครับ
บ้านผมอยู่ นครนายก พ่อทำงาน กทม ขับไปกลับทุกวัน
เวลาขับเส้นนี้ ห้ามเกิน100 และอย่าอยู่เลนส์ขวา
ถ้าเขตนครนายก จะเป็น 4 เลนส์ ขับขวาได้แต่อย่าเกิน100
พอถึงเขตปทุม เป็น6 เลนส์ อยู่เลนส์กลางดีสุดและ

ใครจะไปเที่ยวนครนายกก็ระวังกันหน่อยครับ
ถ้าจาก กทมไปนครนายก ก็จะมีด่านตอนเลยวัดคลอง29(ที่มีพระใหญ่)
 แต่!!! ขับถูกกฎดีที่สุด ครับ

ผมอยู่เลนกลางนะ ขับเส้นนี้มาตั้งนานพึ่งเคยเจอด่านนี้เนี่ยแหละ สงสัยปกติดวงไม่สมพงษ์กับด่าน 555 ปกติกรุงเทพ-นครนายก เจอด่านอยู่หลัก 2 ที่ มีตรงแยกองครักษ์ของตร.ท้องที่ กับตรงด่านชั่งน้ำหนักก่อนถึงแยกบ้านนาของทางหลวง

ปล. คุณ pongrsu อยู่ตรงไหนของนครนายกอ่ะ ผมอยู่ตรงหินตั้งแถวๆเขื่อนมาทำรีสอร์ทอยู่ครับ

ออฟไลน์ pongrsu

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 101
เอ่อ ผมโดนตรงคลอง 12 ไม่ก็คลอง 13 อ่ะ พ้นเขตนครนายกมาปุ๊บโดนเลย ถ้าด่านมันตั้งแถวคลอง 6 คลอง 7 จะไม่บ่นซักคำตรงนั้นรถเยอะคนเยอะของจริง ขับ 100 นึงอาจเป็นอันตรายพอทำใจรับได้ ย้ำนะครับถ้าผมมา 140 หรือด่านตำรวจมันอยู่แถวคลอง 6 คลอง 7 ผมจะไม่ด่าตำรวจ แต่นี่เล่นตั้งด่านกันตรงรอยต่อระหว่างจังหวัดจะได้ผมคิดยังไงครับ นอกจากตำรวจใช้กฏหมายเพื่อหาเงิน เงินค่าปรับเนี่ยส่งหลวงแค่ส่วนเดียว ที่เหลือ จนท.เอามาแบ่งกันนะครับ

ถนนเส้นนี้เขาตั้งด่านตรงนี้อยู่แล้วครับ
บ้านผมอยู่ นครนายก พ่อทำงาน กทม ขับไปกลับทุกวัน
เวลาขับเส้นนี้ ห้ามเกิน100 และอย่าอยู่เลนส์ขวา
ถ้าเขตนครนายก จะเป็น 4 เลนส์ ขับขวาได้แต่อย่าเกิน100
พอถึงเขตปทุม เป็น6 เลนส์ อยู่เลนส์กลางดีสุดและ

ใครจะไปเที่ยวนครนายกก็ระวังกันหน่อยครับ
ถ้าจาก กทมไปนครนายก ก็จะมีด่านตอนเลยวัดคลอง29(ที่มีพระใหญ่)
 แต่!!! ขับถูกกฎดีที่สุด ครับ

ผมอยู่เลนกลางนะ ขับเส้นนี้มาตั้งนานพึ่งเคยเจอด่านนี้เนี่ยแหละ สงสัยปกติดวงไม่สมพงษ์กับด่าน 555 ปกติกรุงเทพ-นครนายก เจอด่านอยู่หลัก 2 ที่ มีตรงแยกองครักษ์ของตร.ท้องที่ กับตรงด่านชั่งน้ำหนักก่อนถึงแยกบ้านนาของทางหลวง

ปล. คุณ pongrsu อยู่ตรงไหนของนครนายกอ่ะ ผมอยู่ตรงหินตั้งแถวๆเขื่อนมาทำรีสอร์ทอยู่ครับ

ใช่ครับธรรมดามันจะมีด่านอยู่ที่คุณบอกเลย
ไอ้ตรงแยกองครักษ์ไม่ค่อยจับ
เมื่อก่อนเช้าๆจะมีทางหลวงอยู่ตรงอุโมงค์(ชาวบ้านเค้าเรียก ก่อนถึงโค้งใกล้ปั็มเอสโซ่) อยู่ตอนเช้าๆ เย็นๆจะมาจับรถสิบล้อ
พ่อผมเคยขับมา 100 นึงตอนประมาณ ทุ่มนึง คุณตำรวจเรียกรถบรรทุกเลนส์กลางเลย พ่อเบรกนี่เอบีเอสทำงานเลย
อันตรายมาก พ่อเปิดประตูด่าตรวจกันเลยทีเดียว
และอีกที่จะมีด่านอยู่ก่อนถึง คลอง15 ตรงที่ขายล้วยไม้ ขาเข้า กทม

ตัวผมเองทำงานกรุงเทพฯ แต่เป็นคนนครนายก เสาร์อาทิตย์ก็กลับบ้านครับ
บ้านอยู่แถวโตโยต้า นครนายกครับ

ออฟไลน์ Disk™

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,153
  • High Society Sallon Gallery
ผมว่าผิดก็คือผิดนะครับ

คนไทยติดคำว่าหยวนมากเกินไปครับ

โดนจับบอกว่าไม่มีมาตรฐาน ทำไมไม่จับตลอดเวลา  --> แล้วใครจะมาเฝ้าได้ตลอดเวลาละครับ

โดนจับคงต้องบอกตัวเองว่า ซวยจะดีกว่านะครับ หรือไม่ก็คือ ขับรถตามกฏครับ

ผมมาเรียนอยู่ออสเตรเลียได้ 3 ปีกว่าครับ  โดนปรับความเร็วไป 3 รอบครับ โดนข้อหาฝ่าแยกโดยไม่หยุดรถอีก 1 ครั้ง

ตำรวจที่ออสก็เหมือนตำรวจที่ไทยอย่างนึงนะครับ คือ ซุ่มจับครับ หลังพุ่มไม้บ้าง หลังเสา หลังป้าย ห้าทุ่มเที่ยงคืนยังออกมาดักจับก็มีครับ ที่ผมโดนข้อหาฝ่าป้ายห้ามหยุดรถก็เกือบจะเที่ยงคืนแล้วครับ รถโดนเป็นสิบ

สิ่งนึงที่จะป้องกันตัวเองก็คือ ทำตามกฏครับ  ไม่ใช่ว่ากฏมีไว้แหก   ผมไม่เห็นคนไทยหน้าไหนที่นี่จะกล้าหือตำรวจเลยครับ ผิดมันก็คือผิด

ค่าปรับที่นี่ก็แพงมากนะครับ (แล้วแต่รัฐ) ขอยกตัวอย่างเล็กน้อยครับ
- เพื่อนผมลืมคาดเข็มขัด $520
- ถ้าแยกมีป้าย stop ให้หยุดรถให้สนิท แล้วค่อยผ่าน ผมโดนข้อหานี้เพราะหยุดรถไม่สนิท $150
- ขับรถความเร็วเกินกำหนด 0-9km/h  เช่น กำหนด 60 คุณขับ 61-69km/h โดนปรับ $75, ....., > 40km/h $1000 + ยึดใบขับขี่ 6 เดือน
- เพื่อนผมโดนข้อหาขับฝ่าไฟเหลือง $100  ตำรวจถามว่า คุณรู้มั้ยไฟเหลืองคืออะไร เพื่อนผมตอบว่าเตรียมตัวให้่หยุด  ตำรวจบอกว่าคุณตอบผิด  ที่จริงคือหยุด
- กล้องตามแยกจับภาพทันที ถ้ารถคุณกำลังข้ามเส้นในขณะที่ไฟแดง
- ค่าปรับ 2 เท่า ช่วงวันหยุดยาว 

ขับรถที่นี่ขับง่ายครับ ไม่ค่อยมีพวกเบียดเสียด ปาดไปปาดมา  เป็นระเบียบมาก

ถ้าคุณอยากเปรี้ยว ก็เชิญครับ ถ้าเจอตำรวจก็ตัวใครตัวมัน  ตำรวจเค้าก็กวนตีนใช้ได้

เพื่อนผมคนนึงขับอยู่บนฟรีเวย์ที่ความเร็วประมาณ 100 มีรถตำรวจนอกเครื่องแบบขับมาจี้ท้าย  เพื่อนผมเกิดอาหารหมั้นไส้ อยากขับหนี พอขับได้ความเร็ว 120 กว่าๆ รถตำรวจที่จี้ท้ายเปิดไฟทันที  สรุป คือโดนปรับ $300

ผมก็เคยโดนแบบนี้เหมือนกัน แต่ผมไม่ได้ขับเพราะรู้ว่าแอลกอฮอล์เกิน เลยให้แฟนขับให้  หลังจากปาตี้ที่บ้านเพื่อน ก็ขับรถออกมาประมาณตี 1-2 ออกมาแป๊บเดียว มีรถกะบะมาจี้ท้าย ผมก็บอกแฟนว่าไม่ต้องขับหนี ให้ขับปกติไปเรื่อยๆ ถ้าเค้าอยากแซงให้เค้าแซงไป  พอขับไปซัก 500 เมตร รถกะบะด้านหลังเปิดไฟไซเรน  ตำรวจลงมาขอดูใบขับบี่  ถ้าผมขับนี่ซวยเลยนะเนี่ย  คิดถูกแล้วละที่ให้แฟนเป็นคนขับ ไม่งั้นโดนตรวจแอลกอฮอล์แน่นอน

กรณีที่ตำรวจอนุโลมก็มีครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วแต่โอกาส จังหวะ แล้วก็ดวงครับ
- เพื่อนผมคนสวิสเซอร์แลนด์ขับรถไปเที่ยวนอกเมือง ไม่มีรถซักคันผ่านมาเลยในช่วงเวลา 2 ชั่วโมง ข้างทางไม่มีชุมชนหรือคนเลย ความเร็วที่ใช้ได้คือ 110 เพื่อนผมขับประมาณ 150  รถคันแรกที่สวนมาในรอบ 2 ชั่วโมงคือรถตำรวจ  พอสวนกันเท่านั้นแหละ รถตำรวจเบรคแล้วกลับรถอย่างเร็ว ควันคลุ้งไปทั่ว แล้วก็มาจับเพื่อนผม  แต่โชคดีตำรวจแค่มาเตือน
- อีกครั้งนึง  พี่คนไทยขับรถที่ความ 120 ในเขต 60  ตำรวจเรียกแน่ๆ แล้วถามว่าคุณมาจากไหน  เพื่อนผมบอกเท่านั้นแหละครับ  คุณตำรวจขอให้เพื่อนผมแบมือ ตำรวจก็ตีมือ แล้วบอกว่ามันหลังอย่าทำอีก ที่นี่ไม่ใช่เมืองไทย  โคตรโชคดีเลย ถ้าปรับเสีย $1000 แน่ๆ

ความเร็วมาตรฐานในเขตชุมชน-ย่านธุรกิจ 50, บริเวณโรงเรียน 40, ทั่วไป 60, สูงสุดนอกเมืองไม่เกิน 110   


ที่เล่ามาทั้งหมดก็อยากจะแชร์ประสบการณ์ให้ฟังนะครับ  ผมก็เข้าใจครับว่าคนไทยนิสัยขับรถเป็นยังไง  ก็อยากจะให้คิดถึงความปลอดภัยของผู้ร่วมเดินทางมากขึ้นนะครับ

ถนนเมืองไทยมันก็ไม่เหมาะกับการใช้ความเร็วเท่าไหร่อยู่แล้วครับ ไม่มีการควบคุมโซน ถนนไม่ดี มีหลุมบ่อมากมาย ระวังกันนิดนึงครับ

คุณ โดนแถวไหนหละครับ คลองต้นๆ หรือว่า กลางๆ หรือว่าปลายๆ เพราะว่า เส้นนี้กลายเป็นชุมชนเยอะมากแล้วนะครับ ถ้าขับซัก 60-80 อาจจะไม่โดนก็ได้

แต่แปลกดีกับคำถามของใครบางคนที่บอกว่า จำกัดความเร็ว งั้นก็ไม่ต้องผลิตรถที่ วิ่งได้ความเร็วสูงๆ เกิน 120 ออกมาขายซิ


ผมกลับคิดว่า ฝรั่งหรือว่าประเทศที่เค้า กำหนดความเร็วไม่เกิน 120 เค้่าก็ปฏิบัติได้ ไม่เหนมีปัญหาอะไร ทั้งที่ถนนเค้าก็ดี ขับรถก็ปฏิบัติตามกฏระเบียบดี ปัจจัยที่เอื้อให้เกิดอุบัติเหตุ(สภาพถนน/การออกแบบโค้ง/วินัยคนขับรถ) ดีกว่าประเทศไทยเยอะ แต่ประเทศไทย ปัจจัยที่ทำใ้ห้เกิดอุบัติเหตุมันเยอะกว่า ก็ยังจะพยายามขับเร็วกันจัง

เห็นด้วยกับทั้งคู่เลยครับ
User Review : ฟิล์มเซรามิค SolarFX (รีวิวแรกของผมครับ)
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=53654.0

User Review : Remap ECU Toyota Fortuner ที่ ECU Thailand by RPT
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=71384.0

ออฟไลน์ DArkMaster

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 963
ผมว่าผิดก็คือผิดนะครับ

คนไทยติดคำว่าหยวนมากเกินไปครับ

โดนจับบอกว่าไม่มีมาตรฐาน ทำไมไม่จับตลอดเวลา  --> แล้วใครจะมาเฝ้าได้ตลอดเวลาละครับ

โดนจับคงต้องบอกตัวเองว่า ซวยจะดีกว่านะครับ หรือไม่ก็คือ ขับรถตามกฏครับ

ผมมาเรียนอยู่ออสเตรเลียได้ 3 ปีกว่าครับ  โดนปรับความเร็วไป 3 รอบครับ โดนข้อหาฝ่าแยกโดยไม่หยุดรถอีก 1 ครั้ง

ตำรวจที่ออสก็เหมือนตำรวจที่ไทยอย่างนึงนะครับ คือ ซุ่มจับครับ หลังพุ่มไม้บ้าง หลังเสา หลังป้าย ห้าทุ่มเที่ยงคืนยังออกมาดักจับก็มีครับ ที่ผมโดนข้อหาฝ่าป้ายห้ามหยุดรถก็เกือบจะเที่ยงคืนแล้วครับ รถโดนเป็นสิบ

สิ่งนึงที่จะป้องกันตัวเองก็คือ ทำตามกฏครับ  ไม่ใช่ว่ากฏมีไว้แหก   ผมไม่เห็นคนไทยหน้าไหนที่นี่จะกล้าหือตำรวจเลยครับ ผิดมันก็คือผิด

ค่าปรับที่นี่ก็แพงมากนะครับ (แล้วแต่รัฐ) ขอยกตัวอย่างเล็กน้อยครับ
- เพื่อนผมลืมคาดเข็มขัด $520
- ถ้าแยกมีป้าย stop ให้หยุดรถให้สนิท แล้วค่อยผ่าน ผมโดนข้อหานี้เพราะหยุดรถไม่สนิท $150
- ขับรถความเร็วเกินกำหนด 0-9km/h  เช่น กำหนด 60 คุณขับ 61-69km/h โดนปรับ $75, ....., > 40km/h $1000 + ยึดใบขับขี่ 6 เดือน
- เพื่อนผมโดนข้อหาขับฝ่าไฟเหลือง $100  ตำรวจถามว่า คุณรู้มั้ยไฟเหลืองคืออะไร เพื่อนผมตอบว่าเตรียมตัวให้่หยุด  ตำรวจบอกว่าคุณตอบผิด  ที่จริงคือหยุด
- กล้องตามแยกจับภาพทันที ถ้ารถคุณกำลังข้ามเส้นในขณะที่ไฟแดง
- ค่าปรับ 2 เท่า ช่วงวันหยุดยาว 

ขับรถที่นี่ขับง่ายครับ ไม่ค่อยมีพวกเบียดเสียด ปาดไปปาดมา  เป็นระเบียบมาก

ถ้าคุณอยากเปรี้ยว ก็เชิญครับ ถ้าเจอตำรวจก็ตัวใครตัวมัน  ตำรวจเค้าก็กวนตีนใช้ได้

เพื่อนผมคนนึงขับอยู่บนฟรีเวย์ที่ความเร็วประมาณ 100 มีรถตำรวจนอกเครื่องแบบขับมาจี้ท้าย  เพื่อนผมเกิดอาหารหมั้นไส้ อยากขับหนี พอขับได้ความเร็ว 120 กว่าๆ รถตำรวจที่จี้ท้ายเปิดไฟทันที  สรุป คือโดนปรับ $300

ผมก็เคยโดนแบบนี้เหมือนกัน แต่ผมไม่ได้ขับเพราะรู้ว่าแอลกอฮอล์เกิน เลยให้แฟนขับให้  หลังจากปาตี้ที่บ้านเพื่อน ก็ขับรถออกมาประมาณตี 1-2 ออกมาแป๊บเดียว มีรถกะบะมาจี้ท้าย ผมก็บอกแฟนว่าไม่ต้องขับหนี ให้ขับปกติไปเรื่อยๆ ถ้าเค้าอยากแซงให้เค้าแซงไป  พอขับไปซัก 500 เมตร รถกะบะด้านหลังเปิดไฟไซเรน  ตำรวจลงมาขอดูใบขับบี่  ถ้าผมขับนี่ซวยเลยนะเนี่ย  คิดถูกแล้วละที่ให้แฟนเป็นคนขับ ไม่งั้นโดนตรวจแอลกอฮอล์แน่นอน

กรณีที่ตำรวจอนุโลมก็มีครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วแต่โอกาส จังหวะ แล้วก็ดวงครับ
- เพื่อนผมคนสวิสเซอร์แลนด์ขับรถไปเที่ยวนอกเมือง ไม่มีรถซักคันผ่านมาเลยในช่วงเวลา 2 ชั่วโมง ข้างทางไม่มีชุมชนหรือคนเลย ความเร็วที่ใช้ได้คือ 110 เพื่อนผมขับประมาณ 150  รถคันแรกที่สวนมาในรอบ 2 ชั่วโมงคือรถตำรวจ  พอสวนกันเท่านั้นแหละ รถตำรวจเบรคแล้วกลับรถอย่างเร็ว ควันคลุ้งไปทั่ว แล้วก็มาจับเพื่อนผม  แต่โชคดีตำรวจแค่มาเตือน
- อีกครั้งนึง  พี่คนไทยขับรถที่ความ 120 ในเขต 60  ตำรวจเรียกแน่ๆ แล้วถามว่าคุณมาจากไหน  เพื่อนผมบอกเท่านั้นแหละครับ  คุณตำรวจขอให้เพื่อนผมแบมือ ตำรวจก็ตีมือ แล้วบอกว่ามันหลังอย่าทำอีก ที่นี่ไม่ใช่เมืองไทย  โคตรโชคดีเลย ถ้าปรับเสีย $1000 แน่ๆ

ความเร็วมาตรฐานในเขตชุมชน-ย่านธุรกิจ 50, บริเวณโรงเรียน 40, ทั่วไป 60, สูงสุดนอกเมืองไม่เกิน 110   


ที่เล่ามาทั้งหมดก็อยากจะแชร์ประสบการณ์ให้ฟังนะครับ  ผมก็เข้าใจครับว่าคนไทยนิสัยขับรถเป็นยังไง  ก็อยากจะให้คิดถึงความปลอดภัยของผู้ร่วมเดินทางมากขึ้นนะครับ

ถนนเมืองไทยมันก็ไม่เหมาะกับการใช้ความเร็วเท่าไหร่อยู่แล้วครับ ไม่มีการควบคุมโซน ถนนไม่ดี มีหลุมบ่อมากมาย ระวังกันนิดนึงครับ
+1  ;D

ออฟไลน์ pladaek

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,016
  • FF1.5SMG
ผมว่า ถ้าขับเกิน 120 km/h ก็ต้องมีสัญาณเตือนบนไมล์รถ เอาทั้งไฟกระพริบ และ เสียงเตือนไปเลย  เหมือนบางประเทศที่บังคับใช้ ซึ่งเป็นการช่วยเตือนสติคนขับ ได้ระดับหนึ่ง

ผมไงครับ.. ติด Shift Light กำหนดรอบเครื่องไม่เกิน 3000 ถ้าัมันเกิน 3000 ไฟมันจะส่องหน้าแยงตามันที..
จริงๆผมเอาไว้เป็นตัวเตือนไม่ให้ขับเร็วเพื่อการประหยัดน้ำมันน่ะครับ..
ไม่ได้ขับรถเพื่อทำเวลาที่ดีที่สุด.. แต่ขับรถเพื่อเจอช่วงเวลาที่ดีที่สุด..

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
ที่จริงลองหาเครื่อง ตรวจจับเรดาห์ ดูครับ แบบที่ US เค้าใช้กัน เวลาเราเจอมันจะกระพริบถี่ขึ้นเรื่อยๆ
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ LiTtLe BoY

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 134
    • อีเมล์
สมัยก่อน ก็หงุดหงิดเวลาโดนดักจับความเร็ว แต่พอไปมาหลายๆประเทศ เลยเข้าใจ แต่ผมว่าที่สุดๆเลยคือเมืองจีน

ถ้าใครว่าบ้านเราแย่แล้ว บ้านเค้านี่สุดยอดของสุดยอดที่กวางเจา

คิดจะปาดก็ปาด เบรคก็เบรค ไหนจะต้องระวังอาม่า อากง เดินลอยชายตรงทางเลี้ยว รถเข็นขายผลไม้ จักรยานขี่จู๋จี๋

ปาดจาก เลนขวาสุด 6 เลนเข้าซ้าย ขับย้อนศรเรียกว่าอะไรที่คิดว่าเคลื่อนที่ได้ อยู่บนถนนหมด ตื่นเต้นตลอดเวลา แต่อุบัติเหตุมักไม่ค่อยมี

เพราะว่า ทุกคนขับกันไม่เร็วครับ กฎหมายเขาแรงถ้าชนคนขึ้นมาเค้าสามารถฟ้องร้องจนคนชน ล้มละลายหรือหมดตัวได้

แต่ที่ชอบมากๆคือบ้านเค้าบีบแตรกันตลอด หลายๆประเทศมาอาจรู้สึกว่า เมืองเถื่อนมาก ไม่พอใจบีบแตร

แต่บีบแตรเสร็จ ก้แยกย้าย กันไป จบในตอน ไม่มีเร่งเครื่องมามองหน้าคนขับว่า หล่อสวยไหม หรือไปตามปาดหน้า

ทุกคนต่างแยกไปทำงานครับ เพราะเวลาของเขาทำเงินได้ตลอด

แล้วรถก็เครื่องแรงๆทั้งนั้น Audi r8 Porches Cayenne Ferrari Acura คนจีนรวยๆใช้กันแต่รถยุโรปแรงๆทั้งนั้นครับ

เลยรูั้สึกบ้านเรานี่ขับสบายสุดแล้ว

p.s.คนจีนก็เป็นเหมือนบ้านเรานะครับ
เวลาไปรับใครที่สนามบิน ไม่ว่ารถจะแพงแค่ไหน ก็จะไปจอดออๆ กันข้างทาง ไม่ยอมเข้าไปจอดแบบเสียค่าจอดใน car park ของทางสนามบิน


ออฟไลน์ Ro

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 5
Re: เซงมากๆ โดนจับความเร็วที่ 102 กม./ชม. โดย สภ.ธัญบุรี
« ตอบกลับ #44 เมื่อ: พฤษภาคม 01, 2011, 10:51:52 »
ผมเห็นด้วยกับหลายๆท่านครับ กฎหมายเป็นกฎหมาย เร็วเกินคือเร็วเกิน
อยากขับเร็วกว่าคนอื่น มันก็มีค่าใช้จ่ายของมัน
ผมเป็นคนนึงที่จ่ายค่าปรับตลอดครับ เพราะผมเป็นคนขับเร็วเอง
ผมจะถามตำรวจทุกครั้งว่าเอาใบสั่งมา ให้ผมไปจ่ายที่ไหนบอกมา

ผมว่าสังคมเรามองตำรวจในแง่แย่ๆ เราโยนความผิดไปที่เค้ารึเปล่าครับ
หรือว่าจริงๆแล้วเราทำให้เค้าเป็นเองรึเปล่าครับ
จะยัดเงิน จะอ้อนวอน ให้คนโน้นนี้วิ่งให้จะได้ไม่ต้องจ่ายค่าปรับ... อะไรก็แล้วแแต่
ทำให้มีตำรวจเลวๆมาหายกินในเครื่องแบบแบบนี้

ผมเป็นคนนึงที่ขับรถเร็วบ้าง แต่พอต้องมาอยู่ต่างประเทศหลายปี
ขับรถทางไกลบ่อยๆ ถนนหลวงทั้งเส้นเร็วสุดเค้าไม่ให้เกิน 65ไมล์/ชม. เบื่อไหม? เบื่อครับ ใครๆก็อยากถึงเร็ว
แต่อยู่มาสักพักพบว่ามันดีครับ เรามั่นใจได้ว่าเราจะถึงที่หมายอย่างปลอดภัย เพราะทุกคนขับรถเคารพกฎ
ขับแล้วสบายใจสุดๆ เวลาเจอรถตำรวจ จะรู้สึกดีที่เค้าคอยทำหน้าที่ ดูแลว่ารถใครมีปัญหาไหม
แล้วคอยจัดการพวกนิสัยการขับแย่ๆให้ออกไปจากถนน ซึ่งผมว่านั้นคือหน้าที่ของตำรวจ
ผมว่าถ้าเราทำตามกฎกัน อุบัติเหตุหนักๆจะลดหายไปเยอะ ตำรวจเลวๆก็จะลดตามไปด้วย
ผมว่าคนที่ได้ก็เราทุกๆคนนะครับ

ออฟไลน์ aA

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 109
Re: เซงมากๆ โดนจับความเร็วที่ 102 กม./ชม. โดย สภ.ธัญบุรี
« ตอบกลับ #45 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2011, 20:23:05 »
คงหาค่าเทอมให้ลูกมั้งครับ ใกล้จะเปิดเทอมแล้ว 55

ออฟไลน์ kimjung

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 609
Re: เซงมากๆ โดนจับความเร็วที่ 102 กม./ชม. โดย สภ.ธัญบุรี
« ตอบกลับ #46 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2011, 11:02:42 »
วิ่งสายนั้นบ่อยเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่รถเยอะทำความเร็วไม่ค่อยได้ครับ นอกจากบางครั้งจะมุดๆ ก็พอจะเร็วได้ แต่ก็ไม่เคยโดนจับ

ขอแชร์ประสพการณ์ ที่เมกาตอนนั้นวิ่งสาย HW1 เลียบชายฝั่งทะเลแปซิฟิก ผมวิ่งเกิน speed limit เป็นพักๆ พอฟ้าเริ่มมืดมีรถมาจี้ท้่ายแล้วเปิดไฟสูง

ถ้าเป็นที่ไทยผมคงเร่งหนี แต่ที่เมกาเคยรู้มาว่าตำตรวจจะทำแบบนี้ ผมเลยเปิดไฟเลี้ยวให้เค้าแซงไป แล้วก็จริงๆพอแซงประกบเค้าก็เปิดไซเรนเลย

เกือบโดนค่าปรับ เพราะผมขับเกินกำหนดไปเยอะเหมือนกัน โชคดีที่เป็นตำตรวจทางหลวงเค้าเหมือนจะใจดีกว่าตำรวจท้องที่นิดนึง เลยแค่ตักเตือน

ไม่งั้นได้เสียตั้งหลายร้อยเหรียญ จากนั้นแฟนสั่งเด็ดขาดให้วิ่งช้าๆตามป้ายจำกัดความเร็วเลย อิอิ

ออฟไลน์ absanya

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 1
Re: เซงมากๆ โดนจับความเร็วที่ 102 กม./ชม. โดย สภ.ธัญบุรี
« ตอบกลับ #47 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2011, 20:14:34 »
เป็นธรรมดาครับ ตำรวจจราจรก็ต้องจับ ไม่งั้นไม่มีงานทำ ผมเองก็เคยโดนมาแล้ว แต่ไม่ใช่เขต สภ.ธัญบุรี ***** เท่าที่ผมทราบมาว่าการจับความเร็วนั้น ผู้ขับรถต้องระวังกันเอาเอง ท่านพี่เขานึกจะตั้งด่านตอนไหนก็แล้วแต่ อำเภอใจเขาน่ะ ไม่มีการบอกล่วงหน้า เซ็งๆ 
วิ่งสายนั้นบ่อยเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่รถเยอะทำความเร็วไม่ค่อยได้ครับ นอกจากบางครั้งจะมุดๆ ก็พอจะเร็วได้ แต่ก็ไม่เคยโดนจับ

ขอแชร์ประสพการณ์ ที่เมกาตอนนั้นวิ่งสาย HW1 เลียบชายฝั่งทะเลแปซิฟิก ผมวิ่งเกิน speed limit เป็นพักๆ พอฟ้าเริ่มมืดมีรถมาจี้ท้่ายแล้วเปิดไฟสูง

ถ้าเป็นที่ไทยผมคงเร่งหนี แต่ที่เมกาเคยรู้มาว่าตำตรวจจะทำแบบนี้ ผมเลยเปิดไฟเลี้ยวให้เค้าแซงไป แล้วก็จริงๆพอแซงประกบเค้าก็เปิดไซเรนเลย

เกือบโดนค่าปรับ เพราะผมขับเกินกำหนดไปเยอะเหมือนกัน โชคดีที่เป็นตำตรวจทางหลวงเค้าเหมือนจะใจดีกว่าตำรวจท้องที่นิดนึง เลยแค่ตักเตือน

ไม่งั้นได้เสียตั้งหลายร้อยเหรียญ จากนั้นแฟนสั่งเด็ดขาดให้วิ่งช้าๆตามป้ายจำกัดความเร็วเลย อิอิ