เกียร์ธรรมดารอบเครื่องสูงกว่าแต่กดคันเร่งน้อยกว่าครับ
เข้าใจอันนี้ที่สุดเลยครับ อันยาวๆผมอ่านแล้วงง ฮ่าๆ อย่าว่าผมฉลาดน้อยนะ
สรุปคือ AT ขับ 100 ที่รอบ 2500 (สมมุติ)
กับ MT ขับ 100 ที่รอบ 3000
กลายเป็นว่า AT ทำงานหนักกว่า ต้องกดคันเร่งลึกกว่า MT ที่หมุนถึง 3000 รอบ
ใช่ไหมครับ
ถามกลับอีกข้อ แล้วหากทำเกียร์ 5 MT ให้ทดลงมาเลย 2500 รอบ ที่ความเร็ว 100 เท่า AT
มันจะดีกว่าไหม จะประหยัดกว่าที่เป็นอยู่นี้ไหม จะมีประโยชน์กว่าไหม
ทำได้แต่ไม่มีประโยชน์ครับ เพราะอย่างที่ผมบอกใน คห.1 ไว้ว่า หากให้เกียร์สุดท้ายทดต่ำเกินไป ผู้ขับจะดื้อดึงที่จะใช้เกียร์5 ตลอดเวลาทำให้สึกหรอและสิ้นเปลืองมาก
และ จริงอยู่ที่เกียร์ 5 ทดต่ำ มี2ทางเลือกสำหรับเกียร์ 4 คือ 1 ทดเท่าเดิม ประมาณ 1ต่อ1 แล้วให้เกียร์ 5ทด 0.65ต่อ 1ปัญหาคือเปลี่ยนเกียร์แล้วรอบตกมาก รถไม่มีแรง
หากลดมาเกียร์4รอบก็สูงเกินไป จขกท ไม่ชอบอีก มันจะเกิดการคาบเกี่ยวของกำลังในเกียร์4-5มากเกินไป
ทางเลือกที่ 2 ให้เกียร์ 4 ทดต่ำตามกันมา อาจจะ 0.75ต่อ 1 ปัญหาคือ แล้วเกียร์3 ล่ะ จะต้องต่ำไล่ลงมาอีกมั้ย แล้วมันจะโยงไปถึงเกียร์ 2 ด้วย ช่วงความห่างของเกียร์ต้องสม่ำเสมอกัน
ดังนั้น หากไล่ไปถึงเกียร์1 กลายเป็นทดต่ำเกิน ออกตัวไม่ได้ เครื่องดับ เลียจนคลัทช์ไหม้
ถึงตรงนี้มันก็ย้อนไปหาคห.1 ของผมอีก
สรุปนะครับว่า รถเกียร์ธรรมดาต้องรักษาช่วงห่างของแต่ละเกียร์ ชิด มากกว่าเกียร์ออโต้ เพราะคลัทช์มันแห้ง ปล่อยหมดมันจับตัว 100% ไม่มีฟรีเลยไงครับ
ดังนั้นถึงมันจะเหลือรอบใช้งานที่ความเร็วสูงมาก ก็ไม่ได้เสียหายอะไร การสึกหรอในระดับ 3 พันรอบต่อนาทีมันจิ๊บๆครับ
มอไซด์2จังหวะ วิ่ง 100 ผมว่ารอบที่ข้อเหวี่ยง เป็น 1 หมื่นรอบต่อนาทีนะครับ