เลือก CIVIC
จะเลือก BMW เพราะ
1. มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์พอสมควร พอจะแก้ไขปัญหาได้ หรือไม่ตกใจกระต่ายตื่นตูมทำอะไรไม่ถูกถ้ามันเสียกลางทาง
2. ไม่มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์แต่พร้อมที่จะเรียนรู้ และมีเวลามากพอ ที่จะรอรถยกรถลากได้ โดดเรียนได้ ไม่ต้องมาห่วงว่า
ไปประชุมไม่ได้ โดนเจ้านายด่า เพราะรถเสีย
3.1 มีกำลังทรัพย์ก้อนโต พอที่จะเสียค่าซ่อมยามที่อะไหล่อันถึงกาลจะต้องเปลี่ยน หลังเหตุการณ์ข้อ 1 และ 2 ไม่ว่าจะหลักหมื่น หรือ ครึ่งแสนบาท
(ไม่เหมือนกับค่าผ่อนรถ ที่เราต้องเสียเป็นเดือนๆ อยู่แล้ว ซึ่งเอาสบายๆ ดาวน์เยอะ ผ่อน 5 ปี บางทีแค่เดือนละแปดเก้าพันบาท)
3.2 ทนรับสภาพ 1 หรือ 2 และ 3.1 ครั้งแล้วครั้งเล่าได้ แม้บางทีจะเป็นเรื่องเดิมๆ แก้ไม่หายซะที
4. เป็นรถยนต์คันที่สองของบ้าน ส่วนอีกคัน ไม่ค่อยมีใครใช้ จะเอาไปใช้ทดแทนเมื่อไรก็ได้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ 3.1
5. ยุโรปเข้าเส้น ไม่ว่าจะเป็นเส้นเล็ก เส้นใหญ่ หรือ จะเป็นหมี่หยกก็ตาม
6. น้าชายเป็นช่างซ่อม BMW หรือ รู้จักช่างที่สามารถไว้ใจได้ ไว้รับมือกับสถานะการณ์ 3.1 และช่างผู้นั้น
จะต้องไม่ถือดาบซามูไรคุยกะเราตลอดเวลา(ทั้งๆที่ไม่ได้ซ่อมรถญี่ปุ่น)
7. คันนี้ต้องมี"ยำยำ" แน่นอน คือ มีโปรเจค ติดแกส เปลี่ยนเครื่องเสียง ลงแม็กวงโต เปลี่ยนสีฉูดฉาด งัดซุ้มตีโป่ง ฯลฯ
อันไม่กระทบต่อวารันตี 100,000 ปี หรือ 3 กิโล (ยังไม่ถึงบ้าน วารันตีหมดแระ 55+)
8. "มาม่า"ปลื้ม (ปลื้ม นิสสัน ทีด้า 5+) ต้นตระกูลไม่ได้เป็นญาติกะ H ไม่ก็ T ทั้งบ้าน เพราะถ้าเป็นแบบนั้น
ขืินซื้อมา เมื่อเกิดเหตุการณ์ 1,2 และ 3.1 ก็โดนซ้ำย่ำยี ให้เราช้ำใจทุกวัน
9. คุณชอบขับรถ "ไวไว" ช่วงล่าง หนึบหนึบ
10. คุณกลัวปัญหา "กุ๊งกิ๊ง" จริงๆ ก็ไม่กิ๊งซักเท่าไร ต้องเรียก ต๊อกๆ ดังที่เกิดขึ้นกับ FD บางราย
ง่ายๆ สมการของคุณคือ "รถใหม่ ≠ ซ่อม"
ไม่มี 10 ข้อนี้ กรุณากลับไปเลือก CIVIC