อ่านประเด็นของคุณ yim แล้ว
ผมขออนุญาติเสริมสักนิดนะครับ หรือจะเรียกว่าเ_ือกก็ได้ครับ
ผมไม่ถือ
วิธีคิด empathy-sympathy ที่คุณกล่าวถึง
ทั้งสองวิธีมีจุดเริ่มที่เหมือนกันครับ
คือการเห็นใจ
เพราะการเห็นใจ คือภาวะที่มากกว่า สนใจครับ
สนใจอาจจะแค่มองดู แล้วก็จากไป ไม่รู้สึกอยากจะเข้าไปแก้สถานการณ์
แต่ เห็นใจ คือภาวะที่คุณเกิดความต้องการเข้าไปแก้ไข และบรรเทาสถานการณ์ของคนอื่นแล้วครับ
ทั้งสองวิธีคิดจะเริ่มต้นที่ความเห็นใจเหมือนกันครับ
และทั้งสองเป็นวิธีคิดที่มีศีลธรรมเหมือนกันนะครับ ไม่มีอันใดถูกต้อง อันใดผิดครับ
แต่จุดต่าง มันอยู่ตรงพฤติกรรมที่แสดงออกหลังจากเกิดความเห็นใจครับ
sympathy คือแนวคิดที่เป็นพื้นฐานของมนุษย์ครับ
มนุษย์เป็นสัตว์ และสัตว์ทุกเผ่าพันธ์ปกป้องพวกพ้องและถิ่นที่อยู่เสมอครับ
sympathy คือการทำตามสัญชาติญาณดั้งเดิมที่เรามีครับ
ส่วน em เป็นความคิดที่ประกอบด้วยสติและประสบการณ์แล้วครับ
พฤติกรรมที่เกิดจะมีการยับยั้งชั่งใจ และชั่งน้ำหนักตัดสินสถานการณ์
โดยไม่นำตัวเรา ไปสวมอยู่ในความรู้สึกของคนอื่นครับ
ในหลักของการกู้ภัยหรือบรรเทาเหตุ ก็มักจะมีการเน้นย้ำที่เรื่องนี้ครับ
ว่าคนที่จะช่วยเหลือผู้อื่นได้ ต้องแยกใ้ห้ออกครับ ว่าเราจะเป็นผู้ช่วยหรือจะนำตัวเองเข้าไปประสบเหตุอีกคน
แต่ในชีวิตจริง มันตัดสินยากครับ การจะบอกว่าเราทำได้หรือไม่ และควรช่วยหรือไม่
วิธีการคิดแบบชั่งนำ้หนัก ดูว่าสิ่งไหนสำคัญกว่า ดูว่าคุ้มไหมที่จะทำ มันเป็นหลักตรรกะที่สมบูรณ์แบบครับ
แต่ถ้าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเราคือชีวิตคน
ผมคิดไม่ออกเหมือนกันนะครับ ว่าจะมีสิ่งใดสำคัญกว่านี้ด้วยหรือครับ