ผู้เขียน หัวข้อ: คืนภาษีรถคันแรก Update 30/9/54 (เพิ่มลิ้งค์ทาทา)  (อ่าน 14420 ครั้ง)

ออฟไลน์ Adrenalin

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 42
Re: คืนภาษีรถคันแรก Update 30/9/54
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: กันยายน 30, 2011, 14:45:17 »
ในความคิดผม ผมว่าฟอร์ดคงเช็งมากกว่า เพราะเมื่อก่อนมาชวนฟอร์ดลงทุนสร้างโรงงานกี่หมื่นล้าน แต่ตอนนี้ดันมาทำนโยบายหักหลังกัน ผมว่าน่าเกลียดมาก ส่วนคำว่าขี้แพ้ชวนตีนี่ จะใช้กับโตโยต้าที่ไม่เห็นด้วยกับโครงสร้างภาษีใหม่ที่อยู่ระหว่างจัดทำได้ไหมครับ

http://www.manager.co.th/mgrweekly/viewnews.aspx?NewsID=9540000060959

ส่วนเรื่องขยายเป็นเครื่อง 1.6 แล้วจะซื้ออะไร ผมว่ามันไม่ใช่ประเด็น ประเด็นของฟอร์ดน่าจะอยู่ที่ความเท่าเทียมกันของนโยบายที่มีผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคมากกว่า

ส่วนหลักเกณฑ์ผมคิดว่าแย่นะ กับเงื่อนไขที่ให้คนที่ซื้อต้องอายุไม่ต่ำกว่า 21 ปี ทำไมไม่เป็น 25 ละ อายุ 21 บางคนยังเรียนไม่จบเลย คนที่ทำงานมาแล้ว 2-3 ปี มันจะมองตัวเองออกว่ารายได้ตอนนี้ รายได้ในอนาคต(กรณีจัดไฟแนนซ์) ไหวไหม  

ออฟไลน์ DF-SLB

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 259
Re: คืนภาษีรถคันแรก Update 30/9/54
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: กันยายน 30, 2011, 15:17:14 »
มันเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้เงินสะพัด ให้ประชาชนส่วนมากออกมาจับจ่ายใช้สอย
คนที่จะซื้อต้องคิดแล้วล่ะว่าตนเองพอไหวหรือเปล่า ไม่ใช่เห็นได้ภาษีคืนก็หลับหูหลับตาซื้อ
มันก็คงไม่ใข่ มันอาจจะมีแต่ก็คงเป็นส่วนน้อยที่ซื้อไปแล้วผ่อนไม่ได้ ผ่อนไม่ไหว ผมคิดว่า
เป็นเรื่องที่ดีที่มีการคืนภาษีรถยนตร์คันแรก แต่มันจะไม่ดีสำหรับคนที่เคยซื้อรถมาแล้วเท่านั้น
สำหรับค่ายรถที่ไม่ได้เข้าโครงการคุณต้องกลับไปคิดล่ะว่าที่ผ่านมาคุณทำอะไรให้ประเทศบ้าง
คุณสียภาษีคืนให้รัฐเท่าไหร่แต่ล่ะปี ทำไมฮอนด้า โตโยต้า นิสสัน อีซูสุ ถึงได้รับอานิสงนี้มากกว่า
ค่ายอื่นๆ ลองไปทำการบ้านมา อนาคตไม่แน่อาจมีอีกทีนี้ไม่จำกัดอะไรเลย แค่ราคาไม่เกินล้าน
อย่างเดียวพอ

หวัดดีครับ สมาชิกใหม่

" สำหรับค่ายรถที่ไม่ได้เข้าโครงการคุณต้องกลับไปคิดล่ะว่าที่ผ่านมาคุณทำอะไรให้ประเทศบ้าง
คุณสียภาษีคืนให้รัฐเท่าไหร่แต่ล่ะปี ทำไมฮอนด้า โตโยต้า นิสสัน อีซูสุ ถึงได้รับอานิสงนี้มากกว่า
ค่ายอื่นๆ ลองไปทำการบ้านมา"

แสดงว่าค่ายที่เข้าข่ายเป็นการตอบแทนจากประเทศหรือเปล่าครับ ?

ออฟไลน์ buggle01

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 246
Re: คืนภาษีรถคันแรก Update 30/9/54
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: กันยายน 30, 2011, 15:35:20 »
เหมือนขี้แพ้ชวนตี แต่จริงๆแล้วก็ไม่ยุติธรรมกับเขานิครับ

ผมว่าถ้าจะเอาจริงๆนโยบายนี้จริงๆก็เพิ่มเงื่อนไขเข้าไป
เช่นว่า ความจุ CCไม่เกิน 1600 และมิติรถโดยรวมต้องไม่มากไปกว่า??
ในกรณีที่ต้องการให้หยุดแค่ B-Segment

เพราะ ถ้ามองกันจริงๆแล้ว ราคาของ Fiesta มันก้อไม่ได้หนีไปกว่า City
หรือ Vios เท่าไหร่นิครับ?

PS. ผมไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้เรื่องรถ ผิดถูกยังไงโปรดอย่าหวดผมเลยนะครับ  :P

ผมเห็นว่า ฟอร์ดเค้าควรจะได้ในสิ่งที่เค้าควรได้ครับ

เพราะไม่มีที่ไหนหรอกที่วัดขนาดรถด้วย ซีซี อีกอย่าง ฟอร์ดก็ลงทุนเต็มที่ในไทย ส่งของดีๆมาให้ใช้หวังแจ้งเกิด

แล้วก็กำลังไปได้ดี แต่วันนึงความฝันเค้าฟังทลาย เพราะรัฐบาล คนที่ชวนเค้ามาลงทุน แบบนี้เค้าก็สมควรแล้วนิครับ

จริงๆแล้ว จำกัดราคาเลยง่ายกว่ามั้ย ไม่เกินเจ็ดแสนบาท จบ อย่าบอกว่า วีออส ซิติี้ รุ่นท๊อปราคาเกินนะครับ

เพราะนั่นไม่ใช่เรื่องจำเป็น เป็นสิ่งฟุ่มเฟือย อุปกรณ์ความปลอดภัยก็เท่าๆกัน ไม่ต้องกลัวหรอกครับ ว่าจะไม่ลดโลกร้อน

ออฟไลน์ Adrenalin

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 42
Re: คืนภาษีรถคันแรก Update 30/9/54
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: กันยายน 30, 2011, 15:36:53 »
สำหรับค่ายรถที่ไม่ได้เข้าโครงการคุณต้องกลับไปคิดล่ะว่าที่ผ่านมาคุณทำอะไรให้ประเทศบ้าง
คุณสียภาษีคืนให้รัฐเท่าไหร่แต่ล่ะปี ทำไมฮอนด้า โตโยต้า นิสสัน อีซูสุ ถึงได้รับอานิสงนี้มากกว่า
ค่ายอื่นๆ ลองไปทำการบ้านมา อนาคตไม่แน่อาจมีอีกทีนี้ไม่จำกัดอะไรเลย แค่ราคาไม่เกินล้าน
อย่างเดียวพอ

ถ้าภาษีที่เป็นตัวเงินคงน้อยกว่าเพราะยอดขายน้อยกว่า แต่ถ้าคิดเป็นพิกัดภาษีก็เสียเท่ากันครับ น้องจะเข้าใจไหมเนี่ย


ออฟไลน์ Andromeda

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 136
Re: คืนภาษีรถคันแรก Update 30/9/54
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: กันยายน 30, 2011, 16:18:16 »
แค่ระบุบว่าวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท เท่านี้ ผมว่าทุกอย่างน่าจะลงตัวที่สุดแล้ว

เพราะสุดท้ายการผ่อนมันก็ตามตัวอัตราเดิม แค่ได้ภาษีคืนตาม % ของรถ

รถแพง ก็ผ่อนแพง รถถูกก็ผ่อนถูก ประชาชนเค้าก็มีสิทธิ์เลือก แต่ทางที่ดีที่สุด

คือล้มเลิกนโยบายไปเลย แล้วออกมาพูดขอโทษ แต่คงช้าไปแล้ว เพราะนโยบาย

ได้ถูกเสนอไปเรียบร้อยแล้ว

ออฟไลน์ thaidreamhost

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 54
    • อีเมล์
Re: คืนภาษีรถคันแรก Update 30/9/54
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: กันยายน 30, 2011, 16:38:00 »
แค่ระบุบว่าวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท เท่านี้ ผมว่าทุกอย่างน่าจะลงตัวที่สุดแล้ว

เพราะสุดท้ายการผ่อนมันก็ตามตัวอัตราเดิม แค่ได้ภาษีคืนตาม % ของรถ

รถแพง ก็ผ่อนแพง รถถูกก็ผ่อนถูก ประชาชนเค้าก็มีสิทธิ์เลือก แต่ทางที่ดีที่สุด

คือล้มเลิกนโยบายไปเลย แล้วออกมาพูดขอโทษ แต่คงช้าไปแล้ว เพราะนโยบาย

ได้ถูกเสนอไปเรียบร้อยแล้ว

เห็นด้วยตรงไม่จำกัด cc เนี่ยแหละ อยากได้คะแนนเลือกตั้งคืนจริงๆ

ออฟไลน์ jones

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 940
Re: คืนภาษีรถคันแรก Update 30/9/54
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: กันยายน 30, 2011, 16:42:23 »
ผมว่าทางที่ดีน่ะ ยกเลิกไปน่ะดีที่สุด เอาเงินไปทำประโยชน์อย่างอื่นไม่ดีกว่าหรอ ทั้งระบบขนส่งมวลชน น้ำท่วม เห็นนโยบายนี้แล้วดูไร้สาระจริงๆ แถมส่งเสริมให้คนเป็นหนี้ สิ้นเปลืองพลังงาน ก่อมลพิษเพิ่มขึ้นอีกด้วย ทีนี้แหละ รถยึดไฟแนนซ์ก้จะเยอะขึ้นล่ะ เดวตอนนั้นแหละ เผื่อผมจะไปสอยeco car ถูกๆซักคันไว้สำรองใช้ที่บ้านซะหน่อย ;D ;D ;D
ผู้ชายลัลล๊า อิอิอิ

ออฟไลน์ thaidreamhost

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 54
    • อีเมล์
Re: คืนภาษีรถคันแรก Update 30/9/54
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: กันยายน 30, 2011, 16:46:07 »
เห็นด้วยเลยครับ น่าจะไปเน้นเรื่องคมนาคมมากกว่า แต่ตอนนี้คงเลิกไม่ได้แล้วมั้งครับ
มันเลยจุดมานานแล้ว มีคนเข้าซื้อไปแล้ว และรออีกเป็นหลายหมื่นคน
น่าจะปัญหาตามอีกเพียบ

ออฟไลน์ kengointer

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 271
    • GPSติดรถ ราคาถูก รุ่นใหม่
    • อีเมล์
Re: คืนภาษีรถคันแรก Update 30/9/54
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: กันยายน 30, 2011, 16:49:38 »
ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ Oslan

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 659
Re: คืนภาษีรถคันแรก Update 30/9/54
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: กันยายน 30, 2011, 17:13:36 »
ส่วนหลักเกณฑ์ผมคิดว่าแย่นะ กับเงื่อนไขที่ให้คนที่ซื้อต้องอายุไม่ต่ำกว่า 21 ปี ทำไมไม่เป็น 25 ละ อายุ 21 บางคนยังเรียนไม่จบเลย คนที่ทำงานมาแล้ว 2-3 ปี มันจะมองตัวเองออกว่ารายได้ตอนนี้ รายได้ในอนาคต(กรณีจัดไฟแนนซ์) ไหวไหม  

อันนี้ขอนิดนึง มันจิ๊ดดดด

ผมจบตรีตอนอายุ 20 ครับ ส่วนรุ่นน้องผมอีกคนกำลังจะจบตรี ซึ่งน้องเขาอายุ 19 เท่านั้น

ตอบแบบเอาตัวเองเป็นที่ตั้งไม่ดีนะครับ อาจจะถูกที่บางคนอายุ 21 ยังเรียนไม่จบ แต่คนที่จบก่อน และทำงานอยู่ก่อนแ้ล้ว ก็มีอยู่มากมายเหมือนกัน

ออฟไลน์ Adrenalin

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 42
Re: คืนภาษีรถคันแรก Update 30/9/54
« ตอบกลับ #40 เมื่อ: กันยายน 30, 2011, 19:51:55 »
ส่วนหลักเกณฑ์ผมคิดว่าแย่นะ กับเงื่อนไขที่ให้คนที่ซื้อต้องอายุไม่ต่ำกว่า 21 ปี ทำไมไม่เป็น 25 ละ อายุ 21 บางคนยังเรียนไม่จบเลย คนที่ทำงานมาแล้ว 2-3 ปี มันจะมองตัวเองออกว่ารายได้ตอนนี้ รายได้ในอนาคต(กรณีจัดไฟแนนซ์) ไหวไหม  

อันนี้ขอนิดนึง มันจิ๊ดดดด

ผมจบตรีตอนอายุ 20 ครับ ส่วนรุ่นน้องผมอีกคนกำลังจะจบตรี ซึ่งน้องเขาอายุ 19 เท่านั้น

ตอบแบบเอาตัวเองเป็นที่ตั้งไม่ดีนะครับ อาจจะถูกที่บางคนอายุ 21 ยังเรียนไม่จบ แต่คนที่จบก่อน และทำงานอยู่ก่อนแ้ล้ว ก็มีอยู่มากมายเหมือนกัน

ก่อนอื่นขอโทษคุณ oslan นะครับที่ทำให้จี๊ด คงเป็นเพราะผมเขียนไม่ละเอียดนั่นเอง

ที่ผมอยากให้คนซื้ออายุ 25+ ก็เพราะว่าเขาทำงานมาบ้างแล้ว อย่างน้อยก็ 2-3 ปี มีประสบการณ์ มีวุฒิภาวะ มีรายได้เลี้ยงดูตัวเองมาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งการจะเพิ่มภาระโดยการผ่อนรถ รวมทั้งการบำรุงดูแลรักษารถ จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนพอสมควรทีเดียว ผมไม่ได้จะดูถูกดูแคลนใคร เพียงแต่ผมไม่อยากเห็นคนที่เพิ่งจะจบปริญญา ต้องมาเป็นภาระของผู้ปกครองอีก โดยคนกลุ่มนี้ผมคิดว่าเป็นคนกลุ่มใหญ่ ในกรณีที่คุณ oslan ได้เล่าให้ฟัง (แม้จะไม่ละเอียด) แต่ผมเดาว่า ทำงานไปเรียนไป ใช่ไหมครับ คนแบบคุณและรุ่นน้องของคุณ คงไม่ใช่นักศึกษากลุ่มใหญ่ใช่ไหมครับ ดังนั้น ผมจึงยกตัวอย่างเฉพาะกลุ่มใหญ่เท่านั้น  ซึ้งถ้าผมถามคุณว่า ถ้าตอนคุณอายุ 21 หรือรุ่นน้องคุณอายุ 21 ในช่วงที่นโยบายยังมีผลบังคับใช้ ซึ่งเป็นนักศึกษาที่เรียนไปทำงานไป และเพิ่งจะเรียนจบ จะซื้อรถคันแรกเลยไหมครับ?

ที่ผมแสดงความคิดอย่างนั้นไป เพราะในกรณีผม ที่จบ ม.6 พ่อแม่จะให้เรียน ม.กรุงเทพ แต่ผมเลือกไปเรียนรามฯ เอง เพียงแค่เพราะว่าไม่อยากเป็นภาระพ่อมากๆ (ครอบครัวผมไม่ได้รวย) เรียนรามฯ ค่อนข้างว่าง แต่ขี้เกียจ Parttime ไม่ค่อยได้ทำเลย ทำแต่งานบ้าน (ซักผ้า รีดผ้า ถูบ้าน ล้างรถ) อย่างน้อยผมก็ลดภาระทางการเงินที่พ่อต้องมีต่อผม และก็ลดภาระงานบ้านของแม่ด้วย และผมใช้ตรงนี้เป็นที่ตั้งในการแสดงความคิดเห็นไงครับ แม้ผมจะไม่ได้ทำงานไปเรียนไป แต่ก็ไม่ฟุ่มเฟือยเกินเหตุจนเป็นภาระทางบ้านนะครับ

คุณอ่านจบแล้วจี๊ด จากนั้นก้อต่อยผมเลย ผมก็เจ็บและจี๊ดเป็นนะครับ น่าจะถามกันก่อน

แก้ไข : พิมพ์ผิดครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 30, 2011, 20:04:12 โดย Adrenalin »

ออฟไลน์ YIM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,015
  • ไม่น่ารัก เราไม่มอง!!
    • อีเมล์
Re: คืนภาษีรถคันแรก Update 30/9/54 (เพิ่มลิ้งค์ทาทา)
« ตอบกลับ #41 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2011, 00:38:49 »
นโยบายมันออกมาแล้ว ก็คงต้องทำต่อไปละครับ

เรื่องเขตการค้าเสรี ผมเฉยๆ เพราะมาเลย์ก็ยังกีดกันรถ inter brand อยู่เหมือนกัน

ส่วนเรื่อง 1600 ผมว่า มันเกินความจำเป็นของรถคันแรกไปแล้วละ จริงๆ มันควรจะให้เฉพาะ Eco Car กับ กระบะตอนครึ่งด้วยซ้ำ จะไปให้พวกสองตอนได้สิทธิทำไม มีแต่พวกคนรวยในหมู่บ้านใช้ทั้งนั้น เฮ้อ

สรุปก็ได้แต่ เฮ้อ
JDM เท่านั้น จะครองโลก!

ออฟไลน์ Seatar

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 158
    • อีเมล์
Re: คืนภาษีรถคันแรก Update 30/9/54 (เพิ่มลิ้งค์ทาทา)
« ตอบกลับ #42 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2011, 06:51:53 »
ก็ได้เห็นความคิดเห็นบางคนที่บอกว่า ยกเลิกโครงการนี้สู้เอาเงินขยายรถไฟฟ้าดีกว่า บ้างก็บอกว่าเอาเงิน
ไปสร้างรถไฟความเร็วสุงดีกกว่า ไปพัฒนาระบบคมนาคมดีกว่า บ้างก็บอกว่าไปช่วยน้ำท่วมเถอะ
ที่แต่ละความเห็นที่พูดๆมาผมก็เห็นด้วยและเป็นความคิดที่ดีนะครับ แล้วผมก็เชื่อว่าทางรัฐบาลก็คิดเช่นเดียวกัน เพียงแต่
รัฐบาลเค้าคิดแบบองค์รวมแล้วทำมันไปพร้อมๆกัน แต่คนบางคนมองเป็นจุดๆไปทำให้การมองภาพต่างกันไป
เลยเกิดความไม่เข้าใจกันครับ เรื่องพัฒนาคมนาคม ส้รางรถไฟฟ้าอะไรพวกนี้รัฐบาลทำแน่ครับ
เพียงแต่ยังไม่ใช่เวลานี้ ตอนนี้ต้องเน้นไปที่กระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ เพราะเศรษฐกิจยุโรปกะเมกา
มันกำลังแย่ ส่งผลให้ภาคส่งออกแย่ตามไปด้วยที่นี้ แล้วจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจยังไงล่ะคำตอบของัฐบาลก็คือ ก็หันมากระตุ้น
เศรษฐกิจภายในประเทศแทนไงล่ะ ต้องคิดว่าทำังไงก็ได้ให้คนไทยใช้จ่ายเงินให้มากขึ้นเพื่อให้เงินมันหมุนเวินในระบบมากขึ้น
พูดง่ายๆคือ ทำยังไงให้คนไทยเอาเงินออมออกมาใช้จ่ายซื้อของ ให้คนไทยใช้เครดิต(เงินในอนาคต)ออกมาซื้อของ
ให้คนไทยกู้เงินจากสถาบันการเงินออกมาซื้อของ ก็โดยออกรถคันแรกนี่แหละแล้วก้อีกหลายๆโครงการที่จะตามมา
อย่างบัตรเครดิตชาวนา บ้านหลังแรก ถ้ามัวแต่ไปสร้างรถไฟฟ้า พัฒนาระบบคมนาคมซึ่งพวกนี้เป็นแผนการในอนาคต
ถ้าไม่ทำปัจจุบันก่อนผมว่ารัฐบาลอาจอยู่ไม่ถึงวันนั้น เพราะจะโดนประชาชนว่าบริหารประเทศไม่เป็น
ปล. ผมไม่ได้เชียร์หรือเป็นพวกรัฐบาลนะครับ และก็ไม่ได้อยากพูดเรื่องการเมืองในwebนี้เลย
แต่บังเอิญมันเกี่ยวเนื่องกันน่ะครับ  ก็เลยบอกเล่าให้ฟังกันก็เท่านั้นครับ^^


ออฟไลน์ Oslan

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 659
Re: คืนภาษีรถคันแรก Update 30/9/54
« ตอบกลับ #43 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2011, 07:49:21 »
ก่อนอื่นขอโทษคุณ oslan นะครับที่ทำให้จี๊ด คงเป็นเพราะผมเขียนไม่ละเอียดนั่นเอง

ที่ผมอยากให้คนซื้ออายุ 25+ ก็เพราะว่าเขาทำงานมาบ้างแล้ว อย่างน้อยก็ 2-3 ปี มีประสบการณ์ มีวุฒิภาวะ มีรายได้เลี้ยงดูตัวเองมาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งการจะเพิ่มภาระโดยการผ่อนรถ รวมทั้งการบำรุงดูแลรักษารถ จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนพอสมควรทีเดียว ผมไม่ได้จะดูถูกดูแคลนใคร เพียงแต่ผมไม่อยากเห็นคนที่เพิ่งจะจบปริญญา ต้องมาเป็นภาระของผู้ปกครองอีก โดยคนกลุ่มนี้ผมคิดว่าเป็นคนกลุ่มใหญ่ ในกรณีที่คุณ oslan ได้เล่าให้ฟัง (แม้จะไม่ละเอียด) แต่ผมเดาว่า ทำงานไปเรียนไป ใช่ไหมครับ คนแบบคุณและรุ่นน้องของคุณ คงไม่ใช่นักศึกษากลุ่มใหญ่ใช่ไหมครับ ดังนั้น ผมจึงยกตัวอย่างเฉพาะกลุ่มใหญ่เท่านั้น  ซึ้งถ้าผมถามคุณว่า ถ้าตอนคุณอายุ 21 หรือรุ่นน้องคุณอายุ 21 ในช่วงที่นโยบายยังมีผลบังคับใช้ ซึ่งเป็นนักศึกษาที่เรียนไปทำงานไป และเพิ่งจะเรียนจบ จะซื้อรถคันแรกเลยไหมครับ?

ที่ผมแสดงความคิดอย่างนั้นไป เพราะในกรณีผม ที่จบ ม.6 พ่อแม่จะให้เรียน ม.กรุงเทพ แต่ผมเลือกไปเรียนรามฯ เอง เพียงแค่เพราะว่าไม่อยากเป็นภาระพ่อมากๆ (ครอบครัวผมไม่ได้รวย) เรียนรามฯ ค่อนข้างว่าง แต่ขี้เกียจ Parttime ไม่ค่อยได้ทำเลย ทำแต่งานบ้าน (ซักผ้า รีดผ้า ถูบ้าน ล้างรถ) อย่างน้อยผมก็ลดภาระทางการเงินที่พ่อต้องมีต่อผม และก็ลดภาระงานบ้านของแม่ด้วย และผมใช้ตรงนี้เป็นที่ตั้งในการแสดงความคิดเห็นไงครับ แม้ผมจะไม่ได้ทำงานไปเรียนไป แต่ก็ไม่ฟุ่มเฟือยเกินเหตุจนเป็นภาระทางบ้านนะครับ

คุณอ่านจบแล้วจี๊ด จากนั้นก้อต่อยผมเลย ผมก็เจ็บและจี๊ดเป็นนะครับ น่าจะถามกันก่อน

แก้ไข : พิมพ์ผิดครับ

ผมขออภัยเช่นกันนะครับ ตอบใช้อารมณ์มากไปนิด

ผมมองว่าในปัจจุบันและต่อไปในอนาคต เด็กจะยิ่งจบไวขึ้นเรื่อยๆ ครับ
จากสังคมที่ผมคุ้นเคย เด็กรุ่นใหม่หลายๆ คน เรียนเทียบกันเยอะมาก (เอาแค่รุ่นน้องในกลุ่มก็เป็นสิบ และฟังจากที่พวกนี้เขาคุยกัน น่าจะมีอีกเยอะด้วย)

ผมไม่เถียงนะครับ ว่าส่วนมากไม่ใช่ และในกลุ่มแบบนี้เป็นส่วนน้อย แต่ส่วนน้อยก็คนนะครับ ถ้าส่วนน้อยสามารถดูแลรับผิดชอบเองได้ ก็ไม่น่าจะไปตัดโอกาสเหมือนกัน

ส่วนที่ทำให้ผมจิ๊ด เพราะผมไม่ชอบการที่ตัดสินคนจากอายุครับ อายุกำหนดได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าจะใช้ในกรณีนี้ผมว่าไม่เหมาะ
ถ้าอายุ 21 กับ 25 ใครจะมีวุฒิภาวะมากกว่า ข้อนี้ผมว่ามันต้องมองแล้วเปรียบเทียบเป็นตัวบุคคลแล้วครับ
ถ้าอายุ 15 กับ 25 แบบนี้ อันนี้โอเคครับ ต่างกันเยอะแน่ๆ ในเรื่องของวุฒิภาวะต่างๆ
ที่สำคัญเรื่องพวกนี้มันไม่ตายตัว บางคนอายุน้อยวุฒิภาวะสูง แต่บางคนแก่แล้วแต่ .... ก็มี ผมแค่พูดคร่าวๆ นะครับ

ส่วนในเรื่องของถ้าอายุ 21 จะซื้อรถไหม เรื่องพวกนี้มันไม่ตายตัวเช่นกัน บางคนพร้อม บางคนไม่พร้อม ปัจจัยมันมีเยอะนะครับ และมันเป็นเรื่องของโอกาสด้วย โอกาสที่จะซื้อของที่ต้องการ/จำเป็น ได้ถูกกว่าเดิมถึง 1 แสนบาท

สมมุติถามว่า ผมซื้อไหมในตอนเพิ่งจบ (เรื่องจริงอดหมดสิทธิ์ไปแล้ว = ='') ผมซื้อนะครับ เพราะเป็นโอกาสที่จะได้ของราคาถูกกว่าเดิม 1 แสน
บางคนไม่พร้อมด้วยตัวเอง ครอบครัวมีก็อาจจะให้พ่อแม่ช่วย หรืออาจจะมีวิธีอื่นๆ อะไรก็ว่ากันไป เพราะมันเป็นโอกาสครับ แถมเป็นระยะสั้นด้วย

อธิบายยาวเหยียด หวังว่าคงเข้าใจผมนะครับ ส่วนในเรื่องที่พิมพ์ให้ไม่พอใจ ผมขออภัยอีกครั้งครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 01, 2011, 07:55:42 โดย Oslan »

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,732
  • Nine & Knight
Re: คืนภาษีรถคันแรก Update 30/9/54 (เพิ่มลิ้งค์ทาทา)
« ตอบกลับ #44 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2011, 09:09:32 »
ทุกอย่างมันต้องมีกฎกติกาครับ เอาเรื่องอารมณ์ ความรู้สึก วุฒิภาวะมาวัดกันลำบากครับ หลายๆอย่างก็เลยจำเป็นต้องกำหนดที่อายุแทนเพราะมันวัดได้ง่ายอายุถึงก็มีสิทธิ ไม่ถึงก็หมดสิทธิ ไม่งั้นยุ่งเหยิง
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ Adrenalin

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 42
Re: คืนภาษีรถคันแรก Update 30/9/54
« ตอบกลับ #45 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2011, 13:15:15 »

อธิบายยาวเหยียด หวังว่าคงเข้าใจผมนะครับ ส่วนในเรื่องที่พิมพ์ให้ไม่พอใจ ผมขออภัยอีกครั้งครับ

ยินดีและเช่นกันครับ คุณ Oslan   ^^v